# 10 วิธีจับโกหก
ถ้าคุณอยากรู้ว่าใครคนนั้นกำลังปั้นน้ำเป็นตัวอยู่หรือเปล่า ให้สังเกตความต่อเนื่องหรือความเป็นเหตุเป็นผลของเรื่องที่เขาเล่า ถ้าเรื่องทั้งหมดฟังดูไม่เข้ากันเหมือนจับนู่นนิดนี่หน่อยมาผสมกัน ก็มีแนวโน้มสูงว่าเขาอาจโกหกแต่โกหกโดยเอาเรื่องจริงเป็นพื้นฐานแล้วแต่งเติมบางส่วนเข้าไป
มีคนอยู่ 4% ที่เป็นนักโกหกมืออาชีพ พวกเขาจะปฏิบัติการได้อย่างแนบเนียนจนยากจะจับติด เราจึงต้องหลอกล่อให้เขาติดบ่วงคำพูดตัวเอง ทำเป็นเออออให้เขาตายใจว่าเชื่อสิ่งที่เขาบอก แล้วตอนที่เขาเริ่มผ่อนคลลายไม่ทันระวังตัว ก็โยนคำถามที่เขาไม่คาดคิดมาก่อนแต่เกี่ยวกับเรื่องที่เขาเพิ่งพูด แล้วจับตาดูปฏิกิริยาของเขา
3. เทียบกับพฤติกรรมปกติ
ดัชนีชี้วัดความไม่ซื่อตรงของคำพูดคือกิริยาอาการที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น ปกติเขาเป็นคนอยู่ไม่สุข เคาะโต๊ะ กระดิกเท้า โยกตัวอยู่ตลอด แต่ตอนพูดเรื่องนั้นกลับนั่งนิ่ง หน้าตาสงบ หรือธรรมดาแล้วเขาเป็นคนใจเย็น ไม่ค่อยเอาเรื่องเอาราวกับใคร แต่วันนี้ถามอะไรหน่อยก็เป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมาทันที พฤติกรรมผิดแผกไปจากเดิมนี้ บ่งบอกว่าเขากำลังปิดบังบางอย่าง
4. มองหาการปั้นยิ้ม
ยิ้มที่จริงใจนั้น จะต้องยิ้มไปถึงนัยน์ตา กล้ามเนื้อบนใบหน้าหลายมัจะขยับตามไปด้วย แต่ถ้าเขาเสแสร้งแกล้งทำเพื่อกลบเกลื่อนบางอย่าง หรือทำเป็นตลกเพื่อให้คุณลืมเรื่องที่กำลังคุยกันอยู่ ยิ้มนั้นจะปรากฏเพียงแค่ที่ริมปาก ขณะที่แววตากลับดูนิ่งหรือกระด้าง กล้ามเนื้อที่อยู่เหนือแก้มขึ้นไปไม่มีการขยับเขยื้อน
5. เชื่อสัญชาตญาณ
ผู้หญิงเรามีลางสังหรณ์ที่แม่นยำยิ่งกว่าเรดาห์ขององค์การนาซ่า แม้ทุกอย่างที่เขาพูดจะฟังเป็นเหตุเป็นผล อาการดูปกติไม่มีอาการลุกลี้ลุกลนแต่อย่างใด ทว่าสัญญาณเตือนภัยในหัวของคุณกลับดังไม่หยุด ก็ให้เชื่อสัญชาตญาณของตัวเองไว้ก่อน
6. สังเกตอารมณ์ชั่วแวบ
เมื่อใครบางคนพยายามแสดงออกว่าเขากำลังร่าเริงมีความสุข ทั้งที่จริงๆ แล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้น ความรู้สึกที่แท้จริงของเขาจะเผยออกมาโดยไม่รู้ตัว ไม่ว่าอารมณ์ที่แท้จริงจะเป็นหงุดหงิด โกรธ ไม่สบายใจ รำคาญ วิตกกังวล แต่มันจะปรากฏในชั่วเสี้ยววินาทีเท่านั้น คุณจะต้องสังเกตให้ดีจึงจะเห็น
7. จับตามองความขัดแย้ง
กฏพื้นฐานคือ ถ้าน้ำเสียง ท่าทาง สีหน้าของคนพูดไม่เข้ากับสิ่งที่เขากำลังเอ่ยออกมา แสดงว่าสิ่งนั้นไม่ใช่ความจริง เช่น คุณถามว่าเขาไปที่นั่นคนเดียวใช่มั้ย เขาตอบว่าใช่พร้อมมีอาการส่ายศีรษะเล็กน้อย นี่เป็นกิริยาที่เกิดขึ้นโดยเขาไม่รู้ตัว เพราะจิตใต้สำนึกบอกว่าไม่ใช่ เป็นเหตุผลว่าทำไมศีรษะเขาจึงขยับนิดๆ ในอาการปฏิเสธ ความขัดแย้งอาจมีระหว่างน้ำเยงกับคำพูด ท่าทางกับคำพูด ท่าทางกับน้ำเสียง หรือสีหน้ากับคำพูดก็ได้
8. สบตากับเขา
พยายามสบสายตากับเขาตลอดเวลาที่พูดเพื่อดูว่าเขาเลี่ยงที่จะสบตาคุณหรือไม่ กรสนทนาในสถานการณ์ปกติย่อมมีการสื่อสารทางสายตา แต่ถ้าเขาพยายามมองไปตรงไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ดวงตาคุณ มั่นใจได้เลยว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นแล้ว
9. เต็มไปด้วยรายละเอียด
เมื่อคุณถามใครบางคนว่า ไปไหนมา แล้วได้คำตอบกลับมาว่า ไปหา**ตั้มมา ข้างบ้านมันมีร้านขายข้าวขาหมู ผมเลยไปลองกินดู ตอนเดินเข้าไปในร้านเกือบเหยียบหมาเขาแน่ะ เจ้าของบอกว่าเป็นพันธุ์พุดเดิล แต่ผมว่าดูไม่เหมือนเลย บลาๆๆ แสดงว่าเขากำลังด้นสด คิดอะไรได้ก็พูดออกมาเพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นจากสถานการณ์อันชวนอึดอัดใจ
10. อย่าละเลยความจริง
อย่ามุ่งมั่นกับการจับโกหกจนมองข้ามความจริงที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังการโกหกนั้น นั่นคือ ทำไมเขาถึงพยายามบอกความลวงกับคุณ เพราะเขากลัวคุณโกรธ ไม่อยากให้คุณเสียใจ เพราะไม่อยากให้เรื่องยืดเยื้อ เพราะรำคาญ เพราะนิสัยเขาเป็นอย่างนั้น เพราะมันทำให้เขารู้สึกเหนือกว่าคุณ การค้นให้พบถึงสาเหตุการโกหก จะช่วยลดโอกาสที่เขาจะโกหกซ้ำอีก และถ้าแก้ไขพฤติกรรมสตรอเบอร์รี่ของเขาได้ คุณกับเขาก็จะใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น หรือถ้าแก้ไม่ได้ คุณก็จะได้ก้าวต่อไปเพื่อพบคนที่จริงใจกว่า
โกหกนั้นตายตกนรก!!
(C) horosiam
มุมสมาชิก กระทู้ล่าสุดโดย `(yarkke4w?\-)-
- converse เปียกฝน จะเป็นอะไรไหม ทำยังไงดี T T (สุขภาพและความงาม)
- - - - - - - - - - ใครเคยไปกดสิวเข้ามา (สุขภาพและความงาม)
- - - - - - - ใครมีโทนเนอร์เด็ดๆ ป้องกันสิวเข้ามาเลยครับ (สุขภาพและความงาม)
- รอยดำจากสิว กินวิตามินตัวไหนดี .. (สุขภาพและความงาม)
- อย่าใช้ผลิตภัณฑ์นี้นะ เราเตือนเลยจริงๆ (สุขภาพและความงาม)
- ใครเคยเป็นดรัมเมเยอร์บ้างงงงงงง (การศึกษา)
- กระทู้โดย `(yarkke4w?\-)- ทั้งหมด
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
ข้อ 8 จริง!
ถ้าเราพยายามเค้นหาความจริง มันต้องมองมาที่ตาของเรา เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้โกหกจริงๆ
เราเคยเจอเหตุการณ์นึง เราถามมันเรื่องรุ่นพี่
มันไม่มองตาเลย เราถามว่าทำไมไม่สบตา มันบอกว่า "มองไปเรื่ีอยๆ"
สรุปว่าแบบนี้ตอแ.หลชัวร์! เหอะ
ปล.ขนาดเรียนจบไปแล้ว เรื่องนี้ยังจำได้ดีเลย
8. สบตากับเขา
พยายามสบสายตากับเขาตลอดเวลาที่พูดเพื่อดูว่าเขาเลี่ยงที่จะสบตาคุณหรือไม่ กรสนทนาในสถานการณ์ปกติย่อมมีการสื่อสารทางสายตา แต่ถ้าเขาพยายามมองไปตรงไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ดวงตาคุณ มั่นใจได้เลยว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นแล้ว
ตอนเราพูดกับเพื่อนหรือใครทีไรเราก็สบตาบ้างไม่สบตาบ้าง (ทั้งหญิงทั้งชาย) เหมือนเป็นนิสัยอ่ะ โดยเฉพาะผู้ชาย เราไม่กล้ามองตา ไม่รู้ทำไม (ไม่ได้เขินด้วยนะ - -') แต่ตอนเราพูดเราก็พูดจริงนะเออ -[]-
8. สบตากับเขา
พยายามสบสายตากับเขาตลอดเวลาที่พูดเพื่อดูว่าเขาเลี่ยงที่จะสบตาคุณหรือไม่ กรสนทนาในสถานการณ์ปกติย่อมมีการสื่อสารทางสายตา แต่ถ้าเขาพยายามมองไปตรงไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ดวงตาคุณ มั่นใจได้เลยว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นแล้ว
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google