[REVIEW] Five Days in Korea
อายุสิบแปดขวบ555555555
นี่เป็นการรีวิวเที่ยว ตปท. ครั้งแรกของเรา ชอบไม่ชอบเม้นบอกได้นะ
ปล. ทู้อาจไม่สวย เพราะเราแต่งทู้ไม่เป็น
namaun_pt@hotmail.com
Instagram - iamnamaun
Line - namaunn
คำชี้แจง
- รีวิวนี้เราตั้งเพื่อเป็นแนวทางแนะนำการท่องเที่ยว (โห พูดซะทางการ 555) สำหรับคนที่อยากไปเที่ยวเกาหลีหรือไม่ก็ได้...เอาไว้อ่านเล่นเวลาว่างๆก็ได้
- เราจะอัพรูปเยอะมากและอัพทุกสถานที่ที่เราไป ใครขี้เกียจอ่านก็แปะไว้ก่อนแล้วค่อยทยอยอ่านก็ได้นะ เพราะเราเก็บทุกรายละเอียดจริงๆ 55555
- เราไปกับทัวร์ เลยได้ไปหลายๆที่หน่อย ไปเองหลงชัวร์
- รูปส่วนใหญ่จะติดแถบเงาดำๆมา คือมันติดเคสโทรศัพท์เราอะ เซ็งมาก
- ใครสงสัยอะไรโพสถามได้นะ หรือรูปไม่ขึ้นบอกได้นะ
28.03.2012
19.30 ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ก็ไปเช็คอิน (เรียกงี้หรือเปล่าไม่แน่ใจ - -) คือให้ไปเข้าแถวตรงเคาน์เตอร์แล้วเอากระเป๋าเดินทางที่จะเอาขึ้นเครื่องไปตรงนั้นอะ เค้าจะดูพาสปอร์ตเราแล้วเอาสัมภาระเราโหลดขึ้นเครื่องไป เราไม่ค่อยรู้ขั้นตอนตรงนี้เท่าไหร่
พอเช็คอินเสร็จเค้าจะให้เราเข้าไปข้างใน จะมี Duty Free หรือห้างปลอดภาษี ของขายเยอะมาก ของกินก็เยอะ แต่แพงมาก
พอเดินดิวตี้ฟรีเสร็จก็ไปนั่งรอขึ้นเครื่อง รอนานมากกกกก พอตอนจะขึ้นเครื่องคนงี้อย่างกะหนอน
เราไปสายการบิน Korean Air เห็นหลายคนบอกว่าสายการบินนี้ดี แอร์น่ารัก เราเห็นด้วยนะ 5555555 ตรงเบาะที่นั่งมีเครื่องเล่นเพลง+หนัง เค้าจะมีหูฟังให้ด้วย ตอนแรกเราโชว์เสร่อมาก หารูเสียบหูฟังไม่เจอ เราให้แม่ช่วยหาแม่เราก็หาไม่เจอ พอดีตอนนั้นเห็นรูเล็กๆตรงช่องสี่เหลี่ยมด้านขวา ไม่รอช้า...เราก็เสียบเลยสิคะ -_- แต่มันเสียบไม่เข้าอะ ไอ้เราก็เสียบๆ เสียบจนมันจะทะลุไปทิ่มหลังคนเบาะหน้าแล้วอะ เราเลย โอ๊ย ไม่ฟังแม่มแล้ว สักพักแม่เราสะกิดแล้วกระซิบบอกว่าที่เสียบมันอยู่ตรงที่วางแขน เพล้ง! เสียงหน้าเราแตกกระจายเลยจ้า - - หลังจากนั้นเราก็นั่งฟังเพลง มีเพลงเกาหลีใหม่ๆเยอะเลย เรานั่งฟัง Mr.Simple กับ Paradise มันส์มาก อารมณ์แบบอยากลุกขึ้นมาแดนซ์อะ -*-
สักพักเค้าก็เริ่มปิดไฟ คนก็เริ่มนอนกัน ไอ้เรามันก็ไม่ง่วงเพราะตาสว่างมากหลังจากได้ฟังเพลง 55555 ตอนนั้นเวลาไทยประมาณเกือบๆตีสามตีสี่ แล้วเรานั่งริมหน้าต่างพอดี ตอนนั้นคนหลับกันหมดมีเรานั่งตาสว่างอยู่คนเดียว เราเลยมองออกไปนอกเครื่องบิน เห็นท้องฟ้าแบบว่าสีสวยมากอะ เราก็อธิบายไม่ถูกมันเป็นสีส้มๆแดงๆ โอ๊ยสวยอะ 555555 แล้วตรงพื้นดินข้างล่างก็มีแสงไฟเป็นจุดๆ เห็นแล้วตื่นเต้นมาก ยิ่งตาสว่างเข้าไปอีก -_- คือตอนนั้นเราเดาว่าน่าจะถึงเกาหลีแล้วแหละ มั้งนะ พอตีห้ากว่าๆแอร์ก็เอาอาหารมาเสิร์ฟ ถ้าจำไม่ผิดมีออมเลทกับข้าวต้มปลาให้เลือก เราเลือกออมเลท หอมดีแต่ไข่จืดไปนิดแฮะ -0- กินเสร็จเราก็นั่งฟังเพลงต่อ จนในที่สุดก็ถึงสนามบินอินชอนแล้วจ้า~
29.03.2012
อ้อลืมบอก...ตอนประมาณก่อนเครื่องลงสักครึ่งชั่วโมงเรารู้สึกเท้าเย็นๆ เย็นยะเยือกเลยอะ เราก็เอ๊อะ...คงไม่มีไรหรอกมั้ง แต่พอสักพักเอามือไปแตะที่หน้าต่าง แม่มมมเย็นมาก เราเริ่มรู้สึกหวั่นๆละว่าถ้าถึงอินชอนนี่จะแข็งตายไหม บลาๆ พอถึงอินชอนเวลาเท่าไหร่เราจำไม่ได้แฮะ น่าจะประมาณตีห้า-6โมงเช้า ประมาณนี้แหละ ตอนลงจากเครื่องเป็นอะไรที่ตื่นเต้นมาก แบบ...มาต่างประเทศครั้งแรกอะ
แล้วพอเข้าไปในสนามบิน ยังไม่หนาวยังอุ่นๆอยู่ ถึงสนามบินปุ๊ปเรารีบเข้าห้องน้ำเลย ห้องน้ำที่สนามบินสะอาดดี แต่ที่น่ากลัวคือเสียงชักโครก เสียงดังมากคือกดทีเราสะดุ้งเลย - -
- เราถ่ายรูปห้องน้ำในสนามบินอินชอนมาด้วย แปลกดี...ไม่เหมือนที่ไทย แต่กลัวใครกินข้าวอยู่เลยมาแบบเป็นลิ้งค์ละกัน ใครอยากดูก็กดเข้าไปดูได้นะ -
http://image.ohozaa.com/view2/w0Ondgw6mRwBptMA
* โปรดเข้าใจ เราถ่ายแม่มทุกอย่างจริงๆอะ -w- *
แล้วพอเข้าห้องน้ำเสร็จก็เดินไปเอากระเป๋า หลังจากนี้คือต้องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง ตอนแรกที่เดินไปเราก็ไม่รู้ว่าจะไปไหนต่อ คือเดินตามแม่ไปงั้นๆแหละ 55555 ก็มาถึงมันจะเป็นเคาน์เตอร์ มีหลายๆช่อง ตอนนั้นก็มีคนยืนต่อแถวกันสี่ห้าแถวเราก็เดินตามแม่ไปต่อ สักพักพอใกล้ถึงคิวเรา เราก็ถามว่า นี่คือ ต.ม. ใช่ไหม คือเราเพิ่งมานึกได้ว่าอย่างแรกเลยคือต้องผ่าน ต.ม. ก่อน แม่เราก็พยักหน้า เราก็แบบ...ซวยแล้วไง คือเราได้ยินใครต่อใครพูดกันว่า ต.ม.ที่เกาหลีโหดมาก เราเลยเริ่มลนลานละ5555
พอสักพักแถวก็เขยิบแม่เราก็เดินเข้าไป เราก็ยืนกำพาสปอร์ตแน่น ตื่นเต้นไงคือมันต้องเข้าไปคนเดียว และแล้วก็ถึงเวลา...เราเดินเข้าไป มีเจ้าหน้าที่ผู้ชายหน้าตาประมาณลุงแก่ๆ เราก็ยื่นพาสปอร์ตให้ เราก็ยืนลุ้นว่าเค้าจะพ่นภาษาเกาหลีใส่เราไหม? คือกลัวมากอะ กลัวเค้าพูดแล้วเราจะฟังไม่รู้เรื่อง แต่เค้าก็ไม่พูดอะไร แล้วลุงแกก็ทำภาษามือประมาณว่าให้เราเอานิ้วชี้ข้างขวา+ซ้ายมาแตะตรงเครื่องแสกนลายนิ้วมือ แต่สักพักลุงแกก็เงยหน้าขึ้นมา...
ลุง ต.ม. - (ชะโงกหน้ามาทางเรา ท่าทางเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง)
เรา - คะ?
ลุง ต.ม. - (ชะโงกมากกว่าเดิม กำลังจะอ้าปากพูด...)
เรา - (เอาละเห้ย...เตรียมตัวฟังสุดฤทธิ์) ตอนนั้นแบบงงเลยอะ...ท่าทางเหมือนลุงแกจะพูดอะไรสักอย่างแถมทำหน้าเครียดใส่อีก
ลุง ต.ม. - อะแค่กๆๆ แค่กๆๆๆ
ลุงแกไอเว้ยเห้ย คือจะไอไม่ว่าแต่ลุงแกจะชะโงกหน้า+ทำหน้าเครียด+ทำท่าเหมือนจะพูดอะไรทำไมว้า ตกใจหมดเลยอะ 5555555 เราก็แบบโอ้ยยย นึกว่าจะพ่นเกาหลีใส่ตู คือมันตลกดีอะ...ทำท่าเหมือนจะพูดสุดท้ายมาไอใส่เรา ขอบคุณมากค่ะ - -
เราว่า ต.ม. ที่นี่ก็ไม่โหดอะไรนะ เพราะตราบใดที่เราอยู่ในสภาพเป็นนักท่องเที่ยวและไม่ทำตัวมีพิรุธ ข้อหลังสำคัญมากนะ เพราะถ้าเราทำตัวมีพิรุธเขาก็จะยิ่งสงสัยอะ แต่เราไปเราก็พยายามยืนนิ่งๆ เขาก็ไม่พูดอะไรกับเราสักคำ ปั๊มตรา+คีย์ข้อมูล+ยื่นพาสปอร์ตคืน จบ
พอผ่านด่าน ต.ม. มาแล้วเราก็เดินตามแม่ (อีกแล้ว555) ไปข้างใน ก็เจอไกด์ที่มายืนรอถือป้ายชื่อบริษัททัวร์อยู่ เรากับแม่มาเป็นคนแรกเลย แม่เราเลยบอกให้เรานั่งรอแล้วแม่เราจะไปหาอะไรกิน
เราก็นั่งมองไปรอบๆ สะดุดตากับเซเว่น คือมันไม่แปลกหรอกที่มีเซเว่นที่เกาหลี แต่นี่มันมีถึงสองที่ในระยะใกล้ๆกันอะ คือข้างหน้าเราก็มีที่นึง ข้างหลังก็มีอีกที่ คืองงมากว่าเอ็งจะมีหลายที่ไปเพื่ออะไร -_- แล้วก็มีร้านโดนัทชื่อดันกิ้นโดนัทป้ะ? เหมือนที่ไทยก็มี ที่เกาหลีก็มีนะรูปแบบร้านคล้ายๆกันเลย แต่เราไม่ได้เดินไปดูเพราะนั่งเฝ้าของอยู่ สักพักแม่เราก็ซื้อโกโก้ร้อนมาให้กิน ของกินอย่างแรกที่กินตอนถึงเกาหลีเลยนะเนี่ย 555555
พอทุกคนมากันครบแล้วไกด์ก็จะพาไปขึ้นรถทัวร์ (ลืมบอกว่าก่อนหน้านั้นระหว่างที่รอคนอื่นๆมา เราแอบเดินไปข้างนอกมา หมอกหนามากแถมอากาศเย็นแบบ...เหมือนอยู่ในบ้านหิมะของดรีมเวิร์ลเลยอะ -*- เราวิ่งกลับมาแทบไม่ทัน -*-) ตอนออกนอกสนามบินนี่เป็นอะไรที่ทรหดมาก คือทันทีที่ก้าวออกมาป๊ะกับอากาศเย็นยะเยือก ทุกคนวิ่งแบบเหมือนหนีระเบิดอะ คือมันหนาวจริงๆ แบบหายใจออกมาเป็นไอขาวๆเลย ตอนนั้นอุณหภูมิประมาณ 9 องศาได้ -O-
พอขึ้นรถไกด์ก็ออกมาพูด แล้วก็แจกของกิน มันเป็นข้าวปั้นที่ปั้นเป็นก้อนกลมๆห่อสาหร่าย อร่อยดี แต่เรากินไปนิดเดียวเพราะยังอิ่มอยู่ -*-
สักพักไกด์ก็บอกว่ากำลังออกเดินทางไปยังเกาะนามิ ตอนอยู่บนรถถึงแม้อากาศในรถจะไม่หนาวแต่กระจกรถนี่เป็นไอเลยอะ คือข้างนอกหนาวมากกกกกก ระหว่างทางจะมีภูเขาเยอะมาก เพราะตอนนี้ยังอยู่ที่ต่างจังหวัด วันที่สองถึงจะเข้าโซล ถนนที่เกาหลีก็คล้ายๆกับของไทยนะเราว่า...แต่วันที่เราไปถนนโล่งมาก รถไม่ติดเลย เพราะอะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน 555555
Update cm.30 l เกาะนามิ
Update cm.60 l เพิ่มรูปเกาะนามิ
Update cm.96 l Teddy Bear Farm : อุทยานแห่งชาติซอรัคซาน : วัดชินฮึนซา
Update cm.101 l Teddy Bear Farm : อุทยานแห่งชาติซอรัคซาน : วัดชินฮึนซา (ต่อ)
Update cm.131 l โรงเรียนสอนทำกิมจิ : สวนสตอเบอร์รี่
Update cm.148 l สวนสนุกเอเวอร์แลนด์
Update cm.171 l สวนสนุกเอเวอร์แลนด์ -ต่อ-
Update cm.203 l สวนสนุกเอเวอร์แลนด์ -จบ-
Update cm.228 l [โซล] ตลาดทงแดมุน
Update cm.259 l คลองชองเกชอน : บลูเฮ้าส์ : พระราชวังเคียงบ็อคคุง
Update cm.277 l โซลทาวเวอร์
Update cm.291 l วัดโชเกซา : หมู่บ้านวัฒนธรรมนัมซานฮันอก : เมียงดง
Update cm.320 l ศูนย์โสม : ศูนย์สมุนไพรฮอตเกตนามู : คอสเมติกเซ็นเตอร์ : ซูเปอร์มาเกตพื้นเมือง
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
คลิกที่นี่เพื่อดูความคิดเห็นทั้งหมด
เอาอีกกกกกกกกก ฮีฮิ . เหมือนโรคจิต นั่งอานทู้ของ จขกท ตาแฉะ ขนาดอ่านมั่ง ข้ามมั่ง ยังเหนื่อยเลยยย
อยากไปบ้างจังเลยยยย แต่น่าจะแพงมากเลยนะเนี่ยๆๆ
ชาตอนี่จะได่ไปบ้างไม่รู้ --* --*
คิมมยองซู``
- ไปสองคนจ้า ค่าทัวร์ตอนเราไปก็คนละ 27000-28000 ไม่เกินนี้
อัพต่อ ตอนนี้ตอนจบแล้วนะ
วันต่อมาก็เป็นวันสุดท้ายที่ได้อยู่ที่เกาหลีแล้ว ใจหายอะ ยังอยากอยู่ต่ออีกสักเดือน 55555 ตอนเช้าพอกินข้าวเสร็จก็ไปที่ศูนย์โสม อากาศเย็นมาก -_______- ลงจากรถนี่แทบเเข็งตาย
เข้ามาข้างในก็มีพนักงานต้อนรับเป็นคนไทย -0- เราไม่ได้ถ่ายรูปในศูนย์โสมมานะ เพราะเค้าห้ามถ่าย เลยหารูปในปู่เกิ้ลมาให้แทน
- เห็นโหลแก้วสูงๆป่ะ มันคือโสมที่ดอง(?)เอาไว้ รูปร่างมันจะแตกต่างกันออกไป มีอันนึงพนักงานต้อนรับถามว่าทุกคนรู้ไหมคะว่าโสมอันนี้รูปร่างเหมือนอะไร เราคิดในใจว่าปลาหมึก ก็มันเหมือนจริงๆอะ -_- แต่สุดท้ายเค้าก็บอกว่ามันเหมือนแม่อุ้มลูก เอิ่ม...แล้วอิปลาหมึกนี่มาจากไหน 5555555 (แต่อันที่เราเห็นเป็นโหลอีกอันนึงนะ ไม่ใช่แบบในรูป) -
ที่ศูนย์โสมนี่มีพนังงานคนไทยเยอะมาก ไม่ใช่แค่ศูนย์โสมนะ แต่ที่คอสเมติกเซ็นเตอร์ก็มีพนักงานเป็นคนไทยเหมือนกัน เราว่าถ้าเรียนจบจะไปหางานทำที่นู่นก็ดีเหมือนกันนะ 55555 นอกเรื่อง...เล่าต่อ ที่ศูนย์โสมขึ้นไปชั้นบนก็จะเป็นห้องแบบนี้
มีโสมขายทุกประเภท มีทั้งแบบผงแบบโสมเป็นต้นๆ(?)แบบเม็ด มีทุกแบบอะ เรายังแอบถามแม่เลยว่าต่อไปมันคงมีแบบฉีดเข้าเส้นอะ 55555
พนักงานที่ห้องนี้ก็เป็นคนไทยอีกเหมือนกัน คงเป็นเพราะหลังๆมานี้คนไทยแห่มาเที่ยวเกาหลีกันเยอะมาก เยอะจริงๆ ขนาดไกด์ยังบอกเลยว่าคนไทยเป็นอันดับ 1 ที่มาเที่ยวเกาหลี
โสมกล่องนึงหลายหมื่น สามหมื่นประมาณนี้แหละ แพงมาก เราไม่ได้ซื้อ เพราะที่บ้านไม่มีใครกิน -_______-;;
ออกจากศูนย์โสมก็ไปที่ศูนย์สมุนไพรฮอตเก็ตนามู มันเป็นพืชสมุนไพรชนิดหนึ่ง ซึ่งราคาแพงชิxหายวายวอด กล่องนึงถ้าจำไม่ผิดหลายหมื่นจนถึงแสนเลยทีเดียว -0- ไม่แน่ใจนะ แต่ราคามันแพงมากจริงๆ -w- ซึ่งคนในกรุ๊ปทัวร์ไม่มีใครซื้อสักคน 55555
ต่อจากศูนย์สมุนไพรก็ไปที่คอสเมติกเซ็นเตอร์ คือจะเป็นแหล่งรวมเครื่องสำอางของเกาหลีอะ เราเดินเข้าไปก็แบบ...ไม่รู้จะซื้ออะไร เพราะเราไม่ใช้เครื่องสำอาง แต่ที่นี่ก็มีพนักงานคนไทยอีกเช่นกัน คือเข้าใจแล้วจริงๆแหละว่าคนไทยแห่กันมาเกาหลีเยอะจริงๆ -*-
เราก็ไปยืนรวมๆกับคนอื่นๆที่ยืนฟังพนักงานพูดอยู่ มันมีครีมชนิดนึงชื่อครีมหอยทาก บางคนอาจเคยได้ยิน มันจะเหนียวๆหนืดๆตามชื่อมันเลย เวลาทาต้องตีๆ (เบาๆนะ ตีแรงเดี๋ยวหน้าแหกหมด = =)
- ครีมหอยทากรูปร่างหน้าตาแบบนี้ -
แล้วก็มีครีมอีกชนิดนึงชื่อสยิวกิ้วมาก -*- ชื่อครีมน้ำแตก ตอนพนักงานพูดเราก็ห๊ะ!! ครีมบ้าอะไรชื่อครีมน้ำแตกว ะ ก็มีพนักงานเดินมาบีบครีมที่หลังมือเรา เราก็ละเลงๆๆๆ เฮ้ย มันมีน้ำผุดขึ้นมาอะ ยิ่งละเลงเท่าไหร่น้ำมันก็ผุดขึ้นมาเรื่อยๆๆ ประมาณว่าทำให้ผิวชุ่มชื่น อะไรประมาณนี้ -*-
เดินที่คอสเมติกเซ็นเตอร์เสร็จก็ไปกินข้าว เป็นอาหารคล้ายๆสุกี้ งั้นเราไม่อธิบายนะ 5555 กินเสร็จก็ไปที่ซูเปอร์มาเก็ตพื้นเมือง คือเป็นที่สุดท้ายแล้วเพราะหลังจากนั้นก็ไปที่สนามบินอินชอนเลย รู้สึกโหวงๆแฮะ ในใจมันยังไม่อยากกลับเลยอะ รู้สึกผูกพันธ์กับเกาหลีมาก คือประเทศมันน่าอยู่จริงๆอะ อากาศก็เย็นสบาย (เหรออออ ) โอเคเล่าต่อๆ พอถึงซูเปอร์มาเก็ตพื้นเมืองก็เดินไปซื้อของ มันเป็นซูเปอร์มาเก็ตธรรมดาแหละ มีพวกของกิน เครื่องใช้ไฟฟ้า บลาๆ เยอะมาก -_- เราซื้อแค่ไม่กี่อย่างเพราะมันไม่รู้จะซื้ออะไร (อ้าว? -*-)
- ระหว่างทางไปสนามบินอินชอน ไกด์ชี้ให้ดูสะพาน คือไอสีขาวๆที่อยู่ไกลๆนั่นคือสะพานนะ มันไกลมาก กลัวมองไม่เห็นกัน -
- ขากลับไกด์แจกส้ม 555555 ส้มลูกใหญ่มากกกก หวานๆไม่มีเม็ดเลย -
ซื้อของเสร็จก็ขึ้นรถไปที่สนามบินอินชอน ตอนถึงสนามบินนี่เรารู้สึกอยากร้องไห้ 55555555 อารมณ์แบบกุยังไม่อยากกลับเล้ยยยย รู้สึกผูกพันธ์กับเกาหลีมาก อยากอยู่ต่อ T_T แต่พอเช็คอินเสร็จไกด์ก็เดินไปส่งก็ผ่าน ต.ม. อีกครั้ง คราวนี้อาเจ๊ ต.ม.(?) แอบเหล่มองเราเล็กน้อย คงเพราะเราทำหน้าเหมือนโดนวางยาเบื่อมั้ง 5555555 คือนอยอะ กุอยากอยู่ต่อ 55555555
ก็เดินเข้ามาข้างใน ในนั้นก็มีดิวตี้ฟรีเหมือนกัน แต่เราไม่ได้ไปเดินนะ นั่งเฝ้าของให้แม่ นั่งเล่นเน็ตรอเครื่องประมาณชั่วโมงกว่าก็ได้เวลาขึ้นเครื่อง ใจหายอีกแล้วววว T^T แต่ก็เอาเหอะ...สักวันกุต้องกลับมาให้ได้ หนุ่มเสื้อลายแซ่บเว่อร์ที่ทงแดมุนรอน้ำอุ่นก่อนนะค้าาาาา >_________< (เฮ้ยยย ไม่ใช่แล้ว -*-)
ตอนขึ้นเครื่องก็ประมาณห้าโมง (ห้าโมงเกาหลี) เราได้นั่งริมทางเดิน (บอกทำไม -*-) เซ็งมาก!! เพราะอิหูฟังที่ใช้ฟังเพลงมันใช้ไม่ได้ เสียงไม่ออก แต่ก็ขี้เกียจคุยกับแอร์กลัวคุยไม่รู้เรื่องเลยช่างแม่ม นอนก็ได้ว ะ นอนไปสักพักตื่นมาข้างนอกก็มืดละ หลับไปนานมากแถมหลายรอบอีกต่างหาก -*- หลับๆตื่นๆจนเวลาประมาณสองทุ่ม (เวลาไทยหรือเกาไม่รู้ จำได้แค่สองทุ่ม -*-) เราเกิดอยากลองเข้าห้องน้ำบนเครื่องบินขึ้นมา บวกกับตอนนั้นสะลืมสะลืม อารมณ์แบบเพิ่งตื่น =______=
แม่เราก็พาไป (ไม่กล้าไปเอง กลัวขากลับหาที่นั่งตัวเองไม่เจอ 55555) เราก็ลองเข้าไป ห้องน้ำแคบมาก ตอนนั้นเองที่เรานึกขึ้นได้ว่า เคยมีคนบอกว่าห้องน้ำบนเครื่องบินชักโครกแรงมาก เราก็...มันจะแรงแค่ไหนกันเชียว ตอนนั้นมึนๆก็กดชักโครก แม่มมมม...โอ้วชิท ใครก็ได้บอกกุทีว่านี่มันชักโครกหรือหลุมดำ =[]= น่ากลัวมากกกกก ถ้าจุ่มหัวลงไปคอขาดแน่ๆ (แล้วใครมันจะจุ่มลงไปล่ะว ะ ) ตอนนั้นเราสะดุ้งจนเซไปชนประตูเลยอะ เสียงมันน่ากลัวมาก ตาสว่างเลย -O-
หลังจากเข้าส้วมหลุมดำ(?)เสร็จก็มานั่งที่ หลับต่ออีกค่ะ -*- ไม่รู้เราไปอดหลับอดนอนมาจากไหน -*- สักพักพอตื่นแอร์ก็เอาอาหารมาเสิร์ฟพอดี กินเสร็จก็ใกล้ถึงไทยแล้ว เราไม่เล่าตอนอยู่บนเครื่องแล้วนะเพราะเรานอนอย่างเดียว -________-
พอถึงไทยก็เดินไปเอากระเป๋าสัมภาระทั้งหมด ถึงไทยแล้ว T^T ใจนึงคิดถึงบ้านแต่อีกใจนึงอยากกลับไปเกาหลี ก็นั่นแหละ...พอเอาของเสร็จก็ไปที่ ต.ม.ของไทย
ก็มีแค่นี้แหละ...จบง่ายไปไหม 5555555 สรุปเลยละกัน...เราว่าเกาหลีเป็นอีกประเทศนึงที่น่าสนใจนะ คือไปแล้วมันจะรู้สึกว่าไม่อยากกลับอะ ใครกำลังหาที่เที่ยวก็แนะนำที่เกาหลีเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกนะฮะ ^^
เห็นหลายคนบอกว่าวางแผนจะไปเที่ยวเกาหลี เพราะงั้นถ้าใครไปแถวทงแดมุนแล้วเจอคนเต้นโคฟบีทส์ลักษณะเหมือนหนุ่มเสื้อลายแซ่บเว่อร์ของจขกท.(?) จับใส่กระเป๋ากลับมาฝากจขกท.ด้วยนะ (ฮา)
เอาล่ะ...สุดท้ายแล้วขอบคุณทุกคนที่ติดตามกระทู้เรานะ เป็นกระทู้แรกเลยที่เคยตั้งแล้วคนดูเยอะขนาดนี้ T^T เราดีใจมากตอนที่มีคนเม้นบอกว่าเราเล่าสนุก ทั้งๆที่เรากลัวแทบตายว่าพิมพ์ไปแล้วคนอ่านจะงง ขอบคุณมากเลยนะ T______T รักคนอ่าน มาจูบที -3- 5555555
จบแล้วเหรอ ? TT
กระทู้นี้เข้ามาแล้วเหมือนได้ไปเที่ยวเองเลย ^ ^
ถ้า จขกท. ไปเที่ยวอีก มาเล่าอีกนะ
นั่งอ่านตาแชะ เกิดอิซซี่เบาๆ
ถ้าเราไป เราก็อยากไปเองมากกว่าน่ะ เข้าโซลอย่างเดียวไปนั่งเฝ้าเอสเจที่ร้านกาแฟ ฮิ้ววว (ไม่เกี่ยว ) ขอบคุณที่แชร์ประสบการณ์ดีๆจ้า
ถาม- จขกท. พูดภาษาอะไรเวลาซื้อของอ่ะค่ะ?
จะบอกเรื่องห้องน้ำอะ คือมันเป็นแบบพาสติกหุ้มใช่ม้ะ เราไม่รู้ว่ากดปุ่มสตาร์ตหรืออะไรซักอย่างแล้วมันจะเลื่อนเปลี่ยนพาสติกอะ เราดึงมันอะ 555555555 ขาดเป็นสองอัน เราก็คิดทำไงดีวะ เลยพยายามดึงๆๆให้มันเปิดทั้งหมดเหมือนเดิม ออกมาโคตรอาย ดีว่าห้องนั้นไม่มีคนเข้าต่อเรา 555555555
น้องน้ำอุ่นไปกับทัวร์ไหนคะ อยากไปบ้างจะเก็บตังค์ ^^
น้ำอุ่นนนนน!! ขอบคุณสำหรับของฝาก เสียดายไม่ได้ของที่ต้องการจริงๆ555
ขอบคุณมากค่า จขกท.เขียนละเอียดดีจัง
เราไม่ค่อยชอบไปทัวร์อะ บางทีชอบมีคนแก่มาแล้วทำอะไรที่มันไม่ปกติ(?) งงมั้ย 55555
อ่านแล้วสนุกมากค่ะ จขกท บรรยายได้ฮาดี อิอิ
อยากจะบอกเรื่องร้านขายซีดีนะคะ ร้านที่ จขกท ซื้อเป็นร้านที่ราคาแพงจริงๆค่ะ เราเดินเข้าไปดูมาแล้ว
ถ้าอยากได้ร้านราคาถูกๆ จะต้องเดินไปตรงทางเข้าออกที่ 6 ของซับเวย์นะคะ พอเดินลงบันไดไปแล้วให้สังเกตซ้ายขวา
ด้านซ้ายจะเป็นคล้ายๆห้างเล็กๆ เล็กจริงๆ ส่วนทางขวาจะเป็นทางเข้าสถานี(ประมาณนี้) ให้ไปทางนั้นค่ะ
แต่เราไม่เข้าสถานีนะคะ พอเลี้ยวขวาแล้วให้มองทางซ้ายจะมีซอยเล็กๆประมาณ 3-4 ซอย เราไม่แน่ใจ ลืม 555
เราก็เลี้ยวเข้าไปในซอยพวกนั้นเลยค่ะ จะมีร้านขายซีดีและอุปกรณ์เชียร์ พวงกุญแจ หนังสือ โฟโต้บุ๊ค ของ ศลป เกาหลีเยอะมาก ประมาณ 3 ร้านได้
แล้วแต่ละร้านก็จะมีราคาที่ต่างกัน บางอย่างร้านนี้ถูกกว่า แต่บางอย่างก็แพงกว่า ก็ต้องดูเอาเองนะคะ ^^
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google