เอ เผยข่าวดี อดีตแฟนหนุ่มยอมตรวจดีเอ็นเอตามคำสั่งศาล

หลังจากที่นางแบบและนักแสดงสาว "เอ - อัญชลี หัสดีวิจิตร" ได้ยื่นคำร้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง สนามหลวง มีคำสั่งให้อดีตแฟนหนุ่มรับรอง "เอวี่ - เพชรพลอย หัสดีวิจิตร" เป็นบุตร โดย เอ ได้ยื่นคำร้องไปตั้งแต่เมื่อปลายปี 2554 ซึ่งศาลก็ได้มีการนัดไกล่เกลี่ยครั้งแรก แต่ก็ไม่เป็นผล ด้านสาว เอ จึงให้ทนายเข้ายื่นคำร้องขอตรวจดีเอ็นเอ เมื่อถามความคืบหน้าของคดีเจ้าตัวก็เผยว่าตอนนี้ อดีตแฟนหนุ่มยอมที่จะตรวจดีเอ็นเอแล้ว "คดีก็เป็นข่าวดีนะคะ เขาก็ยอมที่จะมาตรวจดีเอ็นเอแล้ว เราก็รอคำสั่งศาลว่าจะให้ไปตรวจวันไหน ตกลงเป็นที่โรงพยาบาลรามาฯ ค่ะ เพราะว่าเป็นโรงพยาบาลของรัฐบาล เอก็เชื่อมั่นในความยุติธรรม เชื่อมั่นว่าหลักการวิทยาศาสตร์จะทำทุกอย่างให้กระจ่าง ถ้าหลักวิทยาศาสตร์จริงๆ มันพลิกไม่ได้อยู่แล้ว เอมั่นใจหมื่นเปอร์เซ็นต์ล้านเปอร์เซ็นต์นะคะว่าต้องออกมาในสิ่งที่มันควรจะเป็นค่ะ แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็ต้องรอผล ไม่อยากจะพูดขึ้นมาเราต้องรอผลค่ะ พอมาถึงจุดนี้ปุ๊บมันก็มีความระแวงอีก คนเป็นแม่ก็ระแวงอีกว่าถ้าเกิดตรวจมาแล้วจะยังไงต่อไป เอก็คิดว่าเขาคงไม่พรากลูกไปจากเรา เพราะว่าจริงๆ แล้วคนเป็นแม่ก็มีสิทธิ์ที่จะเลี้ยงดูลูกโดยชอบธรรม"

สำหรับเรื่องค่าเลี้ยงดูบุตรนั้น เอ กล่าวว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญ แค่อยากให้ฝ่ายชายรับรอง เอวี่ เป็นบุตรที่ถูกต้องตามกฎหมาย "ตามขั้นทนายความต่างๆ พอร่วมกันเป็นบิดามารดาแล้วต้องช่วยกัน แต่สำหรับเอถ้าสมมติว่าทางฝ่ายนู้นเขาไม่สามารถหรือเขาไม่อยากที่จะเลี้ยงดู ไม่เป็นไร แค่เขาจดทะเบียนรับรองว่าเอวี่เป็นลูกที่ถูกต้องต้องเขาเป็นพ่อที่ถูกต้อง แค่นี้ก็ดีใจแล้ว ตั้งแต่วันที่ไปไกล่เกลี่ยวันนั้นเป็นวันเกิดน้องเอวี่ ก็คิดว่าการไกล่เกลี่ยน่าจะเป็นสิ่งที่ให้ลูกสักครั้งนึง ปรากฏว่าเขาไม่มา แต่พอตามมาเขาก็ยอมที่จะตรวจดีเอ็นเอ เอก็รู้สึกว่าอย่างน้อยเขาก็กล้าที่จะทำสิ่งที่ถูกต้อง"

เจ้าตัวปัดไม่ได้เสียความรู้สึกที่ต้องให้มีการตรวจดีเอ็นเอ "เอไม่เสียใจเลย เอมีความรู้สึกว่าคนเรา พ่อแม่เขาก็ต้องเป็นห่วงลูกเขาอยู่ดี จะเอาลูกหลานคนอื่นมายัดเยียดให้ ใครก็คงไม่ยอม แต่ตัวผู้ชายเขารู้อยู่แล้วว่าเป็นอะไร ฟังมาจากทนายเอว่าทนายของเขาบอกว่าคุณเติ้ลเขาก็ไม่แคลงใจใดๆ ทั้งสิ้น แต่อยากจะตรวจเพื่อให้ทางบ้านเขาสบายใจ ซึ่งเอก็คิดว่าในเมื่อมันมาถึงขนาดนี้แล้วเราก็ทำให้ถูกต้อง ศาลนัดวันที่ 26 มิถุนา ทุกอย่างต้องจบสิ้น"

เอ รับกลัวที่จะต้องเผชิญหน้าฝ่ายชายอีกครั้ง "ความรู้สึกเอตื่นเต้นวันที่จะต้องเจอกันอีกครั้งนึง หลังจากที่ไม่ได้เจอกัน 3 ปี อยากให้เขาได้เห็นลูกตัวเป็นๆ อยากให้รู้ว่าลูกเราน่ารักแค่ไหนค่ะ ตอนนี้ก็รอว่าจะไปตรวจพร้อมกันวันไหน ถามจริงๆ ว่าเอตื่นเต้นไหมกลัวไหม เอกลัวนะไม่อยากเผชิญหน้าด้วยจริงๆ แล้ว เพราะกลัวว่าเราจะอ่อนแอต่อหน้าเขา แต่ถึงเวลานั้นเราก็ต้องเพื่อลูก" เมื่อถามถึงน้องสาวว่ายังไงบ้างกับเรื่องนี้ เนื่องจากสาว "โย - ยศวดี หัสดีวิจิตร" ก็เป็นฝ่ายที่อยู่เคียงข้างคอยสู้ด้วยกันมาตลอด เอ ก็บอกว่า "โยบอกว่าต่อให้วันนั้นมีงานเป็นล้านเป็นแสนโยก็ไม่ทำ โยจะไปกับเอจะไปให้กำลังใจ เขากลัวว่าเอจะอ่อนแออีก"