ได้ตาม"ความฝัน"ไหม ? รุ่นพี่เข้ามาหน่อยค่ะ

25 มิ.ย. 55 22:26 น. / ดู 371 ครั้ง / 7 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์
อยากถามรุ่นพี่ ที่กำลังเรียนมหาวิทยาลัยหรือจบแล้วก็ได้
ว่าตัวเองได้เรียนคณะ เข้ามหาวิทยาลัย  ที่ตัวเองอยากเข้าอยากเรียนไหม ?
และมันใช่ความฝันตัวเองหรือปล่าว ?
เอาเหตุผลหรืออะไรก็ได้ค่ะ ยาวขนาดไหนก็ได้อ่านหมด  :)
ไม่มีแบบฟอร์ม โพสตามอิสระ ได้โปรดเม้นทู้นี้ด้วย


สับสนกับชีวิตตัวเองมาก 
ขอบคุณค่ะ
เลขไอพี : ไม่แสดง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | ''SS>กาแฟรสส้ม::'] | 25 มิ.ย. 55 23:02 น.

ชื่อกระทู้ทำสะอึกเลยอะ ..

บางครั้งชีวิตมันก็เลือกมากไม่ได้ และไม่พร้อมรับกับความเสี่ยงที่เปอร์เซ็นเป็นไปได้ช่างน้อยนิด ต้นทุนที่มีก็ต่ำกว่าเขา จะไปแข่งอะไรก็ลำบาก
ไม่ใช่ไม่ได้เเข่งเลย แต่เพราะแข่งแล้วมันแพ้ไง แพ้แล้วแพ้อีก จะหวังอะไรมาก ,,

สำหรับเราแล้ว ตรงๆเลย นี่ไม่ใช่ภาควิชา หรือเป็นอาชีพที่อยากเลย
มันคนละเรื่องกันเลย

มันก็ไม่ใช้คณะหรือสาขาที่ดูแย่ขนาดนั้น มีหลายๆคนอยากเรียนในสิ่งที่เราเรียนอยู่ เคยถามหลายๆคนว่า เราจะซิ่วไปคณะที่อยากเรียนนี่ดีมั้ย?? ส่วนใหญ่ตอบกลับมาว่า ซิ่วทั้งทีทำไมไม่ไปสายนี้ไปคณะนี้ดีกว่า ก็ได้แต่ยิ้มให้แล้วคิดในใจ ก็ที่แนะนำให้ซิ่วนะ กำลังเรียนอยู่หนะสิ..

แอบคิดตลอดเลยนะ เราจะเรียนจบมั้ย? เราจะสามารถทำงานในสายอาชีพนี้จริงๆหรอ? เราจะรักษาเขาได้จริงหรอ? ทุกวันนี้บอกตามตรงว่าไม่มีความสุขกับการเรียนเลยนะ อึดอัดและลำบากใจ ทั้งมีแต่อะไรที่ไม่ชอบ และเป็นอะไรที่ยากกว่าพื้นฐานที่มี เพราะอย่างนี้ด้วยมั้ง มันเลยติดๆขัดๆด้วย

บางคนเลือกเรียนสิ่งนี่เพราะสนใจตริงนี้นิดหนึ่ง ถึงไม่ใช่ทั้งหมด ก็ยังพอได้ แต่เราไม่เลย ไม่มีคำว่าชอบในตรงนี้เลย ลำบากนะ อยากเตือนน้อง ถ้าไม่ชอบ แล้วเรียน 4 ปีมันจะไม่มีความสุข แต่ถ้าคิดว่า เพื่ออนาคต ยอมอดตรงนี้ ไฟท์ตรงนี้ ก็โอเค ขอให้สู้ๆ แต่อย่าลืมว่า เราไม่ได้อดแค่ตรงนี้ เพราะมันจะอยู่กับเราไปตลอดชีวิต

ทุกๆวันนี้พูดกับตัวเองอย่างเดียวเลย "อดทนนะ อดทน ต้องอดทน.."

แก้ไขล่าสุด 25 มิ.ย. 55 23:06 | ไอพี: ไม่แสดง

#2 | spit_it_out | 26 มิ.ย. 55 03:30 น.

พี่ไม่เคยอยากเป็นวิศวกรเลยครับ ไม่มีความคิดที่อยากจะเป็นเลยแม้แต่น้อย ทุกวันนี้ก็ไม่ได้อยากเป็นวิศวกรด้วย แต่ทุกวันนี้พี่ก็ได้ทำงานในสิ่งที่ผมอยากจะทำ

แต่ที่เข้าไปเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ เพราะคิดว่าคณะนี้ให้คำตอบในชีวิตการเรียนมหาวิทยาลัยกับผมได้ ตอนผมม.6 ผมเห็นพวกรุ่นพี่ที่เรียนคณะนี้ทำตัวชิวมาก " เช้ามาไปเรียน ตกเย็นเลิกเรียนมาก็เตะบอล เล่นกีฬา แซวสาว ค่ำๆมาก็อ่านหนังสือทำการบ้าน ดึกหน่อยก็ออกตระเวนราตรี กินเหล้าเคล้านารี " มันทำให้พี่รู้สึกว่า เออ คณะนี้มันไม่ได้เรียนอย่างเดียวนี่หว่า มันยังแบ่งเวลาไปออกสังคมได้ด้วย ซึ่งพี่รู้สึกว่า มันไม่ใช่แค่การเรียนในห้องเรียนอย่างเดียวแล้วแหละ ชีวิตมหาลัยมันต้องแบบนี้สิ มันต้องใช้ชีวิตให้คุ้มค่า พี่เลยตัดสินใจหักดิบกับที่บ้าน ด้วยการเลือกวิศวะ แล้วพี่ก็ติดสมใจอย่างที่พี่อยากจะเรียน

พอเข้ามาเรียน เจอรับน้องเข้าไป พี่รู้สึกว่า "ทำไมมันไม่เหมือนที่กุคิด ว-ะ"  แอบนอยด์ไปช่วงหนึ่ง พอพ้นช่วงนั้นมาก็เริ่มใช้ชีวิตอย่างที่อยากทำ ยอมรับว่าหลงแสงสี แต่ไม่ไ่ด้ทำให้การเรียนตกต่ำลง

หลังจากจบมา พี่บอกตรงๆว่า คณะวิศวกรรมศาสตร์ได้มอบอะไรให้พี่มากกว่าความรู้และใบปริญญาบัตร พี่ได้ทั้งการใช้ชีวิต การเข้าสังคม ได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง อย่างที่พี่อยากจะรู้ ชีวิต 4 ปีในมหาวิทยาลัยของพี่ เป็นไปตามที่พี่ต้องการจริงๆ มันสอนให้พี่ได้รู้ว่า การเรียนรู้ชีวิตควบคู่ไปพร้อมๆกับการเรียนหนังสือนั้นมันเป็นอย่างไร และเราจะทำให้มันออกมามีผลที่ดีตามอย่างที่ใจเราต้องการได้อย่างไร

ถึงแม้ทุกวันนี้ พี่จะไม่ได้ทำงานตรงสายที่จบมานัก แต่ด้วยคำว่า"คณะวิศวกรรมศาสตร์" จึงทำให้พี่ได้ทำงานในสิ่งที่พี่รักและพี่ยังสามารถค้นหาคำตอบของชีวิตพี่ได้ด้วย
"พี่ไม่เคยเสียใจเลยที่ได้เรียนคณะนี้และมหาวิทยาลัยแห่งนี้"

ไอพี: ไม่แสดง

#3 | `ไอแอมเด็ก'เสี่ย' | 26 มิ.ย. 55 14:07 น.

ส่วนเราเรียนตรงตามที่อยากเรียนนะคะ คณะอักษรศาสตร์ (:
ภาษาเกาหลีจ้ะ เพิ่งปีหนึ่งเอง อยากเป็นล่ามมากๆ
คิดถึงอนาคตแล้วด้วยว่าจะไปเรียนต่อที่เกาหลี
ปรึกษาแม่แล้ว แม่ก็ให้ไปแต่เกรดต้องดี 55555 = =;;
เราเรียนแล้วเรามีความสุขนะ เรียนในสิ่งที่ชอบ คือไม่รู้ว่าจบไปแล้วจะได้ทำงานที่อยากทำหรือไม่
แต่แค่ได้เรียน ณ ตอนนี้ เรียนสิ่งที่ชอบ ก็มีความสุขแล้วจ้ะ

ไอพี: ไม่แสดง

#4 | .244486'[ณ]฿'ตกเบ็ด* | 26 มิ.ย. 55 23:28 น.

สำหรับเรานะ อยากทำอาชีพอะไรก็ได้ที่จบมาแล้วได้เป็นข้าราชการ จะครู หรือ อะไรก็ได้

ตอนเราอยู่ม.ต้น เราคิดอย่างเดียวว่าต้องสอบต่อม.4  ถ้าสอบไม่ติดก็เรียน ปวช
แต่เราสอบติด ม.4 อังกฤษ-ญี่ปุ่น  ซึ่ง ณ ตอนนั้น เราชอบภาษาญี่ปุ่นมากกกกก
แต่เราไม่ได้ตั้งใจเรียนมากมายอะไร เกรดแต่ละเทอมออกมาก็แค่ 2 กว่าๆ

พอขึ้นม.5 เกรดพุ่งไปแตะที่ 3 ด้วยความไม่ตั้งใจ และยังไม่รู้ว่า จบม.6 แล้วต้องทำยังไง
ขึ้นม.6 มา มีอาจารย์มาแนะแนวเรื่องเรียนต่อมหาวิทยาลัย  เราก็ อ๋อ ต้องต่อมหาวิทยาลัย
แต่อารมณ์ตอนนั้นคือ ไม่รู้จักมหาวิทยาลัยซักที่  เพราะคนในครอบครัวจบแค่ป.4
ตั้งแต่ ตา ยาย พ่อ แม่ ส่วนพี่ก็เรียน ปวส  ก็เลยไม่รู้จักมหาวิทยาลัย

ตั้งแต่เรื่องการเข้ามหาวิทยาลัย  สอบตรง โควต้า แอดมิดชั่นคืออะไร.. ไม่รู้เหมือนกัน
จะรู้ก็ตอนช่วงม.6 นี่แหละ  เพราะมีคนมาแนะแนวเรื่อยๆ

อารมณ์ตอนนั้นคิดแน่ๆว่า จะเรียนต่อ ศึกษาศาสตร์-สาขาการสอนภาษาญี่ปุ่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น  แต่เราเป็นเด็กภาคเหนือ ต้องสอบผ่านโควต้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 
ซึ่งเลือก 2 อันดับที่เป็นมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และอีก 2 อันดับของมหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมโครงการโควต้า

อันดับ 1 มนุษยศาสตร์ สาขาวิชาภาษาญี่ปุ่น
อันดับ 2 มนุษยศาสตร์ สาขาวิชาบ้านและชุมชน

มีคนถามว่า อันดับ 2 เรียนไปแล้วทำงานอะไร ????
ใจตอนนั้นตอบไปว่า  ไม่รู้หวะ  เลือกไปงั้นๆ  กลัวไม่ติด ถ้าติดอันดับ 2 อย่างน้อยก็ย้ายได้


จากเด็กคนนึง วันๆไม่ทำอะไร  การบ้านไม่เคยแตะ  ลอกอย่างเดียว
ติดเกมส์มาก เล่นแต่คอมพ์  หนังสือหนังหาไม่เคยอ่าน
แต่กลับต้องมาทุ่มเท มาเรียนพิเศษ อ่านหนังสือของที่เรียนพิเศษ 5เล่ม [ไทย-สังคม]
อ่านหนังสือเสร็จก็เล่นเกมส์ต่อ  ไปหลับไม่นอน การบ้านไม่ทำ..

จนผลสอบออกมาว่า  ติดอันดับ 2  ดีใจกึ่งเสียใจ

ติดอันดับ 2  ต้องเรียนอะไรบ้างวะ.. จบไปทำงานอะไรวะ.. คำถามผุดขึ้นมา
แต่ก็ยืนยันสิทธิ์ว่าจะเอาสาขานี้ 
ไม่นานก็มีรุ่นพี่สาขานี้ อยู่ปี2 มาแนะแนวว่าสาขานี้เรียนอะไรบ้าง

1 ศิลปะอาหาร : เรียนทำอาหาร ออกแบบอาหาร คิดค้นเมนู คล้ายๆเชฟ
2 ศิลปะสัมพันธ์ : เรียนออกแบบเสื้อผ้า  จัดดอกไม้ ดีไซเนอร์ทุกรูปแบบ
3 พัฒนาชุมชน : คล้ายๆ สังคมสงเคราะห์  ออกค่ายพัฒนาชุมชน

และถ้าให้ตอบคำถามของกระทู้นี้ ว่าได้เรียนตามความฝันไหม?
ก็ขอตอบเลยว่า
.. ไม่ได้เรียนตามความฝัน  แต่เลือกเรียนตามสิ่งที่ว่าใช่และใกล้เคียงมากที่สุด อย่างที่บอกตอนแรกว่าเรียนอะไรก็ได้ ที่จบมาได้ทำงานเป็นข้าราชการ  ซึ่ง พัฒนาชุมชน สามารถเป็นข้าราชการได้

แล้วเราก็โชคดีอย่างหนึ่งที่ติดสาขาที่มีอะไรๆให้เรียนมากมาย  ไม่ได้เรียนแค่ภาษาอย่างเดียว  ไม่ได้เรียนอะไรๆด้านเดียว  อย่างน้อยได้เรียนอะไรหลากหลายอย่างที่แตกต่างออกไป และสามารถนำมาประยุกต์ใช้รวมกันได้

ตอนนี้ดีใจมากที่ได้เรียนสาขานี้ และไม่คิดที่จะย้ายสาขาด้วย เพราะคิดว่า ถ้าจะย้ายไปสาขาวิชาภาษาญี่ปุ่น  ก็จะได้เรียนแค่ภาษา เรียนแบบว่าแทบจะกลายเป็นคนญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้
เรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างของคนญี่ปุ่น  ตั้งแต่ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ทุกสิ่งทุกอย่าง
เราคิดว่ามันไม่ใช่ตัวเรา

ยังไงก็ขอฝากน้องๆที่กำลังจะสอบไม่ว่าจะยื่น แอดมิชชั่น หรือสอบตรง หรือโควต้า  ไม่ว่าจะมหาวิทยาลัยไหน ก็ขอให้เลือกในสิ่งที่เป็นตัวเอง อย่าไปคิดว่าเห้ย กลัวไม่ติดอะ ยื่นคณะนี้รองไว้ดีกว่า  เพราะจริงๆแล้ว โอกาสที่น้องๆจะติดนั้น มันไม่ได้มีบ่อยๆ
เลือกในสิ่งที่เป็นตัวเอง คะแนนมันสูง ก็พยายามเข้าไว้  ไม่มีสิ่งไหนที่เราทำไม่ได้ถ้าเราตั้งใจจริงๆ

แอดมิชชั่น ปี 2555 มีคนสอบติดอยู่ 20000+ กว่าคน แต่สละสิทธิ์ประมาณ 5000 คน เพราะติดคณะที่ไม่ใช่ตัวเอง .. แล้วจะเลือกเพื่ออะไร??  ไปแย่งที่นั่งคนอื่นเขาทำไม
สิทธิ์ของคุณมันก็ใช่  แต่ในเมื่อคิดแล้วว่า  ถึงติดกุก็ไม่เอา ก็อย่าเลือกเลย  เพราะมันจะไปแย่งที่นั่งคนอื่นที่เขาอยากเข้าจริงๆ

ขอฝากน้องๆแอดมิชชั่นรุ่นต่อๆไปนะคะ พี่ไม่ได้ขอให้น้องๆทำตามที่พี่บอก
แต่พี่เพียงแค่จะแชร์ประสบการณ์ที่ผ่านมาของเด็กคนนึงที่ติดเกมส์ ไม่เคยทำการบ้าน และพึ่งจะเตรียมตัวตอนม.6 ก็ยังสามารถติดมหาวิทยาลัยได้ 

พี่ๆขอเป็นกำลังใจให้น้องๆทุกคน ที่กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย นะคะ


ดิท : ยาวไปหน่อย 

แก้ไขล่าสุด 26 มิ.ย. 55 23:28 | ไอพี: ไม่แสดง

#5 | Hay (ไม่เป็นสมาชิก) | 27 มิ.ย. 55 01:27 น.

ยังไม่จบน่ะครับ ตอนนี้อยู่ ปี4 )))

ตอนแรก อยากเรียน สัตวแพทย์มากๆ .. แบบว่า รักน้องหมา น้องแมว

อยากเลือก สัตว์เล็ก .. แต่ค้นพบตัวเองแล้วว่า ... ><" กลัวเลือด !

ก็เลยล้มเลิกไป.. ตอนนี้ เรียนอยู่คณะ วิศวกรรมศาสตร์ ในสถาบันแห่งนึง.. (ที่มีรถไฟเป็นโลโก้อะ ^^ ) ,, ตอนนี้ก็รู้สึก ดีใจ และภูมิใจ กับคณะที่เรียนนะ แต่หลังจากเรียนจบแล้ว.. อยากจะลองทำงาน ตามสายที่เรียนมาดูก่อน

... ต้องไปค้นหาตัวเองน่ะ.. ฮ่าๆ

แก้ไขล่าสุด 27 มิ.ย. 55 01:27 | ไอพี: ไม่แสดง

#6 | *฿aิQ9? | 27 มิ.ย. 55 20:17 น.


สารภาพตามตรงว่า ไม่ได้ทำตามความฝันค่ะ
แต่ก็อยากบอกว่าไม่เสียใจที่เลือกสายนี้

สมัยเรียนมัธยม เรียนสาย วิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์
มีความฝันที่สวยหรูว่าอยากเป็นพยาบาล ทำงานในโรงพยาบาลเอกชน
(ที่หมายตาไว้ คือ โรงพยาบาลกรุงเทพ)
แต่วันนึงก็ถึงจุดสะดุด ม.6 เทอมสอง นึกขึ้นได้ว่า
ตัวเองชอบภาษาอังกฤษ อยากพูดอิ้งเก่งๆ อยากไปต่างประเทศ อยากท่องเที่ยว
สุดท้ายจบลงด้วยสาขาวิชา จัดการธุรกิจท่องเที่ยว-โรงแรม-สายการบิน

ตอนนี้ ปี4 และเรียนเทอมนี้เทอมสุดท้าย (เรียน 3ปีครึ่ง)
พูดได้เต็มปากว่าภูมิใจและดีใจที่ได้เลือกเรียนสายนี้
หลังจากเข้ามาเรียนเทอมแรกก็รู้เลยว่าตัวเองชอบงานบริการ
ถึงใครจะมองว่ามันเป็นงานถมถืด งานหนัก รองรับอารมณ์ให้แขก
แต่ใครจะรู้ว่าพนักงานของบริษัททัวร์ สายการบิน พนักงานโรงแรม
ส่วนใหญ่ดีใจและภูมิใจมาก เมื่อมีแขกเข้ามาพูดดีๆยิ้มทักทาย
และยิ่งเมื่อได้รับคำชมจากแขก ยิ่งทำให้เรารักในงานนี้มากขึ้น

พี่กล้าพูดได้เต็มปาก " ไม่ว่าน้องจะเลือกเรียนสาขาไหน วิชาอะไรก็ตาม
น้องจะถูกปลูกฝังให้รักในสายงานของตัวเอง และภูมิใจในคณะ และสถาบันตัวเอง "


อีกอย่างนะคะ ได้โปรดอย่ามองว่างานบริการเป็นงานที่ต่ำต้อย เป็นงานที่ไม่มีคุณค่า
อยากให้คิดเสมอว่า สายอาชีพ 95% บนโลกใบนี้เป็นงานบริการ

ตำรวจ - บริการประชาชน
แพทย์ - บริการคนไข้
ดารา - บริการด้านความบังเทิงแก่ประชาชน
ช่างทำผม - บริการลูกค้าที่มาตัดผม


สี่สายอาชีพที่ยกตัวอย่างไป ถึงศักดินาจะต่างกันฟ้ากับดิน แต่ก็คืองานบริการเหมือนกัน
ภูมิใจกับงานของตัวเอง แล้วจะมีความสุขนะคะ ไม่ว่าจะได้เรียนสายใดก็ตาม

คิดอะไรได้จะมาดิทเพิ่ม ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆค่ะ 

ไอพี: ไม่แสดง

#7 | `เก้าเก้าเก้า | 1 ก.ค. 55 01:29 น.

เราไม่มีความฝันอะ ไม่ได้ฝันว่าอยากเรียนอะไร อยากเรียนที่ไหน
แต่ตอนนี้เราก็โอเคกับสิ่งที่เราตืดนะ ถึงแม้จะไม่ชอบคำนวณ 5555
เราเรียนวิศวะ และเราก็ค่อนข้างโอเคกับสังคมที่นี่นะ ชอบเลย

ไม่ได้ติดในสิ่งที่ฝัน แต่ติดแล้วเจอในสิ่งที่ตัวเองฝัน

บางอย่างไม่ลองเราก็ไม่รู้หรอก
*แอบบอกว่าวิศะเป้นคณะแรกที่ตัดออกเลยตอนที่คิดว่าตัวเองจะเรียนอะไร
เพื่อนๆยังตกใจ 5555 แต่เราคืดว่าทั้งนิสัยทั้งการเป็นอยู่คงไม่มีอะไรเหมาะกับเราเท่าคณะนี่แล้วอะนะ

ไอพี: ไม่แสดง

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google