ระเบิดงาน 'โมบายโชว์' ค่ายมือถือใช้กลยุทธ์ราคา หวังกระตุ้นยอ
29 มิ.ย. 55 11:40 น. /
ดู 341 ครั้ง /
1 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
รวม 50 แบรนด์มือถือ ผุดงานไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล โมบาย โชว์ 2012 คาด 4 วัน เงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 1,200 ล้านบาท ผู้ชมงาน 3-4 แสนคน ค่ายมือถือชิงเปิดตัวเพียบ หวังแจ้งเกิดสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต...
นาย โอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ในช่วงครึ่งปีหลังจะมีการแข่งขันรุนแรงขึ้น เนื่องจากแบรนด์โทรศัพท์เคลื่อนที่ต่างเร่งพัฒนาเทคโนโลยีในโทรศัพท์เคลื่อน ที่หลากหลายขึ้น โดยเฉพาะเทคโนโลยีควอด คอร์ (Quad Core) ซึ่งราคาจะแทนที่ราคาดูอัล คอร์ (DUO Core) ที่เริ่มปรับตัวลดลง ขณะที่ตลาดช่วงครึ่งปีแรกนั้นกำลังซื้อค่อนข้างเงียบเหงา เนื่องจากตลาดโลกมีการเปิดตัวสินค้าใหม่แต่เทคโนโลยีไม่ใหม่เท่าที่ควร ทำให้ยอดขายลดลง 5% ซึ่งคาดว่าหากไม่มีปัจจัยอื่นมาส่งผลกระทบ อาจทำให้ภาพรวมตลาดสมาร์ทโฟนเติบโตได้ถึง 10%
สำหรับ งานไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล โมบาย โชว์ 2012 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 มิ.ย.-1 ก.ค.2555 ณ ศูนย์แสดงสินค้าไบเทค บางนา มีผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ อาทิ เอไอเอส ดีแทค และทรูมูฟ ได้นำสินค้ามาลดราคาถึง 50% เพื่อล้างสต๊อกสินค้าที่เป็นเทคโนโลยีเก่าและเตรียมนำสินค้าใหม่มาวาง จำหน่ายในช่วงครึ่งปีหลัง รวมถึงค่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่มาร่วมงานทั้งสิ้นกว่า 50 แบรนด์ ซึ่งมีการเปิดตัวโทรศัพท์เคลื่อนที่ในงานหลายรุ่น ผู้จัดจึงเลือกศูนย์แสดงสินค้าไบเทค บางนา เป็นสถานที่จัดงาน เนื่องจากมีพื้นที่ขนาดใหญ่สามารถรองรับผู้เข้าชมงานได้จำนวนมาก ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานไม่ต่ำกว่า 3-4 แสนคน และมีเงินสะพัดในงานกว่า 1,200 ล้านบาท
ด้านนายสิทธิโชค นพชินบุตร ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด ธุรกิจโทรคมนาคม บริษัท ไทย ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่างว่า ภาพรวมตลาดในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา ซัมซุงมีอัตราการเติบโตทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตสูงกว่า 30% และเชื่อว่าจะรักษาอัตราการเติบโตดังกล่าวต่อเนื่องจนถึงช่วงสิ้นปี โดยซัมซุงจะเน้นการนำเสนอนวัตกรรมฟีเจอร์ต่างๆ ภายในซัมซุง กาแล็คซี่ เอส3 หรือ กาแล็คซี่ บีม ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนที่ฉายโปรเจคเตอร์ได้ มาเป็นจุดสร้างแบรนด์กาแล็คซี่ให้ติดตลาด ซึ่งภายในงานไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล โมบาย โชว์ 2012 ได้มีการเปิดตัวกาแล็คซี่ แท็บ 2 ซึ่งมีทั้งขนาดหน้าจอ 7 นิ้ว และ 10.1 นิ้ว พร้อมวางจำหน่ายภายในงาน ซึ่งซัมซุงตั้งเป้าว่าจะสามารถทำยอดขายได้มากกว่ารุ่นแรกถึง 50% เนื่องจากผู้บริโภคเริ่มเข้าใจถึงประโยชน์ของสินค้า และมีการใช้งานแอพพลิเคชั่นในการติดต่อสื่อสารมากขึ้น
ส่วน นายสมศักดิ์ อธิศัยตระกูล หัวหน้ากลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า หลังจากบริษัทหันมาเน้นตลาดสมาร์ทโฟนอย่างจริงจังพบว่าได้การตอบรับเป็น อย่างดี โดยในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนออพติมัส แอล7 และออพติมัส แอล3 นั้นส่งผลให้แอลจีมีส่วนแบ่งการตลาดที่14% ในกลุ่มสมาร์ทโฟนราคา 10,000-12,000 บาท และคาดว่าจนถึงสิ้นปีแอลจีจะมีส่วนแบ่งตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่รวมอยู่ที่ 5% ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนควอดคอร์รุ่นออพติมัส โฟว์ เอ็กซ์ (Optimus 4X) หน้าจอขนาด 4.7 นิ้วTrue HD IPS ให้สีสันสมจริง มาจำหน่ายในราคา 18,900 บาท ซึ่งคาดว่าจะทำให้บริษัทมีส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนในกลุ่มราคา 15,000-20,000 บาท ได้ไม่ต่ำกว่า 15% โดยบริษัทตั้งเป้าจำหน่ายไว้ไม่ต่ำกว่า 15,000 เครื่องภายในสิ้นปี
ปัจจุบันตลาดรวมสมาร์ทโฟนในประเทศไทยมีแนวโน้ม เปลี่ยนแปลงไป โดยมีมูลค่าตลาดรวม 45,000 ล้านบาท ซึ่งสัดส่วนกว่า 65% เป็นสมาร์ทโฟน แม้ว่าด้านจำนวนเครื่อง 70% จะยังเป็นของฟีเจอร์โฟน และเป็นสมาร์ทโฟนเพียง 30% อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังตลาดรวมยังมีแนวโน้มมาทางสมาร์ทโฟน โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 4 ตลาดสมาร์ทโฟนอาจมีสัดส่วนด้านมูลค่าเพิ่มเป็น 75% เนื่องจากสินค้ามีแนวโน้มปรับลดราคาลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนทิศทางการทำตลาดช่วงครึ่งปีหลังนั้น มองว่าจะมีสีสันมากขึ้น เนื่องจากมีผู้เล่นในตลาดสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นและมีสินค้าพร้อมเทคโนโลยีใหม่ เข้ามาจำนวนมากขึ้น ส่งผลให้ตัวเลขภาพรวมสมาร์ทโฟนจนถึงสิ้นปีสัดส่วนจะเพิ่มขึ้น 70-75% ในเชิงมูลค่าจากเดิม 65%
ขณะที่ นายธนานันท์ วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทมีแผนเพิ่มสัดส่วนการทำตลาดสมาร์ทโฟนมากขึ้น โดยใช้ซีรี่ส์ไอ-สไตล์ ระบบปฏิบัติการณ์แอนดรอยด์เป็นตัวชูโรง ล่าสุดได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ 2 ซิม 4 รุ่นราคาเริ่มต้น 3,990-5,900 บาท พร้อมด้วยแท็บเล็ตไอโน้ต ไวไฟ ราคา 3,990 บาท ด้วยการทำตลาดโดยเน้นราคาไม่แพงเกินไปและคุณภาพไม่ด้อยกว่าแบรนด์อื่นในราคา เริ่มต้น 3,990 บาท แต่ไม่เกิน 7,000 บาท เพื่อจับกลุ่มลูกค้าระดับล่างถึงกลางรวมถึงตลาดต่างจังหวัด ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายสมาร์ทโฟนมากกว่า 5 แสนเครื่อง แท็บเล็ต 4-5 หมื่นเครื่องภายในสิ้นปีนี้ ขณะที่ภาพรวมนั้น บริษัทตั้งเป้ามียอดจำหน่ายประมาณ 3 ล้านเครื่อง ซึ่งถือเป็นส่วนแบ่งการประมาณ 28-30% ของตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ไทย
นาย ซู ยี่ แดน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โอ พี พี โอ ไทย จำกัด หรือ ออปโป้ (OPPO) กล่าวว่า ภายหลังเปิดตัวโทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นไฟน์ ทรี (Find 3) เข้าสู่ตลาดสมาร์ทโฟนเป็นครั้งแรกเมื่อ 3 เดือนก่อน บริษัทได้ทยอยเปิดตัวสมาร์ทโฟนมาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด ได้เปิดตัวรุ่นไฟน์ กีตาร์ (Find Guitar) และไฟน์เดอร์ (Finder) รวมถึงรุ่นไฟน์ จีมินิ (Find Gemini) แม้ว่าปีที่ผ่านมาบริษัทจะมีส่วนแบ่งตลาดเพียง 1% ในตลาดรวม แต่ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 7-8% ภายในสิ้นปีนี้ อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัทมีแผนเปิดตัวสมาร์ทโฟนอีก 3-4 รุ่น โดยจะมีรุ่นที่ถือเป็นเรือธงออกมาในช่วง ต.ค.-พ.ย.นี้
สำหรับผลิต ภัณฑ์กลุ่มฟีเจอร์โฟนนั้น บริษัทคาดว่าจะสามารถระบายสินค้าได้หมดภายในเวลา 2 เดือน แม้ว่าฟีเจอร์โฟนจะยังสามารถเติบโตได้ในตลาดต่างจังหวัด แต่เป็นการเติบโตเฉพาะในแบรนด์ใหญ่เท่านั้น ประกอบกับฟีเจอร์โฟนของออปโป้ยังมีราคาอยู่ในระดับมิด-ไฮเอนต์ ขณะที่สมาร์ทโฟนออปโป้ในปัจจุบันมีระดับราคาตั้งแต่ 6,900-14,900 บาท โดยประเทศที่มียอดจำหน่ายออปโป้สูงสุด คือ จีน ประมาณ 8 ล้านเครื่องต่อปี.
ที่มา ไทยรัฐออนไลน์
http://www.itplaza.co.th/update_details.php?type_id=2&news_id=18425&page=1
เลขไอพี : ไม่แสดง
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
ยังไม่มีความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google