มนต์รักนมข้าวโพด ..
{เจ้าชาย,,นมข้าวโพด}
ไม่เป็นสมาชิก
ไม่เป็นสมาชิก
2 ส.ค. 55 02:56 น. /
ดู 482 ครั้ง /
4 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
กาลครั้งหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ มีเด็กน้อยคนหนึ่งกำลังศึกษาอยู่ ปวช.3 ได้เข้าฝึกงานที่ สถานบริการของรัฐแห่งหนึ่ง นางผู้นั้นหน้าเห้มาก (ย้ำว่าหน้าเห้มาก ตามดิส)
ในทุกวัน ๆ จะมีขนมนมเนยมาเกยให้ทาน (สินน้ำใจเล็ก ๆ น้อยๆ เวลาเราทำงานให้)
ไม่ว่าจะเป็น ขนมปัง แซนวิส ข้าวเกรียบ ข้าวเหนียวหมูปิ้ง บลาๆๆ
แต่ก็ไม่มีสิ่งไหนที่เทียบได้กับ น้ำนมข้าวโพดดดดด ~ เพราะรสชาติมันเหมือนกับน้ำนมข้าวโพดที่ชอบมาก ๆ ในตอนเด็ก
นางผู้นั้นก็ได้แต่เฝ้ารอคอยการกลับมาของน้ำนมข้าวโพด จนได้รู้ว่าน้ำนมข้าวโพดมันจะมาขายในวันอังคาร และศุกร์ (ลิเกจริง)
--ในวันอังคารต่อมา--
เราก็นั่งทำงานอย่างใจจดใจจ่อเพื่อรอน้ำนมข้าวโพดมาขายเหมือนหมารอเจ้านายอะนะ สักพักมีเสียงดังขึ้น
แกรก!
เสียงประตูสำนักงานดังขึ้น สายตาจับจ้องไปที่ประตู เห็นผู้ชายคนนึงถือกล่องโฟมสีขาว(ข้างในใส่นมข้าวโพดเอาไว้) แต่มองไม่เห็นหน้าเพราะสายตาสั้นและไม่ได้ใส่แว่น เค้าหยุดยืนนิ่งอยู่ที่ประตูพร้อมแหกปากว่า
"รับนมข้าวโพดไม๊ครับ นมข้าวโพดของเรา ทำสดใหม่ทุกวัน ผ่านการพาสต์เจอไรซ์มาสามารถอยู่แบบไม่ต้องแช่ตู้เย็นได้ 7 ชั่วโมง แต่ถ้าแช่ตู้เย็นจะอยู่ได้นาน 14 วัน ราคาเพียงขวดละ 20 บาทครับ ^^" แม่ม.. คนขายพูดอย่างรัวเหมือนว่ากุท่องมานะ กุท่องมา
ส่วนสายตาจับจ้องไปที่พวกพี่ ๆ ในห้องสำนักงานเหมือนมองหาเหยื่อ = =, เขาผู้นั้นเดินไปยังจุดเป้าหมาย แบบไม่คิดจะหันมาถามกุเล้ยยยยยย ว่าจะเอาไหม? ทั้งๆที่**เราก็พยายามมองซ้ายมองขวาว่ามันจะมาขายเราไม๊ (เห็นหัวกุป่ะเนี่ย ?) สุดท้ายพอมันเดินรอบสำนักงาน ถาม**ทุกคน แต่ไม่ถามเรา (ฮะ?!)
**เราเป็นคนที่ชอบพูดจาทำร้ายคนทางอ้อมก็พูดกับเพื่อนที่นั่งข้าง ๆ ว่า
"แม่ม.. กุอยาก**นมข้าวโพดนะเว่ย สงสัยเห็นเราเป็นเด็กฝึกงานเลยไม่เอามาขาย กุมีเงินนะเว่ยกุมีเงิน!" (ไม่รู้ว่าได้ยินรึเปล่าแต่จงใจให้ได้ยิน) แล้วชายผู้นั้นก็เดินออกจากสำนักงานไป(สงสัยจะไม่ได้ยิน
= =,)
--วันศุกร์ต่อมา--
เรานั่งทำงานอยู่ที่เดิม(โต๊ะแรกเลย เปิดประตูมาต้องเจอ) ทำงานชิว ๆ ไม่รอมันละ **นมข้าวโพดนั่นน่ะ เซ็ง~
แกรก! (เสียงประตูเปิด เห็นหน้ามันลาง ๆ แต่เห็นถังใส่นมข้าวโพดชัด **เราพยายามเก๊กหน้าเข้ม ทำอารมณ์ให้ขุ่นมัวเต็มที่เพราะเรื่องครั้งที่แล้ว)
"รับนมข้าวโพดไม๊คร้าบบบบ (มันก็พูดเสต็ปเดิมอ่ะแหละขี้เกียจพิมพ์)"
แล้วมันก็ทำเหมือนเดิมคือเดินไปถามรอบ ๆ แล้วเดินผ่านเราไปโดยไม่ถาม ด้วยความที่เราอยากกินนมข้าวโพดมาก ตัดสินใจในวินาทีสุดท้าย ในขณะที่อีตานั่นกำลังจะเดินออก..
"พี่คะ! ขายนมข้าวโพดยังไงคะ!" เราลุกพรวดจากเก้าอี้แล้วพูดเสียงดัง(เกือบตะโกน 55)
พี่เค้าหันมายิ้มให้ แล้วพูดตามเสต็ปด้านบนเป๊ะ (แม่ม.. ท่องมา)
เราก็เลยบอกว่า "ขวดละยี่สิบ งั้นเอามาสองขวดละกันนะ ^^"
(ขณะที่กำลังหยิบแบงค์ห้าสิบ)
"สามขวดห้าสิบเอาไม๊คับ ?" (เมิงกะจะเอาทุกเม็ดเลยสินะ ชิ! นิสัยพ่ิอค้า = =,)
"เอาก็ได้ค่ะ.." (ไม่ได้คล้อยนะ แต่แบบเราชอบนมข้าวโพดจริง ๆ)
--วันอังคารต่อมา--
นั่งทำงานด้วยอารมณ์มาคุ ใส่แว่นหนา ๆ (สายตาสั้น ปกติไม่ค่อยใส่ ใส่เฉพาะเวลาที่ใช้สายตามาก) เพราะว่าตอนนั้นโดนคำติมาเยอะแล้วทำงานเฟลหลายรอบ ด้วยนิสัยที่ชอบความสำเร็จและย้ำคิดย้ำทำเลยนั่งทำงานด้วยสีหน้าเครียด(ขนาดเพื่อนแหย่ยังด่าจนเงิบ)
แกรก! (มาพอดีเลย กุต้องการนมข้าวโพดดดดดด.. (ลากเสียงให้เหมือนผีด้วย))
^V^ << หน้าตาพี่เค้าตอนเข้ามา
- * - << อารมณ์เราก่อนที่พี่เค้าจะเข้ามา
"รับนมข้าวโพดไม๊คร้าบ (เสต็ปเดิม)"
พี่เขาทำท่าจะเดินผ่านเรา แต่สงสัยเห็นบรรยากาศมาคุที่อยู่ด้านหน้าเลยหันมาถามเรา(เหมือนกับหมุนตัวมาถาม)
"เอาน้ำข้าวโพดไม๊คับวันนี้น่ะ ^^" เสียงสดซ้าย สดใส..
"สามขวดค่ะ.." เสียงเราตอนนั้นแบบปรับอารมณ์ให้คุยในเวอร์ชั่นปกติไม่ได้ เสียงเลยออกแนวดุ ๆ แต่ก็อย่างว่าจะขายของเจือกถามกุจากทางด้านหลังอีก เราเลยหมุนเก้าอี้(เก้าอี้หมุน ๆ ตามสำนักงานไง)เพื่อเอาเงินไปจ่ายพี่เค้าจะได้ไม่ต้องลุก
มันเป็นเวลาเพียงแปปเดียว แต่ได้มองเห็นหน้าเค้า
แม่มเอ้ย! น่ารักเชรี่ย ตัวเล็ก(ตัวเตี้ยๆไม่ค่อยล่ำหุ่นเกย์ ๆ) เสียงน่ารัก เสป็คอะ.. ผิวขาว ไว้เครานิดนึง โอ้ยยยยยยยยย ฉันอารมณ์ดีขึ้นมาทันที
"นมข้าวโพดถ้าไม่แช่อยู่ 7 ชั่วโมง แต่ถ้าแช่ตู้เย็นอยู่ได้ 14 วันนะ ^^" พี่เขายื่นถุงนมข้าวโพดมาให้สามขวด เสียงน่ารักๆของเค้าทำหัวใจเราเบิกบาน~
"ค่ะพี่ อ่ะนี่ค่ะ 50 บาท *O*"
พี่เขารับเงินไปแล้วยิ้มให้ แล้วก็ไปขายคนอื่นต่อ.. เราก็จ้องพี่เค้าจนพี่เค้าออกไปสำนักงาน
ในสมองเอาแต่รันคำถามมากมาย เค้าชื่ออะไร มีแฟนรึยัง เรียนที่ไหน เรียนจบรึยัง อายุเท่าไหร่ โอ้ยยยยยยยยย เวลาฉันชอบใครฉันชอบบ้าแบบนี้จัง
ในขณะกินนมข้าวโพดขวดที่สามใกล้หมด(ฟินจัดล่อซะเยอะ) พลิกขวดเปล่าเล่น ๆ ข้าง ๆ ขวดมีสติ๊กเกอร์ร้านกับเบอร์โทร.ติดอยู่ แปะประมาณโทร.ไปสั่งแล้วจะไปส่งให้ถึงที่อะไรประมาณนี้ เราคิดในใจนะว่า.. ถ้าสั่งไปแล้วเลือกคนส่งด้วยได้ป่ะ แต่ไม่กล้าทำหรอก 55555
พอพักเที่ยงเราก็เอาเรื่องนี้ไปเล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนแต่ละคนนี่นะ แทนที่จะให้กำลังใจกันมั่ง พูดนู่นนี่ที่ฟังแล้วสบายใจนะ แต่ไม่มีอะ มีแต่กดให้จมดิน ประมาณว่า้เมิงแน่ใจหรอว่าพี่เค้าไม่ใช่เกย์(สัด!) หน้าตาอย่างเมิงคิดว่าจะจีบเค้าติดหรอ (=O='') ดูแต่ละคอมเม้นท์ แต่พูดไปพูดมามันก็ไม่สามารถเปลี่ยนความตั้งใจอันแท้จริงของฉันได้หรอก เราก็เลยตอบไปส่งๆว่า
"แก.. เรื่องแบบนี้มันเวรกรรมนะเว่ย ถ้าสมมุติเราไปแอบชอบคนที่มีเจ้าของแล้วอะ ถ้าสมมุติวันนึงเรามีแฟน แล้วมีคนมาแอบชอบแฟนเราอะ เราก็ไม่ชอบใช่ป่ะ เพราะฉะนั้นเค้าก็ต้องการจะรู้ไง ว่าพี่เค้ามีแฟนรึยัง จะได้รู้ว่าควรแอบรักหรือควรตัดใจดี.."
หึหึ กุนี่เลวชะมัดอ้างเวรอ้างกรรม ถ้าสมมุติว่าฉันรู้จริง ๆ ว่าพี่เค้าโสด ฉันก็ไม่ยอมรามือหลอกนะยะหล่อน!
จนสุดท้ายพวกมันก็ยอมแพ้ ส่วนฉันก็ลั้ลลาอารมณ์ดี ทุกวันอังคารและวันศุกร์จะคอยซื้อนมข้าวโพดทีละ 3 ขวด เพื่อให้เค้าจำเราได้แม่น (จะจีบพ่อค้าต้องลงทุน!)
ไม่ว่าอารมณ์จะบูดจะบึ้งแค่ไหนพ่อพี่เค้ามาต้องปรับอารมณ์ให้ได้จะได้ส่งยิ้มน่ารัก ๆ ให้พี่เค้าได้
พยายามทำตัวกดดันตัวเองอย่างการฟังเพลงประเภทเชียร์ให้ไปบอกรัก อย่าง ปอดแหก หมดเวลาแอบรัก Call me maybe อะไรเช่นนั้นไป
--วันอังคารสัปดาห์ที่แล้ว--
สุดท้ายแล้วความกดดันจากเพลงก็ส่งผลขึ้นมาแล้ว ด้วยความที่อยากรู้ชื่อพี่เค้า กะว่าจะหลอกถามตอนซื้อนมข้าวโพดแต่..
"วันนี้เอากี่ขวด ? ^^" น้ำเสียงเริ่มเป็นกันเอง
"เอาสามขวดค่ะพี่ ^^" พี่เค้าก็จัดการอย่างรวดเร็ว ไม่มีเวลาถามเลย T^T
เราเลยใช้แผนขั้น 2 ควักแบงค์ร้อยให้ (ต่อเวลาอีกนิดนึง)
"พี่คะ ?"ได้โอกาสละ
"ครับ ?" เอ้ากุ.. เจือกไปสบตาเค้าอีก สตันไปห้าวิ
"แบกนมข้าวโพดแบบนี้ กล้ามโตแย่" T^T
"ไม่หรอกคับ พี่ชินแล้ว~ ^^"ม่ายน้าาาา มันไม่น่าจะใช่คำถามนี้~~~
หลังจากนั้นพี่เค้าก็ไปขายพวกพี่ ๆ ต่อ เราเลยเรียกแผนสามมา คือโทร.เรียกเพื่อนมาถามให้แต่เพื่อนดันมาไม่ทันตอนพี่เค้าออกไป เราเลยตัดใจ..
แต่สวรรค์เหมือนเป็นใจ เราเห็นพี่เค้าแว่บๆว่าอยู่ชั้น2 (เราอยู่ชั้น3 แต่โรงอาหารอยู่ชั้น1)
โทร.หาเพื่อนอีกคนที่กำลังเดินลงมากินข้าวว่าให้ไปถามชื่อพี่เค้าให้หน่อย
สรุปแล้วว่า..
"ไงกัส.. ได้ป่ะเมิง ?"เพื่อนชื่อกัส คล้ายๆตุ๊ดแต่ไม่ใช่
"เออ.. ดีนะที่กุเห็นพี่เค้าก่อน พี่เค้าชื่อกอล์ฟเว่ย"
อร๊ายยยยยย~ พี่กอล์ฟฟฟฟฟฟฟฟฟ
--อังคารที่ผ่านมา--
เราก็บ้าไปได้เกือบสัปดาห์อะมั้ง ความแมน ความกล้า ความห้าว มันกดดันให้กระผมต้องทำอะไรซักอย่าง.. เรากะเวลาที่พี่เขาจะมาขายนมข้าวโพด แล้วกะว่าจะถามพี่เขาข้างนอกสำนักงาน แต่ทุกๆอย่าง มันดูเป็นใจไปหมด.. เพราะดันมีงานที่ต้องใช้พื้นที่พอดี(โต๊ะทำงานเล็ก) เลยออกไปทำข้างนอก ข้างนอกสำนักงานจะมีที่นั่งที่ทำด้วยหินอ่อนยาวจนสุดสำนักงาน เรานั่งกับพื้น มือก็ทำงาน หน้าก็ยิ้ม เหมือนคนบ้าเป็นบ้าอย่างนั้นจน จนกระทั่งพี่เค้ามา = =,,
"อ้าว.. มาทำอะไรข้างนอกอะ" พี่เค้าถามด้วยล่ะ 555
"อ๋อ.. ในห้องมันไม่มีพื้นที่ทำงานอะค่ะ แหะๆ" เขินโคตร >///<
"วันนี้เอากี่ขวด สามขวดเปล่า ? ^^"พี่เค้าพูดแล้วก็ยิ้ม
"ค่ะ สามขวด ^///^"พี่เค้าก็จับ ๆ ขวดนมใส่ถุง **เราก็รวบรวมความกล้าเต็มที่
"พี่คะ?!"เสียงดัง 555
"คับ ?"เหมือนพี่เค้าตกใจ เค้าหยุดทำทุกอย่างแล้วมองหน้าเรา
"พี่มีแฟนรึยังคะ คือเพื่อนให้มาถามอะค่ะ" อินี่ช่างกล้า 5555
"พี่ไม่มีเวลามีแฟนหรอกครับ"คำตอบแบบนี้รู้สึกว่าจะหาได้ทั่วไปจากผู้ชายเจ้าชู้อ่ะค่ะ แต่ไม่เป็นไรค่ะ หนูพอใจกับคำตอบ >///<
"แล้วพี่อายุเท่าไหร่คะ ?"
"23 คับ พี่เพิ่งจบ" อื้ือหือ เสป็คกุทั้งนั้นนนนน~
"เดี๋ยวหนูไปเอาเงินมาจ่ายให้นะคะ วางนมข้าวโพดไว้ตรงนี้แหละค่ะ"เราวิ่งเข้าไปเอาเงินในห้อง เหมือนจะได้ยินประมาณว่าเข้าไปจ่ายข้างในก็ได้อะไรประมาณนี้ แต่เราเข้ามาแล้วไง ไม่ทัน 5555
พอเราเข้ามา พี่เค้าก็เข้าตาม ยังจะอุตส่าห์ถือขวดนมข้าวโพดตามเข้ามาอีก (โถ.. พ่อคุณเอ้ย น่ารักจริ๊งงง~) หลังจากนั้นก็ถูกใช้ไปถ่ายเอกสารที่ชั้น 5 เราก็ไปถ่ายเอกสารด้วยความเบิกบานใจ ขากลับก็เดินลงมาชั้น 3 แล้วเห็นพี่เค้ากำลังลงลิฟท์พอดี ในใจก็แบ่งออกเป็นสองส่วนอะนะ คือจะถามต่อหรือจะไม่ถาม แต่ยังไม่ทันจะให้สมองตัดสินใจ หัวใจส่วนหนึ่งก็สั่งให้วิ่งตามพี่เค้าเข้าไปในลิฟท์ ลิฟท์กำลังจะปิดแล้วววว~
"พี่คะ ๆ รอหนูก่อนหนูมีเรื่องจะถาม"พี่เค้าก็กดลิฟท์ให้ เราก็เข้าไปในลิฟท์กับพี่เค้า
"มีอะไรจะถามหรอ ? ^^"พี่เค้าถามแบบยิ้ม ๆ
"พี่ชอบผู้หญิงแบบไหนคะ ?"พี่เค้าทำสีหน้าครุ่นคิดแปปนึง
"พี่ชอบผู้หญิงน่ารัก"แสรดดดดดดดดด.. ไม่ใช่กุเลย T^T
สตันไป5วิ "แค่นั้นหรอคะ"
"พี่ชอบผู้หญิงที่คุยกันรู้เรื่องแล้วก็มีความเป็นผู้ใหญ่"
ติ๊ง~ ถึงชั้น1 ลิฟท์เปิด พี่เค้าออกไปพร้อมกับหัวใจเค้าด้วย ยับเยินหมดเลยเฮ่อ.. เรากดลิฟท์ขึ้นไปชั้น 3 ขอบอกตามตรงว่าทรุดลงกับพื้นลิฟท์เลย พยายามฝืนยิ้มเต็มที่แต่ก็ยิ้มได้แค่ในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น คือเราเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างห้าว เราจะแต่งตัวตามลักษณะของทรงผมที่ตัด อย่างตอนนี้ซอยผมซะแม่มเหมือนทอม จะเอาความน่ารักมาจากตรงไหนอะ มันเป็นอะไรที่ไม่มีความโดนใจในแวบแรกที่เห็นเลย เราคิดว่าเราจะตัดใจ แต่มันตัดใจไม่ได้อะ เหมือนมันถลำลึกไปถึงขนาดนั้นแล้วจะยอมปล่อยไปได้ไง~ จะเปลี่ยนตัวเองก็ขอบอกว่ายากมากเพราะแต่งหน้าไม่เป็น แบบไม่เป็นจริง ๆ แล้วนี่ก็อาจจะเป็นตอนจบของมนต์รักนมข้าวโพดก็ได้ T^T
เราควรจะขอบคุณอะไรก่อนดีล่ะ ควรจะขอบคุณพ่อแม่ที่ทำให้เราเกิดมาเจอเค้า ขอบคุณความตั้งใจดีที่เรียนมาจนปี3 ขอบคุณแฟนเก่าที่ทิ้งกันไม่งั้นคงจะไม่สนใจพี่เค้าหรอก แล้วก็ขอบคุณพี่ที่ฝึกงานที่เอานมข้าวโพดที่พาพี่กอล์ฟมาเจอกับเรา ถึงแม้ว่ามันจะไม่สมหวัง แต่แค่นี้ก็เพียงพอแล้วนี่เนอะ อันสุดท้ายขอบคุณบุคคลที่สามารถอ่านเรื่องราวของเราได้จบ เพราะแม่มโคตรยาว ขอบคุณค่ะ แล้วขอยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง.. ไม่เชื่อเดี๋ยวจะมาแปะเฟส 55
ในทุกวัน ๆ จะมีขนมนมเนยมาเกยให้ทาน (สินน้ำใจเล็ก ๆ น้อยๆ เวลาเราทำงานให้)
ไม่ว่าจะเป็น ขนมปัง แซนวิส ข้าวเกรียบ ข้าวเหนียวหมูปิ้ง บลาๆๆ
แต่ก็ไม่มีสิ่งไหนที่เทียบได้กับ น้ำนมข้าวโพดดดดด ~ เพราะรสชาติมันเหมือนกับน้ำนมข้าวโพดที่ชอบมาก ๆ ในตอนเด็ก
--ในวันอังคารต่อมา--
เราก็นั่งทำงานอย่างใจจดใจจ่อเพื่อรอน้ำนมข้าวโพดมาขายเหมือนหมารอเจ้านายอะนะ สักพักมีเสียงดังขึ้น
แกรก!
เสียงประตูสำนักงานดังขึ้น สายตาจับจ้องไปที่ประตู เห็นผู้ชายคนนึงถือกล่องโฟมสีขาว(ข้างในใส่นมข้าวโพดเอาไว้) แต่มองไม่เห็นหน้าเพราะสายตาสั้นและไม่ได้ใส่แว่น เค้าหยุดยืนนิ่งอยู่ที่ประตูพร้อมแหกปากว่า
"รับนมข้าวโพดไม๊ครับ นมข้าวโพดของเรา ทำสดใหม่ทุกวัน ผ่านการพาสต์เจอไรซ์มาสามารถอยู่แบบไม่ต้องแช่ตู้เย็นได้ 7 ชั่วโมง แต่ถ้าแช่ตู้เย็นจะอยู่ได้นาน 14 วัน ราคาเพียงขวดละ 20 บาทครับ ^^" แม่ม.. คนขายพูดอย่างรัวเหมือนว่ากุท่องมานะ กุท่องมา
ส่วนสายตาจับจ้องไปที่พวกพี่ ๆ ในห้องสำนักงานเหมือนมองหาเหยื่อ = =, เขาผู้นั้นเดินไปยังจุดเป้าหมาย แบบไม่คิดจะหันมาถามกุเล้ยยยยยย ว่าจะเอาไหม? ทั้งๆที่**เราก็พยายามมองซ้ายมองขวาว่ามันจะมาขายเราไม๊ (เห็นหัวกุป่ะเนี่ย ?) สุดท้ายพอมันเดินรอบสำนักงาน ถาม**ทุกคน แต่ไม่ถามเรา (ฮะ?!)
**เราเป็นคนที่ชอบพูดจาทำร้ายคนทางอ้อมก็พูดกับเพื่อนที่นั่งข้าง ๆ ว่า
"แม่ม.. กุอยาก**นมข้าวโพดนะเว่ย สงสัยเห็นเราเป็นเด็กฝึกงานเลยไม่เอามาขาย กุมีเงินนะเว่ยกุมีเงิน!" (ไม่รู้ว่าได้ยินรึเปล่าแต่จงใจให้ได้ยิน) แล้วชายผู้นั้นก็เดินออกจากสำนักงานไป(สงสัยจะไม่ได้ยิน
= =,)
--วันศุกร์ต่อมา--
เรานั่งทำงานอยู่ที่เดิม(โต๊ะแรกเลย เปิดประตูมาต้องเจอ) ทำงานชิว ๆ ไม่รอมันละ **นมข้าวโพดนั่นน่ะ เซ็ง~
แกรก! (เสียงประตูเปิด เห็นหน้ามันลาง ๆ แต่เห็นถังใส่นมข้าวโพดชัด **เราพยายามเก๊กหน้าเข้ม ทำอารมณ์ให้ขุ่นมัวเต็มที่เพราะเรื่องครั้งที่แล้ว)
"รับนมข้าวโพดไม๊คร้าบบบบ (มันก็พูดเสต็ปเดิมอ่ะแหละขี้เกียจพิมพ์)"
แล้วมันก็ทำเหมือนเดิมคือเดินไปถามรอบ ๆ แล้วเดินผ่านเราไปโดยไม่ถาม ด้วยความที่เราอยากกินนมข้าวโพดมาก ตัดสินใจในวินาทีสุดท้าย ในขณะที่อีตานั่นกำลังจะเดินออก..
"พี่คะ! ขายนมข้าวโพดยังไงคะ!" เราลุกพรวดจากเก้าอี้แล้วพูดเสียงดัง(เกือบตะโกน 55)
พี่เค้าหันมายิ้มให้ แล้วพูดตามเสต็ปด้านบนเป๊ะ (แม่ม.. ท่องมา)
เราก็เลยบอกว่า "ขวดละยี่สิบ งั้นเอามาสองขวดละกันนะ ^^"
(ขณะที่กำลังหยิบแบงค์ห้าสิบ)
"สามขวดห้าสิบเอาไม๊คับ ?" (เมิงกะจะเอาทุกเม็ดเลยสินะ ชิ! นิสัยพ่ิอค้า = =,)
"เอาก็ได้ค่ะ.." (ไม่ได้คล้อยนะ แต่แบบเราชอบนมข้าวโพดจริง ๆ)
--วันอังคารต่อมา--
นั่งทำงานด้วยอารมณ์มาคุ ใส่แว่นหนา ๆ (สายตาสั้น ปกติไม่ค่อยใส่ ใส่เฉพาะเวลาที่ใช้สายตามาก) เพราะว่าตอนนั้นโดนคำติมาเยอะแล้วทำงานเฟลหลายรอบ ด้วยนิสัยที่ชอบความสำเร็จและย้ำคิดย้ำทำเลยนั่งทำงานด้วยสีหน้าเครียด(ขนาดเพื่อนแหย่ยังด่าจนเงิบ)
แกรก! (มาพอดีเลย กุต้องการนมข้าวโพดดดดดด.. (ลากเสียงให้เหมือนผีด้วย))
^V^ << หน้าตาพี่เค้าตอนเข้ามา
- * - << อารมณ์เราก่อนที่พี่เค้าจะเข้ามา
"รับนมข้าวโพดไม๊คร้าบ (เสต็ปเดิม)"
พี่เขาทำท่าจะเดินผ่านเรา แต่สงสัยเห็นบรรยากาศมาคุที่อยู่ด้านหน้าเลยหันมาถามเรา(เหมือนกับหมุนตัวมาถาม)
"เอาน้ำข้าวโพดไม๊คับวันนี้น่ะ ^^" เสียงสดซ้าย สดใส..
"สามขวดค่ะ.." เสียงเราตอนนั้นแบบปรับอารมณ์ให้คุยในเวอร์ชั่นปกติไม่ได้ เสียงเลยออกแนวดุ ๆ แต่ก็อย่างว่าจะขายของเจือกถามกุจากทางด้านหลังอีก เราเลยหมุนเก้าอี้(เก้าอี้หมุน ๆ ตามสำนักงานไง)เพื่อเอาเงินไปจ่ายพี่เค้าจะได้ไม่ต้องลุก
มันเป็นเวลาเพียงแปปเดียว แต่ได้มองเห็นหน้าเค้า
แม่มเอ้ย! น่ารักเชรี่ย ตัวเล็ก(ตัวเตี้ยๆไม่ค่อยล่ำหุ่นเกย์ ๆ) เสียงน่ารัก เสป็คอะ.. ผิวขาว ไว้เครานิดนึง โอ้ยยยยยยยยย ฉันอารมณ์ดีขึ้นมาทันที
"นมข้าวโพดถ้าไม่แช่อยู่ 7 ชั่วโมง แต่ถ้าแช่ตู้เย็นอยู่ได้ 14 วันนะ ^^" พี่เขายื่นถุงนมข้าวโพดมาให้สามขวด เสียงน่ารักๆของเค้าทำหัวใจเราเบิกบาน~
"ค่ะพี่ อ่ะนี่ค่ะ 50 บาท *O*"
พี่เขารับเงินไปแล้วยิ้มให้ แล้วก็ไปขายคนอื่นต่อ.. เราก็จ้องพี่เค้าจนพี่เค้าออกไปสำนักงาน
ในสมองเอาแต่รันคำถามมากมาย เค้าชื่ออะไร มีแฟนรึยัง เรียนที่ไหน เรียนจบรึยัง อายุเท่าไหร่ โอ้ยยยยยยยยย เวลาฉันชอบใครฉันชอบบ้าแบบนี้จัง
ในขณะกินนมข้าวโพดขวดที่สามใกล้หมด(ฟินจัดล่อซะเยอะ) พลิกขวดเปล่าเล่น ๆ ข้าง ๆ ขวดมีสติ๊กเกอร์ร้านกับเบอร์โทร.ติดอยู่ แปะประมาณโทร.ไปสั่งแล้วจะไปส่งให้ถึงที่อะไรประมาณนี้ เราคิดในใจนะว่า.. ถ้าสั่งไปแล้วเลือกคนส่งด้วยได้ป่ะ แต่ไม่กล้าทำหรอก 55555
พอพักเที่ยงเราก็เอาเรื่องนี้ไปเล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนแต่ละคนนี่นะ แทนที่จะให้กำลังใจกันมั่ง พูดนู่นนี่ที่ฟังแล้วสบายใจนะ แต่ไม่มีอะ มีแต่กดให้จมดิน ประมาณว่า้เมิงแน่ใจหรอว่าพี่เค้าไม่ใช่เกย์(สัด!) หน้าตาอย่างเมิงคิดว่าจะจีบเค้าติดหรอ (=O='') ดูแต่ละคอมเม้นท์ แต่พูดไปพูดมามันก็ไม่สามารถเปลี่ยนความตั้งใจอันแท้จริงของฉันได้หรอก เราก็เลยตอบไปส่งๆว่า
"แก.. เรื่องแบบนี้มันเวรกรรมนะเว่ย ถ้าสมมุติเราไปแอบชอบคนที่มีเจ้าของแล้วอะ ถ้าสมมุติวันนึงเรามีแฟน แล้วมีคนมาแอบชอบแฟนเราอะ เราก็ไม่ชอบใช่ป่ะ เพราะฉะนั้นเค้าก็ต้องการจะรู้ไง ว่าพี่เค้ามีแฟนรึยัง จะได้รู้ว่าควรแอบรักหรือควรตัดใจดี.."
หึหึ กุนี่เลวชะมัดอ้างเวรอ้างกรรม ถ้าสมมุติว่าฉันรู้จริง ๆ ว่าพี่เค้าโสด ฉันก็ไม่ยอมรามือหลอกนะยะหล่อน!
จนสุดท้ายพวกมันก็ยอมแพ้ ส่วนฉันก็ลั้ลลาอารมณ์ดี ทุกวันอังคารและวันศุกร์จะคอยซื้อนมข้าวโพดทีละ 3 ขวด เพื่อให้เค้าจำเราได้แม่น (จะจีบพ่อค้าต้องลงทุน!)
ไม่ว่าอารมณ์จะบูดจะบึ้งแค่ไหนพ่อพี่เค้ามาต้องปรับอารมณ์ให้ได้จะได้ส่งยิ้มน่ารัก ๆ ให้พี่เค้าได้
พยายามทำตัวกดดันตัวเองอย่างการฟังเพลงประเภทเชียร์ให้ไปบอกรัก อย่าง ปอดแหก หมดเวลาแอบรัก Call me maybe อะไรเช่นนั้นไป
--วันอังคารสัปดาห์ที่แล้ว--
สุดท้ายแล้วความกดดันจากเพลงก็ส่งผลขึ้นมาแล้ว ด้วยความที่อยากรู้ชื่อพี่เค้า กะว่าจะหลอกถามตอนซื้อนมข้าวโพดแต่..
"วันนี้เอากี่ขวด ? ^^" น้ำเสียงเริ่มเป็นกันเอง
"เอาสามขวดค่ะพี่ ^^" พี่เค้าก็จัดการอย่างรวดเร็ว ไม่มีเวลาถามเลย T^T
เราเลยใช้แผนขั้น 2 ควักแบงค์ร้อยให้ (ต่อเวลาอีกนิดนึง)
"พี่คะ ?"ได้โอกาสละ
"ครับ ?" เอ้ากุ.. เจือกไปสบตาเค้าอีก สตันไปห้าวิ
"แบกนมข้าวโพดแบบนี้ กล้ามโตแย่" T^T
"ไม่หรอกคับ พี่ชินแล้ว~ ^^"ม่ายน้าาาา มันไม่น่าจะใช่คำถามนี้~~~
หลังจากนั้นพี่เค้าก็ไปขายพวกพี่ ๆ ต่อ เราเลยเรียกแผนสามมา คือโทร.เรียกเพื่อนมาถามให้แต่เพื่อนดันมาไม่ทันตอนพี่เค้าออกไป เราเลยตัดใจ..
แต่สวรรค์เหมือนเป็นใจ เราเห็นพี่เค้าแว่บๆว่าอยู่ชั้น2 (เราอยู่ชั้น3 แต่โรงอาหารอยู่ชั้น1)
โทร.หาเพื่อนอีกคนที่กำลังเดินลงมากินข้าวว่าให้ไปถามชื่อพี่เค้าให้หน่อย
สรุปแล้วว่า..
"ไงกัส.. ได้ป่ะเมิง ?"เพื่อนชื่อกัส คล้ายๆตุ๊ดแต่ไม่ใช่
"เออ.. ดีนะที่กุเห็นพี่เค้าก่อน พี่เค้าชื่อกอล์ฟเว่ย"
อร๊ายยยยยย~ พี่กอล์ฟฟฟฟฟฟฟฟฟ
--อังคารที่ผ่านมา--
เราก็บ้าไปได้เกือบสัปดาห์อะมั้ง ความแมน ความกล้า ความห้าว มันกดดันให้กระผมต้องทำอะไรซักอย่าง.. เรากะเวลาที่พี่เขาจะมาขายนมข้าวโพด แล้วกะว่าจะถามพี่เขาข้างนอกสำนักงาน แต่ทุกๆอย่าง มันดูเป็นใจไปหมด.. เพราะดันมีงานที่ต้องใช้พื้นที่พอดี(โต๊ะทำงานเล็ก) เลยออกไปทำข้างนอก ข้างนอกสำนักงานจะมีที่นั่งที่ทำด้วยหินอ่อนยาวจนสุดสำนักงาน เรานั่งกับพื้น มือก็ทำงาน หน้าก็ยิ้ม เหมือนคนบ้าเป็นบ้าอย่างนั้นจน จนกระทั่งพี่เค้ามา = =,,
"อ้าว.. มาทำอะไรข้างนอกอะ" พี่เค้าถามด้วยล่ะ 555
"อ๋อ.. ในห้องมันไม่มีพื้นที่ทำงานอะค่ะ แหะๆ" เขินโคตร >///<
"วันนี้เอากี่ขวด สามขวดเปล่า ? ^^"พี่เค้าพูดแล้วก็ยิ้ม
"ค่ะ สามขวด ^///^"พี่เค้าก็จับ ๆ ขวดนมใส่ถุง **เราก็รวบรวมความกล้าเต็มที่
"พี่คะ?!"เสียงดัง 555
"คับ ?"เหมือนพี่เค้าตกใจ เค้าหยุดทำทุกอย่างแล้วมองหน้าเรา
"พี่มีแฟนรึยังคะ คือเพื่อนให้มาถามอะค่ะ" อินี่ช่างกล้า 5555
"พี่ไม่มีเวลามีแฟนหรอกครับ"คำตอบแบบนี้รู้สึกว่าจะหาได้ทั่วไปจากผู้ชายเจ้าชู้อ่ะค่ะ แต่ไม่เป็นไรค่ะ หนูพอใจกับคำตอบ >///<
"แล้วพี่อายุเท่าไหร่คะ ?"
"23 คับ พี่เพิ่งจบ" อื้ือหือ เสป็คกุทั้งนั้นนนนน~
"เดี๋ยวหนูไปเอาเงินมาจ่ายให้นะคะ วางนมข้าวโพดไว้ตรงนี้แหละค่ะ"เราวิ่งเข้าไปเอาเงินในห้อง เหมือนจะได้ยินประมาณว่าเข้าไปจ่ายข้างในก็ได้อะไรประมาณนี้ แต่เราเข้ามาแล้วไง ไม่ทัน 5555
พอเราเข้ามา พี่เค้าก็เข้าตาม ยังจะอุตส่าห์ถือขวดนมข้าวโพดตามเข้ามาอีก (โถ.. พ่อคุณเอ้ย น่ารักจริ๊งงง~) หลังจากนั้นก็ถูกใช้ไปถ่ายเอกสารที่ชั้น 5 เราก็ไปถ่ายเอกสารด้วยความเบิกบานใจ ขากลับก็เดินลงมาชั้น 3 แล้วเห็นพี่เค้ากำลังลงลิฟท์พอดี ในใจก็แบ่งออกเป็นสองส่วนอะนะ คือจะถามต่อหรือจะไม่ถาม แต่ยังไม่ทันจะให้สมองตัดสินใจ หัวใจส่วนหนึ่งก็สั่งให้วิ่งตามพี่เค้าเข้าไปในลิฟท์ ลิฟท์กำลังจะปิดแล้วววว~
"พี่คะ ๆ รอหนูก่อนหนูมีเรื่องจะถาม"พี่เค้าก็กดลิฟท์ให้ เราก็เข้าไปในลิฟท์กับพี่เค้า
"มีอะไรจะถามหรอ ? ^^"พี่เค้าถามแบบยิ้ม ๆ
"พี่ชอบผู้หญิงแบบไหนคะ ?"พี่เค้าทำสีหน้าครุ่นคิดแปปนึง
"พี่ชอบผู้หญิงน่ารัก"แสรดดดดดดดดด.. ไม่ใช่กุเลย T^T
สตันไป5วิ "แค่นั้นหรอคะ"
"พี่ชอบผู้หญิงที่คุยกันรู้เรื่องแล้วก็มีความเป็นผู้ใหญ่"
ติ๊ง~ ถึงชั้น1 ลิฟท์เปิด พี่เค้าออกไปพร้อมกับหัวใจเค้าด้วย ยับเยินหมดเลยเฮ่อ.. เรากดลิฟท์ขึ้นไปชั้น 3 ขอบอกตามตรงว่าทรุดลงกับพื้นลิฟท์เลย พยายามฝืนยิ้มเต็มที่แต่ก็ยิ้มได้แค่ในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น คือเราเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างห้าว เราจะแต่งตัวตามลักษณะของทรงผมที่ตัด อย่างตอนนี้ซอยผมซะแม่มเหมือนทอม จะเอาความน่ารักมาจากตรงไหนอะ มันเป็นอะไรที่ไม่มีความโดนใจในแวบแรกที่เห็นเลย เราคิดว่าเราจะตัดใจ แต่มันตัดใจไม่ได้อะ เหมือนมันถลำลึกไปถึงขนาดนั้นแล้วจะยอมปล่อยไปได้ไง~ จะเปลี่ยนตัวเองก็ขอบอกว่ายากมากเพราะแต่งหน้าไม่เป็น แบบไม่เป็นจริง ๆ แล้วนี่ก็อาจจะเป็นตอนจบของมนต์รักนมข้าวโพดก็ได้ T^T
เราควรจะขอบคุณอะไรก่อนดีล่ะ ควรจะขอบคุณพ่อแม่ที่ทำให้เราเกิดมาเจอเค้า ขอบคุณความตั้งใจดีที่เรียนมาจนปี3 ขอบคุณแฟนเก่าที่ทิ้งกันไม่งั้นคงจะไม่สนใจพี่เค้าหรอก แล้วก็ขอบคุณพี่ที่ฝึกงานที่เอานมข้าวโพดที่พาพี่กอล์ฟมาเจอกับเรา ถึงแม้ว่ามันจะไม่สมหวัง แต่แค่นี้ก็เพียงพอแล้วนี่เนอะ อันสุดท้ายขอบคุณบุคคลที่สามารถอ่านเรื่องราวของเราได้จบ เพราะแม่มโคตรยาว ขอบคุณค่ะ แล้วขอยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง.. ไม่เชื่อเดี๋ยวจะมาแปะเฟส 55
แก้ไขล่าสุด 2 ส.ค. 55 03:12 |
เลขไอพี : 125.26.146.97
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google