[รีวิว] HauHin Trip - มาเที่ยว หรือ มาเปรี้ยว(?) ที่หัวหิน
6 ม.ค. 56 00:38 น. /
ดู 13,525 ครั้ง /
7 ความเห็น /
1 ชอบจัง
/
แชร์
ก่อนอื่นขอแนะนำตัวเองก่อนนะคะ
จขกท.ชื่อ โอ้เอ้ ค่ะ
เป็นคนที่รักการเดินทาง และ การท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ
ด้วยความที่เป็นคนชอบเที่ยว ชอบเดินทาง บวกกับมีเพื่อนร่วมอุดมการณ์อย่าง ปุ้มปุ้ย วันหยุดยาวปีใหม่ทั้งที่ หลังจากที่เหนื่อยมาทั้งปี หยุดนานขนาดนี้มีหรอที่เราจะยอมนั่งเหี่ยวเฉาอยู่ที่บ้าน 555
ก็เลยคิดกันว่าเราจะไปเปรี้ยวที่ไหนกันดี? สุดท้ายก็ได้ข้อสรุปค่ะว่า เราจะไปเปรี้ยวกันที่หัวหิน เย้ๆ
ที่จริง เหตุผลที่ตัดสินใจไปหัวหินในตอนนั้นคือ คิดว่าช่วงปีใหม่ เป็นช่วงหน้าหนาว คนคงขึ้นเหนือกันหมด คนไปหัวหินคงไม่ค่อยเยอะ แต่ป่าวเลย ปีใหม่คนไปหัวหินเยอะมาก T^T
ด้วยความที่อยากไปกันเอง สะพายเป้ไปใบเดียว ชิลๆ เปรี้ยวๆ เราก็เลยไม่ได้รีบร้อนในการจองตั๋วรถไฟ หรือที่พักเท่าไหร่ เพราะคิดว่าคงไม่เต็มหรอกมั้ง เดี๋ยวใกล้ๆวันค่อยจองก็ได้ ก็เลยปล่อยไปชิลๆ
จขกท.กับเพื่อนตั้งใจว่าจะนั่งรถไฟไปหัวหินกันวันที่ 29 แล้วก็นอนพักซักคืน ค่อยกลับ
วันที่ 27-28 ก็เลยเริ่มหาตั๋วรถไฟ นั่งชั้น2 และห้องพัก(ทั้งแบบเกสต์เฮ้าส์และโรงแรม)
แต่ปรากฏว่า......... รถไฟไม่มีที่นั่งว่างเลยซักที่ ขบวนที่มีว่างก็เวลาไม่สวยเอาซะเลย แถมยังเป็นที่นั่งชั้น3 อีก ฮืออออ อยากจะกรีดร้อง
ส่วนที่พัก......... โทรไปที่ไหนก็เต็มหมดทุกที่เลย โฮฮฮฮ จขกท.กับเพื่อนไม่น่าชิลกันขนาดนั้นเลย ย โอ้วเย้บบบบบ และสุดท้ายเราก็ไม่มีตั๋วรถไฟและไม่มีที่พัก เริ่ดม้ะ? 55555
เอาล้ะ !! ถึงเราจะไม่มีตั๋วรถไฟ ไม่มีที่พัก แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราจะไปเที่ยวหัวหินกันไม่ได้นี่เนอะ ^^
คือยังไงเราสองคนก็จะต้องไปให้ได้ค่ะ ก็เลย เอาว้ะ ไปก็ไป ไม่มีที่พักก็ไม่เป็นไร กลับคืนนั้นเลยก็ได้ เชอะ! เล้ทสะโกทู หัวหิน! ไฟต์ติ้งค่ะติ่งน้อย!
หลังจากที่พล่ามมาเยอะแล้ว ก็เริ่มกันซักทีเนาะ :
คืนวันที่ 28 ธค. จขกท. และปุ้มปุ้ยไม่ได้นอนค่ะ เพราะมัวแต่เม้าท์กับเดอะแก๊งค์เพลินไปหน่อย (แหะๆ) ก็เลยอาบน้ำแต่งตัว จัดของลงกระเป๋าเป้กันตอนตีสองกว่าๆ (ซึ่งก็คือวันที่ 29 ธค.)
กว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย ก็ประมาณตีสี่แล้ว เลยรีบออกจากบ้าน เพื่อไปกดตังค์ที่ตู้ATM แต่ยังไม่ทันไร ความเปรี้ยวก็บังเกิด ตอนแรกตั้งใจว่าจะกดตังค์ที่หน้าเซเว่นแถวๆท่ารถตู้ แต่ตู้ATM ดันมาพังซะนี่ เลยต้องเดินไปหาตู้อื่นกด
จขกท.กดตังค์มาสำหรับทริปสั้นๆนี้แค่ 1000 บาท เพราะไปแค่วันเดียว ชิลๆแบบนี้คงไม่ต้องใช้ตังค์มากเท่าไหร่ ^ ^
พอได้ตังค์มาแล้ว ก็เข้าเซเว่นเลยจ้า เพราะตอนนั้นยังไม่ได้กินอะไรรองท้องเลย ขอหาไรกินก่อนซักนิดเนอะ (จ่ายไป 43 บาท มีน้ำ 1 ขวด ครัวซองค์อันนึง แล้วก็กระดาษทิชชู่)
ได้ของกินมาแล้ว ก็ตรงไปที่ท่ารถตู้เลยค่ะ จ่ายค่าตั๋วรถตู้ไป 120 บาท (จากลพบุรีไปกรุงเทพ) จุดนี้แอบเซ็งนิดนึงเพราะโดนยึดตั๋วรถตู้ไป T^T หนูจิเอามันไปแปะสมุด~
ประมาณตีห้าครึ่ง รถตู้ก็ออกค่ะ ซึ่งจขกท.และเพื่อน พอขึ้นรถปุ๊ป ก็หลับเป็นตายเลยค่ะ 555
ประมาณเจ็ดโมงเช้าก็ถึงกรุงเทพ ลงมาจากรถตู้แบบมึนๆอึนๆเพราะพึ่งตื่น - -
ก่อนจะต้องนั่งรถนานๆก็ขอไปเข้าห้องน้ำหน่อยแล้วกัน เลยช่วนปุ้มปุ้ยไปเข้าห้องน้ำ (จะบอกเพื่อ? 55)
ประมาณเจ็ดโมงครึ่งก็ไปที่ท่ารถตู้ฝั่งเซ็นจูรี่ เข้าไปซื้อตั๋วมา ราคา 180 บาท (คนก็เยอะดี เพราะว่ามันเป็นช่วงปีใหม่) พอซื้อตั๋วเสร็จก็ยืนรอเค้าเรียกขึ้นรถ
ประมาณสองโมง เค้าก็เรียกเราขึ้นรถ ก็เดินตามเค้าไป พอขึ้นรถได้ ก็สเต็ปเดิมค่ะ คือ หลับ z Z z 5555
ประมาณห้าโมงเช้ากว่าๆ ก็ถึงหัวหินค่ะ พอถึงก็เดินมั่วๆไปตามหาศูนย์บริการนักท่ิองเที่ยว (อยู่แถวๆหอนาฬิกาเลย) เราจะไปเอาแผนที่ฟรี 5555
พอได้แผนที่มาแล้ว เราก็เดินข้ามถนนกลับมา เพื่อที่จะไปยังสถานีรถไฟ ไปจองตั๋วสำหรับกลับกรุงเทพคืนนั้น ก็เดินไปเรื่อยๆ แต่แอบเจอร้านทำผมร้านนึง มีรูป อีทึก อยู่ที่หน้าร้าน เลยแชะๆมารูปนึง ^ ^ (รูปสมัยยังเป็นทึกกี้ชอนซาอยู่เลย 55)
โอเค พอถ่ายรูปปู้จายเสร็จ เราก็ไปที่สถานีรถไฟต่อ
ถึงแล้ววว สถานนีรถไฟที่เค้าว่ากันว่าสวยที่สุดในประเทศไทย
หลังจากที่มาถึงแล้ว เราก็เดินเข้าไปซื้อตั๋วรถไฟขากลับค่ะ เป็นที่นั่งชั้น2 แอร์ ขบวนรถด่วนพิเศษ เวลากลับประมาณตีสอง ราคา 382 บาท ค่ะ
ได้ตั๋วกลับเรียบร้อยแล้ว ก็ไปตะลุยต่อค่ะ ^ ^
ซึ่งร้านแรกที่เราเข้าคือร้าน HuaHin Coffee Station ค่ะ ร้านดูสวยและเย็นสบายดี เลยอยากเข้า 555 (ก็ตอนนั้นมันร้อนนี่เนอะ - -)
เดินเข้าไปในร้านก็ได้กลิ่นกาแฟหอมๆเลยค่ะ ^ ^~ ก่อนอื่นก็ต้องไปสั่งกาแฟก่อน ของจขกท.เป็นลาเต้เย็น ของปุ้มปุ้ยเป็นมอคค่าเย็น แก้วละ 60 บาท อร่อยมาก ก ชอบฟองนมข้างบนอ่ะ มันๆดี
พอกาแฟหมด ก็ไปเขียนโปสการ์ดส่งกลับไปที่บ้านค่ะ (ร้านนี่เค้ามีโปสการ์ดสวยๆขาย แถมมีบริการส่งโปสการ์ดกลับบ้านให้ด้วยนะเออ 55) ราคาใบละ 20 บาท ค่าแสตมป์อีก 5บาทค่ะ
พอเขียนโปสการ์ดเสร็จแล้ว เราก็เดินไปที่ชายหาดค่ะ
คนเยอะมากกกกกก ก ชาวต่างชาติเต็มไปหมด หาคนไทยยากเฟว่ออ!
พอไปถึงเราก็ไปนั่งเล่นกัน นั่งมองชาวบ้านเค้าเล่นน้ำ เล่นนานาน่าโบ้ท ขี่ม้า บลาๆ
นั่งไปนั่งมา เริ่มคิดได้ว่ามาทะเลทั้งที ร่างกายควรจะโดนน้ำทะเลมั่งไม่ใช่หรอ? แค่เท้าก็ยังดี 55 ที่ไม่ได้เล่นน้ำไม่ใช่อะไรหรอก พอดีไม่ได้เอาชุดไปเปลี่ยน แถมยังแต่งตัวซะจัดเต็มอีก ยกตัวอย่าง ปุ้มปุ้ย นางใส่กางเกงยีนส์ เสื้อยืด+เสื้อกันหนาว รองเท้าผ้าใบคอนเวิร์ส ( นี่คือแต่งตัวมาทะเล? เปรี้ยวจริงไรจริง 555 )
เอาล้ ะ ! ถอดรองเท้าออกซะ ! แล้วไปเดินเล่นริมชายหาด ให้น้ำทะเลมันโดนเท้าสักนิดเถอะ ! 5555
เมื่อเดินเล่นจนหนำใจแล้ว เราก็ควรจะไปเืที่ยวเล่นที่อื่นบ้าง ก็เลยเดินกลับขึ้นไปข้างบน ฝั่งโีีรงแรมเซ็นทาร่าแกรนด์
แต่ด้วยความที่เท้าเปื้อนทราย เราก็ต้องล้างเท้าก่อนใช่ป้ะ ก็เลยเดินไปล้างเท้าก่อน แต่จะบอกว่าค่าล้างเท้าแอบแพงอ่ะ คนละตั้ง 5 บาท แค่เอาเท้าไปแกว่งๆน้ำเองนะเห้ย แพงจัง T^T
ค่าบริการล้างเท้า 5 บาท เข้าห้องสุขา 5 บาท อาบน้ำ 20 บาท
แต่ก็ยังดี อย่างน้อยเค้าก็ให้เราเข้าห้องน้ำฟรี 555 (ยังแอบมีความใจดีอยู่นิดนุง ^ ^)
ประมาณบ่ายสองครึ่ง ก็เดินเล่นๆเรื่อย ตอนนั้นไม่ได้หิวไรหรอกนะ แต่แบบ ควรจะหาอะไรรองท้องซักนิดนึงเนอะ เลยไปหาอะไรกิน ^ ^
แต่ว่าไม่ได้กินอาหารทะเลกับเค้าหรอกนะ เพราะที่นี่อ่ะ อาหารทะเลแพงจะตาย (ที่จริงก็แพงแทบทุกอย่างนั่นแหละ T^T) ราคา 150+ ทั้งนั้นรุยยย ย
เมื่อไม่สามารถกินอาหารทะเลแพงๆได้ เราก็เลยมานั่งกินผัดไทกันที่ร้านอะไรซักอย่างเนี่ยแหละจำไม่ได้ แต่จำได้ว่ามันก็อร่อยดี ไม่แพงด้วย จานละ 50 บาทเอง ค่าน้ำเปล่าก็ไม่ต้องเสีย ฮี่ๆ
พอกินเกลี้ยงแล้ว เราก็ไปเพลินวานกันต่อ ซึ่งตอนแรกเรากะจะเดินไป เพราะดูในแผนที่แล้วมันเหมือนจะใกล้ แต่เอาเข้าจริงแล้วมันไม่ได้ใกล้ซะหน่อย นังแผนที่หลอกลวง! 555 ก็เลยนั่งรถเมล์ไป คนละ 10 บาท ระยะทางประมาณ 3 กิโลมั้ง ถ้าจำไม่ผิด
พอไปถึงเพลินวาน ก็เข้าไปเดินเล่น มันดูอาร์ตๆดี เหมาะสำหรับไปถ่ายรูปเล่น 55 แต่ว่าเล็กไปหน่อย เดินแปปเดียวก็หมดล้ะ
เดินเสร็จเลยออกมานั่งตรงทางเข้า ตอนนั้นง่วงมากก เลยนั่งมึนๆอึนๆอยู่ข้างหน้า คอยมองชาวบ้านเค้าถ่ายรูปกับป้ายเพลินวานตรงทางเข้า ก็ตลกดี เพราะบางคนก็ยืนซะแข็งทื่อเหมือนถ่ายรูปบัตรประชาชน บางคนก็มาซะจัดเต็มเฟว่ออ งัดท่าถ่ายรูปออกมาไฟต์กันสุดฤทธิ์ 555
ตอนนั้นรู้สึกเหมือนว่าจะนั่งอยู่นานมากก ก นานจนจะร้องเพลง เพลินวาน ได้ล้ะ 555 (ก็นางเล่นเปิดอยู่แค่เพลงเดียวนี่เนอะ - -)
ประมาณห้าโมงเย็น ก็เดินไปถามรปภ. ว่าจะกลับเข้าเมืองได้ยังไง เค้าก็บอกว่าให้ขึ้นรถสองแถวรึไม่ก็ขึ้นมอไซต์รับจ้างกลับ แต่ถ้าเป็นสองแถวจะต้องรอนานหน่อย ก็เลยตัดสินใจแว๊นกลับซะเลย 555
ค่ามอไซต์คนละ 60 บาท (ลุงแกแอบซิ่งอ่ะ หนูกลัวววว )
ขากลับก็มาลงที่ชายหาดอีกรอบ เพราะไม่รู้จะไปไหน
ก็ยืนเล่นอยู่แถวๆน้องม้าแหละ ตอนนั้นเหมือนว่าปุ้มปุ้ยนางจะเจอกับรักแท้แค่5วิด้วยแหละ 555 นางบอกว่าผู้ชายคนนั้นหน้าเหมือนแฮรี่ พอตเตอร์ แต่หล่อกว่า >< แล้วก็เจอเด็กฝรั่งอีกสองคน หล่อ น่ารัก >< เพราะแม่เป็นคนเอเชียและพ่อเป็นฝรั่งมั้ง ลูกเค้าเลยออกมาตรงใจใช่เลยแบบนี้ 555 หุ่นสูงๆผอม & สีผิวแบบคนเอเชีย แต่หน้าหล่อๆแบบฝรั่ง โอ้ยเริ่ด! (สรุปมาที่นี่คือมาส่องปู้จาย? 55555555)
ยืนเล่นแถวชายหาดสักพักก็เดินออกไปแถวมป้ายรถเมล์ เพื่อรอรถสองแถวไปตลาดจั๊กจั่น(หรือ ชิเคด้า นั่นแหละ)
รอไม่นานรถก็มา เป็นสองแถว คันสีเขียว สายสนามบิน-เขาตะเกียบ ค่ารถคนละ 10 บาท
ตอนขึ้นไปนี่แบบ ไม่รู้นะว่าตลาดมันอยู่ตรงไหน ลงไม่เป็นด้วยจ้าา ระยะทางมันก็ค่อนข้างไกลนิดนึง แบบเดินไปไม่ได้อ่ะ ต้องนั่งรถไป
ตอนนั่งรถ มันผ่านห้างไรด้วยก็ไม่รู้ จำชื่อไม่ได้ แต่ว่าสวยมากกก อยากไปนะ แต่ไม่อยากลงรถ กลัวไปเดินห้างแล้วไปต่อตลาดจั๊กจั่น จะทำให้ขากลับรถหมด ก็เลยเซย์บ๊ายบายห้างนั้นไปซะ
ผ่านห้างนั้นมาสักพักก็ถึงตลาดชิเคด้า รถก็จอดข้างหน้าตลาดนะ คนลงเยอะเลย แต่ไ อ่เรา ด้วยความที่ไม่รู้ว่ามันคือตลาดชิเคด้า เลยไม่ได้ลง (ก็มันมองไม่เห็นป้าย Cicada นี่หน่า - - ) พอรถกำลังจะออก ก็เหลือบไปเห็นป้าย Cicada พอดี ก็รีบกดออด แล้วรีบวิ่งลงรถ แต่ ณ จุดนี้ค่ะ โดนคนขับรถว่าเลย ว่าทำไมไม่ยอมลงตั้งแต่เมื่อกี้ล้ะ? ก็คนมันไม่เคยมานี่เนาะ T^T
ตลาดจั๊กจั่นนี่ก็เริ่ดดี อาร์ตดี เหมาะสำหรับคนมีหัวศิลป์ ที่นี่มีร้านขายอาหารด้วย (แต่ไม่มีตังค์ซื้อกินค่า 55) ก็เดินเล่นไปสักพัก ค่อยกลับ
พอเดินเล่นจนครบทุกซอกทุกมุมของตลาดแล้ว เราก็กลับค่ะ ขากลับก็นั่งมอไซต์รับจ้างกลับ คนละ 60 บาท
ตอนนั่งรถกลับ มันเป็นตอนกลางคืนใช่ป้ะ เค้าก็เลยเปิดไฟประดับตามข้างทางแล้ว ไฟเยอะมาก สวยมาก เรียกได้เลยว่า หัวหินเป็นเมืองที่ไม่เคยหลับใหล เพราะไฟเค้าเยอะจริงไรจริง 55
แล้วก็นั่งมอไซต์มาลงที่ตลาดโต้รุ่ง
พอถึงตลาดโต้รุ่ง อย่างแรกที่ทำเลยคือกดตังค์เพิ่มค่ะ เพราะว่าตังค์ไม่พอ 555
กดตังค์เสร็จก็เดินเล่น อาหารทะเลเยอะดี แต่ก็ไม่มีตังค์ซื้อกินอยู่ดี T^T
ของฝากก็ไม่ได้ซื้อ เหตุผลก็น่าจะรู้ๆกันนะ 55
ประมาณสองทุ่ม เราก็เลยไปนั่งกินแฮมเบอร์เกอร์ที่ Mc
บรรยากาศที่นี่คือแบบ มันไม่ใช่เมืองไทยอ่ะ หนูหาคนไทยไม่เจอรุยย ย
รอบนี้สั่งชีสเบอร์เกอร์มา 2 ชุด ชุดละ 134 บาท กินไม่หมดด้วยแหละ
ก็นั่งแช่อยู่ในนั้นสักพัก เพราะว่าไม่รู้จะไปไหนแล้ว กว่าจะถึงเวลาที่รถไฟมาก็นู่นน ตีสองกว่า เหอออออออ
นั่งรอไป~
ประมาณสามทุ่มก็เดินไปสถานีรถไฟ นี่มันเพิ่งสามทุ่มเองงงง ต้องรออีกตั้ง 5 ชม.แหนะ T^T
ตอนรอรถไฟมา ก็มีเด็กน้อยมาเล่นด้วย น่ารักมาก ^ ^
รอ.......
รอ.......
รอ.......
ประมาณ ตีสองครึ่งแล้ว รถไฟก็ยังไม่ยอมมาสักที คืนนี้หนูจะได้กลับบ้านไหม๊เนี่ย?????
สักพัก เจ้าหน้าที่ก็มาบอกว่า รถไปขบวนที่เราจะกลับ เลทครึ่งชม. โอ้ววว ต้องรอต่อไปอีกหรอเนี่ย?? - -*
ประมาณตีสามมั้ง รถไฟก็มา เป็นรถด่วนพิเศษ (พิเศษจริงๆ เลทไปครึ่งชม.เนี่ย ^ ^) ยาว 3 โบกี้
ก่อนจะขึ้นก่อนมีเทรนโฮสเตส(คล้ายๆกับแอร์โอสเตสนั่นแหละ 55) มายืนรอรับ แล้วก็ขอดูตั๋ว เพื่อที่จะดูหมายเลยที่นั่งและนำผ้าห่มมาให้
พอขึ้นมาบนรถไม่นาน เทรนโฮสเตสก็เอาผ้าห่มมาให้ นางเกือบเดินเลยแล้วอ่ะ 555 (พนักงานบนรถไฟเป็นมิตรมาก ใจดี น่ารัก ชอบๆ)
พอรถกำลังจะออกก็มีเจ้าหน้าที่ผู้ชายมาขอตรวจตั๋ว ก็เอาให้เค้าตรวจไป ตรวเสร็จก็นอนยาวเลยจ้าาา z Z z
จะบอกว่าเบาะนุ่มดี นั่งสบาย แอร์หนาวดี หลับสบายจริงไรจริง
ตื่นมาอีกที ก็ประมาณหกโมงเช้าเกือบๆเจ็ดโมง ก็มาลงที่หัวลำโพง
และด้วยความที่ยังไม่มีตั๋วรถไฟกลับลพบุรี เราก็เลยรีบวิ่งไปซื้อตั๋ว ก็ได้ตั๋วมา ราคา 50 บาท ไม่มีที่นั่งเป็นของตัวเองด้วยนะเออ 55 รถไฟจะออกตอนเจ็ดโมง แต่แบบตอนที่ได้ตั๋วมามันก็ 06.50 น. แล้วอ่ะ ก็วิ่งเลยค่ะทีนี้ กลัวไม่ทัน เสียดายตังค์ตั้ง 50 แหนะ 555
นั่นแหละ ก็วิ่งไปขึ้นรถไป นั่งได้แปปเดียวรถก็ออก แต่ตั๋วที่ได้มาเป็นที่นั่งชั้น 3 ไง ทั้งร้อน ทั้งคนเยอะแยะ วุ่นวาย น่ารำคาญมาก T^T
แต่ก็นะ ทนๆไป แปปเดียวเดี๋ยวก็ถึงลพบุรีแล้ว (มั้ง?)
ผ่านไปประมาณ 2 ชม. มั้ง รถไฟก็มาถึงลพบุรีโดยสวัสดิภาพ ตอนนั้นโคตรดีใจเลยอ่ะ จะได้กลับบ้านไปอาบน้ำนอนแล้ว 55555
จบล้ะ ทริปหัวหิน
มันยาวมากใช่ไหม?
มีใครอ่านตั้งแต่ต้นจนจบมั่งไหม?
ถ้าใครอ่านจนจบเม้นบอกกันนิดนึงนะคะ
นี่เป็นรีวิวแรก หวังว่าทุกคนจะชอบมันนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
---------
จขกท.ชื่อ โอ้เอ้ ค่ะ
เป็นคนที่รักการเดินทาง และ การท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ
ด้วยความที่เป็นคนชอบเที่ยว ชอบเดินทาง บวกกับมีเพื่อนร่วมอุดมการณ์อย่าง ปุ้มปุ้ย วันหยุดยาวปีใหม่ทั้งที่ หลังจากที่เหนื่อยมาทั้งปี หยุดนานขนาดนี้มีหรอที่เราจะยอมนั่งเหี่ยวเฉาอยู่ที่บ้าน 555
ก็เลยคิดกันว่าเราจะไปเปรี้ยวที่ไหนกันดี? สุดท้ายก็ได้ข้อสรุปค่ะว่า เราจะไปเปรี้ยวกันที่หัวหิน เย้ๆ
ที่จริง เหตุผลที่ตัดสินใจไปหัวหินในตอนนั้นคือ คิดว่าช่วงปีใหม่ เป็นช่วงหน้าหนาว คนคงขึ้นเหนือกันหมด คนไปหัวหินคงไม่ค่อยเยอะ แต่ป่าวเลย ปีใหม่คนไปหัวหินเยอะมาก T^T
ด้วยความที่อยากไปกันเอง สะพายเป้ไปใบเดียว ชิลๆ เปรี้ยวๆ เราก็เลยไม่ได้รีบร้อนในการจองตั๋วรถไฟ หรือที่พักเท่าไหร่ เพราะคิดว่าคงไม่เต็มหรอกมั้ง เดี๋ยวใกล้ๆวันค่อยจองก็ได้ ก็เลยปล่อยไปชิลๆ
จขกท.กับเพื่อนตั้งใจว่าจะนั่งรถไฟไปหัวหินกันวันที่ 29 แล้วก็นอนพักซักคืน ค่อยกลับ
วันที่ 27-28 ก็เลยเริ่มหาตั๋วรถไฟ นั่งชั้น2 และห้องพัก(ทั้งแบบเกสต์เฮ้าส์และโรงแรม)
แต่ปรากฏว่า......... รถไฟไม่มีที่นั่งว่างเลยซักที่ ขบวนที่มีว่างก็เวลาไม่สวยเอาซะเลย แถมยังเป็นที่นั่งชั้น3 อีก ฮืออออ อยากจะกรีดร้อง
ส่วนที่พัก......... โทรไปที่ไหนก็เต็มหมดทุกที่เลย โฮฮฮฮ จขกท.กับเพื่อนไม่น่าชิลกันขนาดนั้นเลย ย โอ้วเย้บบบบบ และสุดท้ายเราก็ไม่มีตั๋วรถไฟและไม่มีที่พัก
เริ่ดม้ะ? 55555เอาล้ะ !! ถึงเราจะไม่มีตั๋วรถไฟ ไม่มีที่พัก แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราจะไปเที่ยวหัวหินกันไม่ได้นี่เนอะ ^^
คือยังไงเราสองคนก็จะต้องไปให้ได้ค่ะ ก็เลย เอาว้ะ ไปก็ไป ไม่มีที่พักก็ไม่เป็นไร กลับคืนนั้นเลยก็ได้ เชอะ! เล้ทสะโกทู หัวหิน! ไฟต์ติ้งค่ะติ่งน้อย!
หลังจากที่พล่ามมาเยอะแล้ว ก็เริ่มกันซักทีเนาะ :
คืนวันที่ 28 ธค. จขกท. และปุ้มปุ้ยไม่ได้นอนค่ะ เพราะมัวแต่เม้าท์กับเดอะแก๊งค์เพลินไปหน่อย (แหะๆ) ก็เลยอาบน้ำแต่งตัว จัดของลงกระเป๋าเป้กันตอนตีสองกว่าๆ (ซึ่งก็คือวันที่ 29 ธค.)
กว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย ก็ประมาณตีสี่แล้ว เลยรีบออกจากบ้าน เพื่อไปกดตังค์ที่ตู้ATM แต่ยังไม่ทันไร ความเปรี้ยวก็บังเกิด ตอนแรกตั้งใจว่าจะกดตังค์ที่หน้าเซเว่นแถวๆท่ารถตู้ แต่ตู้ATM ดันมาพังซะนี่ เลยต้องเดินไปหาตู้อื่นกด
จขกท.กดตังค์มาสำหรับทริปสั้นๆนี้แค่ 1000 บาท เพราะไปแค่วันเดียว ชิลๆแบบนี้คงไม่ต้องใช้ตังค์มากเท่าไหร่ ^ ^
พอได้ตังค์มาแล้ว ก็เข้าเซเว่นเลยจ้า เพราะตอนนั้นยังไม่ได้กินอะไรรองท้องเลย ขอหาไรกินก่อนซักนิดเนอะ (จ่ายไป 43 บาท มีน้ำ 1 ขวด ครัวซองค์อันนึง แล้วก็กระดาษทิชชู่)
ได้ของกินมาแล้ว ก็ตรงไปที่ท่ารถตู้เลยค่ะ จ่ายค่าตั๋วรถตู้ไป 120 บาท (จากลพบุรีไปกรุงเทพ) จุดนี้แอบเซ็งนิดนึงเพราะโดนยึดตั๋วรถตู้ไป T^T หนูจิเอามันไปแปะสมุด~
ประมาณตีห้าครึ่ง รถตู้ก็ออกค่ะ ซึ่งจขกท.และเพื่อน พอขึ้นรถปุ๊ป ก็หลับเป็นตายเลยค่ะ 555
ประมาณเจ็ดโมงเช้าก็ถึงกรุงเทพ ลงมาจากรถตู้แบบมึนๆอึนๆเพราะพึ่งตื่น - -
ก่อนจะต้องนั่งรถนานๆก็ขอไปเข้าห้องน้ำหน่อยแล้วกัน เลยช่วนปุ้มปุ้ยไปเข้าห้องน้ำ (จะบอกเพื่อ? 55)
ประมาณเจ็ดโมงครึ่งก็ไปที่ท่ารถตู้ฝั่งเซ็นจูรี่ เข้าไปซื้อตั๋วมา ราคา 180 บาท (คนก็เยอะดี เพราะว่ามันเป็นช่วงปีใหม่) พอซื้อตั๋วเสร็จก็ยืนรอเค้าเรียกขึ้นรถ
ประมาณสองโมง เค้าก็เรียกเราขึ้นรถ ก็เดินตามเค้าไป พอขึ้นรถได้ ก็สเต็ปเดิมค่ะ คือ หลับ z Z z 5555
ประมาณห้าโมงเช้ากว่าๆ ก็ถึงหัวหินค่ะ พอถึงก็เดินมั่วๆไปตามหาศูนย์บริการนักท่ิองเที่ยว (อยู่แถวๆหอนาฬิกาเลย) เราจะไปเอาแผนที่ฟรี 5555
พอได้แผนที่มาแล้ว เราก็เดินข้ามถนนกลับมา เพื่อที่จะไปยังสถานีรถไฟ ไปจองตั๋วสำหรับกลับกรุงเทพคืนนั้น ก็เดินไปเรื่อยๆ แต่แอบเจอร้านทำผมร้านนึง มีรูป อีทึก อยู่ที่หน้าร้าน เลยแชะๆมารูปนึง ^ ^ (รูปสมัยยังเป็นทึกกี้ชอนซาอยู่เลย 55)
โอเค พอถ่ายรูปปู้จายเสร็จ เราก็ไปที่สถานีรถไฟต่อ
ถึงแล้ววว สถานนีรถไฟที่เค้าว่ากันว่าสวยที่สุดในประเทศไทย
หลังจากที่มาถึงแล้ว เราก็เดินเข้าไปซื้อตั๋วรถไฟขากลับค่ะ เป็นที่นั่งชั้น2 แอร์ ขบวนรถด่วนพิเศษ เวลากลับประมาณตีสอง ราคา 382 บาท ค่ะ
ได้ตั๋วกลับเรียบร้อยแล้ว ก็ไปตะลุยต่อค่ะ ^ ^
ซึ่งร้านแรกที่เราเข้าคือร้าน HuaHin Coffee Station ค่ะ ร้านดูสวยและเย็นสบายดี เลยอยากเข้า 555 (ก็ตอนนั้นมันร้อนนี่เนอะ - -)
เดินเข้าไปในร้านก็ได้กลิ่นกาแฟหอมๆเลยค่ะ ^ ^~ ก่อนอื่นก็ต้องไปสั่งกาแฟก่อน ของจขกท.เป็นลาเต้เย็น ของปุ้มปุ้ยเป็นมอคค่าเย็น แก้วละ 60 บาท อร่อยมาก ก ชอบฟองนมข้างบนอ่ะ มันๆดี
พอกาแฟหมด ก็ไปเขียนโปสการ์ดส่งกลับไปที่บ้านค่ะ (ร้านนี่เค้ามีโปสการ์ดสวยๆขาย แถมมีบริการส่งโปสการ์ดกลับบ้านให้ด้วยนะเออ 55) ราคาใบละ 20 บาท ค่าแสตมป์อีก 5บาทค่ะ
พอเขียนโปสการ์ดเสร็จแล้ว เราก็เดินไปที่ชายหาดค่ะ
คนเยอะมากกกกกก ก ชาวต่างชาติเต็มไปหมด หาคนไทยยากเฟว่ออ!
พอไปถึงเราก็ไปนั่งเล่นกัน นั่งมองชาวบ้านเค้าเล่นน้ำ เล่นนานาน่าโบ้ท ขี่ม้า บลาๆ
นั่งไปนั่งมา เริ่มคิดได้ว่ามาทะเลทั้งที ร่างกายควรจะโดนน้ำทะเลมั่งไม่ใช่หรอ? แค่เท้าก็ยังดี 55 ที่ไม่ได้เล่นน้ำไม่ใช่อะไรหรอก พอดีไม่ได้เอาชุดไปเปลี่ยน แถมยังแต่งตัวซะจัดเต็มอีก ยกตัวอย่าง ปุ้มปุ้ย นางใส่กางเกงยีนส์ เสื้อยืด+เสื้อกันหนาว รองเท้าผ้าใบคอนเวิร์ส ( นี่คือแต่งตัวมาทะเล? เปรี้ยวจริงไรจริง 555 )
เอาล้ ะ ! ถอดรองเท้าออกซะ ! แล้วไปเดินเล่นริมชายหาด ให้น้ำทะเลมันโดนเท้าสักนิดเถอะ ! 5555
เมื่อเดินเล่นจนหนำใจแล้ว เราก็ควรจะไปเืที่ยวเล่นที่อื่นบ้าง ก็เลยเดินกลับขึ้นไปข้างบน ฝั่งโีีรงแรมเซ็นทาร่าแกรนด์
แต่ด้วยความที่เท้าเปื้อนทราย เราก็ต้องล้างเท้าก่อนใช่ป้ะ ก็เลยเดินไปล้างเท้าก่อน แต่จะบอกว่าค่าล้างเท้าแอบแพงอ่ะ คนละตั้ง 5 บาท แค่เอาเท้าไปแกว่งๆน้ำเองนะเห้ย แพงจัง T^T
ค่าบริการล้างเท้า 5 บาท เข้าห้องสุขา 5 บาท อาบน้ำ 20 บาท
แต่ก็ยังดี อย่างน้อยเค้าก็ให้เราเข้าห้องน้ำฟรี 555 (ยังแอบมีความใจดีอยู่นิดนุง ^ ^)
ประมาณบ่ายสองครึ่ง ก็เดินเล่นๆเรื่อย ตอนนั้นไม่ได้หิวไรหรอกนะ แต่แบบ ควรจะหาอะไรรองท้องซักนิดนึงเนอะ เลยไปหาอะไรกิน ^ ^
แต่ว่าไม่ได้กินอาหารทะเลกับเค้าหรอกนะ เพราะที่นี่อ่ะ อาหารทะเลแพงจะตาย (ที่จริงก็แพงแทบทุกอย่างนั่นแหละ T^T) ราคา 150+ ทั้งนั้นรุยยย ย
เมื่อไม่สามารถกินอาหารทะเลแพงๆได้ เราก็เลยมานั่งกินผัดไทกันที่ร้านอะไรซักอย่างเนี่ยแหละจำไม่ได้ แต่จำได้ว่ามันก็อร่อยดี ไม่แพงด้วย จานละ 50 บาทเอง ค่าน้ำเปล่าก็ไม่ต้องเสีย ฮี่ๆ
พอกินเกลี้ยงแล้ว เราก็ไปเพลินวานกันต่อ ซึ่งตอนแรกเรากะจะเดินไป เพราะดูในแผนที่แล้วมันเหมือนจะใกล้ แต่เอาเข้าจริงแล้วมันไม่ได้ใกล้ซะหน่อย นังแผนที่หลอกลวง! 555 ก็เลยนั่งรถเมล์ไป คนละ 10 บาท ระยะทางประมาณ 3 กิโลมั้ง ถ้าจำไม่ผิด
พอไปถึงเพลินวาน ก็เข้าไปเดินเล่น มันดูอาร์ตๆดี เหมาะสำหรับไปถ่ายรูปเล่น 55 แต่ว่าเล็กไปหน่อย เดินแปปเดียวก็หมดล้ะ
เดินเสร็จเลยออกมานั่งตรงทางเข้า ตอนนั้นง่วงมากก เลยนั่งมึนๆอึนๆอยู่ข้างหน้า คอยมองชาวบ้านเค้าถ่ายรูปกับป้ายเพลินวานตรงทางเข้า ก็ตลกดี เพราะบางคนก็ยืนซะแข็งทื่อเหมือนถ่ายรูปบัตรประชาชน บางคนก็มาซะจัดเต็มเฟว่ออ งัดท่าถ่ายรูปออกมาไฟต์กันสุดฤทธิ์ 555
ตอนนั้นรู้สึกเหมือนว่าจะนั่งอยู่นานมากก ก นานจนจะร้องเพลง เพลินวาน ได้ล้ะ 555 (ก็นางเล่นเปิดอยู่แค่เพลงเดียวนี่เนอะ - -)
ประมาณห้าโมงเย็น ก็เดินไปถามรปภ. ว่าจะกลับเข้าเมืองได้ยังไง เค้าก็บอกว่าให้ขึ้นรถสองแถวรึไม่ก็ขึ้นมอไซต์รับจ้างกลับ แต่ถ้าเป็นสองแถวจะต้องรอนานหน่อย ก็เลยตัดสินใจแว๊นกลับซะเลย 555
ค่ามอไซต์คนละ 60 บาท (ลุงแกแอบซิ่งอ่ะ หนูกลัวววว )
ขากลับก็มาลงที่ชายหาดอีกรอบ เพราะไม่รู้จะไปไหน
ก็ยืนเล่นอยู่แถวๆน้องม้าแหละ ตอนนั้นเหมือนว่าปุ้มปุ้ยนางจะเจอกับรักแท้แค่5วิด้วยแหละ 555 นางบอกว่าผู้ชายคนนั้นหน้าเหมือนแฮรี่ พอตเตอร์ แต่หล่อกว่า >< แล้วก็เจอเด็กฝรั่งอีกสองคน หล่อ น่ารัก >< เพราะแม่เป็นคนเอเชียและพ่อเป็นฝรั่งมั้ง ลูกเค้าเลยออกมาตรงใจใช่เลยแบบนี้ 555 หุ่นสูงๆผอม & สีผิวแบบคนเอเชีย แต่หน้าหล่อๆแบบฝรั่ง โอ้ยเริ่ด! (สรุปมาที่นี่คือมาส่องปู้จาย? 55555555)
ยืนเล่นแถวชายหาดสักพักก็เดินออกไปแถวมป้ายรถเมล์ เพื่อรอรถสองแถวไปตลาดจั๊กจั่น(หรือ ชิเคด้า นั่นแหละ)
รอไม่นานรถก็มา เป็นสองแถว คันสีเขียว สายสนามบิน-เขาตะเกียบ ค่ารถคนละ 10 บาท
ตอนขึ้นไปนี่แบบ ไม่รู้นะว่าตลาดมันอยู่ตรงไหน ลงไม่เป็นด้วยจ้าา ระยะทางมันก็ค่อนข้างไกลนิดนึง แบบเดินไปไม่ได้อ่ะ ต้องนั่งรถไป
ตอนนั่งรถ มันผ่านห้างไรด้วยก็ไม่รู้ จำชื่อไม่ได้ แต่ว่าสวยมากกก อยากไปนะ แต่ไม่อยากลงรถ กลัวไปเดินห้างแล้วไปต่อตลาดจั๊กจั่น จะทำให้ขากลับรถหมด ก็เลยเซย์บ๊ายบายห้างนั้นไปซะ
ผ่านห้างนั้นมาสักพักก็ถึงตลาดชิเคด้า รถก็จอดข้างหน้าตลาดนะ คนลงเยอะเลย แต่ไ อ่เรา ด้วยความที่ไม่รู้ว่ามันคือตลาดชิเคด้า เลยไม่ได้ลง (ก็มันมองไม่เห็นป้าย Cicada นี่หน่า - - ) พอรถกำลังจะออก ก็เหลือบไปเห็นป้าย Cicada พอดี ก็รีบกดออด แล้วรีบวิ่งลงรถ แต่ ณ จุดนี้ค่ะ โดนคนขับรถว่าเลย ว่าทำไมไม่ยอมลงตั้งแต่เมื่อกี้ล้ะ? ก็คนมันไม่เคยมานี่เนาะ T^T
ตลาดจั๊กจั่นนี่ก็เริ่ดดี อาร์ตดี เหมาะสำหรับคนมีหัวศิลป์ ที่นี่มีร้านขายอาหารด้วย (แต่ไม่มีตังค์ซื้อกินค่า 55) ก็เดินเล่นไปสักพัก ค่อยกลับ
พอเดินเล่นจนครบทุกซอกทุกมุมของตลาดแล้ว เราก็กลับค่ะ ขากลับก็นั่งมอไซต์รับจ้างกลับ คนละ 60 บาท
ตอนนั่งรถกลับ มันเป็นตอนกลางคืนใช่ป้ะ เค้าก็เลยเปิดไฟประดับตามข้างทางแล้ว ไฟเยอะมาก สวยมาก เรียกได้เลยว่า หัวหินเป็นเมืองที่ไม่เคยหลับใหล เพราะไฟเค้าเยอะจริงไรจริง 55
แล้วก็นั่งมอไซต์มาลงที่ตลาดโต้รุ่ง
พอถึงตลาดโต้รุ่ง อย่างแรกที่ทำเลยคือกดตังค์เพิ่มค่ะ เพราะว่าตังค์ไม่พอ 555
กดตังค์เสร็จก็เดินเล่น อาหารทะเลเยอะดี แต่ก็ไม่มีตังค์ซื้อกินอยู่ดี T^T
ของฝากก็ไม่ได้ซื้อ เหตุผลก็น่าจะรู้ๆกันนะ 55
ประมาณสองทุ่ม เราก็เลยไปนั่งกินแฮมเบอร์เกอร์ที่ Mc
บรรยากาศที่นี่คือแบบ มันไม่ใช่เมืองไทยอ่ะ หนูหาคนไทยไม่เจอรุยย ย
รอบนี้สั่งชีสเบอร์เกอร์มา 2 ชุด ชุดละ 134 บาท กินไม่หมดด้วยแหละ
ก็นั่งแช่อยู่ในนั้นสักพัก เพราะว่าไม่รู้จะไปไหนแล้ว กว่าจะถึงเวลาที่รถไฟมาก็นู่นน ตีสองกว่า เหอออออออ
นั่งรอไป~
ประมาณสามทุ่มก็เดินไปสถานีรถไฟ นี่มันเพิ่งสามทุ่มเองงงง ต้องรออีกตั้ง 5 ชม.แหนะ T^T
ตอนรอรถไฟมา ก็มีเด็กน้อยมาเล่นด้วย น่ารักมาก ^ ^
รอ.......
รอ.......
รอ.......
ประมาณ ตีสองครึ่งแล้ว รถไฟก็ยังไม่ยอมมาสักที คืนนี้หนูจะได้กลับบ้านไหม๊เนี่ย?????
สักพัก เจ้าหน้าที่ก็มาบอกว่า รถไปขบวนที่เราจะกลับ เลทครึ่งชม. โอ้ววว ต้องรอต่อไปอีกหรอเนี่ย?? - -*
ประมาณตีสามมั้ง รถไฟก็มา เป็นรถด่วนพิเศษ (พิเศษจริงๆ เลทไปครึ่งชม.เนี่ย ^ ^) ยาว 3 โบกี้
ก่อนจะขึ้นก่อนมีเทรนโฮสเตส(คล้ายๆกับแอร์โอสเตสนั่นแหละ 55) มายืนรอรับ แล้วก็ขอดูตั๋ว เพื่อที่จะดูหมายเลยที่นั่งและนำผ้าห่มมาให้
พอขึ้นมาบนรถไม่นาน เทรนโฮสเตสก็เอาผ้าห่มมาให้ นางเกือบเดินเลยแล้วอ่ะ 555 (พนักงานบนรถไฟเป็นมิตรมาก ใจดี น่ารัก ชอบๆ)
พอรถกำลังจะออกก็มีเจ้าหน้าที่ผู้ชายมาขอตรวจตั๋ว ก็เอาให้เค้าตรวจไป ตรวเสร็จก็นอนยาวเลยจ้าาา z Z z
จะบอกว่าเบาะนุ่มดี นั่งสบาย แอร์หนาวดี หลับสบายจริงไรจริง
ตื่นมาอีกที ก็ประมาณหกโมงเช้าเกือบๆเจ็ดโมง ก็มาลงที่หัวลำโพง
และด้วยความที่ยังไม่มีตั๋วรถไฟกลับลพบุรี เราก็เลยรีบวิ่งไปซื้อตั๋ว ก็ได้ตั๋วมา ราคา 50 บาท ไม่มีที่นั่งเป็นของตัวเองด้วยนะเออ 55 รถไฟจะออกตอนเจ็ดโมง แต่แบบตอนที่ได้ตั๋วมามันก็ 06.50 น. แล้วอ่ะ ก็วิ่งเลยค่ะทีนี้ กลัวไม่ทัน เสียดายตังค์ตั้ง 50 แหนะ 555
นั่นแหละ ก็วิ่งไปขึ้นรถไป นั่งได้แปปเดียวรถก็ออก แต่ตั๋วที่ได้มาเป็นที่นั่งชั้น 3 ไง ทั้งร้อน ทั้งคนเยอะแยะ วุ่นวาย น่ารำคาญมาก T^T
แต่ก็นะ ทนๆไป แปปเดียวเดี๋ยวก็ถึงลพบุรีแล้ว (มั้ง?)
ผ่านไปประมาณ 2 ชม. มั้ง รถไฟก็มาถึงลพบุรีโดยสวัสดิภาพ ตอนนั้นโคตรดีใจเลยอ่ะ จะได้กลับบ้านไปอาบน้ำนอนแล้ว 55555
จบล้ะ ทริปหัวหิน
มันยาวมากใช่ไหม?
มีใครอ่านตั้งแต่ต้นจนจบมั่งไหม?
ถ้าใครอ่านจนจบเม้นบอกกันนิดนึงนะคะ
นี่เป็นรีวิวแรก หวังว่าทุกคนจะชอบมันนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
---------
แก้ไขล่าสุด 6 ม.ค. 56 15:45 |
เลขไอพี : ไม่แสดง
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
๕๕๕๕๕๕ เปรี้ยวได้ใจจริงๆ ไม่ยาวหรอก ฮ่าดี อิอิ
ไปแบบไม่ต้องวางแผนรัดกุม จนต้องกุมหัวเลยมั้งน่ะ
แต่จริงๆไปเที่ยวแบบนี้น่าจะนอนสักคืนนะ แบบเอาบรรยากาศทะเลตอนกลางคืนไง
แบบไม่ได้อยากเพ้อนะแต่ว่า...รูปแต่ละใบ มันอดไม่ได้ที่จะคิดถึงทริปนั้น
จขกท.ทำให้เราคิดถึงแฟนเก่า
ทริปนั้นเป็นทริปสุดท้ายที่ไปเที่ยวกัน..
เริ่มจากนั่งรถไฟ จากหัวลำโพง คนแสนแปด นั่งประมาณ 8 ชม. ถึงหัวหิน
เล่นน้ำ เข้าที่พัก เช่ารถมอไซด์ ขับรถเล่น ไปชิเชด้า หาข้าวกินในงาน
...เป็นทริปที่เหงามาก สำหรับเรา ทั้งที่ไปกับแฟน กับเพื่อนแฟน
คืนนั้นจำได้ว่า ไปเดินเล่นริมหาดคนเดียว นั่งกินเบียร์
ดูพระอาทิตย์ขึ้น คนเดียว โอ้วววว กล้ามาก ถึงเราจะเป็นทอมก็เถอะ แต่อันตรายนะ อย่าทำตาม๕๕๕
..วันต่อไปเช็คเอาท์ไปเพลินวาน คนมหาศาลเลยให้ตายเถอะ
แล้วก็นั่งรถสองแถวไปเขาตะเกียบ ไปคอนเสิร์ตหัวหิน
กะจะกางเต้นท์นอนกัน ฝนเทลงมา ของเปียกหมด ตั้งแต่เสื้อผ้า เนื้อตัว ข้าวของ ๕๕๕
หนาวมาก แต่ก็สู้นะ ไปคอนเสริต ไปกินเบียร์ เต้น เบื่อๆวิ่งลงน้ำ
ตกดึกก็มานอน หนาวมาก เพราะเสื้อผ้ายังชุ่มอยู่ เป้นทริปที่ทุลักทุเลมาก
เข้าเมืองมาตีตั๋วรถตู้กลับปิ่นเกล้าทันทีเลย ๕๕๕
เหนื่อยมาก สนุกมาก เหงามาก เศร้ามาก ...แล้วมันก็เป็นทริปสุดท้ายที่ได้ไปกับเค้าจริงๆ
จขกท.นิสัยคล้ายเรานะ อาจจะเป็นเพื่อนกันได้
มีอะไรให้เราติดต่อกลับป่าว อยากรู้จัก
แอดมานะ IG - saw999
line - saw1992
ไอพี: ไม่แสดง
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google