นร.เฮ!! สพฐ.สั่งปฏิรูปหลักสูตรการศึกษา ให้ครูลด "งาน-การบ้าน" พ.ค.56นี้้!
"ตั้งแต่ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556 เป็นต้นไป เด็กไทยทุกคนในทุกระดับชั้นในโรงเรียนสังกัด สพฐ.จะมีภาระการเรียนในห้องเรียนลดน้อยลง และจะมีโอกาสเรียนรู้ รวมถึงทำกิจกรรมนอกห้องเรียนมากขึ้น ส่วนการบ้านและโครงงานที่ครูมอบให้ก็จะมีการบูรณาการในทุกกลุ่มสาระวิชาเข้าด้วยกัน ฉะนั้น ตั้งแต่เปิดเทอมหน้าเดือนพฤษภาคมนี้ งานทุกอย่างของเด็กจะต้องลดลงทั้งหมดรวมถึงการให้การบ้านต้องลดลงด้วย และจะไม่ใช้วิธีการที่ครูจะมีอำนาจเหนือนักเรียน ครูจะไม่สามารถให้การบ้านเด็กได้ตามใจชอบอีกต่อไป ถ้าครูให้การบ้านเด็กจนเกิดความทุกข์ทรมานก็สามารถร้องเรียนมาได้ที่ สพฐ. เพื่อให้เกิดการปรับปรุงต่อไป"
เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อว่า ส่วนระยะที่ 2 ของการปฏิรูปหลักสูตรฯนั้น สพฐ.จะจัดประชุมเชิงปฏิบัติการในวันที่ 6-8 กุมภาพันธ์ เพื่อพิจารณาทบทวนมาตรฐาน และตัวชี้วัดของหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้วิพากษ์วิจารณ์ว่ามีมาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัดใดบ้างที่มีมากเกินความจำเป็น เพื่อที่จะได้ตัดทอนและปรับปรุงต่อไป
เริ่ดดดดดดดดด
(c) : http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1359447072&grpid=00&catid=00&utm_source=CPBee&utm_medium=twitter
.... กระทู้นี้ย้ายมาจากห้องเบ็ดเตล็ด ...
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
เราต้องการแค่
ลดความกดดัน ลดการแข่งขัน เรียนเพื่อต้องการความรู้จริงๆ ไม่ใช่การแข่งขัน
ขอแค่นี้ได้ไหม ? ให้เราตัดหัวล้านเลยก็ได้
ทำแบบนี้ก็ดีนะคะ
แต่ช่วยกรุณา ลดเกรดเข้าสายต่างๆด้วยค่ะ
เพราะเอาO-netมา20% ทำให้คะแนนเด็กไทยแย่กว่าเดิม
แล้วถ้าลดงานลดการบ้าน ' ขอถามนะคะว่า คะแนนเก็บจะไม่หายไปหรอคะ?
อาจารย์ จะไม่ใช้วิธีการสอบเพื่อเก็บคะแนนเอาแทนหรอ?
เวลาที่ทำการบ้าน กับเวลาที่อ่านหนังสือสอบก็พอๆกันแหละค่ะ
แต่คะแนนที่ออกมา . .. ... ? ละไว้ในฐานที่เข้าใจ
งานลด > เกรดลด
ขอบ่นๆยาวๆยืดๆ -..-
ลดการบ้านมันก็ดีนะอันที่จริง ลดในแบบพอดีๆ ไม่ใช่ถึงกับไม่ให้หรือให้น้อยเกินไป
เพราะถ้าไม่มีงานให้ทำ ลำพังคะแนนสอบคงไม่พอแน่ๆ
อีกอย่างเรื่องการบ้านก็เรื่องนึง อีกเรื่องนึงคือความกดดัน แข่งขัน
อะไรก็ขึ้นอยู่กับเกรดทั้งหมด เดี๋ยวก็คะแนนโอเน็ท นู่นนี้นั้น
นักเรียนหลายคนอดหลับอดนอน เป็นไมเกรนเต็มไปหมด
เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับเกรดคนที่มีความสามารถในด้านนั้นๆ แต่เกรดไม่ถึงมันก็จบเห่สิค่ะ
การศึกษาไทยต้องปรับระบบอีกหลายอย่าง แต่ถ้ามันฟรีสไตล์เกินไป
ก็คงได้แต่ 'คนไร้คุณภาพ' คือตามความคิดเราให้มันอยู่ในสิ่งที่พอดีไม่หลวมไม่แน่นเกินไป
เพราะถ้าอะไรที่มันเกินพอดีมันอาจจะล่มจมไม่เป็นถ้าก็ได้ การจะโทษแต่การศึกษาก็ไม่ถูกมันต้องกลับมามองดูที่ตัวเราเองด้วย และอีกอย่างเอาแต่วิชาการยัดใส่ในหัวนักเรียนมากจนเกินไป ส่วนเรื่องนันทนาการหรือประสบการณ์พวกนี้ไม่เคยจะมี
จะไม่ใช้วิธีการที่ครูจะมีอำนาจเหนือนักเรียน ครูจะไม่สามารถให้การบ้านเด็กได้ตามใจชอบอีกต่อไป <<< เอาเข้าไป บ้าไปแล้ว คือไม่เห็นด้วยเลย ทุกวันนี้ก็เหมือนครูจะทำอะไรนักเรียนไม่ได้ นี่จะเอาอีกหรอ? ทำแบบนี้ ครูทุกคนก็ง่อยแดรก ใบ้แดรกกันเลยทีเดียว ทำอะไรนักเรียนไม่ได้ แล้วถ้านักเรียนบอกไม่อยากเรียน อยากไปกินข้าว อยากโดด อยากนอน นี่คือต้องตามใจใช่ปะ ?
คือเข้าใจคำว่าลดป่ะคะ ? ไม่ใช่ให้น้อย
ลดน้อยลง คือบางทีเด็กก็มีงานมีการบ้านทำจนล้นมือ เพราะเรียนหลายวิชา
และที่บอกว่า จะไม่ใช้วิธีการที่ครูจะมีอำนาจเหนือนักเรียน ครูจะไม่สามารถให้การบ้านเด็กได้ตามใจชอบอีกต่อไป
ไม่ใช่ว่าครูแตะต้อง ตักเตือน หรือสอนสั่งนักเรียนไม่ได้นะคะ
แต่หมายถึงว่าครูควรพิจารณาเวลาจะให้การบ้านเด็กในแต่ละครั้ง
เพราะบางทีก็ให้ชนกัน ส่งพร้อมกันจนเด็กวุ่นวายไปหมด
ถ้าให้ทำพร้อมกัน ส่งพร้อมกันยังไม่เท่าไหร่นะคะ แต่ให้มาพร้อมกัน
ในช่วงที่ใกล้สอบ ทำให้เด็กไม่มีเวลาอ่านหนังสือ เพราะมัวแต่นั่งทำการบ้าน
ต่างคนต่างเร่งทำ ความรู้กลับไม่ได้เข้าหัวสักนิดเลยค่ะ เพราะความรีบ
พอเด็กไม่มีเวลาอ่านหนังสือทบทวนบทเรียนจริงๆ ก็สอบไม่ผ่าน
ยิ่ง O-NET ที่สำคัญของเด็กป.6 ม.3 ม.6 นี่สำคัญเลยค่ะ เพราะใช้ในการคัดเลือกรับนักเรียน 20 %
จากที่นร. ควรจะได้ใช้เวลาในการเตรียมสอบมากขึ้น กลับต้องมานั่งทำการบ้านเยอะแยะไปหมด
ทำให้การศึกษาไทยยิ่งด้อยลงทุกทีคะ
ที่บางคห.บอกว่า งานน้อยเกรดน้อย เข้าใจอะไรผิดป่ะคะ ?
คือยังงี้นะ เวลาจัดแยกคะแนนเขาก็จะแบ่งสัดส่วนไปคะ ว่าสอบ % เท่านี้ คะแนนเก็บเท่านี้ จิตพิสัยเท่านี้ เขาก็จะแบ่งคะแนนสัดส่วนในแต่ละงานให้คะแนนที่เปลี่ยนไป คะแนนมากขึ้น เพราะเมื่อเด็กมีงานน้อยลง (ไม่ได้หมายถึงน้อยจนไม่มี นั่งชิวๆ ม้วนผมเล่น) ก็จะตั้งใจทำงานมากขึ้น ความรู้ก็จะได้เพิ่มขึ้น คะแนนตามแต่ละชิ้นงานก็เพิ่นขึ้นตามสัดส่วนค่ะ
พองานน้อยลงก็ใช่ว่าสอบจะต้องสอบเยอะขึ้นนะค่ะ เพราะคะแนนตามมาตราฐานที่รร.ตั้งไม้ก็มีบอกอยู่แล้ว ว่าเปอร์เซ็นสอบเท่าไหร่ คะแนนเก็บเท่าไหร่
ก็ไม่รู้ว่าจะใช้ความเห็นส่วนตัวดีมั้ย แล้วแต่มุมมองคนละกันคะ
ถ้าใครคิดว่าไม่ดี อยากได้งานเยอะแบบเดิม จนไม่มีเวลาทบทวนความรู้จริงๆ
ก็ให้ไปเรียกร้อง สพฐ. ค่ะ ว่าด้วยเหตุผลอะไร
ขอบคุณค่ะ
เขาบอกว่าให้งานลดลง ไม่ใช่ให้นิดเดียว การบ้านลดลงไม่ใช่ว่าจะโ'ง่ขึ้น
เค้าลดงานเพื่อให้ทำงานแต่ละชิ้นให้มันออกมาดีมากขึ้น ละเอียดมากขึ้นไง
งานลดลงไม่ใช่ว่าเกรดจะลดลง มันก็มีเปอร์เซ็นสัดส่วนอย่างที่คห.บนบอก
เค้าลดลงเพื่อให้สมองได้คิดอะไรที่สร้างสรรค์บ้างไม่ใช่จมจ่ออยู่กับความ
เครียดเรื่องการบ้าน ทีพวกเด็กฝรั่งมันยังไม่เห็นมีปัญหาเรื่องนี้เลย
ส่วนตัวแล้วเห็นด้วยมาก เพราะทุกวันนี้การบ้านแบบเยอะไปจริงๆ งานแต่ละชิ้น
เหมือนรีบทำให้มันทันกำหนดส่ง บางชิ้นก็กากมากเพราะต้องแบ่งเวลาไปทำของ
วิชาอื่นด้วยซึ่งบางทีก็เยอะจนต้องไปลอกคนอื่น สุดท้ายก็ไม่ได้อะไรอยู่ดี .
ความกดดันไม่ได้มาจากระทรวงศึกษาแต่มาจากการแข่งขันระหว่างตัวเด็กเอง
มันเป็นเรื่องธรรมดา ที่จะเห็นคนอื่นได้เกรดเยอะกว่าแล้วยอมไม่ได้ ชั้นต้องได้เท่านั้นหรือมากกว่านั้น
เพราะมัวแต่มองคนอื่นว่าเค้าดีกว่า จนลืมหาว่าเราต้องการอะไรกันแน่ ถ้าจะบอกว่าให้เข้ากับสากล หรือให้เข้ากับต่างชาติล่ะก็ ต้องมองใหม่ล่ะค่ะ เค้าไม่ได้กดดันกันด้วยเกรด หรือคะแนน แต่คนที่่เค้าประสบความสำเร็จจริงๆ เค้าจะหาว่าอะไรคือสิ่งที่เค้าต้องการจริงๆ เค้าทำอะไรได้ดี ไม่ใช่ว่า อะไรๆก็ต้องเข้าหมอ เข้าวิศวะ เพราะมันถูกปลูกฝังมาแบบนี้ เด็กถึงแย่งกันสอบเข้าตั้งแต่ม.ต้น แข่งขันกันตั้งแต่อายุ 13 ปี
ถ้าจะปรับอะไร ปรับที่ตัวเองก่อน น่าจะดีนะ
ลดการบ้าน . . .ความจริงมันไม่เยอะนะแต่ละวันหนะ
แต่พอมันมา มันมาทีเดียว ตอนวันหยุด ซึ่งควรไดหยุด ?
เราไม่ได้เห็นด้วยร้อยเปอร์เซ็นนะ
ถ้ามองเห็นประโยชน์จริง ๆ ของมันจะเห็นได้ว่ามันช่วยทบทวนความรู้เราได้เยอะ
แต่ส่วนใหญ่ไม่มองหรอก เอาแค่ตัวเหนื่อย ตัวขี้เกียจ !
การศึกษานอกห้อง ? ไอโฟน บีบี เฟส ทวิต ไอจี ??
จะมีสักกี่คนที่จะทำกิจกรรมนอกห้องจริง ๆ กีฬาสี ชมรม บลา ๆ ?
แหม่ ! ถดถอยเบาเบานะการศึกษาไทย .
ได้ยินข่าวเรื่องนี้แล้วดีใจมาก แต่มีอีกความคิดแทรกมา
คือ...เพิ่งคิดได้ ??
คืองานมันเยอะมาก ๆ ยิ่งใกล้สอบยิ่งเยอะเพราะครูมาบอกว่าสอนไม่ทัน ! แล้วเด็กไม่ต้องอ่านหนังสือหรอ ??
เสริม ๆ เรื่องตัดผม
กี่ปีแล้วที่ต้องเสียเงินเพื่อทำอะไรทีไม่เต็มใจ(ตัดผม) พอไม่ผ่านก็ตัดใหม่ไป ๆ มา ๆ หลัง ๆ มาตัดเอง แล้วกรรไกรคุณจะคมไปไหม กว่าผมจะขาดหัวแทบหลุดกระชากไปกระชากมา !
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google