ข่าวดี :D กฟผ.พอหาทางรองรับความเสี่ยงไฟฟ้าดับช่วงเมษาได้แล้ว !!!
22 ก.พ. 56 19:29 น. /
ดู 423 ครั้ง /
0 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
กรุงเทพฯ 22 ก.พ.-กฟผ.เจรจาโรงไฟฟ้าของไทยและต่างประเทศผลิตไฟฟ้าอีก 300 เมกะวัตต์ เสี่ยงไฟฟ้าดับน้อยลงในวันที่ 5 เม.ย. สำรองพุ่งเป็น 1,051 เมกะวัตต์ โดยหากประชาชน-เอกชนร่วมลดใช้ไฟฟ้าความเสี่ยงก็จะลดลงอีก อย่างไรก็ตามจุดที่แรงดันไฟฟ้าต่ำจะมี 3 พื้นที่ คือ รัชดา ลาดพร้าว บางกะปิ อาจทำให้คุณภาพไฟฟ้าด้อยหรี่ลง แต่ไม่ถึงขั้นดับ
นายธนา พุฒรังษี รองผู้ว่าการระบบส่ง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า ตามที่นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน สั่งการให้ กฟผ. เจรจาจัดหาไฟฟ้าเพิ่มเติม เพื่อรองรับความเสี่ยงไฟฟ้าดับจากก๊าซฯ พม่าหยุดส่ง 5-14 เม.ย.นั้น ล่าสุดจากการเจรจากับโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศพบว่าได้รับความร่วมมือที่ดีสามารถได้กำลังผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอีก 291 เมกะวัตต์ โดยทางมาเลเซียขายไฟฟ้าให้เพิ่มจากเดิม 30 เมกะวัตต์ เป็น 200 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าน้ำเทิน 2 น้ำงึม 2, ห้วยเฮาะ, เทินหินบุน ใน สปป.ลาว พร้อมเพิ่มเครื่อง 24 ชั่วโมง กรมชลประทานจะปล่อยน้ำเพิ่มเติมจากลุ่มน้ำแม่กลองจากเขื่อนศรีนครินทร์,เขื่อนเขาแหลม,เขื่อนวชิราลงกรณ์ ปล่อยน้ำเพิ่ม 5 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ผลิตไฟฟ้าเพิ่ม 800,000 หน่วย แต่ลุ่มน้ำอื่นทั้งเจ้าพระยาและภาคอีสานไม่สามารถปล่อยเพิ่มได้เพราะมีปัญหาน้ำแล้ง ในขณะที่โรงไฟฟ้าพลังความร้อนราชบุรีจะผลิตได้เพิ่ม 30 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าเอสพีพีด่านช้างเพิ่มได้ 5 เมกะวัตต์ ขณะที่โรงไฟฟ้าประเภทงดจ่ายไฟฟ้าได้ทั้ง 4 โรง ก็จะลดใช้ไฟฟ้าได้ 56 เมกะวัตต์
กำลังไฟฟ้าสำรองในวันที่ 5 เม.ย.จะเพิ่มอีก 291 เมกะวัตต์ จากเดิม 760 เมกะวัตต์ รวมเป็น 1,051 เมกะวัตต์ ยิ่งหากประชาชน-ภาคเอกชนให้ความร่วมมือลดใช้พลังงาน ก็ยิ่งทำให้สำรองเพิ่มขึ้น ความเสี่ยงที่จะไฟตกไฟดับก็จะลดน้อยลง อย่างไรก็ตาม กฟผ. และ ปตท.ร่วมกันประเมินความเสี่ยงที่แหล่งยาดานาจะซ่อมฐานขุดเจาะไม่เสร็จภายในวันที่ 14 เม.ย. โดยประเมินว่าเลวร้ายที่สุดจะซ่อมเสร็จ 21 เม.ย. จึงได้เตรียมสำรองน้ำมันเตาเพิ่มขึ้นจากเดิม 86 ล้านลิตรเป็น 150 ล้านลิตร และดีเซลเพิ่มจาก 47 ล้านลิตรเป็น 80 ล้านลิตร นายธนา กล่าว
นายธนา กล่าวว่าจากที่ก๊าซฯ พม่าหยุดส่ง ทำให้โรงไฟฟ้าพระนครเหนือ พระนครใต้ ต้องหยุดผลิต ดังนั้น ระบบส่งไฟฟ้าที่ป้อนเข้าสู่กทม.-ปริมณฑล ที่ใช้ไฟฟ้ารวม 8,000 เมกะวัตต์ ก็จะต้องดึงมาจากโรงไฟฟ้าที่ห่างไกลมากขึ้น ซึ่งจะมีความสูญเสียงของระบบสายส่ง โดยสถานีไฟฟ้าแรงสูงลาดพร้าว (รวมถึง ถ.วิภาวดีรังสิต) สถานีไฟฟ้าแรงสูง รัชดา , สถานีไฟฟ้าบางกะปิ มีความเสี่ยงเรื่องคุณภาพไฟฟ้า แรงดันไฟฟ้าจะต่ำแต่ไม่ถึงขั้นไฟดับ เพราะ กฟผ. และการไฟฟ้านครหลวงได้ร่วมกันย้ายสลับวงจรไฟฟ้าในการให้บริการจึงมีไฟฟ้าเพียงพอ
นายธนา ยืนยันว่าการที่ก๊าซฯ พม่าหยุดส่งในรอบนี้มีความเสี่ยงไฟฟ้าดับมากที่สุดเป็นเรื่องจริง เพราะปีนี้เนื่องจากแท่นขุดเจาะยาดานาทรุดตัวต้องรีบซ่อมแซมจึงไม่สามารถหยุดส่งช่วงความต้องการไฟฟ้าต่ำ หรือช่วงวันหยุดยาว ช่วงสงกรานต์หรือปีใหม่ เหมือนกับที่ผ่าน ๆ มา ประกอบกับความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้นตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ในวันที่ 5 เม.ย.56 คาดว่าความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดหรือพีก จะเพิ่มขึ้นไปถึงระดับ 26,300 เมกะวัตต์ จึงทำให้สำรองพร้อมใช้ที่แท้จริงเหลือ 760 เมกะวัตต์ เท่านั้น ซึ่งในขณะนี้มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าสำรองไฟฟ้ามีมากกว่านี้ก็เนื่องจากไปดูถึงภาพรวมของการผลิตไฟฟ้า แต่ไม่ดู้ข้อเท็จจริงว่าโรงไฟฟ้าพร้อมใช้นั้นมีจำนวนที่แท้จริงเท่าใด โดยปัจจุบันนี้กำลังผลิตมีรวม 33,000 เมกะวัตต์ แต่มีโรงไฟฟ้าที่ไม่สามารถจ่ายได้จริงตามกำลังผลิต (DERATE) ประมาณ 1,900 เมกะวัตต์ ประกอบไปด้วยโรงไฟฟ้าเอสพีพี อย่างน้อย 600 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าพลังน้ำต่าง ๆ ที่เกิดปัญหาภัยแล้ง ไม่สามารถเดินเครื่องผลิตได้ ขณะที่โรงไฟฟ้าที่รับก๊าซพม่าเดินเครื่องไม่ได้อีก 4,100 เมกะวัตต์ ดังนั้น จึงเหลือโรงไฟฟ้าเดินเครื่องได้เพียง 27,000 เมกะวัตต์ เมื่อหักออกจากการคาดการณ์ว่าจะเกิดความต้องการใช้ไฟฟ้าในวันที่ 5 เม.ย. 26,300 เมกะวัตต์ ดังนั้น สำรองไฟฟ้าพร้อมใช้ที่แท้จริงจึงเหลือเพียง 751 เมกะวัตต์เท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อีกปัญหาหนึ่งคือการก่อสร้างโรงไฟฟ้าไอพีพีของเอกชน ล่าช้ากว่าแผนโดยเดิมไอพีพี จะเข้าระบบภายในปี 2555-2557 จำนวน 4 โครงการ รวมกำลังผลิต 4,400 เมกะวัตต์ แต่จากการคัดค้าการก่อสร้างโรงไฟฟ้าทั้งถ่านหินและก๊าซฯ ทำให้โรงไฟฟ้า 2,000 เกมะวัตต์ยังก่อสร้างไม่เสร็จและจะเข้าระบบในปี 2558 โดยแม้ว่า กฟผ. จะเร่งก่อสร้างโรงไฟฟ้าส่วนอื่นทดแทนแต่ก็ยังไม่ทันต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกัน แหล่งก๊าซยาดานา แจ่งหยุดซ่อมอีกครั้งใน เดือน พฤษภาคม ปี 2557 แต่ช่วงนั้นจะเป็นช่วงฝนกเริ่มตก ความต้องการไฟฟ้าของไทยลดลง ประกอบกับ มี 2 โรงไฟฟ้าใหม่เข้าระบบในเดือนเมษายน 57 คือ วังน้อย 4 และ จะนะ 2 รวม 1,400 เมกวัตต์ และมีโรงไฟฟ้าเอสพีพีเข้าระบบ อีก 12 เครื่อง รวม 1,080 เมกะวัตต์ ปัญหาเรื่องความเสี่ยงจึงน้อยกว่าปีนี้.-สำนักข่าวไทย
( C ) http://www.mcot.net/site/content?id.........0c#.USdihB39tIE
me // ค่อยโล่งอกหน่อยนึง
แก้ไขล่าสุด 22 ก.พ. 56 19:30 |
เลขไอพี : ไม่แสดง
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
ยังไม่มีความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google