ヾรวมสุดยอดข้อแก้ตัว .. แหม่ ทำไปได้!

25 มี.ค. 56 13:23 น. / ดู 1,749 ครั้ง / 10 ความเห็น / 13 ชอบจัง / แชร์
.
.
.


        “ผมเป็นเกย์ เพราะเป็นลม”
      นายคริส เบิร์ซ ชาวเวลส์ วัย 26 ปี หมั้นหมายเตรียมตัวจะแต่งงานแล้วเป็นที่เรียบร้อย แต่จู่ๆ วันหนึ่ง เขาก็ไม่รู้เกิดอุตริอีท่าไหน ถึงพยายามจะกระโดดตีลังกาลงมาจากเนินเขาลูกหนึ่ง แน่นอนว่าเขาทำไม่สำเร็จ มิหนำซ้ำยังเป็นลมหมดสติไปด้วย และเมื่อตื่นขึ้นมาก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น เพราะเขากลายเป็นเกย์ไปซะอย่างนั้น “มันเหมือนกับว่าตัวผมที่ผมเคยรู้จักหายไป และเกิดเป็นผมคนใหม่ขึ้นมา ผมรู้สึกตัวได้ว่าการหมดสติครั้งนี้ทำให้ผมเป็นเกย์” เบิร์ซกล่าว และหลังจากนั้น เขาก็ตัดสินใจลาออกจากงานธนาคารไปเป็นโลกช่างตัดผม ย้ายออกจากบ้านพ่อแม่และบอกเลิกกับแฟนสาวที่กำลังจะแต่งงานไปออกเดตกับผู้ชาย ฝ่ายแพทย์ก็ออกมาให้ความเห็นว่า ไม่เคยมีข้อมูลทางการแพทย์ใดๆ ที่ยืนยันว่าการเป็นลมจะเปลี่ยนผู้ชายทั้งแท่งให้กลายเป็นเกย์ไปได้!

     
        “ใครว่าผมกำลังช่วยตัวเอง ผมกำลังจินตนาการว่าเล่นดนตรีต่างหาก”
      เมลวิน เว็บบ์ โดนจับจากการที่เขาช่วยตัวเองบนรถไฟ เพราะมีผู้โดยสารสาวคนหนึ่งชี้เป้าว่าไอ้หนุ่มรายนี้หายใจฟืดฟาดขณะที่มือก็ล้วงเข้าไปขยุกขยิกอยู่ในเป้ากางเกง แต่เว็บบ์ไปแก้ตัวกับศาลว่าเขาไม่ได้ช่วยตัวเองเสียหน่อย ที่เขาทำก็แค่กำลังเล่นดนตรีในจินตนาการแค่นั้นเอง และที่สำคัญ ศาลก็เชื่อ!! เออ เอากับมัน!



     
        “ผมโดนไอ้ตีโตข่มขืน”
      จีน มอร์รีลล์ ชาวอเมริกัน โดนตัดสินจำคุกไปเหนาะๆ 20 ปีจากการกระทำอนาจารเด็ก แต่ที่หน้าทนก็คือ เขาต่อสู้อุทธรณ์คดีด้วยการอ้างว่า นี่ไม่ใช่ความผิดของเขา เพราะการกระทำนี้ เป็นผลมาจากการที่เขาเคยถูกไอ้ตีโตปลุกปล้ำตั้งแต่สมัยที่เขายังเด็กๆ เนื่องจากมอร์รีลล์เชื่ออย่างเอาจริงเอาจังว่า เขาเคยโดนบิ๊กฟุตจับไปเป็นทาสสวาท ทนายของเขาขอร้องให้ศาลเมตตาและพิจารณาว่ามอร์รีลล์มีความผิดปกติด้านสุขภาพจิต ซึ่งแน่นอนว่าศาลไม่รับฟังและยืนยันโทษตามเดิม



     
        “ผมต้องแก้ผ้า เพราะนี่มันวันตรงข้าม”
      เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ตำรวจรัฐอินเดียนาทำการจับกุมตัวเลโอนาร์ด โฟเดอร่า วัยรุ่นท้องถิ่นในข้อหาที่อยู่ๆ ก็เดินแก้ผ้าไปตามถนน ที่ฮาก็คือ เมื่อตำรวจสอบถามว่า ทำไมเขาถึงแก้ผ้าแก้ผ่อนเดินร่อนไปทั่วเมืองเช่นนี้ ไอ้หนุ่มก็ตอบหน้าตาเฉยว่า “นี่มันวันตรงข้ามนะครับ” ซึ่งไอ้วันตรงข้ามที่เขาว่าก็คือวันที่ 5 กุมภาพันธ์ของทุกปีที่ใครพูดอะไรแล้วจะมีความหมายตรงกันข้ามคล้ายวันเอพริลฟูลส์อะไรอย่างนั้น พอตำรวจได้ยินแบบนี้ เขาก็เลยตอบกลับไปว่า “โอเค งั้นคุณก็จะไม่โดนจับในข้อหาทำอนาจารในที่สาธารณะ”



     
        “ผมไม่ได้เมาเหล้า แต่ผมเมารัก”
      ยุคหนึ่งนั้น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ถือเป็นดาวสภาฯ คนหนึ่ง แต่เหมือนว่าในการประชุมสภาฯ ครั้งหนึ่ง ดาวสภาฯ ผู้นี้ไปรับประทานอะไรมาไม่ทราบ เพราะอยู่ๆ ก็เข้ามาประท้วงการประชุมที่กำลังไปได้ดีจนสภาฯ ปั่นป่วนไปหมด นักการเมืองหญิงจากพรรคฝ่ายค้านทนไม่ไหวเลยยกมือบอกท่านประธานที่เคารพว่าให้เอาตัวท่านเฉลิมไปตรวจแอลกอฮอล์ซะหน่อย เพราะท่าทางเหมือนคนเมา พอท่านเฉลิมโดนกล่าวหาแบบนั้น ก็ตอบถึงข้อสงสัยด้วยการสับขาหลอกบอกมาอย่างเป็นนามธรรมว่า “อย่าเข้าใจผิด ผมไม่ได้เมาเหล้า แต่ผมเมารัก” อืมมม...เชื่อดีป่ะ?
     



        “ผมไม่ผ่านตรวจโด๊ป เพราะผมหม่ำของเมีย”
      ข้อเท็จจริงทางวิชาการบอกว่า ร่างกายของผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์จะผลิตสารนันโดรโลน ซึ่งเป็นสารที่กระตุ้นให้กล้ามเนื้อเติบโตและทำให้ร่างกายผลิตเม็ดเลือดแดงมากกว่าปกติ ดังนั้น เมื่อ แดเนียล พลาซา นักกีฬาเดินทานกีฬาโอลิมปิกชาวสเปนโดนจับโด๊ป เขาก็เลยนำข้อมูลนี้มาอ้างว่าเขาไม่ได้บริโภคสารกระตุ้นใดๆ เลย แต่ที่การตรวจโด๊ปมีผลเป็นบวกก็เพราะคืนก่อนหน้านี้ เขาได้ทำออรัลเซ็ซ์ให้กับภรรยาที่กำลังตั้งท้องเป็นเวลานานมาก เลยอาจจะติดสารนันโดรโลนนี่มาจากอวัยวะของภรรยา แต่ข้ออ้างนี้คงจั๊กจี้เกินไป สุดท้าย เขาเลยโดนตัดสินแบนยาวๆ ไป 2 ปี แต่ภายหลัง มีการกลับคำตัดสินโดยบอกว่า ข้ออ้างนี้ก็พอฟังได้เหมือนกัน!!
     



        “นมหนูใหญ่ค่ะ หนูไม่ได้ตั้งใจทำลายทรัพย์สิน”
      เหมือนว่านางแบบสาวชาวญี่ปุ่น เซเรน่า โคซากุระ จะปรี๊ดแตกเกินไปหน่อยจากการอาละวาดที่แฟนเก่าของเธอมีกิ๊ก จนทำให้เธอบันดาลโทสะโดยการเตะประตูบ้านเขาจนเป็นรูเบ้อเริ่มเทิ่ม และเขาก็แจ้งความเอาเรื่องเอาราวกับเธอ จนกระทั่งศาลตัดสินว่าเธอผิดจริงในข้อหาทำลายทรัพย์สินของคนอื่น แต่เธอสู้คดีโดนการบอกว่าเธอไม่ได้ตั้งใจทำให้ประตูบ้านของเขาเสียหาย แต่หน้าอกของเธอใหญ่เกินไปเลยไปโดนประตูพังโดยไม่ได้เจตนา ไม่น่าเชื่อว่าศาลก็บ้าจี้พอจะกลับคำตัดสินให้ด้วย พับผ่าสิ! หน้าอกใหญ่มันดีอย่างนี้นี่เอง




        “ผมมีเมียสองคน อย่ายึดใบขับขี่ของผมเลยนะ”
      นายโมฮัมเหม็ด อันวาร์ ชายชาวสกอตแลนด์ ถูกจับเนื่องจากขับรถเร็วเกินกำหนด และโทษในกรณีนี้คือ การถอนใบขับขี่ แต่เขาหาทางออกโดยการอ้างว่าศาลจะถอนใบขับขี่ของเขาไม่ได้ เพราะมันจะทำให้เขาไม่สามารถเดินทางไปมาหาสู่ระหว่างภรรยา 2 คนได้โดยสะดวก ซึ่งจะทำให้ชีวิตคู่ (หรือจะเรียกว่า “ชีวิตคี่”?) ของเขามีปัญหา ส่วนทนายก็ย้ำประเด็นโดยการบอกว่าศาสนาอิสลามอนุญาตให้มีเมียได้ถึง 4 คน แต่ต้องสลับกันอยู่คนละวัน ฟังดังนี้แล้ว สุดท้าย ศาลปรานีตามคำขอจึงลดโทษให้เหลือแค่ปรับ เพื่อเขาจะได้ขับรถไปหาเมียได้สบายๆ ต่อไป
     



        “ก็คนมันปวดอ่ะ ให้ทำไง”
      เมื่อปีที่แล้ว ตำรวจรัฐแมรีแลนด์โดนประชาชนเรียกร้องเข้ามาอย่างหนักว่า ตื่นเช้ามาต้องเจออุจจาระคนสดๆ กองอยู่บนสนามหญ้าหน้าบ้านทุกวัน สุดท้ายตำรวจก็จัดการปลดทุกข์ชาวบ้านด้วยการจับคนที่ปลดทุกข์เรี่ยราดได้ โดยนายคนนี้มีชื่อว่า เคลลี เออร์วิน วัย 48 ปี จากการสอบสวน นายเออร์วินบอกว่าเรื่องนี้ก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน ก็แค่เขาเป็นคนที่วิ่งจ็อกกิ้งทุกเช้า และมักจะปวดอุจจาระเสมอๆ เวลาที่วิ่งไปได้ประมาณ 3 กิโลเมตร เพราะฉะนั้น พอ 3 กิโลฯ เมื่อไหร่ เขาก็จะจัดการปล่อยตรงนั้นแล้วก็วิ่งต่อไป ตำรวจเห็นว่าไม่ได้เป็นเรื่องร้ายแรงอะไร เลยปล่อยตัวไป แต่เตือนว่าอย่าไปขี้หน้าบ้านใครอีกเท่านั้น
     



        “พวกเราไม่ได้ใช้สเตียรอยด์ พวกเราโดนฟ้าผ่าพร้อมกันแค่นั้นเอง”
      นักฟุตบอลหญิงทีมชาติเกาหลีเหนือที่เข้าแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์โลก ดวงซวย โดนตรวจพบว่าใช้สารกระตุ้นพร้อมกัน 5 คน พวกเธออ้างว่าสารตัวนี้อาจมาจากต่อมอะไรสักอย่างของกวางที่มีสรรพคุณเป็นยาแผนโบราณของจีน และที่พวกเธอต้องใช้ยานี้เหมือนๆ กันก็เพราะว่าพวกเธอโดนฟ้าผ่ามาพร้อมๆ กัน ฟีฟ่าบอกว่าข้ออ้างนี้โคตรจะไร้สาระและจัดการลงโทษแบนทั้ง 5 คน 18 เดือน พร้อมห้ามลงแข่งขันในฟุตบอลโลกหญิงคราวต่อไปด้วย
     



        “ผมจูบสาวที่มีโคเคนเต็มปาก”
      ริชาร์ด กาสเกต์ นักเทนนิสมือ 18 ของโลก โดนตรวจพบโคเคนระหว่างการแข่งขันเทนนิสรายการหนึ่ง เขาละล่ำละลักบอกว่าชาตินี้ไม่เคยไปแตะโคเคนเลย แต่อาจเป็นผลมาจากการที่เขาไปเที่ยวผับแล้วจูบกับสาวที่เล่นโคเคนคนหนึ่งเข้า ประเด็นก็คือมันจูบกันยังไงถึงได้กลืนโคเคนเข้าไปมากขนาดนั้น แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ ผู้จัดการแข่งขันเชื่อซะด้วย เขาก็เลยรอดตัวไป!!
     



        “คุณตำรวจ จับฉันข้อหาเมาแล้วขับไม่ได้นะคะ เพราะว่าฉันเจาะลิ้นค่ะ”
      กฎหมายของรัฐอินเดียนาบอกว่า ก่อนจะเป่าแอลกอฮอล์ ต้องห้ามเอาอะไรใส่ปากเป็นเวลา 20 นาที เพราะมันอาจทำให้ผลการทดสอบผิดพลาดได้ ดังนั้น พอตอนที่ “เบรนน่า กาย” สาวอเมริกันโดนจับข้อหาเมาแล้วขับ เนื่องจากเป่าแอลกอฮอล์แล้วพบมีปริมาณแอลกอฮอล์เกินขนาด เธอจึงโต้กับศาลว่าไม่สามารถเอาผลการเป่ามาเป็นหลักฐาน เพราะเธอมีวัตถุแปลกปลอมอยู่ในปาก ซึ่งก็คือหมุดเหล็กที่ฝังอยู่ในลิ้นนั่นเอง แน่นอนว่า คำอ้างนี้โดนศาลตีตกไปอย่างไม่มีชิ้นดี
     



        “บีบคอที่ไหน เขาตรวจชีพจรกันต่างหาก”
      เหตุการณ์วุ่นวายนี้เพิ่งผ่านไปไม่นาน เรื่องก็คือสภาไทยที่เละเป็นโจ๊กขึ้นทุกวัน โดยขณะเกิดเหตุ ส.ส.จากพรรคประชาธิปัตย์เฮละโลออกมาแสดงความไม่พอใจท่านประธานที่หน้าบัลลังก์ เหตุการณ์เหมือนจะบานปลาย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ เลยออกมาแจมโดยการถ่ายรูปเตรียมไปประจานลงเว็บเต็มที่ จังหวะนั้น นายธานี เทือกสุบรรณ เห็น เลยตรงเข้าไปคว้าคอในลักษณะบีบกระเดือกพิฆาต จากนั้นก็มีคนเข้ามาแยกทั้งคู่ออกไป วันรุ่งขึ้น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ พี่ชายของนายธานีออกมาลดดีกรีความขัดแย้ง โดยบอกว่า นายธานีไมได้บีบคออะไร แค่เห็นว่านายจิรายุไม่ค่อยสบาย เลยอาสาตรวจชีพจรให้ ก็เท่านั้นเอง อืมม..มีเหตุผล (เหรอ!)
     



        “หนูเฉาะแล้ว หนูติดคุกไม่ได้นะคะ”
      น้องหนูรายหนึ่งรอดคุกมาได้อย่างหวุดหวิดจากคดีทำร้ายร่างกาย ขับรถโดยประมาท และจงใจทำลายทรัพย์สิน เพราะความเป็นสตรีข้ามเพศของเธอแท้ๆ ทีเดียว โดยทางศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า ถ้าเกิดส่งเธอไปเข้าคุก เธอก็จะเป็นดาวที่โดนผู้ต้องขังชายรายอื่นรุมทึ้งด้วยความหื่นกระหายไม่มีชิ้นดี ว่าแล้ว ศาลก็เลยปรานีลดโทษให้จากการจำคุกเป็นรอลงอาญา 15 เดือน กล่าวได้ว่านี่คือประโยชน์ของการเฉาะโดยแท้





---------
Thanks;www.manager.co.th
แก้ไขล่าสุด 25 มี.ค. 56 13:25 | เลขไอพี : ไม่แสดง

มุมสมาชิก กระทู้ล่าสุดโดย `โพรีโอติกซ์.

แสดงกระทู้ล่าสุดโดยเปิด มุมสมาชิก และเลือกแสดงกระทู้ที่ตั้ง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | seijuurouinํg. | 25 มี.ค. 56 13:42 น.

เอ่อ ... แต่ละคน ซู๊ดยอดดด

ไอพี: ไม่แสดง

#2 | นางสาวแนนซี่แนน | 25 มี.ค. 56 14:18 น.

แต่ละอัน ... 

ไอพี: ไม่แสดง

#3 | `.h4NdS0ME | 25 มี.ค. 56 14:21 น.

เอิ่มมมมม

ไอพี: ไม่แสดง

#4 | `เอ็นเอบิลเออาเล็ก | 25 มี.ค. 56 14:30 น.

นายธานีไม่ได้บีบคออะไร แค่เห็นว่านายจิรายุไม่ค่อยสบาย เลยอาสาตรวจชีพจร(?)ให้ ก็เท่านั้นเอง
เอ่อ...ไม่ผิดสินะ


ดิท.แก้

แก้ไขล่าสุด 25 มี.ค. 56 14:31 | ไอพี: ไม่แสดง

#5 | vampire.ar | 25 มี.ค. 56 16:23 น.

แต่ล่ะอัน มีเหตุผลมากกกกกกก 

ไอพี: ไม่แสดง

#6 | โลกสีเทา | 25 มี.ค. 56 16:45 น.

อ่านแล้วฮาดี 

ไอพี: ไม่แสดง

#8 | กัปตันเเจ็ค | 25 มี.ค. 56 17:53 น.

เอ่อออ...เหตุผลเกือบฟังไม่ขึ้น

ไอพี: ไม่แสดง

#9 | ~[หมาป่ากับกระต่าย]~ | 26 มี.ค. 56 09:35 น.

บางคนก็รอดเนอะ 555555555+

ไอพี: ไม่แสดง

#10 | pkbOO | 5 เม.ย. 56 19:15 น.

ไอพี: ไม่แสดง

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google