คฤหาสน์สีเลือด ep.14 (ผู้หญิงในรูปภาพ)

28 มี.ค. 56 12:38 น. / ดู 2,821 ครั้ง / 34 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์
  ทั้งสองสาวสวยและวิคตอเรียรีบวิ่งออกมาจากห้องนั้น และมุ่งหน้าไปหาเหล่าพวกพ้องที่หวังว่ายังมีชีวิตรอดอยู่ในคฤหาสน์นี้...แต่ทว่าไปได้ไม่ไกลเธอก็ต้องโดนขัดขวางจากศัตรูคู่อาฆาต



โอลีฟ : สวัสดีค่ะ..ที่รัก
วิคตอเรีย : หึหึ...ไม่เคยหนีหล่อนพ้นเลยให้ตายสิ
โอลีฟ : ก็ความแค้นมังฝังใจ..ทำไงได้ละ ฮ่าๆๆๆ
สวย : แล้วคิดว่าพวกฉันจะอยู่เฉยๆ ให้หล่อนระบายความแค้นหรอฝันไปเถอะ

  ทั้งสองสาววิ่งหนีไปทันใด พวกเค้าวิ่งไปพร้อมกันทางเดียวกัน....เหมือนมีแผนอะไรบางอย่างอยู่...

สวย : รู้ใช่ไหม..ต้องทำยังไง
วิคตอเรีย : อืม....ฉันรู้น่า
โอลีฟ : อิขี้ขลาดหยุดเดียวนี้นะ

  ทั้งสองสาววิ่งมาหยุดที่ห้องนึง..เพราะพวกเธอวิ่งมาเหนื่อยกันมากแล้วในเวลาไม่นานโอลีฟก็ตามมาทัน เธอยิ้มแสยะใส่ทั้งสองสาว และเอามีดที่ถืออยู่พุ่งเข้าใส่อย่างไม่รอช้า....สวยจึงรับมีดนั้นไว้ด้วยมือเปล่า



โอลีฟ : มนุษย์อย่างแกหรือจะมาต้านทานเรี่ยวแรงฉันได้ ฝันไปเถอะ
สวย : หึหึ...แกจับมีดได้แบบนี้แปลว่า แกมีเลือดเนื้อสินะ
โอลีฟ : มีแล้วไงย่ะ ต่อให้แกสร้างบาดแผลให้ฉันได้ยังไงฉันก็ไม่เจ็บไม่ตาย
สวย : พวกฉันหมายถึงว่า แปลว่าพวกฉันแตะตัวแกได้สินะ...

  เมื่อสิ้นเสียงนั้น วิคตอเรียได้วิ่งมาและเตะไปที่ท้องของโอลีฟอย่างจัง จนเธอกระเด้นเข้าไปในห้องนึง...เมื่อเข้ามาในห้องนั้น..โอลีฟมีอาการแปลกๆขึ้นมาทันที

โอลีฟ : อะไรน่ะ...เรี่ยวแรง...ไปไหนหมด
วิคตอเรีย : หล่อนมองรอบห้องดีๆสิ
โอลีฟ : กริ๊ดดดด นี่มันห้องที่ขังแพนโดร่านี่...ช่วยด้วย เอาฉันอกไป...ฉันไม่อยากโดนปิดผนึกอยูี่ในนี้..ไม่เอา
วิคตอเรีย : สายไปแล้วย่ะ
สวย : กู๊ดบาย....ที่รัก

  และแล้วทั้งสองสาวก็ปิดประตูห้องนั้น ปิดผนึกโอลีฟไว้ไม่ให้ออกมาทำร้ายใครในคฤหาสน์ได้อีกต่อไป

  ทางด้านห้องโถงคฤหาสน์



  หญิงสาวคนนึงได้นอนจมกองเลือดอยู่ เธอค่อยๆคลานช้าๆไปจับชายกระโปรงผู้หญิง..แต่ทว่ากับโดนผู้หญิงคนนั้นเตะออกมา

อลิซาเบธ : ปล่อยฉัน ยัยหมูโสโครก
FERRIS : แกปล่อยCholeนะ
อลิซาเบธ : ยัยนี่ฉันฆ่ามันไม่ตายสักที คราวนี้แหละฉันจะฆ่ามันให้ได้ ฉันจะเอามันไปห้องทรมาน แน่จริงก็ตามมาเอาไปสิ ฮ่าๆๆๆ
FERRIS : แกยัยปิศาจร้าย
อลิซาเบธ : แต่เธอควรเอาตัวเองให้รอดจากที่นี่ก่อนนะ

  และแล้วปิศาจร้ายในคราบผู้ดีก็เดินไปห้องนึง เธอไปเปิดประตูห้องนั้นออกแล้วเธอก็รีบเดินหายไปในชั้นใต้ดินทันที.....โดยที่มีบางอย่างกำลังออกมาจากห้องนั้น



FERRIS : ซะ ซะ ซอมบี้ ไม่นะ อย่า !!!

  ทางด้านนึงคฤหาสน์



  หญิงสาวคนนึงได้ล้มลงไปนอนกองกับเลือดที่ไหลลงมานับไม่ถ้วน

Vince : เฮเลนนนน

  และแล้วVinceก็เข้าไปอุ้มตัวเฮเลนออกมาทันที และตะโกนถามหาเหตุผลที่สเปนเซอร์ทำเรื่องเลวร้ายแบบนี้ทันที

Vince : ทำไมแกต้องทำแบบนี้ !!!
สเปนเซอร์ : ก็เพื่อความสุขของคนที่ฉันรักไง
เอลล่า : แล้วคนอื่นจะเป็นยังไงไม่สนเลยหรอ
สเปนเซอร์ : ข้าไม่สนอะไรทั้งนั้น ข้ายอมทำทุกอย่างเพื่อเธอ

  สเปนเซอร์หันหน้ากลับไปร้องไห้ต่อหน้ารูปถ่ายผู้หญิงคนนึงที่สวยสง่ามาก



Vince : ผู้หญิงในรูปถ่าย...นั้นมันผู้หญิงคนนั้นนี่
สเปนเซอร์ : แกเคยเหนนางหรอ
Vince : ฉันเคยเจอผู้หญิงคนนั้นมาครั้งนึง แกจะทำไม
สเปนเซอร์ : โอ้ววว ขอบคุณพระเจ้า ที่ให้วิญญาณเธอได้กลับมาคฤหาสน์แล้ว ยังงี้ต้องรีบฆ๋าพวกแกแล้ว ฮ่าๆๆๆๆๆ
เอลล่า : แกมันชั่ว แกมันเห็นแก่ตัว ฉันไม่ยอมให้แกฆ่าหรอก
สเปนเซอร์ : แกจะยอมหรือไม่ฉันไม่สน มดปลวกอย่างแกไม่มีสิทธิ์ขัดขืน

  และแล้วVinceก็พุ่งไปหาสเปนเซอร์ทันทีด้วยความโกรธ โดยที่มีเสียงเพื่อนคอยเตือนอยู่ข้างหลัง

เอลล่า : อย่านะ มันอันตราย กลับมา
มิสะ : อย่านะ.....Vince....เธ...อ...ฆ่า....มัน...ไม่...ได้หร...อก....หยุด...นะ

  แต่ทว่าเค้าไม่สนใจวิ่งไปหา สเปนเซอร์เราเอามีดแทงไปที่ท้องมัน..แตท่วามันไม่เป็นอะไรเลย

Vince : นี่มันอะไรกัน....ทำไม
เฮเลน : มัน...มันเป็น....อมตะ..เมื่...อกี้...ฉัน...แทงมัน.....เหมือน...นาย....แต่มั...น..ไม่มีเลือด...มันไ...หล...ออก....มาเลย
สเปนเซอร์ : รู้แล้วก็ยอมตายซะเถอะ ฮ่าๆๆๆ

  ทางด้านคุกใต้ดิน

  Choleได้ตื่นมาจากการนินทราพบตัวเองได้กลับมาห้องที่มอบฝันร้ายให้เธออีกครั้ง เธอกรี้ดร้องอย่างตกใจกลัวและร้องขอให้คนช่วย

Chole : ช่วยฉันด้วยยยยยยยยย

  คฤหาสน์สีเลือดใกล้มาถึงจุดจบแล้ว พวกเค้าจะรอดออกจากที่นี่ได้ไหม หรือเหล่าวิญญาณร้ายจะเป็นผู้ชนะ รอติดตามชมกันต่อไป

- - - - - - - - - - - - - - - - -
ชี้แจง
1.เม้นแสดงบทบาทพร้อมรูปหรือกิ๊ฟ1รูป
2.ตอบคำถามหรือมิชชั่นพิเศษด้วย
3.ขอให้แสดงตัวตนและตอบคำถามก่อนเวลา 12.00 วันที่ 29/03/56
4.คนที่ตอบคำถามไม่ได้กับคะแนนต่ำจะมีสิทธิ์ตายในเกมส์นี้
- - - - - - - - - - - - - - - - -

- - - - - - - - - - - - - - - - -
มิชชั่นพิเศษ
จงหาข้อมูลผีมาคนละ1ชนิด ใครไม่หาโดนตัดคะแนน ห้ามหาซ้ำชนิดกัน
- - - - - - - - - - - - - - - - -


ตอนเก่า
คฤหาสน์สีเลือด ep.13 (เลือดเปรอะเปื้อน)
http://sz4m.com/b3615834
คฤหาสน์สีเลือด ep.12 (ผู้นำ)
http://sz4m.com/b3614291
คฤหาสน์สีเลือด ep.11 (รหัสผ่าน)
http://sz4m.com/b3612963
คฤหาสน์สีเลือด ep.10 (โต้กลับ)
http://sz4m.com/b3609927
คฤหาสน์สีเลือด ep.9 (ผู้ชโลมเลือด)
http://sz4m.com/b3608625
คฤหาสน์สีเลือด ep.8 (แพนโดร่า)
http://sz4m.com/b3606901
คฤหาสน์สีเลือด ep.7 (ผู้หญิงที่แสนน่ากลัวทั้ง2คน)
http://sz4m.com/b3605491
คฤหาสน์สีเลือด ep.6 (ฆ่าเธอซะ !!!)
http://sz4m.com/b3604002
คฤหาสน์สีเลือด ep.5 (วิญญาณบริสุทธิ์)
http://sz4m.com/b3602416
คฤหาสน์สีเลือด ep.4 (ผู้ชายในรูปถ่าย)
http://sz4m.com/b3599854
คฤหาสน์สีเลือด ep.3 (เหยื่อสังเวยคนที่1)
http://sz4m.com/b3598575
คฤหาสน์สีเลือด ep.2 (เลือดสกปรก)
http://sz4m.com/b3597070
คฤหาสน์สีเลือด ep.1 (ทางเลือกของชีวิต)
http://sz4m.com/b3595901
แก้ไขล่าสุด 28 มี.ค. 56 20:40 | เลขไอพี : ไม่แสดง

มุมสมาชิก กระทู้ล่าสุดโดย AugusTine!!!

แสดงกระทู้ล่าสุดโดยเปิด มุมสมาชิก และเลือกแสดงกระทู้ที่ตั้ง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | บริททานี่ | 28 มี.ค. 56 12:49 น.

ขขขขขขขขข,,,,,,,fffffaaaaaaaaggggjjjjaมาราย

ดดดดดดดดddddddตั้งแต่ดุ อิผีเด็กนี่น่ารำคาญเห็นน่าแล้วอยากตบมีการแลบลิ้นด้วยกริสสสสสสฉันเกลียดมัน



ไอพี: ไม่แสดง

#2 | FaTtY..Emily | 28 มี.ค. 56 13:25 น.

เอลล่า
ผีกระสือ


กระสือเป็นผีชนิดหนึ่ง เชื่อกันว่าสิงสู่อยู่ในตัวของคนเพศหญิงซึ่งโดยมากมักเป็นยายแก่ ชอบรับประทานของสดคาว มักออกหากินกลางคืนและไปแต่หัวกับตับไตไส้พุง ส่วนร่างกายคงทิ้งไว้ที่บ้าน เวลาไปจะเห็นเป็นดวงไฟดวงโตมีแสงสีเขียวเรืองวาม ๆ

ใครคลอดลูกใหม่ กลิ่นสดคาวของเลือดจะชักนำให้ผีกระสือมาและเข้าสิงกินตับไตไส้พุงของหญิงที่คลอดลูกหรือของทารกที่คลอดนั้น เหตุนี้ชาวบ้านจึงมักเอาหนามพุทราสะไว้ที่ใต้ถุนเรือนตรงที่มีร่องมีรู เพื่อป้องกันมิให้กระสือเข้ามา เชื่อกันว่ากระสือกลัวหนามเกี่ยวไส้

นอกจากของสดของคาวแล้ว กระสือยังชอบรับประทานของโสโครกเช่นอุจจาระเป็นต้น เมื่อรับประทานแล้วเห็นผ้าของใครตากทิ้งค้างคืนไว้ก็เข้าไปเช็ดปาก ผ้านั้นจะปรากฏเป็นรอยเปื้อนดวง ๆ ถ้าเอาผ้านั้นไปต้มกระสือจะรู้สึกปวดแสบปวดร้อนปากทนไม่ไหวจนต้องมาขอร้องไม่ให้ต้มต่อไป

กระสือนั้นเมื่อเจ็บจวนจะตายก็ไม่ตายง่าย ๆ ต้องคายน้ำลายของตนถ่ายเข้าปากลูกหลานคนใดคนหนึ่งไว้ให้สืบทายาทเป็นกระสือต่อก่อน ตนจึงจะตายได้โดยไม่ต้องทุกข์ทรมานอีกต่อไป

การปราบกระสือนั้น ไม่สามารถไล่ผีที่มาสิงสู่ออกจากร่างเหยื่อได้ ว่ากันว่าวิญญาณนั้นได้หยั่งลึกลงในใจของคน ๆ นั้นแล้ว ฉะนั้น การปราบกระสือก็เท่ากับต้องฆ่าคน ๆ นั้นไปเลย

ไอพี: ไม่แสดง

#3 | น้องโพ | 28 มี.ค. 56 13:33 น.

สวย
ผิดมั้ยค้ะที่สวยอ่านคำว่าแลบลิ้นของป้ามารายรีบนเป็นแลกลิ้น กรี๊ดดด
สวยไม่หื่นนะคะ สวยเป็นคนสวยงาม สวยสง่าและเริ่ดมาก




และก็อยากจะขำให้ฟันร่วงหมดปากมากเลยข่ะ
ในที่สุดอิผีโอลีฟ อิผีหยาบคายที่โผล่ออกมาทีก็หยาบคายที (อย่างนี้สวยรับไม่ได้)
ก็ไปๆ ได้สักที กรั่กๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

คราวนี้ชั้นจะไม่โง่ขนาดไปปล่อยหร่อนออกมาแล้วล่ะข่ะ
ก็อยู่ในนั้นด่าตัวเองไปแล้วกันนะค้ะ อิผี** กรั่กๆๆๆๆๆ
สวยสะใจมากเลยข่ะ




เราจะต้องได้ออกจากคฤหาสน์ไปด้วยกันน้ะค้ะวิค สู้ข่ะ!!

แก้ไขล่าสุด 28 มี.ค. 56 13:34 | ไอพี: ไม่แสดง

#4 | FaTtY..Emily | 28 มี.ค. 56 13:36 น.

เอลล่า



ไม่นะทุกคน ชั้นไม่อยากเห็นใครตายแล้วนะ สวยกับวิคตอเรียพวกเธอต้องรีบมาช่วยพวกเรานะ ให้ตายเถอะ!นี่ชั้นกำลังเจอเรื่องบ้าอะไรอยู่

แก้ไขล่าสุด 28 มี.ค. 56 13:37 | ไอพี: ไม่แสดง

#5 | AugusTine!!! | 28 มี.ค. 56 14:05 น.

#4
ทีมเอลล่าอยู่ในวิกฤติระวังตายทั้งทีมนะ กรั่กๆ 

ไอพี: ไม่แสดง

#6 | เด็กเลี้ยงช้าง><' | 28 มี.ค. 56 14:11 น.

FERRIS
มิชชันพิเศษ สาวปากฉีก

ตำนานสาวปากฉีกกลับมาเป็นที่ร่ำลือกันอีกครั้งในต้นพุทธทศวรรษที่ 2500 ว่ากันว่า เด็กบางคนเมื่อเดินอยู่ลำพังในยามวิกาลอาจพบหญิงสาวคนหนึ่งสวมหน้ากากอนามัย ซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันอยู่ในประเทศญี่ปุ่นเพื่อป้องกันมิให้คนอื่นติดโรคของตัวไปด้วยเป็นต้น ครั้นแล้ว หญิงนั้นจะหยุดเดินและถามเด็กว่า "ฉันสวยไหม" ถ้าเด็กบอกปัด หญิงนั้นจะล้วงกรรไกรออกมาตัดปากเด็กจนถึงแก่ความตาย ถ้าเด็กตอบรับ หญิงนั้นจะปลดหน้ากากอนามัยออก และยิ้มให้เด็กชมดู เผยให้เห็นปากที่ถูกแหวะจนถึงใบหูมีโลหิตท่วม ซึ่งเรียก "รอยยิ้มแบบแกล็สโกว" (Glasgow smile) แล้วถามเด็กนั้นอีกว่า "แล้วตอนนี้ฉันสวยไหม" ถ้าเด็กว่าไม่ หญิงนั้นจะล้วงกรรโกรมาตัดกายเด็กเป็นสองท่อน ถ้าว่าใช่ หญิงนั้นจะมอบความสวยงามให้แก่เด็กนั้นบ้างโดยเอากรรไกรตัดปากเด็กจนถึงใบหูเสีย เด็กหาอาจวิ่งหนีหญิงคนนั้นพ้นไม่ เพราะหญิงสาวจะปรากฏต่อเด็กอีกจนกว่าจะได้ประทุษร้ายเด็กนั้น
ครั้นบอกเล่ากันไปมาก็กลายเป็นมีวิธีหนีหญิงนั้นได้ขึ้นมา โดยถ้าหญิงนั้นถามว่าสวยไหม ก็ให้ตอบว่าน่ารักสองครั้งติด ๆ กัน หญิงนั้นก็จะสับสนฉงนใจอยู่ ก็ให้อาศัยจังหวะหนีไป ปล่อยให้หญิงร้ายครุ่นคิดอยู่หาคำตอบมิได้อย่างนั้น บางกระแสก็ว่า ให้ตอบ "ก็พอดูชม" หรือให้ถามกลับไปว่า "แล้วฉันล่ะน่ารักไหม" หญิงนั้นก็จะได้งงงวยเช่นกัน ที่ให้ตอบว่า "ฉันกำลังหมั้นหมายอยู่" ก็มี ตอบเช่นนั้นแล้วหญิงร้ายจะขอให้อภัยต่อการกระทำของนางและขอตัวจากไป และที่ว่า ขณะที่ถูกหญิงนั้นไล่ล่า ก็ให้โยนส้มสูกลูกไม้หรือโปรยลูกอมขนมหวานไป หญิงจะหันไปเก็บของเหล่านั้น เปิดโอกาสให้หนีพ้นไปได้ก็มี

//ซอมบี้งั้นเหรอ สู้ตายยยย

แก้ไขล่าสุด 28 มี.ค. 56 14:17 | ไอพี: ไม่แสดง

#7 | -VivaLaVida. | 28 มี.ค. 56 14:51 น.

วิคตอเรีย

ถ่อเอ้ย ในที่สุดฉันกับสวยก็ชนะแกได้อิดวกส์โอลีฟ ไปๆไปลงนรกซะเถิด กรักๆๆๆๆๆ


โถ่เอลล่า ทีมเธออยู่ในอันตรายมากๆเลยหละ


มิชชั่นพิเศษ


เมื่อในสมัยโบราณชาวบ้านมักเล่าลือถึงความน่ากลัวของ มุจินะหรือปิศาจไม่มีหน้าแห่งเนินคะอุโนะคุนิซากะ ว่าเที่ยวหลอกหลอนผู้คนทั้งคืนจนไม่มีใครกล้าใช้ผ่าน ทาง เนินที่ว่านี้อยู่ในจังหวัดอิวาเตะสมัยก่อนที่นั่นเป ็นไร่นาไม่มีแสงไฟส่องถึง เนินทอดตัวยาวไปตลอดสุดทาง ด้านขวาเป็นกำแพงวังจักรพรรด ด้านซ้ายเป็นแม่น้ำและมีไร่นา
ยามดึกคืนหนึ่งมีชายคนหนึ่งมุ่งหน้าเข้าเมือง เขาเร่งรีบและจำเป็นต้องผ่านเนินนั้นอย่างเลี่ยงไม่ไ ด้ เรื่องผีไม่มีหน้าเขาก็เคยได้ยินมา แต่เขาไม่ปักใจเรื่องเหนือธรรมชาติมาช้านาน ระหว่างที่ผ่านเนินนั้นอากาศยามค่ำคืนค่อนค่างหนาว เสียงจั๊กจั่นร้องระงม มองไปด้านข้างมีแต่ไร่นา เสียงลมพัดต้นหลิวดัง ฟู่ ฟู่ เป็นระยะ ในใจเขาคิดจะรีบผ่านไปให้เร็วที่สุด แต่แล้วเขาก็หยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงนวญอนงค์คร่ำค รวญบอบบาง เขาพบหญิงสาวใส่เสื้อผ้าชั้นดีมีปิ่นปักผมรัดเกล้าท่ าทางเหมือนจะเป็นคนในตระกูลขุนนางกำลังนั่งหันหลังร้ องไห้ปิดหน้าปิดตา เขาสงสารเกรงว่าเธอจะคิดสั้นกระโดดน้ำตายเลยเดินเขาไ ปหวังจะปลอบใจ แม่นาง แม่นาง มีอะไรให้ข้าช่วยใหม... นางผู้นั้นไม่ตอบกลับก้มหน้าร้องไห้ท่าเดียว เขาเลยตัดสินใจเดินเข้าไปไกล้ๆและพูดกล่อมเบาๆว่า "แม่นาง นี่ดึกแล้วที่นี่ก็น่ากลัวด้วย ท่านอย่ามาอยู่เพียงลำพังเลยนะ มันอันตราย ไหน หันหน้ามาหาข้าสิแล้วข้าจะพาท่านไปส่งเอง" หญิงผู้นั้นหยุดร้องไห้แล้วเงียบชะงักเหมือนจะเข้าใจ ที่เขาพูด "หันมาสิคนดี มากับข้าเถิด" ชายคนนั้นพยายามปลอบอย่างเต็มที่ แต่แล้วเขาก็ต้องร้องเสียงหลงออกมาอย่างบ้าคลั่ง เมื่อหล่อนนั้นหันหน้ามา... เธอไม่มีหน้า ไม่มีปาก ไม่มีจมูก ใบหน้าเธอเกลี้ยงเกลาเหมือนไข่ !!! และนางกระโดดเข้ากอดเขาไว้แน่น ชายผู้นั้นตกใจแทบเสียสติผลักเธออกไป และวิ่งหนีสุดชีวิต เหลือบหลังไปดูเหมือนเธอจะวิ่งตามมา เขาเลยเร่งหนี แต่แล้วสักระยะก็หายไปในความมืด ชายผู้นั้นเดินหนีมาได้สักระยะก็เห็นแสงไฟสว่างตรงหน ้า นั่นคือรถเข็นร้านบะหมี่โซบะนั่นเอง เขาเลยวิ่งเข้าไปสงบจิตใจในแสงสว่าง เขาก้มหน้าก้มตาเหนื่อยหอบแฮกๆ คนขายบะหมี่เลยถามว่า "ท่านไปเจออะไรมาเหรอ ท่าทางเหมือนโดนพวกผีปิศาจหลอกมา" "ก็โดนจริงๆนะสิ" ชายผู้นั้นตอบเสียงหนัก "ผู้หญิงอะไรก็ไม่รู้ ไม่มีหน้า ไม่มีตา ไม่มีจมูกหรือปาก มันน่ากลัวอะไรอย่างนี้" และแล้วคนขายบะหมี่ก็บอกว่า "เขาทำหน้าอย่างนี้ใช่ไหม" ว่าแล้วเขาก็เอาแขนเสือลูบหน้าตนเองและแล้ว หน้าเขาก็หายวูบไปหมด ไม่มีหน้า ตา จมูก ปาก หน้าขาวเกลี้ยงเหมือนไข่ปลอก!!! เหวอ! ชายคนนั้นร้องลั่นแล้วเป็นลมหมดสติไปทันใด และแล้วแสงตะเกียงก็ดับวูบลง...
นี่เป็นเรื่องประหลาดที่เกิดขึ้นที่เนินคะอุโนะคุนิซ ากะมาช้านาน ตำนานเล่าว่าปิศาจตัวนี้จะออกมาหลอกหลอนคนที่เดินผ่า นทุกคืนตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน...



วิกกี้กับสวยจะต้องเป็นผู้ชนะข่ะ !!!!!!

แก้ไขล่าสุด 28 มี.ค. 56 15:06 | ไอพี: ไม่แสดง

#8 | AugusTine!!! | 28 มี.ค. 56 15:01 น.

#7
โอลีฟ : อย่าเข้าใจผิดไปค่ะที่โดนขังนั้นตัวปลอม ที่จริงฉันแฝงตัวเป็นเพื่อนหล่อนละรอแทงหล่อนอยู่ด้านหลังละนะ

แก้ไขล่าสุด 28 มี.ค. 56 15:02 | ไอพี: ไม่แสดง

#9 | -VivaLaVida. | 28 มี.ค. 56 15:07 น.

#8

อย่ามาทำตัวผลไม้สีแดงนะข่ะอิโอลีฟ

แก้ไขล่าสุด 28 มี.ค. 56 15:10 | ไอพี: ไม่แสดง

#10 | AugusTine!!! | 28 มี.ค. 56 15:19 น.

#9
พี่จะด่าหนูต้อลแหลใช่ไหม นู๋โกรธจริงๆนะคะ

//ทำหน้าขู่

ไอพี: ไม่แสดง

#11 | horimiya'm | 28 มี.ค. 56 15:37 น.

มิสะ
มิชชั่นพิเศษ


http://t2.gstatic.com/images?q=tbn:.........1G2Pwi1PrLoxCgp

ผีพราย
ผีพราย ส่วนใหญ่มีถิ่นที่อยู่อยู่ในน้ำมากกว่าบนบก เชื่อกันว่าเป็นจิตวิญญาณชนิดหนึ่งที่มีขนาดเล็กสุดตามลำดับของดวงจิตวิญญาณที่สามารถปรากฏให้รับรู้ได้ คือ พราย ภูติ ผี ปีศาจ ส่วนใหญ่มักมีที่มาจากการหมักหมมของซากพืชหรือสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก ๆ ดวงจิตวิญญาณนี้มักแสดงตนมีลักษณะเป็นผู้หญิงใส่เสื้อสีขาว เป็นดวงไฟเรืองแสง มักปรากฏตัวตอนเวลาหกโมงเช้า เที่ยงวัน หกโมงเย็น และเที่ยงคืน มักอยู่ในคลองหรือแม่น้ำที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด เมื่อจับเหยื่อได้จะเอาร่างเหยื่อที่ไร้วิญญาณเป็นร่างของตน
ผีพรายส่วนมากจึงมักปรากฏร่างเป็นผู้หญิง นางไม้ บางทีก็จัดเข้าพวกผีพรายได้เช่นกัน เช่น พรายตะเคียน พรายตานี เป็นต้น หรือแม้แต่ผีทะเลหรือผีน้ำก็จัดเป็นพรายด้วยเช่นกัน เช่น พรายทะเล พรายน้ำ แต่ว่าพรายน้ำที่เป็นฟองผุด ๆ ขึ้นจากน้ำนั้น เป็นคนละอย่างกัน
นอกจากนี้ ในเรื่องขุนช้างขุนแผนยังปรากฏผีพรายด้วย คือโหงพราย แต่ในเรื่องขุนช้างขุนแผน คาดว่าน่าจะเป็นผีผู้ชายมากกว่า




ลืมพิมพ์ค่ะ รีบไปหน่อย 
ฉันบทน้อยจังค่ะ ฉันกำลังจะตายแล้วใช่มั้ยยยยย//แดนซ์ให้กำลังใจตัวเอง

แก้ไขล่าสุด 28 มี.ค. 56 18:31 | ไอพี: ไม่แสดง

#12 | AugusTine!!! | 28 มี.ค. 56 15:40 น.

#11
ทำมิชชั้นอย่างเดียวไม่แสดงบทบาทโดนหักคะแนนนะครับ คุณพี่


แก้ไขล่าสุด 28 มี.ค. 56 15:40 | ไอพี: ไม่แสดง

#13 | น้องโพ | 28 มี.ค. 56 15:47 น.

สวย

มิชชั่นพิเศษ

หลังจากที่สวยได้เล่าเรื่องเทเคเทเคไปคราวที่แล้ว วันนี้สวยก็มาพร้อมกับตำนานผีญี่ปุ่นอีกเรื่องนึงนะค้ะ อิอิ เรื่องนี้บางคนก็อาจจะเคยได้ยินแล้ว บางคนก็อาจจะยังไม่เคยได้ยินน้ะค้ะ (ชั้นเชื่อว่าน่าจะได้ยินกันเยอะแล้ว) เรื่องนั้นก็คือ ตำนาน เสื้อคลุมแดง




ตามตำนานเก่าแก่ เสื้อคลุมแดงจะซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำห้องสุดท้ายของห้องน้ำหญิง และพอมีคนเข้าไปใช้ห้องน้ำ ก็จะมีเสียงปริศนาทักว่า คุณต้องการกระดาษสีแดงหรือสีฟ้า

ถ้าตอบว่าสีแดงน่ะเหรอ...ร่างของก็จะถูกหั่นออกจากกันจนเสื้อผ้าถูกย้อมด้วยสีแดงฉาน หรือบางตำนานก็เล่ากันมาว่า ลำคอจะถูกกรีดเป็นทางยาว หรือไม่ก็จะตัดหัวจนทำให้เลือดไหลอาบทั่วร่างและทำให้เหมือนใส่เสื้อคลุมแดงอยู่




ส่วนถ้าตอบว่าสีน้ำเงินเหรอ...ก็จะถูกบีบคอจนขาดอากาศหายใจ และร่างก็จะกลายเป็นสีน้ำเงินไงล่ะ

แต่ถ้าถามหาสีอื่น ที่ไม่ใช่สีแดงหรือสีน้ำเงิน...คิดว่าจะรอดหรือไง?...พื้นด้านล่างจะถูกเปิด และจะมีมือสีขาวซีดลากลงไปในนรกไง




อีกเรื่องนึงเป็นเรื่องเล่าในโรงเรียน...มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเข้าไปในห้องน้ำแล้วได้ยินเสียงผู้ชายดังออกมาจากห้องน้ำข้างๆ ของห้องเธอ ถามเธอว่า เธอจะใส่เสื้อสีแดงได้หรือไม่ เธอตกใจและรีบวิ่งหนีออกมาจากห้องน้ำทันที

หลังจากนั้นเธอก็นำไปบอกคุณครูและคุณครูก็โทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจ พอตำรวจมาถึง ซึ่งมีตำรวจชายและตำรวจหญิง เมื่อตำรวจหญิงเข้าไปในห้องน้ำ (ตำรวจชายรออยู่ข้างนอก) ก็มีเสียงถามเธอขึ้นมาแบบกระทันหันว่า เธอจะใส่เสื้อสีแดงได้หรือไม่ เมื่อเธอได้ยินก็เผลอตอบไปว่า ได้

...แล้วเป็นยังไงต่อน่ะหรือ




ตำรวจผู้ชายที่ฟังอยู่ด้านนอกก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของตำรวจผู้หญิงในห้องน้ำห้องนั้น ตำรวจชายได้ยินเสียงนั้น ก็ผลักประตูเข้าไปในห้องน้ำนั้นทันที เมื่อเข้าไปแล้วพบอะไรรู้มั้ย...

...พบร่างของตำรวจหญิงคนนั้นในสภาพไร้หัว และเลือดไหลอาบร่างจนเสื้อเปลี่ยนเป็นสีแดงเหมือนกับที่เธอตอบเสียงลึกลับนั้นไงล่ะ






.
.
.

//อ่านจบแล้วตัดเล็บกันมั้ย?










บ๊ายบาย

ไอพี: ไม่แสดง

#14 | AugusTine!!! | 28 มี.ค. 56 15:54 น.

#13
ลงแบบนี้หล่อนต้องการ The Winner เกมส์นี้ใช่ไหม

//ทำหน้าตกใจภาพที่มันลง

ไอพี: ไม่แสดง

#15 | น้องโพ | 28 มี.ค. 56 15:56 น.

สวย
#14 สวัสดีค่ะจขกท.
จขกท. จะให้แชมป์เราจริงเหรอค้ะ อิอิอิอิอิ
เราตกใจมากเลยนะ


แก้ไขล่าสุด 28 มี.ค. 56 15:58 | ไอพี: ไม่แสดง

#16 | AugusTine!!! | 28 มี.ค. 56 16:08 น.

#15
ไม่มีทางที่หล่อนจะชนะ กิ๊ฟนี้น่าจะเเอามาบายๆโอลีฟนะ กรั่กๆ

ผู้ชนะมี3รางวัล
1.คะแนนสูงสุด (ตอบถูกตลอด มิชชั่นพิเศษทำตลอด เม้นสมบทบาท ไม่เคยขาด)
2.ขวัญใจมหาชน (จะมีโพลในตอนจบให้โหวต)
3.ขวัญใจ จขกท. (แล้วแต่ดุจพินิจฉัน กรั่กๆ)

ไอพี: ไม่แสดง

#17 | คุริกิโกะกู้ว | 28 มี.ค. 56 16:18 น.

เฮเลน
นี่มันคือตัวอะไรกันแน่เนี่ย ทำไมถึงเป็นอมตะ



มิชชั่นพิเศษ
ผีทหารโบราณ ไทย-พม่า



เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปี ๒๕๔๐ ที่จังหวัดหนึ่งทางภาคกลางของประเทศไทยเรื่องก็มีอยู่ว่าวันนั้นได้เดินทางไปที่อำเภอหนึ่งในจังหวัดนั้นบังเอิญต้องเดินทางไปในตอนกลางคืน คือออกจากกรุงเทพประมาณ เกือบ ๒ ทุ่มแล้วไปถึงก็ประมาณ ๔ ทุ่มกว่า ไปที่บ้านของเพื่อนและพักอยู่ที่บ้านของเพื่อนบ้านของเพื่อนเป็นบ้านเรือนไม้
แต่ไม่ใช่เรือนไทย เป็นเรือนไม้ที่เห็นกันทั่วไปตามชนบท ก็สบายๆเพราะเป็นคนชอบอะไรที่เป็นแบบชนบทบ้านนอกอยู่แล้ว ก็ไม่มีอะไรอยู่ได้ ได้บรรยากาศไปอีกแบบก็ไม่คิดว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น อ่อ แต่จะว่าไม่คิดก็ไม่ได้ ก็คิดอยู่เหมือนกันแต่ไม่ได้หวั่นกลัวอะไร ไปถึงก็ทักทายญาติผู้ใหญ่ของเพื่อนจนสมควรแก่เวลา จึงแยกย้ายกันเพื่อทำกิจส่วนตัวและพักผ่อนนอนหลับในคืนนั้น เวลาก็ปาไปเกือบเที่ยงคืนหลังจากอาบน้ำเสร็จก็ไปกราบพระในห้องพระของบ้านเป็นการบอกกล่าวที่ทางเสียก่อนตามธรรมเนียมเพื่อความสบายใจ แล้วจึงเข้านอนก็นอนกันแบบง่ายๆคือทุกคนนอนด้วยกันบนบ้านคือมุ้งใครมุ้งมัน บ้านต่างจังหวัดอยู่กลางทุ่งนากลางดึกลมก็พัดค่อนข้างแรงเสียงลมพัดฝาบ้านดังเป็นระยะๆ เสียงเศษกิ่งไม้ใบไม้ตกกระทบหลังคาดังพอให้รู้สึกเหมือนมีอะไรมาเคาะหลังคาฟังแล้วก็ให้จินตนาการไปแต่สักพักก็ชินกับเสียงทั้งหลายแล้วก็หลับไป รู้สึกตัวอีกครั้งกลางดึกสงัดดูเวลาประมาณตี ๒ กว่าเห็นจะได้ รู้สึกว่าได้ยินเอะอะโวยวายดังมากเป็นเสียงของคนเยอะมากดังมาจากข้างนอกตัวบ้านอึกทึกครึกโครมดังกึกก้องเหมือนกำลังทำอะไรกันสักอย่างจากนั้นก็มีเสียงดังเหมือนโลหะกระทบกันดัง แกร็งๆๆ ดังมาจากหลายๆทิศทางมีเสียงร้องโหยหวล เสียงความเจ็บปวดปางตาย เสียงเหมือนโกรธแค้น หมายประหัดประหารกันให้ตายไปข้างหนึ่ง รุ้สึกว่ามึคนอยู่ที่นั่นเยอะมากเป็นร้อยเป็นพัน พอเริ่มตั้งใจฟังเสียงให้ชัดเจนมากขึ้นเริ่มจับใจความได้ว่า นั่นคือการรบกันในสงครามโบราณแน่ๆ ในขณะนั้นมองไปรอบตัวภายในบ้านยังเห็นทุกคนในบ้านนอนหลับสนิทไม่มีใครได้ยินอะไรเลย มีแต่ผู้เขียนเท่านั้นที่ได้ยินคนเดียว ขณะนั้นจึงกำหนดจิตเป็นสมาธิทั้งที่ยังนอนอยู่เพื่อดูให้แน่ใจว่ามันคืออะไรกันแน่ ภาพที่ปรากฏแก่สายในสมาธินั้น เป็นภาพของทหารโบราณ มีทั้งทหารไทยและทหารพม่ากำลังรบพุ่งกันอยู่ท่ามกลางสนามรบซึ่งบ้านหลังนี้ตั้งอยู่ตรงที่นั้นพอดี เห็นทหารกำลังรบกัน บ้างก็ถูกฟัน ถูกแทง ตายไปต่อหน้าต่อตา คนแล้วคนเล่า บางคนกำลังต่อสู้กันอยู่ตรงหน้าคร่อมตัวผู้เขียนอยู่ก็มี โดยไม่สนใจว่าผู้เขียนเห็นเขาอยู่ เลือดของคนที่โดนฟันยังสาดกระเซนมาตกใกล้ๆ ยิ่งกว่าในละครที่เคยดูเพราะมันเป็นของจริงที่ตายก็ตายจริง ที่แขนขาด ขาขาด ก็ขาดกันจริง ที่แผลเหวอะหวะก็ของจริง ที่คอขาดกระเด็นไปคนละทิศทางก็ของจริง นี่ถ้าเป็นคนขวัญอ่อนคงกลัวจนเป็นไข้หัวโกร๋นไปแล้ว หรืออาจอ๊วกแตกเพราะภาพน่าสยดสยองน่าสะอิดสะเอียนของการฆ่าฟันกันอย่างไม่มีความเมตตาปราณีต่อกัน ศพแล้วศพเล่าที่ตายไป จากสงครามแห่งเผ่าพันธุ์ ไม่มีความคิดว่าต่างฝ่ายก็ต่างเป็นมนุษย์ คิดแต่อย่างเดียวว่าแผ่นดินนี้เป็นของกู ต้องเป็นของกู ผู้เขียนนอนดูเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นด้วยความระทึกใจตลอดเวลาในการได้ดูนั้นไม่ได้มีใจคิดเข้าข้างใคร ไม่คิดว่าใครถูกใครผิดเลย เพียงแต่คิดว่า ทำไมคนเราถึงทำได้ขนาดนี้ แค่ความต้องการครอบครองอะไรๆที่ไม่ใช่ของตนแต่ตนอยากได้ ต้องลงมือทำสงครามประหัดประหารกันได้ขนาดนี้ คิดแล้วมันหดหู่ใจยิ่งนักแล้วสุดท้ายมันเป็นอย่างไร ก็ไม่เห็นมีใครเอาอะไรไปได้เลย สุดท้ายไม่ว่าฝ่ายใดแพ้ฝ่ายใดชนะก็ไม่พ้นต้องตายกันทั้งสิ้น วันนี้ผู้คนทั้งหมดที่ผู้เห็นในเหตุการณ์สงครามครั้งนี้บัดนี้ก็ไม่มีใครเหลือรอดอยู่เลยแม้แต่คนเดียวไม่ว่าจะเป็นฝ่ายแพ้หรือฝ่ายชนะ แม้ในขณะที่คิดนั้นเหตุการณ์การต่อสู้กันก็ยังไม่ยุติลง ยังคงดำเนินอยู่ต่อไป เสียงสนั่นหวั่นไหวของปืนใหญ่ก็ดังอยู่เป็นระลอก คงไม่จบไม่สิ้นแน่ เพราะบางครั้งเหมือนจะจบ ภาพที่เคยเห็นผ่านไปก็กลับมาปรากฏให้เห็นอีก คนเดิมทหารคนเดิม มารบมาฆ่ากันให้เห็นอีกแล้ว จึงตัดสินใจตะโกนถามคนเหล่านั้นออกไป “ใครก็ได้ช่วยบอกทีว่านี่มันคืออะไรกัน เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ทำไมมันซ้ำไปซ้ำมาเหมือนเดิม” มีทหารคนหนึ่งเดินถือดาบตรงเข้ามาหาผู้เขียน แล้วก็พูดขึ้นว่า “ทั้งหมดที่ท่านเห็นเป็นเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในสมัยสงครามเก้าทัพ ครั้งนั้นทหารพม่ายกทัพมาตีถึงเก้าทาง ทางนี้ก็เป็นทางหนึ่งที่พวกพม่ายกมา แต่ช่างมันเถอะมันผ่านไปนานแล้ว ข้ามาเพื่อจะบอกท่านว่าทั้งหมดนี้ที่ท่านเห็นมันเป็นวิบากกรรมที่พวกข้าบางคนยังต้องรับหรือชดใช้กรรมกันอยู่ในสภาพนี้บางส่วนก็ได้ไปเกิดในที่ใหม่แล้วบางส่วนยังวนเวียนอยู่แต่ทั้งหมดที่ท่านเห็นมันเป็นภาพอดีตที่จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง อดีตจะเป็นภาพที่ทรงตัวของมันเองอยู่เสมอจะเป็นอยู่อย่างนั้นปรากฏอยู่อย่างนั้นตราบนานเท่านานแม้ผู้อยู่ในอดีตนั้นจะได้เวียนว่ายไปสู่ภพภูมิใหม่แล้วก็ตามแต่ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหลายจะยังอยู่ ดังนั้นผู้ที่มีกำลังจิตที่เรียกว่าฌาณก็ดี หรือบางคนหลับฝันไปก็ดีจะสามารถเห็นอดีตที่ผ่านมาแล้วได้เพราะภาพอดีตเหล่านั้นยังคงอยู่ ว่าไงท่านพอเข้าใจหรือเปล่า” ทหารคนนั้นย้อนถามความเข้าใจ “อ่อ ก็พอเข้าใจอยู่บ้าง ว่าภาพทั้งหมดเป็นภาพอดีตที่จะยังคงอยู่ไม่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาคือแม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าไรก็ตามภาพที่เห็นนี้จะเหมือนเดิมยังเป็นภาพเดิมอยู่เสมอแม้ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นจะเวียนว่ายไปแล้วก็ตาม ใช่หรือเปล่า” ผู้เขียนตอบไป “เออ ใช่แล้ว”“อ้าวแล้วพวกที่ยังไม่ได้ไปผุดไปเกิดจะทำอย่างไร จะต้องอยู่สภาพแห่งสงครามการรบราฆ่าฟันอย่างนี้ไปเรื่อยๆหรือ” ผู้เขียนถามต่อ “เปล่า ไม่ใช่ สงครามมันจบไปแล้ว สิ่งที่เหลืออยู่คือภาพแห่งสงครามที่ไม่มีวันหายไป ภาพแห่งสงครามจะอยู่ตราบนานเท่านานบันทึกอยู่ในกาลเวลาไม่มีวันเปลี่ยนแปลงไปได้แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตามเหมือนตอนนี้ ๒๐๐ กว่าปีล่วงไปแล้วภาพแห่งสงครามนี้ก็ยังอยู่และจะอยู่ต่อไปเหมือนกับเรื่องอื่นๆ แต่อีกสิ่งที่เหลือคือ จิตวิญญาณที่ยังไม่สามารถไปผุดไปเกิดเพราะยังไม่หมดกรรม หรือยังไม่ถึงวาระก็ต้องเร่ร่อนอยู่แถวนี้ไปเรื่อยๆรอเวลาจนกว่าจะถึงเวลาของตัวเอง ว่าจะได้ไปผุดไปเกิดที่ไหนตามแต่เวรกรรมบุญบาปที่ทำกันมา พวกนี้แหละน่าสงสาร จะไปก็ไม่ได้ครั้นจะอยู่ก็เคว้งคว้างลำบากต้องรอขอส่วนบุญเขาไปเรื่อย ที่ไปแล้วจะสวรรค์ก็ดี นรกก็ดี หรือไปเกิดเป็นมนุษย์ เปรต อสูรกาย หรือสัตว์เดรัจฉานก็ดี พวกนี้ถือว่ามีที่หมายมีที่อยู่แน่นอนในภพในภูมิของตน จะลำบากก็ลำบากในภพภูมิของตน ไม่ต้องเร่ร่อนมีอาหารตามมีตามได้ของตน ผิดกับพวกวิญญาณเร่ร่อนที่ยังหวังอะไรไม่ได้ อยู่ก็ต้องอยู่ที่เก่า ภาพที่เห็นก็ภาพเก่า อาหารไม่ต้องพูดถึงแทบไม่มีให้กินกันเลย ที่เรียกกันทั่วไปว่าสัมภเวสีนั่นแหละ”“อ้าว แล้วท่านหล่ะเป็นอะไร” ผู้เขียนถามไป “ข้ายังจัดเป็นพวกสัมภเวสีอยู่เหมือนกันเพราะตายก่อนเวลาอันควร”“อ้าวแต่นี่มันผ่านมาตั้งนานแล้วนะท่าน แล้วทำไมยังไม่ได้ไปเกิด” “ไม่เกี่ยวกัน ก็ข้ามันดันตายก่อนเวลา เลยต้องรอรอบเวลาที่จะมาถึง”“แล้วรู้มั้ยว่าตัวเองจะได้ไปไหนถ้าเวลามาถึง”ผู้เขียนถาม “ก็ต้องสวรรค์อย่างแน่นอน”ทหารคนนั้นตอบ “ทำไมท่านถึงมั่นใจ”“อ้าวก็ตอนยังมีชีวิตที่ไม่เกิดสงครามผมทำบุญทำทานประจำ ถือศีล และยังไปช่วยพระสร้างโบสถ์สร้างวิหารอยู่เป็นประจำ ส่วนบาปกรรมก็ไม่ได้ทำเลย จะว่าไม่ทำเลยก็ไม่ใช่ ทำบ้างเล็กๆน้อยๆก็สุรากับเพื่อนฝูงนั่นแหละ แต่ก็ไม่เคยก่อความเดือดร้อนให้ใครนะเพราะเป็นทหารต้องมีระเบียบมีวินัยของทหาร ฮ่าฮ่าฮ่า” เขาพูดพลางหัวเราะไปพลาง “แต่จากนี้อีกไม่นานข้าก็จะได้ไปเกิดแล้วหล่ะ ท่านไม่ต้องห่วง” เขาพูดต่อ ผู้เขียนนิ่งฟังอยู่สักครู่แล้วจึงถามต่อไปว่า “แล้วทำไมต้องให้ข้าเห็นทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นในอดีตนี้”“จริงแล้วไม่มีใครอยากให้ใครเห็นหรือไม่อยากให้ใครเห็นหรอกนะ เพราะทุกอย่างมันก็เป็นของมันอยู่อย่างนี้มานานแล้ว ที่ท่านเห็นก็เพราะตัวท่านเอง จิตของท่านมีพลัง ใจท่านบริสุทธิ์ตามธรรมชาติ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ท่านจะเห็นได้ ท่านเองก็คงรู้อยู่แก่ใจข้าคงไม่ต้องพูดมากไปกว่านี้ เอาหล่ะคิดว่าที่เราคุยกันมาก็คงพอสมควรแก่เวลาแล้ว เห็นทีข้าต้องไปยังภพของข้าแล้วหล่ะนะ อ่อ อีกเรื่องหนึ่ง ขอให้ท่านหมั่นแผ่เมตตาไปยังสรรพสัตว์ทั้งหลายให้มากๆ ให้เป็นประจำ พวกเรา หรือพวกข้าที่อยู่ในภพที่มีแต่ดวงจิต ที่มนุษย์เรียกว่าวิญญาณ หรือ ผี นั่นแหละ สามารถรับพลังเมตตานั้นได้ไม่ว่าจะอยู่ภพไหนก็ตาม ตั้งแต่สวรรค์ยันพรหมโลก ถึงโลกุตตรภูมิด้วยซ้ำ รับได้ทั่วถึงกันหมด เมือ่ดวงจิตทั้งหลายได้รับพลังที่ดีนั้นแล้วก็จะพากันกล่าว สาธุการ ด้วยกันทั้งสิ้น ผู้ที่แผ่ไปนั้นก็จะได้รับผลแห่งบุญบารมีที่แผ่เมตตาไปนั้นโดยปริยาย จำเอาไว้นะ นี่เป็นอีกวิธีที่สร้างบุญที่ง่ายและได้รวดเร็วที่สุดวิธีหนึ่ง ข้าคงต้องไปแล้ว ท่านจงตั้งใจสร้างสมคุณงามความดีต่อไปนะ จำไว้อะไรที่ท่านทำไม่ว่าดีหรือชั่วก็จะได้แก่ตัวท่านเอง ท่านเป็นคนดี ท่านคงเข้าใจทุกอย่างที่ข้าพูด ข้าไปหล่ะ” ผู้เขียนยังไม่ทันที่จะได้พูดถามอะไรต่อ หรือกล่าวคำร่ำลาต่อผีทหารโบราณผู้นั้น เขาก็ได้หายวับไปกับตา ผู้เขียนจึงแผ่เมตตาให้กับผีทหารโบราณตนนั้น และนึกขอบคุณในทุกๆเรื่องที่ได้สนทนาปราศัยให้ผู้เขียนได้มีความรู้และความเข้าใจในวิถีแห่งจิตวิญญาณมากขึ้น มันไม่ได้จบลงตรงคำว่าตาย มันเป็นแค่จุดเริ่มต้นแห่งการผจญภัยในภพใหม่ ที่ถูกกำหนดด้วยอำนาจบุญและบาปของจิตวิญญาณดวงนั้นๆ
รบกัน

แก้ไขล่าสุด 28 มี.ค. 56 16:20 | ไอพี: ไม่แสดง

#18 | AugusTine!!! | 28 มี.ค. 56 16:27 น.

#17
ยาวมากๆ ยาวสุดๆ

ไอพี: ไม่แสดง

#19 | บริททานี่ | 28 มี.ค. 56 16:41 น.

กิฟ แต่ละ่คนนี่น่ารักสุดๆเลยค่ะ

ไอพี: ไม่แสดง

#20 | น้องโพ | 28 มี.ค. 56 16:47 น.

สวย
#19 ว้ายจริงเหรอคะ เขินจัง

ไอพี: ไม่แสดง

#21 | AugusTine!!! | 28 มี.ค. 56 16:57 น.

#19
จริงหรอฮะ เขิลจังเลย

//วิ่งเข้าไปกอดมาราย

ไอพี: ไม่แสดง

#22 | -VivaLaVida. | 28 มี.ค. 56 18:36 น.

#9
อย่าโกรธพี่สิคะ คิกคิก

แก้ไขล่าสุด 28 มี.ค. 56 18:41 | ไอพี: ไม่แสดง

#23 | AugusTine!!! | 28 มี.ค. 56 18:56 น.

#22
ผลักลงไปเราก็ขึ้นมาใหม่ได้ฮ่ะ กรั่กๆ


ไอพี: ไม่แสดง

#24 | -VivaLaVida. | 28 มี.ค. 56 19:16 น.

#23

งั้นต้องเจอนี้ค่ะ เพื่อนของน้องสาวต่างเมืองวิกกี้เอง ชื่อว่าคิตตี้อัลไลค่ะ

แก้ไขล่าสุด 28 มี.ค. 56 19:20 | ไอพี: ไม่แสดง

#25 | บริททานี่ | 28 มี.ค. 56 19:49 น.

ฉันชอบตัวนี้มากรุย่ะ

ไอพี: ไม่แสดง

#26 | AugusTine!!! | 28 มี.ค. 56 19:51 น.

#24
เป็นสัตว์ประหลาดที่น่ารักมากเลยฮ่ะ



#25
อย่าเรียกตัวสิครับ นั้นมันน้องต่างเมืองของวิกกี้


ปล.แหวนดอร่าไปไหน

แก้ไขล่าสุด 28 มี.ค. 56 19:52 | ไอพี: ไม่แสดง

#27 | ตัวส้ม'' | 28 มี.ค. 56 19:56 น.

Vince
ผมไม่ยอมแลกชีวิตเพื่อให้ใครกลับมา มีชีวิตหรอกนะ อย่าหวังว่าผม จะให้แกฆ่าได้



ปอบร้ายเมื่อ600ปีก่อน
 
        ผู้เขียนเชื่อว่าหลายๆคนคงรู้จักผีไทยจากตำนานคำบอกเล่าหรือตามบทภาพยนตร์ต่างๆ หนึ่งในผีไทยที่มีชื่อเสียงนั้นก็คือ “ปอบ”
        ตำนานปอบที่ว่านั้น ไม่ได้เกิดขึ้นที่ไทยเพียงเท่านั้น ในบางประเทศก็มีตำนานปอบเล่าขานเหมือนประเทศไทยเช่นกัน เพียงแต่จะแตกต่างกันไม่มากเท่านั้น
        การผงาดขึ้นเป็นชาติที่ยิ่งใหญ่ในดินแดนเมโสโปเตเมียของอิรักในยุคศตวรรษที่15(ราว600ปีก่อน) เป็นเรื่องที่สร้างสมพลังอำนาจและวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่หลายด้านให้ดินแดนตะวันออกกลางแห่งนั้น ท่ามกลางความเจริญงอกงามหลากหลายด้านนั้น แม้แต่ในด้านมืดก็มีการบันทึกถึงความเจริญของมันเอาไว้ด้วยเช่นกัน
        ท่ามกลางบันทึกและเรื่องเล่าพื้นบ้านที่หลากหลายนั้น เรื่องราวของปอบที่เด่นชัดที่สุดเห็นจะหนีไม่พ้นเรื่องที่มีบันทึกเอาไว้ในบางตอนของนิยายเรื่องพันหนึ่งราตรี (One Thousand and One Arabian Nights) ซึ่งมีเนื้อหาคร่าวๆดังนี้
        อับดุล ฮัสซัน ผู้ซึ่งเป็นบุตรชายของพ่อค้าผู้มั่งคั่งในเมืองแบกแดดนั้นได้รับมอบหมายให้เตรียมงานแต่งกับสาวน้อยรายหนึ่งที่ผู้เป็นพ่อของเขาได้หมายตาเอาไว้ แต่เวลาเดียวกันนั้น หนุ่มฮัสซันผู้นี้กลับมีความรักกับสาวอีกนางหนึ่งซึ่งชื่อว่านัดดิลลา ซึ่งเป็นบุตรีของปราชญ์ท่านหนึ่ง
        ฮัสซันนั้นร้อนรนเป็นอย่างยิ่ง เพราะเขาต้องการจะแต่งงานอยู่กินกับสาวที่ตัวเองรัก และเขาก็ได้ดิ้นรนสุดฤทธิ์เพื่อที่จะทำให้พ่อของเขาเปลี่ยนใจ และในที่สุดเขาก็ทำได้สำเร็จ เขาสามารถวิงวอนและชักแม่น้ำทั้งห้าจนพ่อของเขาใจอ่อนยอมให้เขาได้แต่งงานกับนัดดิลลา สาวอันเป็นที่รักของลูกชายจนได้
        เมื่อทั้งสองได้ครองคู่อยู่กินกันฉันสามีภรรยาข้าวใหม่ปลามันนั้น ฮัสซันนั้นสังเกตว่านัดดิลลาของเขานั้นไม่สนใจอยากจะกินอาหารร่วมโต๊ะกับเขาแต่อย่างใด ยิ่งไปกว่านั้น นางยังทำกิริยาอาการพิลึกๆด้วยการเผ่นออกไปจากบ้านในยามดึกดื่นทุกคืน กว่าจะกลับบ้านอีกครั้งก็ล่วงเข้าสู่เช้าวันใหม่แล้วเท่านั้น
        คืนหนึ่ง ฮัสซันตัดสินใจแล้วที่จะต้องรู้ให้ได้ว่านัดดิลลาออกไปไหนดึกๆดื่นๆทั้งคืน เมื่อถึงเวลาเข้านอน ภรรยาเห็นว่าเขานอนแล้วจึงได้แอบย่องออกจากบ้าน ส่วนฮัสซันนั้นก็แกล้งทำเป็นหลับ เมื่อเห็นนัดดิลลาเดินออกจากบ้านก็รีบสะกดรอยตามโดยไม่คลาดสายตา
        นัดดิลลานั้นเดินตรงไปยังสุสานที่ฝังศพนอกตัวเมืองอย่างรีบเร่ง เมื่อไปถึงสุสานก็เข้าร่วมวงขุดกินซากศพกับบรรดาปอบทั้งหลายที่เดินทางล่วงหน้ามายังสุสานแห่งนั้นก่อนแล้ว นัดดิลลาทั้งกัดทึ้งเนื้อเน่าเปื่อยและแทะกระดูกดูดกินเลือดเนื้อศพอย่างหิวกระหาย ภาพที่เห็นนั้นทำให้ฮัสซันซึ่งสะกดรอยตามมาถึงกับเข่าอ่อน
        คืนนั้นเขาเฝ้ามองเมียรักด้วยความรู้สึกที่เปลี่ยนไป จากนั้นจึงเดินทางกลับที่พักอย่างคนหมดอาลัยตายอยากในชีวิต
        วันรุ่งขึ้น เมื่อถึงเวลาอาหารค่ำ ฮัสซันเรียกให้นัดดิลลามากินอาหารค่ำด้วยกัน แต่เธอก็ปฎิเสธเหมือนเช่นเคย คราวนี้ฮัสซันรู้แล้ว่าอะไรเป็นสาเหตุ เขาจึงรวบรวมความกล้าเอ่ยปากประณามเธอออกไปว่า ที่ไม่ยอมกินอาหารค่ำกับเขาก็เพราะว่าเธอเป็นผีปอบมากกว่า ทั้งยังสำทับต่อไปอีกด้วยว่า เขาเห็นเธอร่วมกินซากศพในสุสานกับบรรดาเพื่อนผีปอบอื่นๆอย่างถนัดตา
        ทุกสิ่งทุกอย่างที่ฮัสซันพูดออกมานั้นเป็นสิ่งที่นัดดิลลาไม่อาจปฏิเสธได้ เธอโกรธจนตัวสั่นที่ความจริงถูกเปิดเผยขึ้นมา แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ไปมากกว่ารีบตรงดิ่งเข้าห้องนอนทันที
        ตกดึกคืนนั้นฮัสซันเข้าห้องนอนตามปกติ เขาระวังตัวมากเพราะไม่รู้ว่าเมียที่รักกลายเป็นปอบไปแล้วนั้นจะจู่โจมเล่นงานเขาหรือไม่ และแล้วสิ่งที่เขาคาดไว้ก็เป็นจริงเมื่อนัดดิลลาหาโอกาสบุกเข้าเล่นงานฮัสซันด้วยการฉีกทึ้งคอหอยของเขาจนเลือดสาด จากนั้นจึงประกบปากดูดเลือดจากบาดแผลทันที
        แต่ฮัสซันก็ยังอดทนพอที่จะคว้าไม้ที่เตรียมเอาไว้ตีกระหน่ำจนนัดดิลลาเมียรักตายคาที่
        ปอบนัดดิลลานั้นตายไปแล้ว ต่อมาร่างของเธอจึงถูกนำไปฝังยังสุสานประจำเมือง แต่เรื่องของนัดดิลลายังไม่จบสิ้นแค่นั้น เพราะปรากฎว่าหลังจากนัดดิลลาตายไปได้3วัน เธอกลับมาปรากฏร่างอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่ได้เป็นนางปอบแสนชั่วร้ายดังเดิมเท่านั้น หากแต่เป็นนางผีดิบแวมไพร์สุดโหดที่เตรียมเล่นงานจู่โจมฮัสซันเพื่อที่จะดูดเลือดกันอีก แต่ฮัสซันรู้ทันเสียก่อน สามารถหนีเอาตัวรอดได้
        เช้าวันรุ่งขึ้นฮัสซันไม่รอช้า รีบเดินทางไปยังสุสานที่ฝังศพของนัดดิลลา เขานำร่างของเธอไปทำการเผาจนมอดไหม้เป็นเถ้าถ่าน จากนั้นก็นำกระดูกของเธอไปทิ้งที่แม่น้ำไทกริสเพื่อตัดตอนการเป็นแวมไพร์ไปเลย

        จาก หนังสือผีโหดสยองระดับโลก

แก้ไขล่าสุด 28 มี.ค. 56 19:58 | ไอพี: ไม่แสดง

#28 | AugusTine!!! | 28 มี.ค. 56 19:58 น.

^^^^^
รูปใหญ่ดีนะ 

ไอพี: ไม่แสดง

#29 | ตัวส้ม'' | 28 มี.ค. 56 19:59 น.

^ แก้แล้วๆ

ไอพี: ไม่แสดง

#30 | AugusTine!!! | 28 มี.ค. 56 20:31 น.

ฮือๆ นังแหวนดอร่าไปไหน คิดถึงจุงเบย

แก้ไขล่าสุด 28 มี.ค. 56 20:32 | ไอพี: ไม่แสดง

#31 | -VivaLaVida. | 28 มี.ค. 56 20:47 น.

#26

อ้าว รู้จักด้วยหรือคะ กำลังจะพามาให้รู้จักเชียว น่าเอ็นดูใช่ไหมคะคิตตี้อัลไลของวิกกี้ กรักๆๆๆๆ




พาเพื่อนจายมาออกสเต็ป


ปัจฉิม - คุณVinceกำลังทำกระทู้แหกนะคะ 

แก้ไขล่าสุด 28 มี.ค. 56 21:01 | ไอพี: ไม่แสดง

#32 | (หนูมาลี.|มีลูกแมว?) | 28 มี.ค. 56 22:01 น.

-chole-

แอ้กกแกพาชั้นกลับมาที่นี่อีกแล้วหรอ!!!!!!!

มิจชั่นพิเศษ


Bloody Mary







บลัด ดี้แมรี่ยังมีชื่ออื่นๆอีกคือ Bloody Bones,Hell Mary,Mary Worth,Mary Worthington,Mary Whales,Mary Johnson,Mary Lou,Mary Jane,Sally,Kathy,Agnes,Black Agnes,Aggie,Svarte Madame,Bloody mirror

พิธี อัญเชิญมีหลายแบบ บางที่ก็บอกให้จุดเทียนเล่มเดียว บางที่ก็ให้จุดสองด้านของกระจก ส่วนถ้าอยากเจอกันแบบเป็นกลุ่มๆก็ให้คนนึงเป็นตัวแทนไปเรียกหน้ากระจก ส่วนการเรียก จะร้องว่า "Bloody Mary I killed your baby!" ก้ได้

หลัง จากที่วิญญาณปรากฎแล้ว บางที่ก็บอกว่าจะฆ่าคนเรียกให้ตาย ทำให้เป็นบ้า ควักลูกตา ข่วนหน้าแหก ฯลฯ หนักหน่อยบางที่บอกว่าพอออกมาแล้วก็จะพาคนเรียกเข้ากระจกไปอยู่ด้วยกันด้วย

การ ค้นคว้าเรื่องนี้เริ่มโดย Janet Laglois โฟล์คลอริสท์(ไม่รู้จะแปลว่าไงดี นักเล่านิทาน?)ตีพิมพ์ตำนานนี้ในอเมริกา เค้าว่าส่วนใหญ่คนที่เรียกแมรี่จะเป็นเด็กผู้หญิง แต่เด็กผู้ชายก็มีบ้างเหมือนกัน บลัดดี้แมรี่เป็นตำนานพื้นบ้านที่สมัยเค้าเด็กๆ(ช่วงปี 1970s) รู้จักกันอย่างกว้างขวาง เป็นพิธีที่มักทำเล่นกันในห้องน้ำ เพราะว่าห้องน้ำในชานเมืองสมัยก่อนมักจะติดกระจกใหญ่ๆไว้แล้วก็ไม่ทำ หน้าต่าง เวลาปิดไฟห้องเลยมืดได้ใจ

มีอยู่เรื่องนึงที่อัญเชิญแตก ต่างกับแบบแผนส่วนใหญ่ คือแทนที่จะบอกว่าเชื่อ แต่ผวนเป็นบอกว่าไม่เชื่อแทน คนเล่นตะโกนใส่กระจกว่า "I dont blieve in Mary Worth"แล้วกระโดดหนีออกมาจากห้องน้ำ ผลก็คือ สะดุดล้มลงสะโพกหัก ซวยไป

บาง ที่บอกว่าแมรี่เป้นแม่มดที่ถูกเนรเทศเมื่อร้อยกว่าปีก่อนในข้อหาใช้มนตร์ดำ แต่บางที่ก็บอกว่าเป็นผู้หญิงในยุคเราๆนี่แหละ ที่ตายในอุบัติเหตุรถชนแล้วหน้าถูกรถอัดเละเทะ บางที่ก็ว่าเป็นผีของผู้หญิงที่ฆ่าลูกของตัวเองหลังจากแต่งงาน เป็นฆาตกรฆ่าแล้วกินเด็ก ว่าไปถึงเป็นผีแท้ๆแบบไม่เคยเป็นคนเลยก็มี

ส่วน ใหญ่ไม่ค่อยมีเรื่องเล่าถึงตอนหลังที่เรียกเสร็จมากนักเพราะคนส่วนมากจะปอด จนเผ่นออกมาจากห้องก่อนที่จะพูดคำสุดท้ายจบ ไม่ก็พูดจบแต่ไม่ยอมมองกระจก คนที่เล่นส่วนมากจะเป็นเด็กอายุประมาณ 9-12 ปีซึ่งเป็นวัยที่นักจิตวิทยาเรียกว่า The Robinson Ages คือเป็นช่วงที่เด็กจะพอใจกับความตื่นเต้นที่ได้เล่นในเรื่องลึกลับน่ากลัว

บลัดดี้แมรี่ในความหมายนี้ถูกนำไปสร้างเป็นตอนหนึ่งในซีรีส์ที่ชื่อ The Urban Legends (ตำนานพื้นบ้าน) ด้วย

เสริม นิดๆ ความเชื่อในการเรียกผีจากกระจก เค้าว่าเพราะในอดีตมีความเชื่อว่าเราจะเห็นวิญญาณของคนตายได้ในกระจกจนกว่า ร่างของวิญญาณนั้นจะถูกเอาไปฝัง เพราะในอดีตเวลาคนในบ้านตาย สมาชิกครอบครัวเค้าจะเอาแต่งตัวใส่โลงตั้งไว้ในบ้านจนกว่าจะถึงวันฝัง วิญญาณเลยยังวนเวียนในบ้านอยู่แล้วถูกจับได้ในกระจก เราเลยสามารถเห็นได้

นอก จากจะใช้กระจกในการเรียกผีแมรี่ออกมาแล้ว เด็กผู้หญิงสมัยก่อนก็มักใช้กระจกดูเนื้อคู่ของตัวเองด้วย เรื่องที่ฮิตๆก็อย่างเช่นปอกแอปเปิลหน้ากระจกตอนเที่ยงคืน ร้องเพลงในคืนพิเศษแล้วมองผ่านกระจกอย่างเร็วๆจะเห็นหน้าของเนื้อคู่ลางๆ เป็นต้น

ไอพี: ไม่แสดง

#33 | FaTtY..Emily | 28 มี.ค. 56 22:23 น.

อร๊ายยยย น้องคิตตี้อัลไลน่ารักจังค่ะ

ไอพี: ไม่แสดง

#34 | -VivaLaVida. | 28 มี.ค. 56 22:59 น.

#33

คิตตี้อัลไล :: แหม เขินจังเลยค่ะ


แก้ไขล่าสุด 28 มี.ค. 56 23:05 | ไอพี: ไม่แสดง

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google