<อัพเพิ่มม!!>Before&After จากฝ่าเท้าสู่หน้ามือ(ขาวผอมแฟชั่น)
4 พ.ค. 56 20:52 น. /
ดู 2,618 ครั้ง /
31 ความเห็น /
19 ชอบจัง
/
แชร์
มาอัพพพพพเพิ่มมมมแล้ววววววววว !!! วู้วววววว
หลังจากที่หายไปนาน จนลืมปล่อยรกร้างไว้
แนะนำตัวก่อนดีกว่า เราชื่อ บลู ตอนนี้อายุ 17 ปี (มิถุนานี้ย่าง 18 ละ แก่จัง ฮือๆ)
ส่วนใครอยากได้เคล็ดลับเพิ่มเติม
IG: @bleueaddicted
LINE: bleuebluee
FACEBOOK: http://www.facebook.com/bleuebluee
จากที่สัญญาเอาไว้ว่าถ้าครบ 100 คอมเมนต์เมื่อไหร่จะมาเฉลย
'เคล็ดลับว่าทำอย่างไร ให้ผอมให้ขาว ให้แต่งตัวเก่ง'
เอาเป็นว่าก่อนจะบอกวิธีเอา Before กับ After (บางส่วน)ไปดูกันก่อน
หากใครอยากดูอย่างเต็มๆ และจุใจ ดูได้ที่นี่ Before&After จากฝ่าเท้าสู่หน้ามือ (รวมขาว+ผอมและแฟชั่น)
Before
แต่งตัวเก่งใช่ไหม หละ? 5555555
เป็นคนกินน้อย เลี้ยงงง่ายยย
ขาววววว จนสำลีอายยยยย
และแล้ว AFTER !!!!~~~
แต่งตัวแย่มากกกกกกกกก จริงไหม?
อ้วนอย่างกับหมูอย่างกับช้างงงงงงงงง ~~ แปร๋นนนนๆ
และไม่เริดไม่ขาวเหมือน Before 555555555
(ประชดได้ซะน่ากระทืบ 555555555)
เอาล่ะ ตอนนี้เรามาเฉลยแล้วน้าาาาาาาาา
จะได้ไม่ต้องไปตามกันอีก เห็นบางคนปูเสื่อรอ ยิ่งช่วงนี้ร้อนๆ
ไม่แน่รอจนเกรียมแล้วมั้งงงง 555555555
ย้ำก่อนว่า เราไม่เคยฉีดผิว ไม่เคยกินยาอ้วน และไม่เคยจ้างสไตล์ลิส!
(- เพราะเรากลัวเข็ม ฉีดยาครั้งล่าสุดร้องลั่นโรงพยาบาล
- เราไม่กินยาลดความอ้วนเพราะเรากลัว.....เรากลัวตาย พูดละสยองงง บรึ๋ยยยย
- และสุดท้ายเราไม่ได้รวยขนาดจ้่งสไตล์ลิส่วนตัว)
โอเค้? พูดกันรู้เรื่องนะ
ผิวว จากดำกาสู่มนุษย์มนาปกติ
คือเราต้องเอ่ยก่อนนะ เราอาจจะดูขาวในรูป แต่ตัวจริงเราผิวก็ยังคล้ำอยู่ เพียงแค่ขาวขึ้นนิดหน่อย แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ ผิวแลดูใสขึ้น คือดูละเอียดและสม่ำเสมอมากขึ้น แต่ก็ถือว่าขาวขึ้นจริงๆ ประมาณว่า จากสีดำไปสีน้ำตาลอ่อนละกัน คือเราก็อยากขาวนะ แต่ก็ไม่อยากขาววิงค์แบบดาราอ่ะ เราว่ามันดูซีดๆป่วยๆเหมือนศพ อีกอย่างตอนนี้เราอยู่นอก อยากบอกว่าผิวเราฮอตมากๆนะ ประมาณว่าเพื่อนในห้องชอบมาบอกทุกวันเลยว่า "ผิวสวยย อยากได้" ซึ่งเราก็แอบดีใจอยู่ คึคึ 55555 ส่วนเคล็ดลับที่เราอยากจะมาบอกคือ
- เราทาครีมกันแดดทุกวัน ทุกเช้า เพราะรร.เรามีเข้าแถวเคารพธงชาติหน้าเสาธง เราไม่แคร์ SPF แต่เราแคร์ PA ต้อง +++ เท่านั้น แล้วครีมกันแดดที่เราทาทุกวันส่วนใหญ่จะมาแนวน้ำๆ เราอยากดูเป็นผิวธรรมชาติ ไม่อยากหน้าวอกหน้าลอย แล้วที่สำคัญครีมกันแดดที่เราใช้ต้องมีส่วนผสม whitening ด้วย ซึ่งเราจะทาตั้งแต่หน้าไปจนถึงลำคอ เราไม่อยากใช้ไปนานๆแล้วขาวแต่หน้า
- เราทาครีมทุกวันก่อนนอน ย้ำว่าทุกวัน ถึงแม้ว่าบางครั้งเราจะไม่อาบน้ำนอน(ซึ่งสกปรกมากก อี๊~~ 55) แต่เราจะทาครีมผสมไวท์เทนนิงตลอดทั้งหน้าตัวและขาแขน รวมถึงครีมอาบน้ำของเรา ยังมีส่วนผสมไวท์เทนนิง
- ผลิตภัณที่อย่างที่เราใข้ ส่วนมาก เราจะเลือกที่ๆมีสารเคมีน้อยที่สุด ไม่ใช่ว่ากลัวจะกลับมาดำหลังเลิกใช้ แต่เพราะกลัว 'ตายไว' เลยต้องเลือกหน่อย
- อยู่บ้านเดินห้าง อย่าออกแดด (เราก็แอบไปทะเลด้วยอ่ะ ทำไงได้ เราอยู่ภาคใต้นี่หว่า ไปบ่อยด้วย กลับจากทะเลก็ดำตามปกติ เพียงแต่ต้องดูแลตัวเองมากขึ้น กินน้ำเยอะๆหลังโดนแดด เราจะไม่สครับผิวเลย เพราะแดดก็ทำผิวดสียอยู่แล้ว ยิ่งไปสครับยิ่งเสีย และเราจะไม่ทาครีม2วัน เพราะตอนนั้นผิวจะบางมาก ถึงแม้หลายๆครีมที่เราใช้จะเจือปนสารเคมีน้อยแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีสารเคมีอยู่ สิ่งที่เราจะทำคือกินน้ำอย่างเดียว กินน้ำเยอะๆ เพราะผิวขาดความชุ่มชื้น ผิวดำแก้ได้ด้วยครีมต่างๆ แต่หากผิวขาดความชุ่มชื้น ครีมเคิมอะไรก็ตาม ต่อให้ราคาเป็นหมื่นๆ ผิวมันก็ไม่ซึมซับ
- สุดท้ายและท้ายที่สุด **ไม่มีใครที่ทาครีมในตอนนี้แล้วขาวขึ้นภายใน5นาที หรือในอีก2ชั่วโมงหรือวันพรุ่งนี้ทันที มันเป็นไปไม่ได้ ถึงเป็นไปได้ก็ไม่ถาวร ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเวลาและความพยายาม คิดไว้อย่างเดียวว่า
"ไม่ต้องทำเพื่อนใครเพื่อผู้ชายคนไหน ทำเพื่อ 'ตัวเอง' เพราะถ้าไม่ทำตัวเอง แล้วใครจะทำ?"
หุ่นและร่่งกาย
(เราไม่ได้ออกกำลังกายเลย มีโยคะบ้างเล็กน้อย วันละ10-20นาที แต่วิธีที่เราใช้คือ การไดเอทนั่นเองงงง)
คือขอบอกก่อนว่า เราเคยเดินพาเหรดตอน ป.4 แล้วรู้สึกว่าตอนนั้นเป็นครั้งแรกที่เราได้วัดตัวแบบจริงจัง ซึ่งก็ไม่มีอะไรมากกางแขนกางขาปกติ แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดคือ แม่เราตกใจมากที่เราเป็นแค่เด็กป.4แต่เอวเรามีขนาดถึง 28นิ้ว (ปัจจุบัน ม.6 เอว 26)
ซึ่งถือว่าใหญ่ไปผิดปกติ และเราในตอนช่วงม.ต้นบอกได้เลยว่าเราอ้วนนมากก มีช่วงนึงน้ำหนักถึง 60กิโล!! (ปัจจุบัน ม.6 หนักแค่ 52) สำหรับเรามันเยอะมาก เพราะเราสูงแค่ 167 (ไม่เตี้ยไม่สูง แต่เราว่าเราเตี้ยนะถ้าวัดตามมาตรฐานชายไทย แต่ถ้าคิดแบบมาตราฐานผู้ชาย เอาส่วนสูงลด-100 ซึ่งของเราจะได้ 67 และถ้าหากน้ำหนักเราเกิน67ถือว่าอ้วน แต่เราเอามาตราฐานผู้หญิงอ่ะ เพราะเราไม่ได้มีร่างกายแบบผู้ชายแมนๆตัวล่ำๆกระดูกใหญ่ๆ เราเป็นคนกระดูกเล็กแบบเล้กกกกกกเล็ก และดูได้จากภาพต่างๆว่า นั่นขนาดแค่ยังไม่ถึง 60ยังจะอ้วนขนาดนั้น แล้วจะเอายังไงถ้าเกิน 67
ตามมาตราฐานผู้หญิงให้ลบด้วย 110 ซึ่งได้ 57 แล้วเราก็เกินมาถึง3กิโล
ซึ่งถือว่าไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ แต่เคยได้ยินไหม ลบ110คือสมส่วน ลบ120คือหุ่นดี
ถ้าลองลบดูแล้ว 167-120= 47 เฮ่ยยย!! เราเกินมาถึง13กิโล!! มันมากกเกินนไปป!!
แล้วยิ่งเราต้องมาที่ประเทศอิตาลีอีกก็รู้ๆอยู่ว่าสปาเกตตี้ไอติมพิซซ่า คนอิตาลีกินกัน ทุกวัน!! เราเลยคิดกับตัวไว้เลยว่าต้องลดแบบจริงจัง!
- วิธีไดเอทของเราคือกินน้อย น้อยลงกว่าปกติ ซึ่งก่อนหน้านี้กิจวัตรการกินของเรามันน่ากลัวมาก แบบข้าวมื้อละ2จาน แบบล้นๆจาน กินบุฟเฟต์จ่าย 299บาทไรงี้ แต่เรากินทีเหมือนจ่าย 5,000 เรากินเยอะมากกกกกกกกก อย่างแบบางที่ให้เวลาชั่วโมงครึ่ง เรากินตั้งแต่นาทีแรกจนวินาทีสุดท้ายย
การไดเอทของเรา คือการกินน้อยลงให้เหมือนคนปกติ ข้อดีของเราคือเราเป็นคนที่หักห้ามใจตัวเองได้เก่ง เราสั่งตัวเองให้เป็นโรคเบื่ออาหารได้ 555 บางทีหิวก็ต้องทน เอาแต่กินน้ำอย่างเดียว ขนาดแม่ตัวเองที่เจอกันทุกวันนั่งเล่นคอมข้างๆกันยังทักเลยว่าไปกินยาลดความอ้วนมาหรือเปล่า เพราะเราดูผอมเร็วมากๆ เราบอกแม่ไปอย่างเดียวคือ "บลูไม่กินหรอกแม่ยาลดความอ้วน บลูกลัวตาย" แม่ก็ยิ้มขำฮาๆกันไป
และนี่คือเคล็ดลับบบบบของหุ่นและร่างกายจ้าาาาา
- ให้ทำช่วงปิดเทอม และไม่ต้องบอกใครว่าไดเอท เพราะถ้าช่วงไปรร.เพื่อนก็จะบอกว่า "แกไม่อ้วนหรอก แบบนี้แหละดีแล้ว" ซึ่งมันน่ารำคาญมาก เพราะมันจะทำให้เราไม่อยากลดน้ำหนัก ดังนั้นทำการทำตอนปิดเทอมนอกจากจะไม่มีใครกวนใจแล้ว พอเปิดเทอมยังอาจจะได้รับคำชมจากเพื่อนๆด้วย แบบ "เฮ่ยไปทำอะไรมา ทำไมผอมลง"
- ไดเอทให้งดออกกำลัง บลูไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายเพราะกินน้อยอยู่แล้ว ถ้าไปออกกำลังกายจะทำให้เป็นลมเข้าโรงพยาบาลใส่น้ำเกลือกินข้าวต้ม+เปลืองค่าห้องพักได้ ดังนั้น เราลดความอ้วน ไม่ได้ลดส่วนที่ย้อยๆแบบอ้วน100กิโลดังนั้น เราจึงต้องการเพียงแค่ ไดเอทและไม่ออกกำลังกาย
-ไดเอทแบบกินนับแคลลอรี่ วันละ 1,200 สิ่งที่ได้ผลที่สุดที่เราทำตลอดคือ เรากินวันละ 1,200 แคลลอรี่ ซึ่งปกติมนุษย์ทั่วไปต้องการวันละ 2,000 การที่ลดไปอีก 800 และเดินอีก 30นาทีไปโน่นนี่ จะเท่ากับกินแค่วันละประมาณ 1,000 แคล และจำไว้ว่า ข้าวกะเพราไก่ไข่ดาว1จาน มีน้ำหนักประมาณ 850 แคล ถ้ากินจานนี้ตอนเที่ยง มื้อเย็นกินได้ แค่อีก 350 ซึ่งเท่ากับซุบ1-2ถ้วย
-เดินเยอะ กินน้อย เรากินน้อย แถมเรายังเดินห้างเยอะด้วย ไม่ใช่ว่าเรามีเงินไว้ช็อป แต่เราชอบดูของในห้าง เคยไหม เดินห้างจนลืมหิว? เราเป็นบ่อยมาก และหลายๆครั้งที่เราลืมกินมื้อเที่ยงแล้วกินมื้อเย็นทีเดียว
- กินดึกไม่ได้ทำให้อ้วน เพราะเราติดเกมส์เมเปิลช่วงตอนปิดเทอม เล่นถึงตี1-2ทุกวันอ่ะ แล้วพอเล่นเสร็จ เราก็แอบทอดไข่ดาวกินเล่น ซึ่งไข่ดาวมีแคลลอรี่แค่ 95-120 แคล ซึ่งถือว่าน้อยมาก กินกับข้าวอีกนิด ก็จะประมาณ 200 แคล ดังนั้น ก็ถือว่าอยู่รอด (ถ้าวันนั้นแคลไม่เหลือให้กินเพิ่ม ก็ดื่มน้ำแทน 555555555)
-มีน้ำไว้ดื่มแทนข้าว เคยไหม กินข้าวไปเมื่อไม่กี่ชม.ก่อนแล้วทำไมหิวอีกแล้ว นั่นไม่ใช่เพราะเราต้องการอาหารแต่เพราะร่างการของคนเราต้องการการ Hydrate จากน้ำ ไม่ใช่อาหาร ดังนั้นดื่มน้ำกันเถอะ!!
-มีหลายคนบอกว่ากินน้อยๆแล้วไม่ดีต่อสุขภาพ แต่เอาเรื่องที่ว่าคนเราขาดน้ำได้3วัน ขาดอาการได้7วันไปคิดกันนะ
-ไดเอทอย่างมีสุขภาพ เรากินข้าวกับผักต้ม แม่พ่อซื้อกับข้าวอะไรมาเราก็ตักเนื้อบ้าง แต่ส่วนใหญ่แล้วเราตักแต่ผัก เราจะเอาข้าวไปกินหน้าคอมพร้อมกับดูหนังหนึ่งเรื่องเสมอ อาจจะดูเป็ลูกพ่อแม่ตามใจ แต่อยากบอกว่าได้ผลนะ เพราะเคยไหมที่กินแล้วแต่ยังหิวอยู่ แต่พอกำลังไปตักหรือสั่งอีกจานดันอิ่มขึ้นมาทันทีซะงั้น แถมยังต้องเอาจานถัดไปจุกเข้าท้องอีก ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดคือเราจะกินหน้าคอมพร้อมหนัง2ชม1เรื่อง หนังฝรั่งหรืออะไรก็ตาม เอาแบบโหลดเรียบร้อยแล้วด้วยนะ เราจะกินไปดูไป แล้วพอข้าวหมด เราก็จะยังรู้สึกหิวอยู่นิดๆ ดังนั้นเราจึงรู้สึกขี้เกียจลุกไปเติม และเพลินกับหนังไปจนลืมหิวไปเลยย
-โยคะ กิจกรรมเผาผลาญนี้ดูไฮโซใช่ไหม? แต่เราโยคะจากแผ่นซีดี โยคะจากคลิปในยูทูปเอาอ่ะ เราอยากให้เราลดไปด้วย หุ่นเฟิร์มไปด้วยอ่ะ แล้วท่าทางดูเหมือนจะได้ผลซะด้วย
และนั่นคือทั้งหมดของ ผิวและหุ่น ส่วนเรื่องแฟชั่น......
อ่านข้อความหมายเหตุข้างล่างก่อนนน
**เราเข้าใจว่าเรื่องผิวคนเรามันผลัดไปเอง แต่เรื่องโตขึ้นแล้วผอมลง อันนี่อยู่ที่ตัวทำและดวงที่พ่อแม่ให้มาว่าจะดีหรือไม่ดี แต่ขึ้นอยู่ที่ตัวคุณเองด้วยว่า จะรอดวง หรือสร้างดวงด้วยตัวเอง
*เราเป็นคนที่ชอบลงทุนครั้งเดียวได้ผลไปเลย เราไม่เหมือนคนอื่นที่ใครบอกว่าใช้ดีแล้วซื้อตาม เราต้องศึกษาเข้าทุกบอร์ดที่มีรีวิวผลิตภัณฑ์ นั้นๆ แล้วอ่านคอมเมนต์เอา เพราะคนที่มาคอมเมนท์ในบอร์ดต่างๆ ส่วนใหญ่ จะพูดจริง ถ้าไม่ดี เค้าก็จะบอกตรงๆเลย แล้วเราก็เป็นคนหน้ามันรูขุมขนกว้าง เราก็ต้องหาผลิตภันที่เหมาะกับหน้าเรา
*หากอยากรู้ผลิตภัณฑ์แบบเจาะจง แบบเราใช้อะไรยังไง ทิ้งคอมเมนต์ไว้ละกัน ถ้าว่างจะมาบอกนะ
*เท่าที่เห็น คนขอเรื่องแฟชั่นมามากสุด ดังนั้น บลูขออุบไว้ดีกว่า 55555555 ไม่บอกหรอกกกกกกกกก
ล้อเล่นๆๆๆๆๆ รอเม้นท์ครบ 100 คนก่อนดิ แล้วจะมาบอก คึคึคึคึคึ 55555555
หลังจากที่หายไปนาน จนลืมปล่อยรกร้างไว้
แนะนำตัวก่อนดีกว่า เราชื่อ บลู ตอนนี้อายุ 17 ปี (มิถุนานี้ย่าง 18 ละ แก่จัง ฮือๆ)
ส่วนใครอยากได้เคล็ดลับเพิ่มเติม
IG: @bleueaddicted
LINE: bleuebluee
FACEBOOK: http://www.facebook.com/bleuebluee
จากที่สัญญาเอาไว้ว่าถ้าครบ 100 คอมเมนต์เมื่อไหร่จะมาเฉลย
'เคล็ดลับว่าทำอย่างไร ให้ผอมให้ขาว ให้แต่งตัวเก่ง'
เอาเป็นว่าก่อนจะบอกวิธีเอา Before กับ After (บางส่วน)ไปดูกันก่อน
หากใครอยากดูอย่างเต็มๆ และจุใจ ดูได้ที่นี่ Before&After จากฝ่าเท้าสู่หน้ามือ (รวมขาว+ผอมและแฟชั่น)
Before
แต่งตัวเก่งใช่ไหม หละ? 5555555
เป็นคนกินน้อย เลี้ยงงง่ายยย
ขาววววว จนสำลีอายยยยย
และแล้ว AFTER !!!!~~~
แต่งตัวแย่มากกกกกกกกก จริงไหม?
อ้วนอย่างกับหมูอย่างกับช้างงงงงงงงง ~~ แปร๋นนนนๆ
และไม่เริดไม่ขาวเหมือน Before 555555555
(ประชดได้ซะน่ากระทืบ 555555555)
เอาล่ะ ตอนนี้เรามาเฉลยแล้วน้าาาาาาาาา
จะได้ไม่ต้องไปตามกันอีก เห็นบางคนปูเสื่อรอ ยิ่งช่วงนี้ร้อนๆ
ไม่แน่รอจนเกรียมแล้วมั้งงงง 555555555
ย้ำก่อนว่า เราไม่เคยฉีดผิว ไม่เคยกินยาอ้วน และไม่เคยจ้างสไตล์ลิส!
(- เพราะเรากลัวเข็ม ฉีดยาครั้งล่าสุดร้องลั่นโรงพยาบาล
- เราไม่กินยาลดความอ้วนเพราะเรากลัว.....เรากลัวตาย พูดละสยองงง บรึ๋ยยยย
- และสุดท้ายเราไม่ได้รวยขนาดจ้่งสไตล์ลิส่วนตัว)
โอเค้? พูดกันรู้เรื่องนะ
ผิวว จากดำกาสู่มนุษย์มนาปกติ
คือเราต้องเอ่ยก่อนนะ เราอาจจะดูขาวในรูป แต่ตัวจริงเราผิวก็ยังคล้ำอยู่ เพียงแค่ขาวขึ้นนิดหน่อย แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ ผิวแลดูใสขึ้น คือดูละเอียดและสม่ำเสมอมากขึ้น แต่ก็ถือว่าขาวขึ้นจริงๆ ประมาณว่า จากสีดำไปสีน้ำตาลอ่อนละกัน คือเราก็อยากขาวนะ แต่ก็ไม่อยากขาววิงค์แบบดาราอ่ะ เราว่ามันดูซีดๆป่วยๆเหมือนศพ อีกอย่างตอนนี้เราอยู่นอก อยากบอกว่าผิวเราฮอตมากๆนะ ประมาณว่าเพื่อนในห้องชอบมาบอกทุกวันเลยว่า "ผิวสวยย อยากได้" ซึ่งเราก็แอบดีใจอยู่ คึคึ 55555 ส่วนเคล็ดลับที่เราอยากจะมาบอกคือ
- เราทาครีมกันแดดทุกวัน ทุกเช้า เพราะรร.เรามีเข้าแถวเคารพธงชาติหน้าเสาธง เราไม่แคร์ SPF แต่เราแคร์ PA ต้อง +++ เท่านั้น แล้วครีมกันแดดที่เราทาทุกวันส่วนใหญ่จะมาแนวน้ำๆ เราอยากดูเป็นผิวธรรมชาติ ไม่อยากหน้าวอกหน้าลอย แล้วที่สำคัญครีมกันแดดที่เราใช้ต้องมีส่วนผสม whitening ด้วย ซึ่งเราจะทาตั้งแต่หน้าไปจนถึงลำคอ เราไม่อยากใช้ไปนานๆแล้วขาวแต่หน้า
- เราทาครีมทุกวันก่อนนอน ย้ำว่าทุกวัน ถึงแม้ว่าบางครั้งเราจะไม่อาบน้ำนอน(ซึ่งสกปรกมากก อี๊~~ 55) แต่เราจะทาครีมผสมไวท์เทนนิงตลอดทั้งหน้าตัวและขาแขน รวมถึงครีมอาบน้ำของเรา ยังมีส่วนผสมไวท์เทนนิง
- ผลิตภัณที่อย่างที่เราใข้ ส่วนมาก เราจะเลือกที่ๆมีสารเคมีน้อยที่สุด ไม่ใช่ว่ากลัวจะกลับมาดำหลังเลิกใช้ แต่เพราะกลัว 'ตายไว' เลยต้องเลือกหน่อย
- อยู่บ้านเดินห้าง อย่าออกแดด (เราก็แอบไปทะเลด้วยอ่ะ ทำไงได้ เราอยู่ภาคใต้นี่หว่า ไปบ่อยด้วย กลับจากทะเลก็ดำตามปกติ เพียงแต่ต้องดูแลตัวเองมากขึ้น กินน้ำเยอะๆหลังโดนแดด เราจะไม่สครับผิวเลย เพราะแดดก็ทำผิวดสียอยู่แล้ว ยิ่งไปสครับยิ่งเสีย และเราจะไม่ทาครีม2วัน เพราะตอนนั้นผิวจะบางมาก ถึงแม้หลายๆครีมที่เราใช้จะเจือปนสารเคมีน้อยแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีสารเคมีอยู่ สิ่งที่เราจะทำคือกินน้ำอย่างเดียว กินน้ำเยอะๆ เพราะผิวขาดความชุ่มชื้น ผิวดำแก้ได้ด้วยครีมต่างๆ แต่หากผิวขาดความชุ่มชื้น ครีมเคิมอะไรก็ตาม ต่อให้ราคาเป็นหมื่นๆ ผิวมันก็ไม่ซึมซับ
- สุดท้ายและท้ายที่สุด **ไม่มีใครที่ทาครีมในตอนนี้แล้วขาวขึ้นภายใน5นาที หรือในอีก2ชั่วโมงหรือวันพรุ่งนี้ทันที มันเป็นไปไม่ได้ ถึงเป็นไปได้ก็ไม่ถาวร ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเวลาและความพยายาม คิดไว้อย่างเดียวว่า
"ไม่ต้องทำเพื่อนใครเพื่อผู้ชายคนไหน ทำเพื่อ 'ตัวเอง' เพราะถ้าไม่ทำตัวเอง แล้วใครจะทำ?"
หุ่นและร่่งกาย
(เราไม่ได้ออกกำลังกายเลย มีโยคะบ้างเล็กน้อย วันละ10-20นาที แต่วิธีที่เราใช้คือ การไดเอทนั่นเองงงง)
คือขอบอกก่อนว่า เราเคยเดินพาเหรดตอน ป.4 แล้วรู้สึกว่าตอนนั้นเป็นครั้งแรกที่เราได้วัดตัวแบบจริงจัง ซึ่งก็ไม่มีอะไรมากกางแขนกางขาปกติ แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดคือ แม่เราตกใจมากที่เราเป็นแค่เด็กป.4แต่เอวเรามีขนาดถึง 28นิ้ว (ปัจจุบัน ม.6 เอว 26)
ซึ่งถือว่าใหญ่ไปผิดปกติ และเราในตอนช่วงม.ต้นบอกได้เลยว่าเราอ้วนนมากก มีช่วงนึงน้ำหนักถึง 60กิโล!! (ปัจจุบัน ม.6 หนักแค่ 52) สำหรับเรามันเยอะมาก เพราะเราสูงแค่ 167 (ไม่เตี้ยไม่สูง แต่เราว่าเราเตี้ยนะถ้าวัดตามมาตรฐานชายไทย แต่ถ้าคิดแบบมาตราฐานผู้ชาย เอาส่วนสูงลด-100 ซึ่งของเราจะได้ 67 และถ้าหากน้ำหนักเราเกิน67ถือว่าอ้วน แต่เราเอามาตราฐานผู้หญิงอ่ะ เพราะเราไม่ได้มีร่างกายแบบผู้ชายแมนๆตัวล่ำๆกระดูกใหญ่ๆ เราเป็นคนกระดูกเล็กแบบเล้กกกกกกเล็ก และดูได้จากภาพต่างๆว่า นั่นขนาดแค่ยังไม่ถึง 60ยังจะอ้วนขนาดนั้น แล้วจะเอายังไงถ้าเกิน 67
ตามมาตราฐานผู้หญิงให้ลบด้วย 110 ซึ่งได้ 57 แล้วเราก็เกินมาถึง3กิโล
ซึ่งถือว่าไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ แต่เคยได้ยินไหม ลบ110คือสมส่วน ลบ120คือหุ่นดี
ถ้าลองลบดูแล้ว 167-120= 47 เฮ่ยยย!! เราเกินมาถึง13กิโล!! มันมากกเกินนไปป!!
แล้วยิ่งเราต้องมาที่ประเทศอิตาลีอีกก็รู้ๆอยู่ว่าสปาเกตตี้ไอติมพิซซ่า คนอิตาลีกินกัน ทุกวัน!! เราเลยคิดกับตัวไว้เลยว่าต้องลดแบบจริงจัง!
- วิธีไดเอทของเราคือกินน้อย น้อยลงกว่าปกติ ซึ่งก่อนหน้านี้กิจวัตรการกินของเรามันน่ากลัวมาก แบบข้าวมื้อละ2จาน แบบล้นๆจาน กินบุฟเฟต์จ่าย 299บาทไรงี้ แต่เรากินทีเหมือนจ่าย 5,000 เรากินเยอะมากกกกกกกกก อย่างแบบางที่ให้เวลาชั่วโมงครึ่ง เรากินตั้งแต่นาทีแรกจนวินาทีสุดท้ายย
การไดเอทของเรา คือการกินน้อยลงให้เหมือนคนปกติ ข้อดีของเราคือเราเป็นคนที่หักห้ามใจตัวเองได้เก่ง เราสั่งตัวเองให้เป็นโรคเบื่ออาหารได้ 555 บางทีหิวก็ต้องทน เอาแต่กินน้ำอย่างเดียว ขนาดแม่ตัวเองที่เจอกันทุกวันนั่งเล่นคอมข้างๆกันยังทักเลยว่าไปกินยาลดความอ้วนมาหรือเปล่า เพราะเราดูผอมเร็วมากๆ เราบอกแม่ไปอย่างเดียวคือ "บลูไม่กินหรอกแม่ยาลดความอ้วน บลูกลัวตาย" แม่ก็ยิ้มขำฮาๆกันไป
และนี่คือเคล็ดลับบบบบของหุ่นและร่างกายจ้าาาาา
- ให้ทำช่วงปิดเทอม และไม่ต้องบอกใครว่าไดเอท เพราะถ้าช่วงไปรร.เพื่อนก็จะบอกว่า "แกไม่อ้วนหรอก แบบนี้แหละดีแล้ว" ซึ่งมันน่ารำคาญมาก เพราะมันจะทำให้เราไม่อยากลดน้ำหนัก ดังนั้นทำการทำตอนปิดเทอมนอกจากจะไม่มีใครกวนใจแล้ว พอเปิดเทอมยังอาจจะได้รับคำชมจากเพื่อนๆด้วย แบบ "เฮ่ยไปทำอะไรมา ทำไมผอมลง"
- ไดเอทให้งดออกกำลัง บลูไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายเพราะกินน้อยอยู่แล้ว ถ้าไปออกกำลังกายจะทำให้เป็นลมเข้าโรงพยาบาลใส่น้ำเกลือกินข้าวต้ม+เปลืองค่าห้องพักได้ ดังนั้น เราลดความอ้วน ไม่ได้ลดส่วนที่ย้อยๆแบบอ้วน100กิโลดังนั้น เราจึงต้องการเพียงแค่ ไดเอทและไม่ออกกำลังกาย
-ไดเอทแบบกินนับแคลลอรี่ วันละ 1,200 สิ่งที่ได้ผลที่สุดที่เราทำตลอดคือ เรากินวันละ 1,200 แคลลอรี่ ซึ่งปกติมนุษย์ทั่วไปต้องการวันละ 2,000 การที่ลดไปอีก 800 และเดินอีก 30นาทีไปโน่นนี่ จะเท่ากับกินแค่วันละประมาณ 1,000 แคล และจำไว้ว่า ข้าวกะเพราไก่ไข่ดาว1จาน มีน้ำหนักประมาณ 850 แคล ถ้ากินจานนี้ตอนเที่ยง มื้อเย็นกินได้ แค่อีก 350 ซึ่งเท่ากับซุบ1-2ถ้วย
-เดินเยอะ กินน้อย เรากินน้อย แถมเรายังเดินห้างเยอะด้วย ไม่ใช่ว่าเรามีเงินไว้ช็อป แต่เราชอบดูของในห้าง เคยไหม เดินห้างจนลืมหิว? เราเป็นบ่อยมาก และหลายๆครั้งที่เราลืมกินมื้อเที่ยงแล้วกินมื้อเย็นทีเดียว
- กินดึกไม่ได้ทำให้อ้วน เพราะเราติดเกมส์เมเปิลช่วงตอนปิดเทอม เล่นถึงตี1-2ทุกวันอ่ะ แล้วพอเล่นเสร็จ เราก็แอบทอดไข่ดาวกินเล่น ซึ่งไข่ดาวมีแคลลอรี่แค่ 95-120 แคล ซึ่งถือว่าน้อยมาก กินกับข้าวอีกนิด ก็จะประมาณ 200 แคล ดังนั้น ก็ถือว่าอยู่รอด (ถ้าวันนั้นแคลไม่เหลือให้กินเพิ่ม ก็ดื่มน้ำแทน 555555555)
-มีน้ำไว้ดื่มแทนข้าว เคยไหม กินข้าวไปเมื่อไม่กี่ชม.ก่อนแล้วทำไมหิวอีกแล้ว นั่นไม่ใช่เพราะเราต้องการอาหารแต่เพราะร่างการของคนเราต้องการการ Hydrate จากน้ำ ไม่ใช่อาหาร ดังนั้นดื่มน้ำกันเถอะ!!
-มีหลายคนบอกว่ากินน้อยๆแล้วไม่ดีต่อสุขภาพ แต่เอาเรื่องที่ว่าคนเราขาดน้ำได้3วัน ขาดอาการได้7วันไปคิดกันนะ
-ไดเอทอย่างมีสุขภาพ เรากินข้าวกับผักต้ม แม่พ่อซื้อกับข้าวอะไรมาเราก็ตักเนื้อบ้าง แต่ส่วนใหญ่แล้วเราตักแต่ผัก เราจะเอาข้าวไปกินหน้าคอมพร้อมกับดูหนังหนึ่งเรื่องเสมอ อาจจะดูเป็ลูกพ่อแม่ตามใจ แต่อยากบอกว่าได้ผลนะ เพราะเคยไหมที่กินแล้วแต่ยังหิวอยู่ แต่พอกำลังไปตักหรือสั่งอีกจานดันอิ่มขึ้นมาทันทีซะงั้น แถมยังต้องเอาจานถัดไปจุกเข้าท้องอีก ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดคือเราจะกินหน้าคอมพร้อมหนัง2ชม1เรื่อง หนังฝรั่งหรืออะไรก็ตาม เอาแบบโหลดเรียบร้อยแล้วด้วยนะ เราจะกินไปดูไป แล้วพอข้าวหมด เราก็จะยังรู้สึกหิวอยู่นิดๆ ดังนั้นเราจึงรู้สึกขี้เกียจลุกไปเติม และเพลินกับหนังไปจนลืมหิวไปเลยย
-โยคะ กิจกรรมเผาผลาญนี้ดูไฮโซใช่ไหม? แต่เราโยคะจากแผ่นซีดี โยคะจากคลิปในยูทูปเอาอ่ะ เราอยากให้เราลดไปด้วย หุ่นเฟิร์มไปด้วยอ่ะ แล้วท่าทางดูเหมือนจะได้ผลซะด้วย
และนั่นคือทั้งหมดของ ผิวและหุ่น ส่วนเรื่องแฟชั่น......
อ่านข้อความหมายเหตุข้างล่างก่อนนน
**เราเข้าใจว่าเรื่องผิวคนเรามันผลัดไปเอง แต่เรื่องโตขึ้นแล้วผอมลง อันนี่อยู่ที่ตัวทำและดวงที่พ่อแม่ให้มาว่าจะดีหรือไม่ดี แต่ขึ้นอยู่ที่ตัวคุณเองด้วยว่า จะรอดวง หรือสร้างดวงด้วยตัวเอง
*เราเป็นคนที่ชอบลงทุนครั้งเดียวได้ผลไปเลย เราไม่เหมือนคนอื่นที่ใครบอกว่าใช้ดีแล้วซื้อตาม เราต้องศึกษาเข้าทุกบอร์ดที่มีรีวิวผลิตภัณฑ์ นั้นๆ แล้วอ่านคอมเมนต์เอา เพราะคนที่มาคอมเมนท์ในบอร์ดต่างๆ ส่วนใหญ่ จะพูดจริง ถ้าไม่ดี เค้าก็จะบอกตรงๆเลย แล้วเราก็เป็นคนหน้ามันรูขุมขนกว้าง เราก็ต้องหาผลิตภันที่เหมาะกับหน้าเรา
*หากอยากรู้ผลิตภัณฑ์แบบเจาะจง แบบเราใช้อะไรยังไง ทิ้งคอมเมนต์ไว้ละกัน ถ้าว่างจะมาบอกนะ
*เท่าที่เห็น คนขอเรื่องแฟชั่นมามากสุด ดังนั้น บลูขออุบไว้ดีกว่า 55555555 ไม่บอกหรอกกกกกกกกก
ล้อเล่นๆๆๆๆๆ รอเม้นท์ครบ 100 คนก่อนดิ แล้วจะมาบอก คึคึคึคึคึ 55555555
เลขไอพี : ไม่แสดง
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
#9 |
`{กล้วยหอม};นมสด (ไม่เป็นสมาชิก)
|
4 พ.ค. 56 23:01 น.
ขอบคุณค่า แปะๆ เป็นประโยชน์มากเลย ^-^
ไอพี: ไม่แสดง
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google