วิจารณ์ Jurassic Park 3D

Jurassic Park 3D
By Bigtum

: ไดโนเสาร์ในวัยเยาว์

จำได้แม่นเลยกับความรู้สึกในสมัยเด็กที่ได้ดูหนังเรื่อง Jurassic Park ยังจำความรู้สึกตื่นเต้นในตอนนั้นได้อยู่เลย ตื่นเต้นที่ได้ไปโรงหนัง เป็นโรงหนังเปิดใหม่แถวรามอินทรา (ปัจจุบันปิดไปแล้ว) ซึ่งเพิ่งสร้างเสร็จได้ไม่นาน สมัยก่อนยังไม่มีหรอกโรงหนัง MAJOR หรือ SF ผู้เขียนที่ยังเป็นเด็กนักเรียนตัวกะเปี๊ยกในตอนนั้นรู้สึกตื่นเต้นมากๆ ที่จะได้ดูหนังจอใหญ่ แม้มันจะไม่ใช่เรื่องเเรก แต่ตื่นเต้นไปกับบรรยากาศที่ได้ดูพร้อมกับเพื่อนๆทั้งห้อง (โรงเรียนพาไปดู) ตื่นเต้นที่จะได้เห็นไดโนเสาร์ ขอบอกว่าสมัยนั้นไดโนเสาร์เป็นอะไรที่ฮิตเอามากๆ อานิสงฆ์จากหนัง Jurassic Park ทำให้ผู้เขียนบ้าไดโนเสาร์อยู่พักใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นนั่งท่องจดจำชื่อไดโนเสาร์ ซื้อของเล่น ซื้อสารคดี เรียกว่าเดือดร้อนเงินในกระเป๋าคุณแม่ไปพอสมควร การได้กลับมาชม Jurassic Park อีกรอบในครั้งนี้ จึงเปรียบได้กับการไปเปิดกล่องความทรงจำ รื้อประสบการณ์ในวัยเด็กออกมาแชร์ เรียกว่าเหมือนได้กลับไปเจอเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอมานานนับทศวรรษ แต่เพื่อนคนนี้ได้แปลงกายโมดิฟายตัวเองใหม่เป็นระบบ 3D กับความละเอียดคมชัดของภาพระดับ 4K ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมานั้นถือว่าไม่เลวเลย!

รอบที่ชมเป็นระบบ Imax 3D ของพารากอน ภาพเต็มจอตลอดทั้งเรื่อง ใครที่ชอบดูหนังสามมิติแบบเน้นความลึกจะต้องถูกใจแน่นอน แค่ฉากคนยืนคุยกันก็เห็นมิติความลึกของภาพอย่างชัดเจน พวกต้นไม้ใบหญ้ายิ่งไม่ต้องพูดถึงแบ่งเลเยอร์ทะลุจอออกมาให้เห็นค่อนข้างชัดเต็มตา ซึ่งก็รวมไปถึงฉากเม็ดฝนในตอนที่เกิดหายนะขึ้นกับตัวละคร งานนี้ต้องขอชมสปีลเบิร์กที่ยอมลุงทุนเนรมิตหนังให้กลายเป็น 3D นานกว่าเก้าเดือน โดยใช้บริการทีมของ สเตอริโอดี (STEREO D) ทีมเดียวกับที่เคยแปลงหนัง Titanic ให้เป็น 3D นั่นแหละ

ในส่วนของระบบเสียงที่ปรับปรุงให้ดีขึ้นนั้น ถือว่าไม่ทำให้ผิดหวังเลย โดยที่หนังแทบจะไม่ต้องปรับเปลี่ยนอะไรในส่วนนี้ด้วยซ้ำ เพราะของเดิมเค้าดีอยู่แล้ว โดยเฉพาะดนตรีประกอบของจอห์น วิลเลี่ยมส์ ที่คุ้นหู เคยถูกยืมเอาไปใช้อยู่บ่อยครั้งเเต่ก็ไม่กลมกลืนเท่ากับมาอยู่ในหนังจูราสสิค พาร์ค ต้นฉบับนี้ได้เลย ก็เพราะเค้าแต่งมาให้กับหนังโดยเฉพาะน่ะสิ ยิ่งได้ระบบเสียงแบบกระหึ่มทรงพลังของไอเเมกซ์ ทำให้ราวกับได้ไปนั่งอยู่ใจกลางวงออร์เคสตร้า ที่มีเสียงไดโนเสาร์ร้องคำราม มันช่างคลาสสิกที่สุด แม้เวลาจะผ่านมาถึง 20 ปี ก็ไม่รู้สึกเชย ยังคงสนุกกับการได้เห็นไดโนเสาร์ตัวโปรดอย่างเจ้าทีเร็กซ์ ไทแรนโนซอว์รัส ต่อสู้กับเวโลซีแร็พเตอร์สองตัวอย่างลื่นไหล จุดที่น่าเสียดายอยู่นิดหน่อยก็คือ มีความรู้สึกว่าหนังสมัยก่อนนั้นใส่ฉากแอ็คชั่นมาให้น้อยไปนิด

ส่วนข้อที่อยากจะขอติติงคือ ซับไตเติ้ลของโรงไอแมกซ์จากพารากอนเรื่องนี้จางมากๆ มองเเทบจะไม่เห็นเลย ทั้งที่ตอนผู้เขียนชม Star Trek Into Darkness จากโรงนี้ ซับยังสว่างชัดเเจ๋วอยู่เลย ก็เลยสงสัยว่าซับไตเติ้ลมันเลือกหนังด้วยแหะ ไม่น่าเลย น่าจะใช้มาตรฐานเดียวกันให้หมด กลับมาที่ตัวหนังต่อ สิ่งที่น่าชื่นชมของหนังนอกจากเจ้าไดโนเสาร์ที่สร้างออกมาได้อย่างสมจริงสุดๆในยุคนั้นแล้ว ทีมนักเเสดงยังมาพร้อมกับความลงตัว แซม นีลล์, ลอร่า เดิร์น, เจฟฟ์ โกลด์บลัม และซามวล แอล เเจ็คสัน คือสีสันความสนุกที่ขาดไม่ได้ ส่วนรุ่นใหญ่ ริชาร์ด แอ็ทเทนเบอโรห์ ผู้ให้กำเนิดจูราสสิค พาร์ค ในหนัง เปรียบเสมือนเป็นตัวแทนของพ่อมดสตีเว่น สปีลเบิร์ก ผู้เนรมิตรความมหัศจรรย์ มอบอลังการสมจริงมาสู่แผ่นฟิล์มที่ทำให้คนดูประทับใจจวบจนมาถึงปัจจุบัน

ระดับคะแนน "B"

ยังมีรีวิวหนังเรื่องอื่นๆอีกเพียบ! แวะเวียนเข้าไปอ่านกันได้ที่
https://m.facebook.com/#!/profile.p.........100001766011395