ความเห็นหลังดู Now you see me

30 พ.ค. 56 17:48 น. / ดู 2,616 ครั้ง / 10 ความเห็น / 1 ชอบจัง / แชร์
~NO Spoiler~

เรื่องย่อ
แดเนี่ยล(Jesse Eisenberg), เมอร์ริท(Wooden Harrelson), เฮนลี่ย์(Isla Fisher) และ เจมส์(Dave Franco) เป็นกลุ่มเซียนมายากลที่เรียกตัวเองว่า The Forth Horsemen ซึ่งตัดสินใจใช้ความสามารถที่พวกเขามีในการโจรกรรมธนาคารจนเป็นที่โด่งดังไปทั่ว โดยมีเป้าหลายคือสถานที่3สถานที่ เดือดร้อนไปจนถึงเจ้าหน้าที่จากหน่วย FBI ดีแลน โรดส์(Mark Ruffalo) และเจ้าหน้าที่ตำรวจสากล อัลม่า เดรย์(Melanie Laurent) ที่ต้องตามจับพวกเขาให้ได้อย่างคาหนังคาเขา ก่อนที่การโจรกรรมครั้งนี้จะลุกลามไปมากกว่านี้ นอกจากนี้อดีตนักมายากลเก่าที่ผันตัวมาแฉกลโกงอย่าง ธาเดียส แบรดลีย์(Morgan Freeman) ยังคอยตามติดอยู่ห่างๆโดยมีจุดประสงค์เพื่อการแฉกลโกงของ The Forth Horsemen อย่างเผาทุกเม็ด เก็บทุกรูขุมขน แต่เชื่อเถอะ ยิ่งคุณใกล้แค่ไหน คุณก็จะเห็นความจริงน้อยลง..

เนื้อเรื่อง
ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ Louis Leterrier จาก Transporter1-2 มานั่งแท่นผู้กำกับ ประกบคู่ด้วย2นักเขียนบทอย่าง Boaz Yakin(Prince of persia) และ Edward Ricourt ซึ่งถือได้ว่าเป็นการเลือกนักเขียนบทที่ฉลาดมากๆ ตัวหนังมีความโดดเด่นในด้านของความซับซ้อนและการทำให้ผู้ชมคิดตาม ซึ่งเป็นส่วนช่วยให้ตัวหนังมีความน่าติดตามมากขึ้นจนผู้ชมไม่กล้าลุกไปไหน(กลัวคิดตามไม่ทัน) ตัวหนังมีการนำมุขตลกแทรกมาเป็นระยะๆ ซึ่งดูแล้วถือว่าสอบผ่าน โดยเฉพาะบางมุขที่ทำเอาคนฮือฮากันทั้งโรงแถมแอบได้ยินคำว่า “มุงแน่มาก” หลุดออกมาด้วย ด้านของการเกลี่ยบทหนังนั้นดูจะเอนเอียงไปที่ฝั่งFBIมากกว่า โดยที่เนื้อเรื่องช่วงท้ายจะเป็นการคลายปมว่าเพราะเหตุใดตัวบทถึงได้เป็นเช่นนั้น ทางด้านของการนำเสนอภาพมีความลื่นไหลดีมาก มีการใช้มุมกล้องที่หลากหลาย มีการตัดแบบCutชนที่สับเปลี่ยนค่อนข้างเร็ว ซึ่งมีส่วนช่วยให้หนังน่าติดตามมากขึ้น แต่อารมณ์หนังดูดร็อปลงไปบ้างเพราะดนตรีไม่ระทึกเท่าที่ควร ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะตอนเขียนบทหนังช่วงครึ่งหลังนั้นใกล้ Dead line รึเปล่า เพราะดูแล้วบทช่วงหลังดูลวกๆไปนิด มีบางฉากที่อืดไปบ้างแต่เป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น บางฉากแอบเดาได้หน่อยๆ ส่วนพล็อตหลักนั้นดูจะเป็นหนังที่แฝงความอยากเป็นลัทธิ Illuminati ลงไปเยอะหน่อย(ฉันแอบไม่ชอบใจเท่าไหร่) แต่โดยรวมแล้วถือว่าเป็นภาพยนตร์ที่มีบทดีและเก็บเล็กเก็บน้อยได้เยี่ยมเรื่องหนึ่ง อีกอย่างนะ..การได้เห็นตำรวจติดกับมันสนุกเฟ่อ อ อ



เอฟเฟคท์
ทางด้านของ Special Effect ได้ Giovanni Bommarito จาก Django Unchained มาช่วยในการควบคุม ซึ่งผลออกมาคือสเปเชี่ยล เอฟเฟคท์ออกมาน่าตื่นตามากๆ ดูยิ่งใหญ่มาก เหมือนจริงมาก และที่สำคัญกว่าอะไรทั้งหมดคือดูแล้ว“เชื่อ”ว่าเป็นสิ่งที่นักมายากล(ในหนัง)สามารถทำได้จริง จะเว้นก็แต่ฟองอากาศยักษ์ที่ดูแล้วเกินจริงไปหน่อย อย่างไรก็ตามสเปเชี่ยล เอฟเฟคท์ในเรื่องนี้ถือว่าเข้าขั้นดีและน่าตื่นตาตื่นใจ แต่มีอย่างหนึ่งคือหลังจากที่ดูไประยะหนึ่งแล้ว ตัวเอฟเฟคท์ที่ใส่มาตลอดเริ่มจะช้ำ อาจทำให้คนดูแอบเบื่อได้ในบางช่วง ฉากแอคชั่นไม่ได้ใส่มาเยอะมากมายแต่ดูแล้วน่าลุ้นมาก เนื่องจากมีการผสมผสานการเล่นกลไว้ด้วยซึ่งดูแล้วไม่โอเวอร์แอคติ้งจนเกินไป น่าประทับใจมาก

การแสดง
มาที่ฝั่งFBIกันก่อน Dylan Rhodes ที่รับบทโดย Mark Ruffalo(The Avengers) เป็นหนึ่งในแคแรคเตอร์ที่เป็นตัวดึงในผู้ชมอยู่ติดกับภาพยนตร์เรื่องนี้ได้อย่างดี ความหยาบคายและความหยิ่งทะนงในตัวเองนั้นเป็นสิ่งที่มาร์คทำให้เชื่อมากๆว่าเขามีองค์ The Hulk สิงอยู่จริงๆ(ห๊ะ?? ว้าย!!..วิจารณ์ผิดเรื่อง!!) ขอชื่นชมสิ่งที่โดดเด่นมากๆของเขาคืออินเนอร์และอายคอนแทคท์ที่ดูถึงบทมาก มาร์คสามารถตีแคแรคเตอร์ของเขาอย่างอยู่หมัดและสามารถทำให้ตัวละครของเขาโดดเด่นขึ้นมาได้จากความหยาบคายและหยิ่งทะนงอย่างดีเยี่ยม

Jesse Eisenberg จาก Zombieland ก้าวมารับบทนำอย่าง J. Daniel Atlas ในภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งเขาสามารถแสดงออกถึงแคแรคเตอร์การเป็นนักมายากลกวนประสาทได้อย่างดี ถึงแม้ในบางฉากจะดูไม่สุดเท่าไหร่ แต่เมื่อดูกราฟความพัฒนาด้านการแสดงของเขาแล้ว เขาถือว่าเป็นนักแสดงที่มีพัฒนาการสูงคนหนึ่งเลยทีเดียว เจสซี่เป็นนักแสดงที่ทำให้เราเชื่อได้มากในการรับบทเป็นหัวหน้าทีม The Forth Horsemen และขอชื่นชมการรับ-ส่งบทของเขาว่าทำได้เนียนและรู้จังหวะมากๆ

ทางด้านของ Woody Harrelson(The Hunger Games) ที่ได้รับบท Merritt McKinney นักสะกดจิตที่สามารถอ่านใจผู้อื่นได้นั้น ดูเป็นแคแรคเตอร์ที่มีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวค่อนข้างมาก แต่ไม่รู้ว่ารู้สึกไปคนเดียวหรือเปล่า แต่การตีแคแรคเตอร์นี้ของเขาดูจะเหมือนกับตัวละคร Haymitch มากไปหน่อย คือถ้าดูแล้วจินตนาการว่าเป็นเฮย์มิทช์ภาคหัวล้านก็ดูจะใช่เลย แต่อย่างไรก็ตามอารมณ์ขันเล็กๆของเขาก็ยังคงสามารถใช้ได้และดูกลมกลืนกับภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี

จบจาก The Great Gatsby สาว Myrtle หรือ Isla Fisher ก็มาต่อกันเลยกับบท Henley Reeves นักมายากลสาวเพียงหนึ่งเดียวของทีม ที่ดูแล้วเป็นตัวละครที่เหมาะกับตัวไอล่ามาก ไอล่าสามารถทำให้บทที่เธอได้รับดูโดดเด่นขึ้นมาได้ไม่แพ้ตัวละครอื่นๆเลย ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วชอบที่เธอตีความจากบทในภาพยนตร์เรื่อง Confessions of a Shopaholic อยู่ก่อนแล้ว แต่ก็แอบหวั่นว่าเธอจะเอาตัวละครจากภาพยนตร์เรื่องก่อนหน้ามาปะปนกับแคแรคเตอร์นี้รึเปล่า แต่เห็นได้ชัดว่าเธอมีความสามารถในการตีและวาดแคแรคเตอร์ที่ต่างกันได้ดีมากๆ

มาที่หนุ่ม Dave Franco(Warm Bodies) น้องชายแท้ๆของ James Franco ที่กระโดดมารับบท Jack Wilder นั้นเป็นนักมายากลที่อายุน้อยที่สุดในทีม แถมดูทีแรกคิดว่าบทจะไม่ค่อยส่งไปให้เท่าไหร่ แต่เมื่อดูไปแล้วพบว่าเขาเป็นตัวละครตัวสำคัญตัวหนึ่งของภาพยนตร์เรื่องนี้เลยทีเดียว เดฟสามารถแสดงให้เห็นว่าเขาก็มีความสามารถในการแสดงไม่แพ้นักแสดงรุ่นพี่เลย และฉากแอคชั่นของเขาก็ดูเท่ห์และลงตัวมากๆ บทของแจ็คเป็นเพียงตัวละครไม่กี่ตัวในภาพยนตร์เรื่องนี้ที่เป็นตัวละครแบบกลมและดูมีมิติ ต่างจากตัวละครอื่น

จะไม่พูดถึงคงไม่ได้สำหรับ Morgan Freeman(Million Dollar Baby) ในบทอดีตนักมายากลอย่าง Thaddeus Bradley ก็เป็นตัวละครซัพพอร์ทที่แสดงได้น่าเชื่อถือและเล่นได้ลื่นไหลมากๆ เช่นเดียวกับ Melanie Laurent ในบทตำรวจสากลสาว Alma Dray ที่แสดงได้น่าเชื่อถือและแม้ว่าอินเนอร์ของเธอจะไม่ได้ถูกส่งผ่านตัวบทมากนัก แต่ก็นับว่าเธอเป็นตัวละครที่มีประโยชน์และทำให้ตัวหนังมีมิติขึ้นมาก สุดท้ายที่อยากพูดถึงคือตัวละครรองอย่าง เจ้าหน้าที่ Fuller ที่รับบทโดย Michael Kelly ที่ดูแต่ละฉากแล้วอดสงสารไม่ได้ ที่โดนตัวละครอื่นแกล้งอยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าถามว่าตัวละครตัวนี้มีประโยชน์อะไรกับตัวหนังเรื่องนี้มากมายหรือไม่..ก็ไม่นะ



คุณภาพ
ภาพยนตร์เรื่องนี้อาจเป็นเพียงตัวเลือกรองที่ผู้ชมหลายคนเลือกรับชม เนื่องจากดันมาชนกันเด๊ะๆกับ The Hangover part3 แต่ต้องขอบอกว่าถ้าคุณได้ชมคุณจะไม่ผิดหวังเลย แค่คิดซะว่าตีค่าตั๋วมาเพื่อดูเอฟเฟคท์อลังการและสมจริง ตัวบทที่ดูซับซ้อนชวนน่าติดตาม และการแสดงของเหล่านักแสดงอัจฉริยะ ก็เรียกได้ว่าคุ้มกับคุณภาพเหล่านี้แล้ว ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณเองแล้วว่าจะสามารถตีความภาพรวมของตัวหนังให้อยู่ในระดับที่มีคุณภาพมากแค่ไหน แต่โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มีคุณภาพมากเรื่องหนึ่งเลย 

ความบันเทิง
ทางด้านของความบันเทิงนั้นกล่าวได้เลยว่าเป็นภาพยนตร์ที่ขายความบันเทิงได้อย่าง(เกือบ)ครบรูปแบบเลยทีเดียว ถ้าถามว่าเป็นหนังที่ควรดูมั้ย นั่นเป็นการตัดสินใจของคุณ เพราะบอกได้คำเดียวว่าถ้าคุณอยากดูหนังที่ดีๆซักเรื่องที่เน้นการใช้ความคิดนิดๆ มีอารมณ์ขันหน่อยๆ แต่ฉากแต่ละฉากอัดแน่นไปด้วยความงามของมุมกล้องและการตัดต่อ ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คง“ใช่”สำหรับคุณไม่มากก็น้อยแหละน่า โดยส่วนตัวแล้วภาพยนตร์เรื่องนี้มัน.. ติดตา สนุก แต่ไม่ตรึงใจเท่าไหร่ แต่หลังจากดูจบแล้วอยากจะให้มีใครจะโกน "Freeze!!" ดูมั่งแฮะ >< ฉันอยากกระโดดใส่

อ่านบทความอื่นๆของจี
ความเห็นหลังดู The Twilight Saga: Breaking Dawn part2
ความเห็นหลังดู Silent Hill2 ; Revelation 3D
ความเห็นหลังดู Resident Evil5 ; Retribution 3D
ความเห็นหลังดู The Hunger Games
ความเห็นหลังดู The Darkest Hour 3D
ความเห็นหลังดู The Three Musketeers 3D
ความเห็นหลังดู Harry Potter and the DH Part2
ความเห็นหลังดู X-Men ; First Class
ความเห็นหลังดู Sucker Punch
ความเห็นหลังดู Sorority Row
ความเห็นหลังดู Bring it on5 ; Fight 2 the finish
ควาเมห็นหลังดู Harry Potter And The HBP
ความเห็นหลังดู Bride war
ความเห็นหลังดู Street Fighter ; Legend of Chun-li
ความเห็นหลังดู Bring it on4 ; In it 2 Win it
แก้ไขล่าสุด 30 พ.ค. 56 18:03 | เลขไอพี : ไม่แสดง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | KizzMeAgainPlz | 30 พ.ค. 56 19:56 น.

สรุปแล้วเราก็อยากรู้ว่า กลุ่มเนตรนั้นมีอิทธิพลมากกว่านี้อีกไหม
เพราะเราเห็นแค่.....ที่เผยตัวเท่านั้นเองนี่นา เพราะมาชำระแค้นให้พ่อ
แล้วลึกๆกว่านั้นล่ะ กลุ่มนี้มีเบื้องลึกอะไรไปมากกว่านี้อีกไหม
เพราะถ้า "ทำขนาดนี้" แล้วจบเพราะเป็นการชำระหนี้ให้คนๆเดียว มันก็ดูเป็นการลงทุน ที่จัดหนักเสียเหลือเกิน.....

ฉากในห้องขัง...ฉันเชื่อว่าตอนนั้นใครๆก็คิดว่าเป็นตำรวจสากลสาวสวยคนนั้นแน่ๆ 5555 

แก้ไขล่าสุด 30 พ.ค. 56 19:59 | ไอพี: ไม่แสดง

#2 | jackie | 30 พ.ค. 56 20:44 น.

สีหน้าประหลาดใจของ ฟรีแมน เมื่อ รู้ว่าตัวเองพลาด(ซะแล้ว)คือสุดยอดเอฟเฟคส์ของผมแล้ว
ถึงแม้หนังจะไม่สุดๆมากเท่าที่คิดก็ตาม

ไอพี: ไม่แสดง

#3 | miss.nobody | 30 พ.ค. 56 21:54 น.

ดูแล้วมันยังไม่สุด แอบหักมุมเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ตกใจขนาดนั้น ตอนเห็นตัวอย่างคิดว่าจะเทียบชั้น inception

ไอพี: ไม่แสดง

#4 | yeahh | 30 พ.ค. 56 22:00 น.

มันน่าจะทำได้ดีกว่านี้ เเต่มันก็ไม่ได้เเย่อะไร
สนุกดี ซีนต่อสู้กันเเบบกร๊ีดๆๆ เลิศคร้า ไล่ล่าสุดริด

ไอพี: ไม่แสดง

ส่วนตัว ชอบมาก น่าตื่นเต้นสุดๆ  และตกใจกับการหักมุมหน่อยๆ
ชอบเวลาการขึ้นแสดงโชว มันดูอลังมากสำหรับเรา

ไอพี: ไม่แสดง

#6 | FallsDownz | 31 พ.ค. 56 01:09 น.

ผมชอบมากๆครับ ผมว่าหลายๆช่วงเขาใช้คำว่าภาพยนตร์ ผสมผสาน กับ มายากลได้ดิบดีมาก
บทผมก็ว่าน่าติดตาม น่าสนใจ แต่ผมว่าตัวละครหลายๆตัวไม่ค่อยน่าสนใจ และ บางตัวละครหายไปกลางเรื่องซะอย่างงั้น แถมบางช่วงมุมกล้องปาดไปปาดมา พามึนมาก

ไอพี: ไม่แสดง

#7 | MTH.Channel | 31 พ.ค. 56 09:08 น.

#3 ผมยอมรับว่ามันไม่สุดอย่างที่คุณว่า(ก็คงแบบผมน่ะแหละ หวังให้มัน Surprise แบบอึ้งมากๆ แต่ไม่อึ้งเท่าที่หวัง...) แต่มันก็เป็นหนังที่เยี่ยมเลยนะ ส่วนเรื่องที่ว่าเทียบ Inception คิดงั้นจริงๆหรอครับ.. เทียบ Inception เลยเนี่ยนะ.....

ไอพี: ไม่แสดง

#8 | .::นู๋กระต่าย::. | 31 พ.ค. 56 22:27 น.

The Prestige (2006) จัดไป

ไอพี: ไม่แสดง

#9 | spriggan | 1 มิ.ย. 56 09:01 น.

ใครเป็นคนเผากระดาษแฟลช???
เข้าไปเผาได้ไง???
แล้วไพ่ที่มีลายเซ็นต์ ทำไมไม่โดนเผาไปด้วย

ไอพี: ไม่แสดง

#10 | aki-san"(-^.^-) | 1 มิ.ย. 56 12:42 น.

เดี่ยวพรุ่งนี้จะไปดู -3- ฮิฮิ

ไอพี: ไม่แสดง

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google