Box office มายากลกับ2พลังสมิธพลาด Fast Six ยังคงอยู่อันดับ 1

ผ่านไปสัปดาห์นึงมันช่างแสนจะรวดเร็วและในสัปดาห์นี้มีหนังเข้าใหม่ถึง 2 เรื่อง และแต่ละเรื่องนั้นเป้งๆทังนั้น และทำให้สุดสัปดาห์นี้กลายเป็นความคาดหวังใหม่ของเหล่านักดูหนังทั้งๆที่ผ่านมาส่วนใหญ่เป็นหนังฟอร์มยักษ์ฟอร์มดีทั้งนั้น และก็ไม่ผิดฟอร์มนัก

มาดูที่อันดับ 1 แม้จะครองแชมป์เป็นสมัยที่ 2 แต่ด้วยรายรับที่ตกลงถึง 65% นั้นคงเป็นเรื่องปกติของสมัยนี้ แต่ถ้าเทียบจริงๆแล้วส่วนใหญ่ในปีนี้อัตรการลดลงเต็มที่ไม่น่าจะเกิน 60% ซึ่งถือว่าไม่น่าจะอยู่ในระดับปกติของปีนี้แล้ว แต่ยังดีที่ยังประคับประคองหนังทำรายได้เพิ่มไป $34.9 ล้าน รายได้รวม $170.4 ล้าน ซึ่งถือว่าเร็วและแรงที่สุดและผ่านหลักทุนสร้างไปแล้วเรียบร้อย รายได้รวมทั่วโลกผ่านหลัก $430 ล้าน ณ.ตอนนี้เตรียมแซงขึ้นรายได้ทั่วโลกตลอดกาลอันดับ 1 ในชาร์ตของ The Fast ใน 2-3 อาทิตย์นี้อย่างแน่นอน ส่วนใหญ่นักวิจารณ์และผู้ชมก็ยังชอบแบบเดิมเช่นเคยแต่ก็ไม่ได้ไปในทางที่บวกหมด ซึ่งถือเป็นความชอบส่วนบุคคลละกันนะครับ



อันดับที่ 2 กลายเป็นสัปดาห์สุดช็อคเมื่อหนังที่ไม่มีคาดคิดกลับแซงหนังอีกเรื่องนึงที่คาดว่าจะมาโค่น นั่นก็คือ หนังมายากลโจรกรรม Now yo see me  ที่ทำรายได้ไปไม่น้อยเลยเมื่อเทียบกับทุนสร้างด้วย $28.1 ล้าน จากทุนสร้าง $70 ล้าน ตัวหนังไม่ค่อยได้รับคำวิจารณ์ในทางที่ดีเท่าที่ควรเมื่อเทียบกับผู้ชมที่ส่วนใหญ่ลงความเห็นว่าหนังนั้นเข้าขั้นดี ยังไงก็ลองไปชมละกัน



อันดับ 3 กลายเป็นความน่าผิดหวังแห่งปี เมื่อนักแสดงระดับแถวหน้าอย่าง วิลล์ สมิธ ออกโรงมาแล้วแต่ก็ไม่ได้ช่วยกู้หน้าหนังไว้อย่าง After Earth ทีทำรายได้แบบสูสีกับหนังมายากลด้วยการทำรายได้ไป $27 ล้าน จากทุนสร้าง $130 ล้าน คาดว่ารายได้น่าจะจบอยู่ที่ $70 - 85 ล้าน ตัวหนังนั้นถือว่าเข้าขั้นห่วยแห่งปีไม่แพ้ The hangover part 3 จากหลายๆสำนัก แต่ก็อย่างที่บอกต้องลองไปชมถึงจะบอกได้ว่ามันห่วยอย่างที่เค้าว่าไว้หรือเปล่า



อันดับ 4 ยังคงที่สำหรับหนังการ์ตูน ด้วยการทำรายได้ตกลงมากกว่าที่ควรจะเป็นถึง 51% ด้วยการทำรายได้ไปได้ถึง $16.41 ล้าน ทำรายได้รวมไป $65 ล้าน รวมรายได้ทั่วโลก $150 ล้าน ถือว่าเป็นการเปิดศักราชของหนังการ์ตูนแนวใหม่จากผู้สร้างเดียวกับ  Ice Age และ Rio แต่ด้วยกระแสและคำวิจารณ์อยู่ในระดับพอใช้ได้ คาดว่าน่าจะไปเต็มที่รายได้น้องๆ Rio



อันดับ 5 ร่วงจากอันดับ 3 สำหรับ Star Trek into darkness  ที่ทำรายรับตกลงมาถึง 56% ทำรายได้เพิ่มไป $16.4 ล้าน รายได้รวม $181 ล้าน ตามหลังภาคแรกถึง $10 ล้าน รายได้รวมทั่วโลก $328 ล้าน คาดว่าจบการฉายหนังคงได้รายรับเป็นอันดับ 1 ของ Star trek อย่างแน่นอน



อันดับ 6 ร่วงกระฉูดจากอันดับ 2 สำหรับหนัง The Hangover part 3 ที่ร่วงกระหน่ำมาถึง 62% ทำรายรับเพิ่มไป $15.3 ล้าน รายได้รวมไป $88.3 ล้าน ณ.ตอนนี้รายได้ในแต่ละประเทศนั้นถือว่าลดลงเป็นอย่างมากและเทียบไม่ได้กับ 2 ภาคแรกชนิดเรียกว่าทิ้งแบบเห็นฝุ่น จากคำวิจารณ์ที่ออกไปทางแง่ลบมากๆ  แม้ผลตอบรับจากผู้ชมจะเป็นไปทั้ง 2 ด้านก็ตาม



อันดับ 7 ร่วงจากอันดับ 5 สำหรับ Iron man 3 ทำรายรับตกลงถึง 59%  ทำรายได้เพิ่มไป $8 ล้าน รายได้รวม $384.8 ล้าน รวมทั่วโลก $1180 ล้าน ทำให้กลายเป็นหนังที่ทำเงินทั่วโลกสูงสุดเป็นลำดับที่ 5 แบบไปครองสบายๆ



อันดับ 8 ร่วงจากอันดับ 6 สำหรับ The Great Gatsby ทำรายได้ลดลงถึง 54 % ทำรายได้เพิ่มไป $6.3 ล้าน รายได้รวมไป $128.3 ล้าน รายได้รวม $213 ล้าน

อันดับ 9 - 10 ขอไม่พูดถึง เนื่องจากหนังทำรายได้ไม่เกิน $1 ล้าน