ประสบการณ์ชีวิต(เล็กๆ)&เคล็ดลับเรียนดี BY ME

        สวัสดีคะเพื่อนชาว สยซ.ทุกคนนะวันนี้เรามีเคล็ดลับเรียนดีฉบับของเรามานำเสนอ มันอาจจะแปลกๆไปบ้าง แต่เราอยากจะลองนำเสนอแนวทางของเราให้เพื่อนๆไปปรับประยุกต์ใช้ ก่อนอื่นเราจะไม่แยกเป็นข้อๆนะ เราจะนำเสนอเป็นเรื่องราวของเราไปเลย อย่าพึ่งเบื่อที่จะอ่านกันละ 

        ก่อนอื่นขอพูดเลยว่า เราเป็นคนที่เรียนไม่เก่งนะ ตอนม.ต้น ไม่เคยขยันเรียนคณิตเลยแบบว่าครูพูดก็ไม่ฟัง มัวเล่น คุยกับเพื่อนเวลาสอบก็ลอก ตกทุกครั้งอะ แต่พอจะขึ้นม.ปลาย เราก็นึกได้ว่า ถ้าเอาแต่ทำตัวแบบนี้ ก็คงไม่มีที่เรียน  เราจะเข้าสายวิทย์-คณิต ด้วยไง ตอนนั้นมันเป็นจุดเปลี่ยนช่วงชีวิตเราเลยนะ เราอ่านหนังสือเยอะมากๆ แต่เข้าใจมั้ยว่า คนที่ไม่ตั้งใจเรียน หลายๆวิชา แล้วพอให้มาทบทวนทีหลังอะ มันไม่เข้าใจ มันไม่รู้เรื่อง  เราก็ไปเรียนพิเศษนะ ไม่เข้าใจยังไงแต่ก็พยายามทำความเข้าใจให้มากที่สุด  พอถึงวันสอบเข้าโรงเรียนที่เราอยากเข้ามากๆ วันที่ไปสอบเราไม่หวังอะไรเลยนะ ขอแค่ได้อยู่สายวิทย์-คณิตก็พอ ตอนทำข้อสอบเราตั้งใจทำมาก อ่านทุกตัวอักษร โจทย์คณิตทำไม่ได้เยอะอยู่นะ แต่ก็พยายามคิดให้ได้คำตอบอะ บางข้อก็มั่วอย่างมีหลักการ พอทำข้อสอบเสร็จเราก็รู้สึกโล่งแล้วนะ แต่จะมาเครียดตอนประกาศผลปรากฎว่าเราได้อยู่ห้อง 2 (โรงเรียนเราห้อง 1 ห้อง 2 เป็นเด็กคัดที่ได้คะแนนสูงสุด 95อันดับ)  ตอนนั้นเราดีใจที่สุดเลยอะ พ่อแม่ญาติพี่น้องเราก็แบบดีใจไปด้วย ประมาณว่าไม่น่าเชื่อ  เราได้ลำดับที่ 54 จาก 500 กว่าคน  จากเด็กที่เรียนได้แย่ แต่ถ้าเรามีความตั้งใจก็ทำได้

      แต่นี้มันพึ่งเริ่มต้น
        ความจริงแล้วเรื่องมันจะมาเริ่มตรงนี้แหละ  เราเป็นเด็กหัวอ่อนอยู่แล้ว แล้วได้มาอยู่ห้อง2นี้ก็สุดๆแล้วนะ ในห้องก็จะมีเพื่อนที่เรียนเก่งๆทั้งนั้นเลย เหมือนเราจะเป็นเกือบที่โหล่ของห้องเลยละ  ตอนนั้นเราท้อแท้มาก เหมือนเรากดดันอะมีแต่คนเก่งๆสอบเราก็ได้คะแนนแย่ มันไม่ตกหรอก แต่เพื่อนเราได้เยอะกันมาก เราก็ได้น้อยอะ อายคนอื่นจัง
       
        พอขึ้นม.5มา เราโดนย้ายไปอยู่ห้องคละ คือห้อง 4 ล่วงเลยเรา แต่เราก็คิดอยู่แล้วแหละว่าเราไม่เหมาะกับห้องนั้น ตอนแรกก็เสียใจนะที่มีโอกาสแล้วทำได้ไม่ดี ตอนนี้เราคิดว่า มันไม่เกี่ยกับห้องหรอก อยู่ห้องไหนไม่สำคัญ เดี๋ยวก็จะต่อมหาวิทยาลัยแล้ว เรียนเพื่อตัวเองดีกว่า ไม่ต้องไปแข่งขันกับใคร  วิชาคณิตเราเรียนไม่รู้เรื่องเลย แต่ก็รู้นิดๆ เราใช้สูตรเดิมคือตั้งใจฟังครูแม้จะไม่เข้าใจก็เหอะ    เราเป็นคนขี้อายไม่กล้าถาม เราก็เลยได้แต่เก็บคำถามงงๆไว้ในใจ  แต่เราฝึกทำโจทย์นะอย่างเช่น  ซื้อหนังสือแบบฝึกหัดคณิตตามร้านมาทำ ข้อไหนไม่ได้เปิดเฉลย แล้วทำความเข้าใจ ดูเป็นแนวทางไว้ทำข้อต่อไป เราทำอย่างนี้จริงๆ
       
       
        ส่วนวิชาไหนที่ต้องท่องจำอย่างวิชา ชีววิทยา อะไรพวกนี้ เราก็ซื้อหนังสือที่มีให้ทำข้อสอบ  เราเป็นคนขี้เกียจอ่านหนังสือนะ แต่เราจะอ่านโจทย์แล้วเปิดดูเฉลย แล้วมันจะมีเหตุผลอธิบายด้วยนะว่าทำไมถึงตอบข้อนี้ มันจะทำให้เราเข้าใจง่ายมากขึ้น   
       
        ในส่วนของวิชาที่เป็นภาษา โรงเรียนเรามีสอน จีน พม่าด้วย เราจะจำเป็นสัญญาลักษณ์เอา จำเป็นรูปภาพ เช่น คำว่าสตอเบอร์รี่ภาษาพม่า มีรูป :3 << อย่างนี้นำหน้า  เราจะจำว่าแมวเหมียวนำ คือมันจะทำให้ง่ายต่อการจำ สรุปคือจำยังไงก็ได้ให้เราเข้าใจก็พอ

        สุดท้ายละ อ่านหนังสือทบทวนด้วยนะ หรือไม่ก็อ่านล่วงหน้าด้วยก็ดี  ต้องขยันให้มากๆนะ ท้อได้แต่อย่าถอย  เห้ยยยย! เราลืมอีกเรื่อง ฟิสิกส์ปลายภาคที่เราพึ่งสอบผ่านมาเนี่ย  เราได้ 27 เต็ม 30 คืออึ้งมาก ครูก็ให้สูตรมานะแต่ไมได้บอกว่าข้อนี้ใช้สูตรไหนอะไรงี้อะ แต่เราโ.ง่กว่านั้นอีก คือ แล้วจะใช้สูตรยังไง - - เราก็เลยใช้สูตรที่คิดขึ้นเอง 55555 แบบแทน5ส่วน6 คูรไขว้ Xส่วน6 แล้วคือมันได้คำตอบอะเราก็ใช้วิธีของเราตลอดเลย ซึ่งเห็นคะแนนแล้วไม่อยากเชื่ออะ  

                ส่งท้ายละขอให้ทุกคนมีความเชื่อมั่นและมั่นใจในตัวเอง