ARM•° [สาระ] 17 ตำนานสิ่งมีชีวิตลี้ลับทั่วโลก !!

15 ต.ค. 56 19:17 น. / ดู 2,982 ครั้ง / 35 ความเห็น / 25 ชอบจัง / แชร์

17 ตำนาน สิ่งลึกลับจากทั่วโลก มันมีจริง ??  หรือเป็นเพียงแค่เรื่องที่แต่งขึ้น จริงเท็จยังไง ลองไปอ่านดูเนอะ



(รูปต้นไม้กินคน Ya-te-veo (“I see you”) ในความเชื่อของอเมริกากลาง
จาก Land and Sea โดย J.W. Buel 1887)


17.ต้นไม้กินคน (Man-eating tree)

  เรื่องของต้นไม้กินคนที่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายนั้นมีที่มาจากข่าว เมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 19 ปี 1881 คาร์ล ลิช (Carl Liche)?นักเดินทางชาวเยอมันได้เขียนจดหมายถึงหนังสือพิมพ์ South Australian Register เขาเล่าเรื่องเหลือเชื่อ ที่เขาท่องเที่ยวบนเกาะมาดากัสคาร์และได้พบการสังเวยมนุษย์ของเผ่าฮึมโก โด(Mkodo) ชนเผ่าที่อาศัยอยู่ในถ้ำ คนพวกนี้เป็นชนเผ่าล้าหลังที่ยังเปลือยกายอยู่ พวกเขาชวนคาร์กร่วมพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นก็พากันเดินเข้าไปในป่าทึบแล้วไปหยุดตรงที่โล่งตรงคุ้มลำธาร?ที่นั้น มีต้นไม้ประหลาดขึ้นต้นหนึ่ง ซึ่งพวกฮึมโดโดเรียกมันว่าเตเป (Tepe)
 
  คาร์ล ลิช ได้พรรณนารูปร่างลักษณะที่พิลึกพิลั่นของมันว่าลองนึกภาพสับปะรดสูงแปดฟุตและ ใหญ่ตามสัดส่วน แต่เป็นสีน้ำตาลเข้ม ดูแล้วแข็งเหมือนเหล็ก ใบแปดใบย้อยลงมาจากลำต้น แต่ละใบยาวราวสิบเอ็ดฟุต และเรียวจนแหลม ใบสีเขียวคล้ำเหี่ยวห้อยและเหนียวมากเหมือนเสี้ยนโอ๊ก มีของเหลวใสรสหวานดื่มแล้วทำให้เมามายซึมออกมาที่แอ่งกลางยอดมีมือพัน ยาวแปดฟุตสีเขียว มีขนยาวออกมาทุกทิศทุกทาง มีรยางค์สีขาวเกือบใส หกใบชูสูงขึ้นไปในอากาศ หมุนและบิดไปมาไม่หยุดนิ่งแต่ก็ยังชูตั้งอยู่อย่างนั้น มันสูงห้าหกฟุต บางขนาดใบกก และอ่อนเหมือนขนนก

  การเฝ้าของข้าพเจ้าถูกขัดจังหวะ ลงด้วยพวกพื้นเมืองที่เดินส่งเสียงไปรอบๆ ต้นไม้ด้วยน้ำเสียโหยหวน เขาท่องมนต์ที่ล่ามของข้าพเจ้าบอกว่าเพื่อขอลุแก่โทษปีศาจที่ยิ่งใหญ่ประจำ ต้นไม้ ขณะที่ยังคงกรีดร้องและท่องมนต์กระชั้นขึ้นนี้ พวกเขาก็ล้อมหญิงสาวคนหนึ่งใช้หลาวแหลมๆ จี้เธอ เธอไต่ขึ้นไปตามลำต้นอย่างช้าๆ สีหน้าหมดหวังและขึ้นไปยืนอยู่บนปลายยอด ซิก! ซิก! (ดื่ม! ดื่ม!) เสียงคนร้องตะโกนบอก เธอก้มลงดื่มน้ำเหนียวข้นในเบ้าแล้วยืนขึ้นใหม่ด้วยใบหน้าบ้าคลั่งและแขนสั่นระริก เธอทำเหมือนกระโดดลงมา แต่มิได้กระโดด ต้นไม้กินคนที่เห็นนิ่งเฉยและดูเหมือนตายกลับมีชีวิตขึ้นมา อีก ครั้ง

  รยางค์ที่เรียวและบอบบางของมันสั่งระริกดั่งความโกรธเกรี้ยวของอสรพิษที่ กำลังหิวกระหายอยู่เหนือตัวของเธอ แล้วเหมือนด้วยสัญชาตญาณของปีศาจ มันมัดเธอด้วยการรัดรอบคอและแขนรอบแล้วรอบเล่า

  ขณะเดียวกันเสียงกรีดร้องด้วยความหวาดกลัวของเธอก็ค่อยแผ่วลง กลายเป็นเสียงครางอึกๆ อักๆ มือพันที่ดูเหมือนงูสีเขียวตัวใหญ่พากันชูขึ้นและหดตัวรัดรอบเธอวงแล้ววง เล่า รัดแน่นๆ เข้าอย่างรวดเร็วและเหนียวแน่นเหมือนงูอนาคอนดารัดเหยื่อไม่มีผิดแล้ว ตอนนี้ใบใหญ่ๆ ของมันก็ค่อยๆ ยกขึ้นช้าๆ และแข็งขึ้น เหมือนแขนของปั่นจั่นยกตัวเองขึ้นบนอากาศ ขึ้นไปหาใบอื่นและปิดหุ้มรัดเหยื่อที่ตายแล้วด้วยพลังอันเงียบเชียบ เห็นโคนของใบไม้เหล่านี้เบียดเข้าหากันแน่นๆ เข้า มีของเหลวคล้ายน้ำผึ้งผสมเลือดไหลออกมาตามลำต้น พอเห็นดังนี้พวกคนป่ารอบๆตัวข้าพเจ้าก็ไชโยโห่ร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง วิ่งเข้าห้อมล้อมต้นไม้ ใช้ใบไม้ ใช้มือรองของเหลวมาดื่ม บ้างก็ใช้ลิ้นเลียจนมึนเมา จากนั้นก็มีพิธีกรรมที่อุจาดตามมาอีกจนไม่สามารถบรรยายได้

  ใบไม้ของ ต้นไม้ใหญ่คงอยู่ตำแหน่งตั้งขึ้นข้างบนแบบนั้นอยู่สิบวัน เมื่อข้าพเจ้ากลับมาในเช้าวันหนึ่งมันก็กลับตกลงเหมือนเดิม มือที่พันก็เหยียดยาวอย่างเดิมและนอกจากกะโหลกขาวที่ตกอยู่ที่โคนต้นแล้วก็ ไม่มีอะไรอื่นเปลี่ยนแปลง

  จดหมายฉบับนี้ ถูกส่งในนิตยสารภาษาเยอรมันชื่อ Graefe und Walther เมื่อปี 1878 หลังจากนั้นก็มีผู้แปลลงในหนังสือพิมพ์เมล์ที่ออกที่เมืองมัทราส อินเดีย และลงในหนังสือพิมพ์เวิลด์ ของกรุงนิวยอร์ก และในนิตยสารรียิสเตอร์ของออสเตรเลียเมื่อ ปี 1880 ทำ ให้เรื่องของต้นไม้กินคนกลายเป็นสนใจของสาธารณชน แต่พวกนักพฤษศาสตร์และนักสำรวจหลายคนไม่ยอมรับเรื่องนี้เพราะอ่านแล้วมัน เหมือนนิยายเกินไปอีกทั้งคนชื่อลิชก็เป็นใครก็ไม่รู้ ทำให้เรื่องของต้นไม้กินคนจึงค่อยๆ เงียบหายไป

  แต่นักวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่ยอมเชื่อภาพ ถ่ายเหล่านั้น หาว่าเฮิร์สต์ทำปลอมขึ้นมา เพื่อพิสูจน์ความจริง เฮิร์สต์ได้เดินทางไปที่เกาะมาดากัสคาร์อีกครั้งแต่ทว่า คราวนี้ เขาไปลับไม่กลับมาอีกเลย ทำให้เรื่องของต้นไม้กินคนยังคงความลึกลับและน่าค้นหาจนถึงปัจจุบัน








16.The Loveland Lizard

  มนุษย์ กบแห่งเลิฟแลนด์ รูปร่างคล้ายมนุษย์แต่มีหน้าขนาดใหญ่คล้ายกบ มีรายงานการพบเห็นในเลิฟแลนด์, และ เมืองโอไฮโอ (Ohio) ประเทศสหรัฐอเมริกา มีข่าวลือและรายงานกำลังเกี่ยวกับตัวมันมากมายแต่ก็ยังไม่สามารถยืนยันการ พิสูจน์ความเป็นจริงได้มันคือตัวอะไรกันแน่ โดยรูปร่างเด่นๆ เท่าที่ประมวลจากคำบอกเล่าคร่าวๆ ก็มีดังต่อไปนี้

  มัน สูงประมาณ 3 หรือ 4 ฟุต, หนัก 50 ถึง 75 ปอนด์, หลังของมันมีผิวขรุขะ, ผิวหนังเปียกลื่น, เป็นไปได้ว่าหางมันจะสั้น, หัวและ หน้าเหมือนกบ หรือสัตว์เลื้อยคลานจำพวกกิ่งก่าหรือจิ้งจก

  รายงานปรากฏตัวครั้งแรก เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มีนาคม1972 เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังการแล่นเรือตระเวณบนริมฝังแม่น้ำไมแอมอิแม่น้ำในเลิฟแลนด์, เมือง โอไฮโอ ทันใดนั้นพวกเขาก็พบสิ่งผิดปกติบนถนน ตอนแรกสิ่งที่พวกเขาพบเห็นมันน่าจะเป็นสุนัขมากกว่าแต่เมื่อดูใกล้ๆ กลับไม่ใช้อย่างที่พวกเขาคิด พวกเขาลดความเร็วของเรือ และเข้ามาดูสัตว์ตัวนั้นอย่างใกล้ๆ และช้าๆ แต่แล้วเจ้าสัตว์ตัวนั้นก็ลุกขึ้นมันวิ่งมุ่งไปทางทิศทางที่พวกเขาอยู่

  แม้ตอนนั้นบนถนนเต็มไปด้วยน้ำแข็งแต่ความเร็วของมันไม่ลดลงเลยและไม่ลื่นหก ล้มด้วย แสดงให้เห็นว่ามันมีความสมดุลสูงสามารถยืนอยู่บนก้อนน้ำแข็งได้สบาย จากนั้นเจ้าสัตว์ตัวนั้นก็เข้ามาใกล้เรือตำรวจสองนายนั้น พวกตำรวจหยุดเรือและแสงไฟสว่างหน้าเรือก็ส่องไปที่สัตว์ตัวนั้นและพวกเขา ต้องตะลึงกับสิ่งที่อยู่ข้างหน้า มันเป็นสัตว์ที่พวกเขาไม่เคยพบมาก่อนรูปร่างเหมือนครึ่งคนครึ่งสัตว์หัวเป็น สัตว์ประหลาดที่ออกไปทางจิ้งจกหรือสัตว์เลื่อยคลาน แต่ไม่ทันทีเห็นอะไรมากกว่านี้ พวกเขาก็ชักปืนเพื่อยิงมัน มันเลยตกใจและก็หนีไปเข้าพุ่มไม้อย่างรวดเร็ว และก็หายไปในความมืด ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสองนายยืนยันชัดเจนว่าสามารถสิ่งที่เห็นมันไม่มี สุนัข มันเป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถอธิบายมันคือตัวอะไรกันแน่








15.ปีศาจโดเวอร์ (Dover Demon)

เขาเรียกกันว่า ปีศาจโดเวอร์ (Dover Demon)?เพราะมีผู้พบเห็นที่ เมืองโดเวอร์ ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอับ 2 รอง จากบอสตันใน รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา แต่พบเจอแค่ครั้งเดียวนะ ในปี พ.ศ. 2520 หรือ ค.ศ. 1977 พบครั้งแรกเมื่อเดือน 22 เมษายน ค.ศ. 1977

  บิลส์ บาร์ทเล็ทท์, ไมค์ แมซซอคคา และแอนดี้ บรอดี วัยรุ่นอายุราว 17 ปี กำลังขับรถไปทางเหนือของฟาร์มสตรีท ในขณะที่ขับรถอยู่ บาร์ทเล็ทท์ซึ่งเป็นคนขับรถก็ได้เห็นสิ่งประหลาดสิ่งหนึ่งกำลังปีนไปตาม กำแพงเตี้ยๆ ทางด้านซ้ายของถนน?ครั้งแรกที่เห็นบาร์ทเล็ทท์คิดว่าอาจ เป็นสุนัขหรือไม่ก็แมว จนกระทั้งไฟหน้ารถได้ฉายตกกระทบกับร่างลึกลับอย่างจัง สิ่งที่พวกเขาเห็นนั้น?เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยเห็นก่อนในชีวิต

  ร่างนั้นมันค่อยๆ หมุนศีรษะของมันอย่างช้าๆ และจ้องมองมายังแสงไฟของรถ ตากลมของมันสองประกายราวกับแก้วใส เหมือนหินอ่อนสีส้ม 2 ลูก?หัวของมันตั้งอยู่บนคอเล็กๆ มีลักษณะคล้ายแตงโม มองดูแล้วผิดส่วน กล่าวคือแขนและขายาวและผอมเรียว แต่มือและเท้าใหญ่ ผิวไม่มีขนและมีสีลูกพีช?และหยาบเหมือนกระดาษทราย? ร่างนั้นมันสูงไม่เกิน 4 ฟุต มีลักษณะคล้ายเด็กทารกที่มีแขนและขายาว มันน่าประหลาดน่าเกลียดน่ากลัวมาก?มันเดินไม่รู้จุดมุ่งหมาย มันเดินไปตามกำแพงโดยใช้นิ้วมืออันยาวของมันไต่ตามก้อนหิน

  บาร์ทเล็ทท์เห็นร่างนั้นไม่กี่วินาที เท่านั้นเองเพราะขณะเขาขับรถด้วยความเร็วสูงและอยู่ในทางโค้ง และเมื่อกลับที่เกิดเหตุร่างลึกลับดังกล่าวก็หายไปแล้วและเมื่อทั้งสามกลับ มาที่พักบาร์ทเล็ทท์ก็เล่า เหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟังพร้อมกับวาดภาพปริศนาคลาสลิกให้เพื่อนดู แต่กระนั้น….จนปัจจุบัน ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าเจ้าปีศาจโดเวอร์ ตัวนี้มาจากไหน มาได้ยังไง และมีจุดประสงค์อะไร ?ก็ยังคงเป็นปริศนาที่เล่าขานกัน ในท้องถิ่นต่อไป แต่บางคนเขาก็เชื่อว่าเป็นเพียงเรื่องแหกตา เพราะก็ไม่มีหลักฐานใด ๆ มายืนยันสิ่งที่เด็ก ๆ กลุ่มนี้เจอ และก็ไม่มีรายงานการพบเจอหรือปรากฏตัวอีก


แก้ไขล่าสุด 15 ต.ค. 56 19:19 | เลขไอพี : ไม่แสดง

มุมสมาชิก กระทู้ล่าสุดโดย Anymore.

แสดงกระทู้ล่าสุดโดยเปิด มุมสมาชิก และเลือกแสดงกระทู้ที่ตั้ง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | Anymore. | 15 ต.ค. 56 19:32 น.






14.กษัตริย์หนู (Rat King)

  จากยุโรปมันไม่ใช้สัตว์ลึกลับแต่เป็นปรากฏการณ์ลึกลับที่แปลกประหลาด ที่ไขปริศนามากกว่าว่าเป็นเพราะอะไรมันถึงต้องทำอย่างนั้น ปรากฏการณ์ราชาหนูหรือพญามุสิกนั้น เป็นปรากฏการณ์ที่ หนูเป็นๆ กลุ่มหนึ่ง อายุรุ่นคราวเดียวมัดหางติดกันทั้งกระจุกและถ้าเราให้แพทย์ไปทำการ เอ็กซ์เรย์จะพบว่ากระดูกท่องหางของมันมัดอย่างหนาแน่น กระดูกบางชิ้นมีรอยหักแสดงว่าหนูพวกนี้มีหางติดกันมานาน และพยายามดึงตัวให้ออกพันธนาการแต่ไม่สำเร็จ

  ปรากฏการณ์พญามุสิกนี้ ในช่วง ค.ศ. 1562 ถึง 1963 ได้เกิดขึ้น 57 ครั้งส่วนใหญ่เกิดขึ้นในเยอรมัน ซึ่งทุกรายเป็นหนูสีดำ จำนวนหนูในแต่ละกระจุกนั้น?มีระหว่าง 5 ถึง 12 ตัว และเป็นหนูวัยเดียวกัน อายุยังไม่โตเต็มที่ มักพบที่ที่มีรูเพดาน ฝาบ้าน ในครัว ในยุ้ง พร้อมกับเสียงร้องจี๊ดจ๊าดกันระงมในรังที่อยู่อาศัย?ของมัน และเมื่อใดที่ผู้คนพบเห็นปรากฏการณ์นี้จะเป็นการทำนายคร่าวๆ ว่า”จะมีเรื่องร้ายเกิดขึ้นในไม่ช้านี้”เช่นเหตุการณ์โรคระบาดอหิวาของ ยุโรป สงครามโลก








13.ทิคบาลัง (Tikbalang)

  กลับมาที่ ฟิลิปปินส์อีกครั้ง แม้เห็นรูปร่างแบบนี้ก็เถอะแต่มันก็น่ากลัวไม่ใช่ย่อย เลย เพราะมันฆ่าคนด้วย ทิคบาลังเป็นสัตว์ลึกลับ ครึ่งคนครึ่งม้าตาสีแดง รูปร่างเหมือนคน หัวเป็นม้า แต่มีสี่ขาเหมือนเซนเทอร์ (สัตว์ในตำนานของกรีก) ขาของมันค่อนข้างยาวสามารถกระโดดได้ไกลมาก ที่อยู่อาศัยของมันอยู่ที่ป่าลึก ของฟิลิปปินส์ โดยตามความเชื่อของชาวบ้าน ทิคบาลังชอบกินคน โดยการล่อลวงเหยื่อเข้าไปในป่า แล้วทุบตีอย่างไร้ความปรานี








12.โวลเปอทิงเกอ (Wolpertinger)

  ที่เยอรมันกระต่ายเขากวาง?หลายคนอาจรู้จัก ซึ่งมันอาศัยอยู่ในอเมริกาตะวันตก แต่ที่เยอรมันนั้นต่างกัน รูปร่างของมันก็เหมือนกระต่ายแหละ เพียงแต่มันมีปีกเหมือนเป็ด มีเขี้ยว และเขาเหมือนกวาง ที่อยู่อาศัยของมันอยู่ที่ป่าสีดำของเบนาเซียว่ากันว่าสัตว์ลึกลับตัวนี้ เกิดจากไวรัส Shope Papillomaเป็นสาเหตุมันกลายพันธุ์
  โดยเป็นเนื้องอกมะเร็งคล้ายเขากวางบนหัวของกระต่าย (แต่มะเร็งไม่ได้ทำให้มันบินได้หรอกนะ) ซึ่งมันก็ไม่น่ากลัวอะไรหรอกเพียงแต่มีข่าวลือกันว่ามันอาจเป็นพาหนะแพร่ เชื้อโรค หรือเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้นกะหล่ำของชาวบ้านตาย อีกทั้งมันอาจกัดคุณได้ถ้าคุณไปเล่นหัวมัน นอกจากนี้มียังมีนิสัยชอบหนุ่มหล่อ-สาวสวยอีก








11.มานานังเกล (Manananggal)

  จากฟิลิปปินส์มันเป็นสัตว์ลึกลับ (หรือเผ่าลึกลับหว่า?? )ของชาวเกาะในฟิลิปปินส์ โดยรูปร่างของ มานานังเกล มีรูปร่าง และหน้าเป็นผู้หญิงโบราณสวยแต่มีปีกขนาดใหญ่ที่หลังมีความสามารถถอดลำตัว ของมันแยกออกได้โดยไม่ตาย และบินออกไปหาเหยื่อ

  เรื่องของเจ้า มานานังเกล นั้นน่ากลัวมาก โดยที่เกาะ วิซายัน จะเห็นผู้คนแขวนกระเทียมจำนวนมาก เพื่อป้องกันเจ้า มานานังเกล นอกจากนี้ยังมีความเชื่ออีกว่าถ้าเอาเกลือมาพรมที่พักของ มานานังเกล และพรมที่ท่อนบนที่เจ้า มานานังเกล แยกตัวออก มันจะตายเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น ทำไมถึงกลัว ความจริงเจ้าเหรอ มานานังเกล ก็ไม่มีอันตรายอย่างตรงไปตรงมาหรอก?เว้นสิ่งเหลวที่พ่นใส่ปากหญิงตั้งครรภ์ จะทำลายเด็กในครรภ์ได้ นอกจากนี้มันยังชอบกินหัวใจเด็ก นอกจากนี้ยังชอบกินลูกไก่ของชาวบ้านอีกด้วย


ไอพี: ไม่แสดง

#2 | -VivaLaVida. | 15 ต.ค. 56 19:34 น.

ภาพแรกคล้ายๆต้นวิลโวล์จอมหวดเลย 5555555 

ไอพี: ไม่แสดง

#3 | roberts. | 15 ต.ค. 56 19:55 น.

ไม่ชอบ โดเวอร์ อ่ะ มันคือตัวอะไรคะแก 

ไอพี: ไม่แสดง

#4 | me1OOs | 15 ต.ค. 56 20:09 น.

ต่อออออออออ

ไอพี: ไม่แสดง

#5 | บีบีวันดีพีที' | 15 ต.ค. 56 20:35 น.

เราสนใจอะไรแบบนี้นานละ มีตำนานด้วยอ่านแล้วขนลุก 
เฟสมีเพจ สัตว์ในตำนานด้วย 555555555 

ไอพี: ไม่แสดง

#6 | kkkkkk | 15 ต.ค. 56 21:06 น.

แปะแปะเดี๋ยวมาอ่าน 

ไอพี: ไม่แสดง

#7 | lllllllllll'''13:16" | 15 ต.ค. 56 21:13 น.

กษัตริย์หนู (Rat King) น่าสนใจ

ไอพี: ไม่แสดง

#8 | CHANYEOL | 15 ต.ค. 56 21:14 น.

แปะ ยาวเว่อร์

ไอพี: ไม่แสดง

#9 | `9|ซิกแพคฟานี่*9 | 15 ต.ค. 56 21:24 น.

มานานังเกลกับโดเวอณ์ น่ากลัว 

ไอพี: ไม่แสดง

#10 | FBI | 15 ต.ค. 56 21:31 น.

มานานังเกล O <-<

ไอพี: ไม่แสดง

#11 | HarmwEll | 15 ต.ค. 56 23:08 น.

Wait
เอาให้หมด

ไอพี: ไม่แสดง

#12 | .อะโรลินน' | 16 ต.ค. 56 01:49 น.

มานานังเกลนี่ให้อารมณ์กระสือบ้านเราป่ะ 

ไอพี: ไม่แสดง

#13 | Anymore. | 16 ต.ค. 56 10:19 น.







10.โพโพบาวะ (Popobawa)

  ทรานซิลวาเนียแดนผีดูดเลือดประเทศที่มีธรรมชาติที่สวยงาม พระอาทิตย์ตกดินก็โรแมนติก แต่พอตกกลางคืนกลับกลายเป็นคืนที่หวาดผวาเมื่อมีสิ่งมีชีวิตลึกลับคอยก่อกวนพวกเขายิ่งกว่าผีดูดเลือด มันคือ Popobawa หรือยักษ์บินกินคน

  ในศวรรษที่ 70 ที่โซมิซ (ในปี 1995 ก็ยังเกิดอยู่ โดยเฉพาะที่ทรามซิสวาเนีย ไอร์แลนด์ ) เกิดเหตุการณ์สัตว์ลึกลับประหลาดชนิดหนึ่งอาละวาด?รูปร่างเหมือนไซครอปสัตว์ เทพนิยายกรีกแต่มีขนาดเล็กกว่ามากๆ พอๆ กันค้างคาว มีตาเล็กขนาดใหญ่ หูแหลม ส่งเสียงทางจมูกฟิ๊ตๆและมีกลิ่นเหม็นมากๆ?มันชอบทำร้ายคนมากกว่าสัตว์เลี้ยง ชอบก่อกวนหนังคาของชาวบ้านตอนกลางคืน และชอบลับๆ ล่อๆ เข้าไปในบ้านของชาวบ้านเสียด้วยสิ แต่กระนั้นหลายคนก็บอกว่ามันน่าจะเป็นคนปลอมตัวมากกว่า(คงใช้สลิงลอยตัว) เพราะมีรายงานว่ามันตบตีผู้หญิง แถมยังปล้นสะดมด้วย สิ่งที่มันขโมยส่วนใหญ่คือเสื้อผ้า โดยเฉพาะกางเกง








9. Pongo

  เป็นตำนานสัตว์ลึกลับของแอฟริกา ที่เล่ากันว่าในดินแดนแห่งนี้มีสัตว์ครึ่งคนครึ่งลิงแอบอาศัยหลบซ่อนอยู่ มีนมีพลังวิเศษและชอบรสชาติของเนื้อมนุษย์และสัตว์ตัวนี้สามารถกลายเป็นหญิง สวยเพื่อล่อผู้ชายและสามารถมีเพศสัมพันธ์กับมนุษย์ได้และกำเนิดเป็นเหมือน พวกมัน ในปี 1847 มีการพบสัตว์ลึกลับตัวนี้?แต่กระนั้นดูยังไงก็เหมือนลิงอุรังอุตังเสีย มากกว่า








8.Goatman

    โกทแมนเป็นสัตว์ลึกลับที่ออกจากเว่อร์ๆ พบเห็นในเมือง ปรินซ์จอร์จรัฐแมรีแลนด์ สหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปี 1970 มีรายงานว่าผมเห็นสัตว์มีชีวิตประหลาด?เหมือนลูกผสมระหว่างมนุษย์กับแพะ ลึกลับ บรรยาย ท่อนล่างของร่างกายขาและเท้ามีกีบเหมือนแพะ ท่อนบนของร่างกายเป็นมนุษย์ ศีรษะมีเขาแพะผิวหนังบนร่างกายปกคลุมไปด้วยขน สูงประมาณสองเมตร หนักกว่า 130 กิโลกรัม ฟังดูคล้ายกับสิ่งมีชีวิตในเทพนิยายตัวหนึ่งมีเสียงร้องแหลม

  มีผู้พบเห็นศพของสัตว์ที่ตายอย่างโหด**มบ่อยครั้งในเขตพื้นที่ที่พบ เห็นโกทแมน ครึ่งหนึ่งของศพสัตว์ที่ตายถูกนำไป คาดว่าโกทแมนน่าจะฆ่าสัตว์เหล่านี้เพื่อนำไปเป็นอาหาร มีเหตุการณ์หนึ่งในรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริการายงานว่า มีกลุ่มเด็กวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งถูกเจ้าโกทแมนวิ่งไล่และเขวี้ยงซากยางรถยนต์ เข้าใส่ และมีเหตุการณ์การใช้อาวุธที่เกิดขึ้นในรัฐแมรีแลนด์ที่เจ้าโกทแมน ไปอาละวาดเอาขวานจามรถยนต์หลายคันในเวลาไร่เรี่ยกันและมักทำร้ายสัตว์เลี้ยง ของผู้คนที่อาศัยอยู่บริเวณนั้น

  หลายคนเชื่อว่าโกทแมนน่าจะเป็นญาติห่างๆกับบิ๊กฟุต หรือมีความได้โกทแมนเกิดขึ้นจากการทดลองของนักวิทยาศาสตร์ในการตัดต่อพันธุ์ กรรมของคนและแพะเข้าด้วยกันโดยศูนย์ค้นคว้าและวิจัย beltsville แห่งเมืองปรินซ์จอร์จ อันเป็นแหล่งกำเนิดของตำนานโกทแมน แต่อย่างไรก็ตาม?ตามแบบฉบับสิ่งมีชีวิตลึกลับมักจะไม่ค่อยให้หลักฐานทาง วิทยาศาสตร์ที่น่าเชื่อถือซึ่งแสดงถึงการมีตัวตนอยู่จริงของมัน









7. Rods

  ร็อดซ์เป็นที่รู้จักเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม ค.ศ. 1994 ที่มิดเวย์ในรัฐนิวเม็กซิโก โดยช่างตัดต่อฟิลม์ชื่อโฮเซ่ เอสคามิลล่า (Jose Escamilla)ได้พบบางอย่างที่ปรากฏขึ้นใน ฟิลม์เมื่อทำการฉายด้วยสโลโมชั่นของนักท่อง เที่ยวกลุ่มหนึ่งที่ได้ไปถ่ายรูปเมื่อตอนไปกระโดดร่มเล่นที่หน้าผาที่ทะเล ทรายในรัฐนิวเม็กซิโก บางอย่างที่ว่ามีลักษณะเป็นแท่งยาว ด้านข้างมีแผ่นครีบบางๆซึ่งโบกพัดไปมาด้วยความเร็วสูง โจเซ่จึงคิดว่ามันน่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตเขาได้ทำการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ มันจนสามารถถ่ายภาพที่เกี่ยวข้องเก็บไว้ได้ถึง 500 ชั่วโมงและเรียกสิ่งมีชีวิตปริศนานี้ว่า Rods หรือ Flying Rodsที่แปลว่าแท่งไม้บินนั่นเอง(แต่โดยทั่วไปแล้ว สิ่งมีชีวิตนี้ยังไม่มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการ แต่ละที่จึงเรียกชื่อไปต่างๆกัน)

  จากนั้นเป็นต้นมาก็มีข่าวเรื่องพบเห็นรอดซ์ตามมาอีกอีกมายมาย ทั่วทุกมุมโลก อย่างไม่เคยมีมาก่อน มีทั้งอเมริกา แคนาดา อังกฤษ หรือกระทั่งล่าสุดก็มีการพบร็อดซ์ที่แบกแดดด้วยโดยรอดซ์ส่วนมากนั้นมีมีรูปร่าง เป็นแท่งยาว มีปีกหรือครีบอยู่รอบลำตัว ขนาดเล็ก เฉลี่ยประมาณ 4 นิ้ว สีผิวค่อนข้างที่จะขาวหรือขาวใส โดยรูปร่างของร็อดซ์ก็มีการแบ่งแยกย่อยออกไป มีความสามารถบินได้ด้วยความเร็วสูงถึง 270-300 กิโลเมตร/ชั่วโมงสามารถเคลื่อนไหวได้ทั้งบนฟ้าและในน้ำ

  นอกจากนี้ยังมีปริศนาเกี่ยวกับตัวมันมากมาย เช่นทำไมเราไม่เคยมีการค้นพบซากของร็อดซ์เมื่อเวลามันตายแล้ว เวลาที่ร็อดซ์บินนั้นมันไม่ชนถูกอะไรเลยหรือ มันควบคุมทิศทางยังไง มันจะสืบพันธุ์กันยังไงหว่า ในเมื่อบินซะเร็วขนาดนั้น นอกจากนี้ยังมีการตั้งทฤษฎีเกี่ยวกับร็อดส์มากมาย ว่ามันเป็นแมลงชนิดใหม่ เป็นยูเอฟโอ, สัตว์ตระกูลนก, ภาพลวงตาแต่ถึงอย่างไร การที่ยังไม่มีผู้สามารถจับร็อดซ์ที่มีตัวตนอยู่จริงได้ จึงเป็นที่โต้เถียงกันจนทุกวันนี้ว่าร็อดซ์มีตัวตนอยู่จริงหรือไม่








6.Mothman

  ม็อทแมนเป็นสิ่งมีชีวิตปริศนา ที่พบกันที่ รัฐเวสท์เวอร์จิเนียมีลักษณะคล้ายๆค้างคาวปนตัวมอธ ลักษณะท่าทางการเคลื่อนไหวเหมือนค้างคาว บวก ผีเสื้อกลางคืน พบเห็นเป็นครั้งแรกเมื่อ 12 พ.ย. ค.ศ. 1966 และก็พบเห็นกันเรื่อยมา อาจกล่าวได้ว่าทศวรรษที่ 70-80 นั้น ม็อทแมน ถือเป็นตัวประหลาดแห่งปี เพราะมีข่าวของการพบมันกันหนาหูมากๆ ตำรวจและเจ้าหน้าที่คิดว่าเป็นแค่การเล่นพิเรนทร์ของวัยรุ่นหรือพวกจิตป่วน ที่คิดจะแต่งตัวเลียนแบบ แบล็คแมน ซึ่งเป็นทีวีซีรี่ย์ที่ดังมากๆในสมัยนั้น

  ไปๆมาๆชักไม่ใช่แล้วสิเพราะ ม็อทแมน ไปเกี่ยวพันกับปรากฏการณ์แปลกๆ น่ากลัวหลายๆครั้ง เช่น การถล่มของสะพาน Silver Bridge ตึกถล่ม หรือแม้แต่การปรากฏของ UFO ในหลายๆครั้ง แบบว่าไปที่ไหนซวยถึงนั้น

  โดยลักษณะคร่าวๆ เกี่ยวกับเจ้าม็อทแมนนี้ก็จากคำบอกเล่า สรุปได้มันสูงประมาณเจ็ดฟิท ไม่มีหัว ตาอยู่แถวๆ อก ปีกกว้างประมาณ 10 ฟิท สีปีกสีเทา ผิวมีเกล็ดมาก ตาสีแดง เปร่งแสงได้ และมีอำนาจสะกดจิต บินได้ สามารถบินไกล ความเร็วประมาณ 100 ไมล์ชั่วโมง มีเสียงกรี๊ดร้องเหมือนสุนัข บางครั้งเสียงร้องแหลมเหมือนเกี่ยวกับสัตว์ที่ใช้ฟันแทะ หรือเครื่องยนต์ ไฟฟ้า สามารถก่อกวนเคลื่อนวิทยุ โทรทัศน์ได้ มีพลังจิตรู้อนาคต
ไม่มีใครรู้ว่า ม็อทแมนแท้ที่จริงคือตัวอะไรกันแน่ แต่ข่าวที่เชื่อได้ก็คือ ในช่วงที่ ม็อทแมนปรากฏตัว จะมีชายแปลกหน้าใส่ชุดสีดำ หรือ น้ำตาลป้วนเปี้ยนอยู่บริเวณใกล้เคียงเสมอๆ
(ไอชายชุดดำทู้ที่แล้วป่ะหว่า? )



ไอพี: ไม่แสดง

#14 | `ยูสเก่าเล่าใหม่ | 16 ต.ค. 56 11:20 น.

เห้ยยย ชอบม็อมแมนอ้ะ

ไอพี: ไม่แสดง

#15 | เครอ้อน.ยูเระชิ'' | 16 ต.ค. 56 14:05 น.

แปลกดีแฮะ
ไม่นึกว่าต่างประเทศจะมีความเชื่อทำนองนี้เยอะเหมือนกัน

ไอพี: ไม่แสดง

#16 | Liora | 16 ต.ค. 56 14:05 น.

สยองทุกตัวอ่าาา 

ไอพี: ไม่แสดง

#17 | mememe' | 16 ต.ค. 56 14:27 น.

กษัตริย์หนู กลัวหนูอ่ะ

ไอพี: ไม่แสดง

#18 | -'dinojiri<3; | 16 ต.ค. 56 14:46 น.

น่าสนใจมากแต่ละอันน 

ไอพี: ไม่แสดง

#19 | aki | 16 ต.ค. 56 17:09 น.

กษัตริย์หนูแปลกๆ อยู่ๆหางมันไปรวมกันแบบนั้นได้ไง
เลือกอายุด้วย

ไอพี: ไม่แสดง

#20 | iPxqex | 16 ต.ค. 56 19:45 น.

ชอบกระทู้นี้ ><

ไอพี: ไม่แสดง

#21 | หิหิ. | 16 ต.ค. 56 21:41 น.

แปะไว้มาอ่านว่างๆ 

ไอพี: ไม่แสดง

#22 | robbers. | 17 ต.ค. 56 04:51 น.

แปะก่อนครับ

ไอพี: ไม่แสดง

#23 | Bodobleep. | 17 ต.ค. 56 08:59 น.

ชอบชอบ ขอบคุณค้าาา 

ไอพี: ไม่แสดง

#24 | Twetytwogirl | 17 ต.ค. 56 14:16 น.

Rat king แบบยึ๋ยมากอะ

ไอพี: ไม่แสดง

#26 | Anymore. | 17 ต.ค. 56 18:30 น.







5.Beast of Bray Road

  สัตว์แห่งถนนเป่าแตรเป็นสัตว์ลึกลับที่พบในรัฐวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปี 1936 (แต่รายงานจริงๆ จัง ในปี 1980) รูปร่างมันเหมือนมนุษย์หมาป่า คือสุนัขเดินสองขาแบบมนุษย์ สูงประมาณหกฟุต ผมกระเซิง ใบหน้าคล้ายสุนัขป่าตาสีเหลืองเรืองแสง บางคนก็บอกว่าคล้ายกับบิ๊กฟุต และมันสามารถแปลงร่างเป็นสุนัขป่าได้ มันมีกลิ่นเหม็นสุดจะทน สาเหตุที่ผมถูกเรียกชื่ออย่างนี้ก็เพราะว่ามันมักปรากฏบนถนน แน่นอนคนที่ค้านก็บอกว่ามันเป็นแค่หมาป่าธรรมดา ที่คนพบเห็นเข้าใจผิดแล้วเกิดอุปทานหมู่








4.Shadow People

  น่าจะเป็นปรากฏการณ์ลึกลับมากกว่าสัตว์ลึกลับ สำหรับคนเงาที่คนทั่วโลกได้พบเห็นตัวมันตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รูปร่างลักษณะคือจะเห็นเงาที่มีรูปร่างคนและเคลื่อนไหวได้อิสระทั้งๆ ที่พื้นที่โดยรอบไม่มีคนเป็นๆ อยู่เลย บางคนก็เห็นในรูปเงามืดกึ่งโปร่งใส ไม่มีหน้าไม่มีจมูก?และพวกเขาจะหายไปทันทีที่มีคนเห็นตัวมัน

  นอกจากนี้ยังมีรายงานการถูกทำร้ายและล่าโดยสิ่งที่เป็นเงารูปร่างคน ด้วยซึ่งบางครั้งขนาดของมันก็ใหญ่กว่าคนปกติ แน่นอนสำหรับคนไม่เชื่อก็ค้าน ว่ามันเป็นภาพลวงตาของแสง หรืออาการประสาทหลอนที่เห็นเงากลายเป็นรูปร่าง คนขึ้นมา หรือจะเป็นอาการหลับตื่น(Hypnagogoia) ที่บุคคลอยู่สภาพระหว่างนอนและตื่น ทำให้สภาพแวดล้อมมีจิตนาการเหมือนฝันเห็นเงาเคลื่อนที่อิสระได้ ส่วนคลิปนี้ถ่ายในปี 1997 โดยอิเมอร์สัน








3.Springheel Jack

  เรื่องราวของชายส้นเท้าสปริงเกิดขึ้นในสมัยที่อเล็กซานดรีนา วิกเตอเรีย โดยชายส้นเท้าสปริงเริ่มออกมาอาละวาดในช่วง 1836-1986 โดยสัตว์ประหลาด (อาจเป็นคนปลอมตัว) นั้นมันมีความสามารถพิเศษคือ สามารถกระโดดสูงอย่างที่มนุษย์คนไหนสามารถกระโดดได้เหมือนกับว่าร้องเท้าของ มันติดสปริงด้วย

  นอกจากนั้นรูปร่างของมันก็ไม่เหมือนกับคน ซึ่งพยานคนหนึ่งได้เคยเผชิญหน้ากับมันและบรรยายอย่างน่าขนลุกว่า รูปร่าง ของมันสูงและผอม หน้าของมันเหมือนภูตผีปีศาจ ที่มือของมันมีอุ้มเล็บยาว ตาเหมือนลูกบอลสีแดงที่ลุกเป็นไฟ ใส่หมวก กางเกงมีสีขาว สวมเสื้อคลุมสีดำชอบปรากฏตัวจะกางผ้าคลุมทำให้เวลาดูราวมันเป็นมนุษย์ค้าง คาวยังไงอย่างงั้น นอกจากนั้นยังมีรายงานเวอร์ๆ ออกมาเป็นระลอกที่ส่งเสริมให้ชายส้นเท้าสปริงกลายเป็นสัตว์ประหลาดเข้าไป ใหญ่ เช่น ลมหายใจออกสีน้ำเงินมีฟันแหลมคล้ายแวมไพร์ หูและจมูกแหลม สามารถพ่นเปลวไฟสีขาวออกจากปากได้

  มีทฤษฎี,ข้อสันนิษฐานจำนวนมากที่นำอธิบายฆาตกรเหนือธรรมชาติรายนี้ เช่นมันอาจเป็นลิงที่หลุดจากละครสัตว์ นักแสดงชายชราโรคจิต นักมายากล หรือสัตว์ลึกลับ นอกจากนี้บางคดีก็มีคนมาลอกเลียนแบบชายส้นเท้าสปริงอีก แต่สุดท้ายคดีนี้ก็เป็นปริศนาตลอดกาลและกลายเป็นตำนานในเวลาต่อมา โดยชื่อของมันปรากฏอยู่ในนิทาน, นวนิยาย หนัง ชายส้นเท้าสปริงปรากฏในฐานะฮีโร่ปราบปรามผู้ร้าย








2.Ebu Gogo

  มีหลายคนพบสัตว์ลึกลับชนิดหนึ่งเป็นกลุ่มคนตัวเล็กๆ มีใกล้เคียงกับ มนุษย์มากมีแขนยาว เดินเหมือนมนุษย์ สูงประมาณหนึ่งเมตร ขนดก มักจะพึมพำคุยกันด้วยภาษาที่พวกเขาไม่เข้าใจ พวกเขาอาศัยในเกาะ Flores เกาะป่าร้อนชื้นของอินโดนีเซียที่ยังไม่เคยมีใครสำรวจก็เป็นได้ ตั้งแต่สมัยโบราณไปจนถึงศตวรรษที่ 19
 
  มีตำนานเล่าว่าพวกเขาถูกเรียกว่า "อีบู โกโก" เป็นมนุษย์ตัวเล็กที่ชอบทำลายพืชและสัตว์ของมนุษย์เพื่อกินเป็นอาหาร ทำให้พวกมนุษย์โกรธแค้นและสืบหาร่องรอยจนฆ่าพวกเขาจนสูญพันธุ์ในถ้ำ แห่งหนึ่ง ซึ่งในปี 2003 นักวิทยาศาสตร์ได้มีการค้นพบกระดูกพวกเขาในถ้ำหินปูนชื่อ Liang Bua และเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญมาก เพราะถือว่ากระดูกที่ค้นพบเป็นของมนุษย์พันธุ์ใหม่ และตั้งชื่อเล่นว่า ฮอบ บิต

  แต่ทว่ามีหลายคนออกมาถกเถียงข้อสันนิษฐานนี้โดยบอกว่าซากมนุษย์จิ๋วที่ ค้นพบคือโฮโม ซาเปียนส์ทั่วไป แต่มีร่างกายแคระแกร็น หยุดการเจริญเติบโต อันเนื่องจากภาวะขาดสารไอโอดีนระหว่างครรภ์มารดา อันเนื่องจากเกาะแห่งนี้มีอาหารอยู่น้อยนี้เอง





[


1.Champ

  ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปีก่อน ใครที่เคยดู ภายนตร์ The Water Horse : Legend of the Deep เรื่องผจญภัย-แฟนตาซี เด็กน้อยที่ค้นพบ “ไข่” พิศวงของสัตว์ในตำนาน ก็คงจะคุ้นกับตัวที่ชื่อว่าเนสซี

  แชมป์ถือได้ว่าเป็นญาติของเนสซีที่ถูกขนานนามว่า เนสซีอเมริกัน มีคน รายงานการพบเห็นสัตว์เหล่านี้ในทะเลสาบแชมเปลน (Champlain) ประเทศอเมริกา
มันเป็นทะเลสาบที่ลึกมากแต่แคบและยาวอยู่ระหว่างรัฐเวอร์มอนต์และรัฐ นิวยอร์ก จากรายงานการพบบ่บอกว่ามันมีลักษณะคล้ายไดโนเสาร์ที่เป็นพวกอาศัยอยู่ในน้ำ
ในยุคดึกดำบรรพ์ ยาวประมาณ 4.5-9 เมตร ลำตัวคล้ายถังเหล้า มีตัวสีดำหรือเทา หัวคล้ายงูหรือม้า มีเขาหรือหงอนสองอัน


  สัตว์ลึกลับตัวนี้มีการพบเห็นมายาวนานกว่าสามร้อยปีมาแล้ว และปัจจุบันมีผู้พบเห็นตัวมันมากมายโดยเฉพาในช่วงฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูใบไม้ ร่วงซึ่งเป็นฤดูท่องเที่ยว และมีรูปถ่ายของมันด้วย จนหลายคนเชื่อว่ามันมีจริง ถึงขนาดสภาผู้แทนรัฐเวอร์มอนด์ได้ออกกฎหมายคุ้มครองแชมป์ ห้ามกระทำการใด โดยเจตนาเพื่อจะฆ่าหรือทำให้บาดเจ็บหรือไปรบกวนมัน กฎหมายที่ว่าออกในเดือน เมษายน 1986

  ต่อมารัฐนิวยอร์กก็ออกกฎหมายเดียวกัน มีหลายคนสันนิษฐานว่าสัตว์ลึกลับนี้ตัวตนที่แท้จริงคืออะไรกันแน่ บางคนบอกว่ามันน่าจะเป็นซูโกลดอน (Zeuglodon) ปลาวาฬที่คาดว่าสูญพันธุ์ไป แล้วเมื่อสิบล้านปีก่อน บางคนบอกว่าเป็นคลื่นใต้น้ำเนื้องด้วยโครงสร้างของทะเลสาปที่ทำให้เกิดคลื่น ใต้น้ำขนาดใหญ่


เครดิต


ไอพี: ไม่แสดง

#27 | KOPoom_13 | 17 ต.ค. 56 23:34 น.

แปะนะคะ 

ไอพี: ไม่แสดง

#28 | HarmwEll | 17 ต.ค. 56 23:44 น.

เยี่ยมมาก ที่เราพอเชื่อก็คืออันดับหนึ่งนี่แหละ

ไอพี: ไม่แสดง

#29 | เริ่ดส์ส์ส์ส์ | 18 ต.ค. 56 15:40 น.

11.มานานังเกล (Manananggal) คล้ายกระสือ

ไอพี: ไม่แสดง

#30 | `rs.รู้สึกเซ็กซี่$ | 18 ต.ค. 56 16:30 น.

เหยยย ชอบกระทู้แบบนี้อ่ะ > <
ผวากับโดเวอร์ =[]=

ไอพี: ไม่แสดง

#31 | luffyy. | 18 ต.ค. 56 19:27 น.

แปะเอาไว้เก็บอ่านเย่ๆ

ไอพี: ไม่แสดง

#32 | f-trilogy`* | 20 ต.ค. 56 14:58 น.

Champ น่าสนใจมากๆๆๆๆๆ 

ไอพี: ไม่แสดง

#33 | KATCHUBU-) | 20 ต.ค. 56 15:10 น.

แปะไว้อ่าน 

ไอพี: ไม่แสดง

#34 | เจบีที่รัก | 21 ต.ค. 56 21:07 น.

12.โวลเปอทิงเกอ เหมือนโปรเกมอน 555

ไอพี: ไม่แสดง

#35 | pixiedust | 22 ต.ค. 56 14:51 น.

แปะน้าาาาา ขอบคุณค่ะ 

ไอพี: ไม่แสดง

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google