- - - - BORN TO BE เภสัชกร - - - - ! #

#1 | pchela. | 2 พ.ย. 56 19:39 น.

แปะๆๆ

ข้อความสั้นเกินไป (ช่อง ความคิดเห็น)

#2 | `ขาวดำ8? | 2 พ.ย. 56 20:01 น.

เราก็ born to be pharmacist
และก็ม.5 เหมือนกัน 

#3 | preeennp' | 2 พ.ย. 56 23:29 น.

อยากมาแนะนำ แต่พี่ก็ยังสอบอยู่แหละ อยากเป็นเภสัชเหมือนกันน
เรื่องสอบน้องก็ลอง ศึกษาดูก่อนก็ได้พี่แนะนำ เว็บ Unigang มันจะอัพเดตตลอดเลย มีทั้งสอบตรง โควต้า แล้วก็แอดมิชชั่นแล้วแต่น้องเลยอยากเข้าคณะเภสัชของ มหาลัยไหน ส่วนเรื่องเตรียมตัว ตั้งแต่ ม.5 น้องก็ค่อยๆเก็บมาเรื่อยเลย แล้วก็รักษาเกรดใน รร.ด้วย แต่ถ้า รร.กดเกรดก็ชั่งมันเหอะ สอบตรงเอาเลย สู้ๆ ส่วนเภสัชมันเน้นทุกวิชานั่นแหละ แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่ต้องฝืนมันแค่พอไปได้ ผ่านตามเกณฑ์แบบนี้ก็พอ อยากถามอะไร ถามไว้ดีกว่า เดี่ยวพี่พูดมาก มันยาว 555555555

#4 | `(anonymous.? | 3 พ.ย. 56 15:12 น.

:fQpk! : เย้ๆ มีเพื่อนแล้นน -3-

preeennp' : ขอบคุณพี่มากนะคะ _/\_ คือเภสัชนี่เราจะต้องสอบ GAT กะ PAT2ใช่ปะคะ
แล้วGATนี่คือมีGATเชื่อมโยงกะอังกฤษ เราต้องสองอังกฤษด้วยมั้ยอ่า
ส่วนPATคือจะมีเคมี ฟิสิกส์ ชีวะ แล้วมันเอาอย่างละกี่เปอร์เซ็นอะไรยังไงบ้างอ่า
แล้วอีกอย่าง หนูอยากให้พี่ช่วยอธิบายอะค่ะ ว่าโควต้า สอบตรง แล้วก็แอดมิชชั่น มันดีไม่ดีหรือแตกต่างกันยังไงอะคะ แล้วสอบตรงนี่มันมีโอกาสติดมากกว่าแอดหรอ คือมันจะง่ายกว่าปะคะ หนูยังไม่ค่อยเก็ทเท่าไหร่อะ 

#5 | preeennp' | 5 พ.ย. 56 19:30 น.

ก็คือว่าเราสอบแกท กับ แพท2 เพื่อมีคะแนนไว้ยื่นแอดมิชชั่นนะ แต่บางมหาลัยก็จะใช้คะแนนแกทแพท เป็นเกณฑ์ในการรับตรงเหมือนกัน ส่วนแกทมันจะแบ่งเป็นสองพาร์ท คือ แกทเชื่อมโยง กับ แกทอังฤษ เป็นข้อสอบอันเดียวกันนะ ต้องสอบด้วยกัน แยกสอบไม่ได้ 55555555  แล้วแพทก็ไม่มีแยกตามวิชาหรอกมันก็รวมๆกันไปคะแนนเต็ม 300 เวลาเขาคิดในการยื่นแอดมิชชั่น ก็น่าจะ แกท 10% แพท 40% นอกนั้นก็เกรดกับโอเน็ตแหละคับ ส่วนรับตรง โควต้า แอดมิชชั่น น้องต้องดูว่าน้องอยากเข้าเภสัชที่ไหน โอกาสติดก็อย่างมีโควต้าตามภาคคู่แข่งก็จะน้อยลง ส่วนแอดก็ติดช้าหน่อยแต่คณะดีๆก็เยอะ ถ้าน้องอยู่ในภาคที่มีมหาลัยเยอะๆ มันก็จะมีโควต้า พื้นที่ จังหวัด อะไรรแบบนี้อ่ะคับ