Hashima Project Review

1 พ.ย. 56 21:07 น. / ดู 1,820 ครั้ง / 5 ความเห็น / 1 ชอบจัง / แชร์
ฮาชิมะ โปรเจกต์ ไม่เชื่อ ต้องลบหลู่
หนังผีแดนญี่ปุ่น แต่กลิ่นอายไทยไม่ลืมเลือน...
(ทั้งหมดเป็นเพียงความเห็นส่วนตัว...)
ยอมรับว่าตอนแรกที่เห็นข่าวเรื่องนี้ เกิดจากตอนที่ดูคู่กรรมใหม่ๆ ชอบไปฟังเพลงฮิเดโกะในยูทูปมากๆ จนวันนึง ชาแนลยูทูปของ M39ก็กลายเป็นภาพปริศนา H Projectขึ้นมา มันกระตุ้นต่อมความสงสัยมากๆ ว่ามันคืออะไร หนังผีใหม่รึเปล่า แดงๆ ดำๆ ต่อมาก็เริ่มมีแคมเปญหนึ่งในเฟซบุ้ค มีคนHashtag ไม่เชื่อต้องลบหลู่พร้อมภาพการกระทำลบหลู่ต่างๆออกมาก ยิ่งทำให้ยิ่งสงสัยในโปรเจคปริศนาของ M39นี้ไปทุกทีๆ

... สุดท้ายก็ได้พบกับทีเซอร์และตัวอย่างเต็มออกมา
ฮาชิมะ โปรเจกต์ ไม่เชื่อ ต้องลบหลู่... ก็เลยกลายเป็นหนังที่ผม พลาดไม่ได้อย่างแน่นอน...

ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดา ของวงการหนังเมืองไทย ว่าคนไทยบางส่วนบอกหนังไทยมักไม่ดี ถ้าดีต้องค่ายGxx อย่างเดียว ไม่ว่าค่ายGxx ทำหนังอะไรแบบไหน เราก็จะไปดูๆๆๆ(ผมไม่ได้อคติไรนะ จริงๆก็เป็นแฟนบอยค่ายนี้เหมือนกัน แฮ่ะๆๆ) จึงย้อนกลับมาดูตัวเองนิดนึงว่า ทำไมเราไม่ทำกับหนังไทยทุกเรื่องให้ได้แบบนี้ล่ะ อารมณ์แปลกใหม่ทุกครั้งที่จะได้ดูหนัง ลืมเรื่องหนังฝรั่งอะไรที่เคยดูมาทั้งหมดซะ และนึกซะว่านี่คือหนังเรื่องแรกที่เราเคยดูในชีวิตไปเลย หนังไทยที่เราดูก็จะมีอะไรดีๆให้เห็นมากขึ้นแน่นอน... ผมเชื่อแบบนั้นนะ

มาว่าเรื่องหนังเรื่องนี้... ดาราและโลเกชั่นแน่นอนคือจุดขาย ไม่ว่าจะหน้าตาหล่อๆของไมค์ หรือน่ารักๆอย่างออม แต่จุดขายจริงๆกลับเป็นที่ฝีมือการแสดงมากกว่า ทุกคนเล่นได้สุดยอด ทรงพลังและทำให้เชื่อในตัวละครคาแรคเตอร์นั้นจริงๆ อเล็กซ์เล่นดีมากๆ นักแสดงคนนี้มีฝีมือมากขึ้นทุกครั้งที่ได้ดูผลงานเลย ความเกี่ยวโยงของตัวละคร ทำออกมาได้ดีและรู้สึกผูกพันไปกับตัวละครพอสมควร แม้จะไม่ได้รู้ตื้นลึกหนาบางมากนัก แต่ก็พอให้เห็นถึงความสนิทสนม มิตรภาพยาวนานความผูกพันธ์กัน ได้เป็นอย่างดี
เกาะฮาชิมะ เป็นเหมือนดาราตัวนึงของเรื่องเลย มันแสดงถึงความน่ากลัว รกร้าง น่าขนลุกทุกครั้งที่มองดู บรรยากาศไม่ปลอดภัย ความเงียบเหงา วังเว มันแสดงออกได้หมดภายใต้ภาพของสถานที่นี้เลย น่ากลัวมาก แม้ในหนังจะไม่ให้เห็นตอนอยู่บนเกาะมากสมใจอยาก แต่แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว ที่จะปูทางของเรื่องราวทั้งหมดได้เป็นอย่างดี เพราะสิ่งที่น่ากลัวจริงๆไม่ได้มีแค่ฮาชิมะหรอก ...สิ่งที่ตามกลับมาจากฮาชิมะนั้นแหละ ที่น่ากลัวยิ่งกว่า....

บรรยากาศดีอยุ่แล้ว ไม่ต้องพูดถึง ทั้งการบิ้วอารมณ์ แสงสีของภาพ ทำออกมาได้ดีตามมาตรฐานทั่วไป แต่ที่น่าชื่นชมคืออารมณ์ขันเล็กๆในเรื่องที่ทำให้เบาความน่ากลัวลงบ้าง ถึงแม้จะไม่มากก็ตามที แฮ่ะๆๆ...
เสียงประกอบ สร้างบรรยากาศดี แต่บางช่วงจะเน้นเสียงเงียบๆให้ดูวังเวง ก็ดีไม่ติดอะไร เรื่องการแสดงดีอยู่แล้วไม่ต้องพูดถึง สุดท้ายก็ต้องเรื่อง
ความน่ากลัว...
สำหรับคนขวัญอ่อนคงเกือบตกใจตายได้เลย หนังมันตุ้งแช่พอสมควร เตรียมใจมาดูก่อนนิดนึง ส่วนหน้าตาผี พลานุภาพความอลังการ อาจจะน่ากลัวไม่มาก แต่ก็ได้บรรยากาศ การบิ้วบวกเสริม ทำให้น่ากลัวเวลาปรากฎตัวดี ความน่ากลัวอาจจะไม่มากสำหรับคนเคยชินหนังผี แต่ยังไงผมว่ามันก็น่ากลัวอยุ่ดีสำหรับผมนะ คนกลัวผีชอบดูหนังผี ดูแล้วก็กลัว ฮ่าๆๆๆ

สรุปแล้ว ฮาชิมะ โปรเจกต์... ไม่เชื่อ ต้องลบหลู่
แม้จะได้โลเกชั่นญี่ปุ่น ผีจากญี่ปุ่นเลย แต่ก็ยังคงกลิ่นอายหนังผีไทยๆที่เราคุ้นเคย ความเชื่อแบบไทยๆก็ยังคงมี ความรัก การรอคอย ความโศกเศร้าแบบผีๆก็ยังคงมีอยู่ในหนังผีไทย ไม่เสื่อมคลาย...
ความรักของเพื่อน มิตรภาพ ชิวิตมนุษย์ ความดราม่าในหนัง ที่ทำให้ตัวละครมีมิติและน่าติดตาม ก็เป็นอีกจุดที่น่าชื่นชม...

ให้ 9/10 ครับ... คนไทยไปอุดหนุนหนังไทยกันเยอะๆนะครับ หนังไทยจะได้พัฒนาต่อๆไปครับ ^^
เลขไอพี : ไม่แสดง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | MTH.Channel | 1 พ.ย. 56 23:10 น.

ถ้าอุดหนุนจะพัฒนาจริงเหรอ...

เท่าที่เห็นส่วนมากก็มีแต่โฆษณานู่นนี่ให้ดูเลิศหรู ดูพิเศษ ดูน่าทึ่ง แต่เอาเข้าจริง.....

กลัวจะดูดเงินคนดูตาตำๆเท่าที่จะสามารถทำได้อะ(ทำมาเยอะแล้ว)

กลัวอีกอย่าง กลัวว่าอุดหนุนเข้าจริงจะได้ใจ ว้าวว ทำเงินดี งั้นคราวหน้าทำแบบนี้แหละ เพราะได้เงิน...

ทีมสร้างอื่นมาเห็น ว้าววว เงินดี ทำมั่งดีกว่า...

ลงท้ายก็ย่ำอยู่กับที่เพราะเราคิดว่าเงินของเราที่เค้าได้จะนำไปพัฒนา เค้าไม่ได้มองจุดเดียวกับเรา เค้ามองแค่ "เงิน" เข้ากระเป๋ามากแค่ไหน

สู้เอาเงินไปอุดหนุนที่ดีจริงๆ ถึงมีคนคิดจะเอามั่ง มันก็เป็นเส้นทางที่ปูไว้ดีแล้ว...

ก็แค่ .... เข็ด .... น่ะครับ

ไอพี: ไม่แสดง

#2 | EGG_normal | 1 พ.ย. 56 23:32 น.

ผมเห็นด้วยมากครับ แต่กำลังพยายามดูหนังไทยแบบเปิดใจ ไม่พยายามคิดอะไรอยุ่ เพิ่งมาดูหนังไทยในโรงก็ช่วงหลังๆนี่เอง แฮ่ะๆๆ

ลงท้ายก็ย่ำอยู่กับที่เพราะเราคิดว่าเงินของเราที่เค้าได้จะนำไปพัฒนา เค้าไม่ได้มองจุดเดียวกับเรา เค้ามองแค่ "เงิน" เข้ากระเป๋ามากแค่ไหน

เห็นด้วยกะอันนี้มากเลย สังคมทุนนิยมของไทยเลย

ไอพี: ไม่แสดง

#3 | Researcher | 2 พ.ย. 56 10:33 น.

เห็นด้วยกับท่าน Now-You-See-Me
แต่ก็เข้าใจความปราถนาดี ที่มีให้กับวงการหนังไทยของ จขกท. เหมือนกัน
กับการที่ได้ยินคนไทย ว่าหนังไทยห่วยอย่างนั้น อย่างนี้มาทั้งชีวิต
รู้ไหมผมก็เจ็บปวดไม่แพ้ไปกว่า จขกท หรือ ใครๆ หรอกครับ
ในเรื่องคุณภาพหนังไทย ในฐานะคนรักหนัง

สำหรับผมถ้าหนังจะห่วย..ไม่ใช่เพราะว่ามันเป็นหนังไทย
แต่มันเป็นเพราะคุณภาพที่แท้จริงของมันต่างหาก
เราจะให้อาศัย คนชาติเดียวกันกับหนัง มาทำให้มันดีขึ้นด้วยคำพูด คงไม่ใช่

แต่เราต้องยอมรับความจริง ทุกอย่างที่ท่าน Now-You-See-Me มันจริงมาก
ทำหนังดี ก็เจ๊ง ไม่มีคนดู...แล้วใครจะอยากทำ ก็เลยต้องทำหนังที่คนไทยอยากดู
รายได้ก็หมุนกลับไป เพื่อที่จะถูกทำหนังแบบเดิมๆ ที่คนไทยอยากดูออกมา

ตราบใดที่เรายังต้องอาศัยแรงขับเคลื่อนของดาราอย่าง ตุ๊กกี้ โก๋ตี๋ เพื่อสร้างอารมณ์ขันแบบไทยๆ
หนังคอซอง+ขาสั้น หรือหนังรัก 3-4 คู่ซ้อนในเรื่องเดียว
ที่มีบทพูดราวกับหลุดมาจากคำคมโดนใจวัยโจ๋ ที่รวบรวมมาจากเฟสบุ๊ค
สิ่งที่กล่าวมา ที่ถูกเน้นย้ำใช้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เรื่องแล้วเรื่องเล่า
มันไม่ใช่ตัวส่งเสริมให้หนังไทยมันไปไกลขึ้น มันแค่ใช้เพื่อให้ตรงจริตคนไทย
Thailand Only ครับ..
หนังไทย กับเวทีโลก ก็เหมือนฟุตบอลไทยกับบอลโลก นั่นแหละ

เรื่องให้ลืมทั้งหมดไป ตอนดูหนังไทย ราวกับเพิ่งดูเรื่องแรก..ผมทำไม่ได้แน่นอน
ผมไม่รู้ว่าจะสั่งสมองให้ทำแบบนี้ได้ยังไง..555

แต่ดูแบบไม่อคติอ่ะผมทำได้แน่..และผมก็พยายามที่จะทำมันมาตลอดหลายปีที่ผมดู
อย่างน้อยผมก็ไม่เคยวิจารณ์ตามน้ำนะ
ถ้าผมยังไม่ได้ดู ผมก็ไม่กล้าพูดว่าห่วยหรือดี

แต่ยอมรับอย่างหนึ่งเรื่องวิจารณ์ตามน้ำ คนไทยถนัดครับ
ทั้งๆที่ยังไม่ดู บางทีก็น่าสงสารหนัง

พูดยากครับ มันอารมณ์ความรู้สึกอ่ะ
ปล.ผมยังไม่ได้ดูฮาชิมะ นะครับ

แก้ไขล่าสุด 2 พ.ย. 56 10:47 | ไอพี: ไม่แสดง

#4 | yukinbc | 2 พ.ย. 56 10:45 น.

รอดูออนไลน์

ปกติหนังไทยเราจะดูออนไลน์ตลอด

ยกเว้น ต้มยำกุ้ง 2 ซึ่งเป็นโปรแกรมเพชรหนังพันล้าน

ต้องดูในโรงเท่านั้น อยากให้อุดหนุน ต้มยำกุ้ง 2 กันเยอะๆ มันส์สุดติ่งจริงๆ

ไอพี: ไม่แสดง

#5 | FallsDownz | 4 พ.ย. 56 00:40 น.

ส่วนตัวผมว่า การที่บอกว่าเราจะดูหนังไทย เราจะต้องดูแบบลืมหนังฝรั่งไปซะ ส่วนตัวคิดว่าความคิดนี้มันเหมือนเป็นการหนีปัญหามากกว่านะครับ หนังมันคนละประเทศทุกต่างกันหลายๆอย่างต่างกันก็จริง แต่ส่วนตัวผมถือว่าภาพยนตร์ก็คือภาพยนตร์ยังไงก็มาตราฐานเดียวกันแม้ว่าจะประเทศไหนก็ตาม (อาจจะมีอะไรแตกต่างกันบ้างตามวัฒนธรรมตามประเทศ) ส่วนตัวผมว่า ความเชื่อที่ว่าหนังไทยห่วยเสมอมันไม่จริงเลยครับ หนังไทยดีๆมีเยอะ เช่น โหมโรง หรือ นาคปรก แต่ปัญหาที่ผมคิดว่าประสบกันมากกับภาพยนตร์ไทยตอนนี้คือ "ตามกระแส"มากจนเกินไป รัก ผี ตลก วนลูปตลอด มุข Re-use แล้วอีกอย่างคือหนังไทยไม่ค่อยใส่ใจรายละเอียด บางเรื่องทำลวกๆด้วยซ้ำไป ซึ่งส่วนหนึ่งก็มาจากพลังของคนดูอย่างเราๆเนี้ยแหละครับ GTH นั้นภาพยนตร์หลายๆเรื่องถ้านับเอาการวิจารณ์จริงๆแล้วมันก็ไม่ได้ดีแบบยกขึ้นหิ้งขนาดนั้นนะครับ แต่เพียงแค่ว่ามันถูกใจคนดูเพราะตัวค่ายเขาภาพยนตร์ของเขาเน้นทำเพื่อคนดูอยู่แล้วเท่านั้นเอง อยากจะบอกว่าแม้แต่ Hollywood ก็ประสบปัญหาหนังวนลูบเช่นเดียวกัน แต่ก็จะมีคนพยายามที่จะ"แหก" หรือ ล้อเลียน และกล้าทำอะไรบางอย่างออกมา อยู่ตลอดเวลา และภาพยนตร์ต่างประเทศหลายๆเรื่องต้องยอมรับเลยว่า เขาใส่ใจรายละเอียดกว่ามาก และไม่ดูถูกคนดู  ซึ่งเป็นจุดที่ภาพยนตร์ไทยก็ทำได้ครับ อย่าง โหมโรง เป็นภาพยนตร์ที่มีรายละเอียดเยอะมากๆแทบจะทุกวินาที ทุกเฟรมในภาพยนตร์เลยทีเดียว แต่เพียงว่า ภาพยนตร์ไทยที่ใส่ใจรายละเอียดเยอะขนาดนี้ มันมีออกมาน้อยมากถึงมากที่สุด ซึ่งส่วนหนึ่งสาเหตุก็มาจากเราๆเนี้ยแหละครับ ที่ไม่ดูหนังไทยกัน คนทำเขาก็กลัวขาดทุนก็เลยไม่ใส่เต็มหรือลงทุนหนักๆเท่าไรนัก และ คนที่"กล้า"ที่จะทำอะไรใหม่ๆมันมีน้อยมาก เนื่องจากหลายสาเหตุหนึ่งในนั้นก็ต้องยอมรับก่อนเลยว่า คนไทยเราไม่ค่อยยอมรับอะไรแปลกใหม่เท่าไรนัก ถ้ามีอะไรแหวกแนวออกมาแล้วขัดกับอะไรบางอย่างจะถูกต่อต้านทันทีไม่ว่ามันจะฟังขึ้นหรือไม่ อีกอย่างคือหนังมีสิทธิเจ๊งสูงมาก (แต่ก็ยังมีคนหลายคนชอบภาพยนตร์แนวนี้มาก) แต่สำหรับช่วงนี้ผมเกลียดกิมมิคหนึ่งของภาพยนตร์ไทยมากคือ กระแส 3D ซึ่ง Hollywood เมื่อหลายปีก่อนตอนช่วง Avatar กำลังดังก็เจอปัญหาเดียวกัน คือมีภาพยนตร์หลายๆเรื่องมีกิมมิค 3D (ซึ่งหลายเรื่องผมขอเรียกว่า 2.8D มากกว่า) คือขายแต่ 3D แต่ส่วนอื่นนี้มันเละจน 3D ช่วยอะไรไม่ได้ (ยังไม่นับถึง 3D แบบ Converted หรือ มาแปลงเป็น 3D ทีหลังทำให้มันไม่ได้ดู 3D เลยแม้แต่น้อย) คือ 3D สำหรับผมโอเคมันเป็นเทคโนโลยีที่น่าสนใจ แต่มันไม่ได้ทำให้ภาพยนตร์มันดีขึ้นแม้แต่ 0.0001% เลยถ้าหากทุกๆส่วนหรือบางส่วนของภาพยนตร์ของคุณมันไม่เหมาะหรือไม่สนับสนุนความเป็น 3D อย่างเช่น Gravity ที่เป็นตัวอย่างที่เหมาะสมสำหรับภาพยนตร์ 3D เป็นที่สุด ส่วนตัวผมไม่เข้าใจคนที่เข้าไปชม 3D ประเภทโยนอะไรใส่คนดูแค่นั้นแล้วเรียกตัวเองว่าหนัง 3D มันสนุกอย่างไร


ปล.ขออภัยครับ ไม่ได้เกี่ยวกับตัวฮาชิมะเลย ฮ่าๆ

แก้ไขล่าสุด 4 พ.ย. 56 00:41 | ไอพี: ไม่แสดง

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google