วิจารณ์ The Secret Life of Walter Mitty

22 ธ.ค. 56 21:53 น. / ดู 3,105 ครั้ง / 3 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์
The Secret Life of Walter Mitty
By Bigtum

: ฝันใหญ่ใจต้องกล้า อยากท้าโลกใจต้องถึง
  มันก็ต้องมีกันบ้างแหละ ที่รู้สึกเหนื่อยหน่ายกับชีวิตในเมือง อยากหลีกหนีความจอเเจของผู้คน หลบออกไปพัก อยากออกไปพบ กับโลกอันแสนกว้างใหญ่ ที่ๆเรายังไม่เคยไป ในวันที่สองขาเรายังเดินไหว สองแขนแบกเป้จะพาไป หาก Life of Pi คือหนังภาพสวยแห่งปี 2012 แล้วล่ะก็ The Secret Life of Walter Mitty ก็คือหนังภาพสวยแห่งปีนี้อย่างไม่ต้องสงสัย ที่ต่างกันก็คือมันไม่ได้ถูกถ่ายทำกันในแทงค์น้ำขนาดยักษ์ แต่ไปถ่ายในทะเลจริงๆ เฮลิคอปเตอร์ก็จริง ทุกฉากล้วนถ่ายทำในสถานที่จริงหมด แล้วไปเพิ่มซีจีตบแต่งให้เนียนขึ้นทีหลัง

ต้นกำเนิดของเรื่องนี้เกิดขึ้นมาจากเรื่องสั้นในปี 1939 ของ เจมส์ ทูเบอร์ นู่นแน่ะ เรื่องของคนตัวเล็กๆที่อยากหนีจากสภาวะความโหดร้ายที่เเสนโศกเศร้าของสงครามโลกในยุคนั้น ได้ถูก สตีฟ คอนราด มือเขียนบทหนัง นำมาปรับใช้ให้เข้ากับยุคสมัยนี้มากขึ้น ด้วยการเล่นกับเรื่องของพิษเศรษฐกิจที่ล่มสลาย โดยมีตัวเอกที่ชื่อ วอลเตอร์ มิตตี้ (เบน สติลเลอร์) เป็นตัวดำเนินเรื่องราว วอลเตอร์ก็คือพนักงานประจำนิตรสาร Life ที่อยู่แผนกฟิล์มเนกาทีฟ ในห้องทำงานมืดๆที่อยู่ลึกสุดลงไปข้างล่าง เค้าเป็นชายหนุ่มขี้อายที่เเอบชอบ เชอรีล (คริสเตน วิก) เพื่อนร่วมงานสาวแต่ไม่มีความกล้าพอที่แม้แต่จะคุยกับเธอ

จึงได้สมัครเป็นสมาชิกเว็บหาคู่เว็บหนึ่ง เพื่อที่จะส่งไอคอน "ยิ้ม" ให้เธอ แต่ก็ดันส่งไม่สำเร็จ ชีวิตที่แสนน่าเบื่ออยู่แล้ว ก็ดันน่าเบื่อหนักเข้าไปอีก เมื่อน้องสาวจอมจุ้นดันเข้ามาวุ่นในที่ทำงาน ต้องเจอกับ เท็ด (อดัม สก็อตต์) ผู้บริหารใหม่ที่เข้ามาทำหน้าที่ลดขนาดองค์กรด้วยการปลดพนักงานออก พร้อมกับประกาศข่าวร้ายว่านิตรสาร Life จะปิดตัวลง แต่วอลเตอร์ก็ไม่หวั่น ยังคงตั้งใจทำงานต่อ เว้นเเต่เค้าเป็นคนที่ชอบสร้างจินตนาการให้กับตัวเองมากเกินไปหน่อย ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่มันดันผิดที่ผิดทาง ผิดเวลาอยู่บ่อยครั้ง ด้วยการยืนนิ่งๆเหม่อลอยในที่ทำงาน เป็นตัวตลกให้กับเท็ด และคนอื่นๆได้ล้อเลียนเค้าอยู่เสมอ

จินตนาการที่วอลเตอร์สร้างขึ้นมานั้นมักจะมาในรูปแบบของฮีโร่ ซึ่งเค้าจะรับบทเป็นนักเดินทางที่ไม่หวั่นต่อการผจญภัยใหม่ๆ คอยปกป้องเชอริลหญิงสาวคนรักยามเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ทว่ามันก็เป็นแค่ฝันกลางวันของคนเห่ยๆในชีวิตจริง เมื่อต้องพบว่ารูปใบสำคัญที่จะนำมาขึ้นปกนิตรสาร Life ฉบับสุดท้ายได้หายไป งานเข้าแบบเต็มๆสิทีนี้ เค้าต้องออกไปตามหา ฌอน โอคอนเนลล์ (ฌอน เพนน์) ช่างภาพในตำนานผู้ชอบทำตัวลึกลับคนนี้ให้เจอ งานนี้วอลเตอร์จึงต้องออกเดินทาง การผจญภัยที่เคยเกิดขึ้นแค่ในจินตนาการกำลังจะกลายเป็นจริงแล้ว

นอกจากต้นกำเนิดจากเรื่องสั้นความยาวไม่กี่หน้าในปี 1939 ของเจมส์ ทูเบอร์ แล้ว The Secret Life of Walter Mitty ยังเคยขึ้นจอในเวอร์ชั่นหนังเพลงปี 1947 มาก่อน ซึ่งก็จะคนละแนวกับเวอร์ชั่นล่าสุดนี้เลย และคงไม่มีใครเหมาะไปกว่า เบน สติลเลอร์ คนนี้อีกแล้ว ที่จะมารับบทเป็นชายขี้แพ้แบบที่เรามักจะเห็นได้จากหนังเรื่องก่อนๆที่เค้าเคยรับบทมา ไม่ว่าจะเป็น There's Something About Mary, Meet the Parents และ Night at the Museum แต่ถ้าในฐานะของผู้กำกับแล้วล่ะก็ นี่ถือเป็นการชิมลางที่เปลี่ยนแนวของเค้าไปเลย จะ The Cable Guy, Zoolander หรือ Tropic Thunder ดูแล้วไม่เฉียดเข้าพวกกับผลงานใหม่ล่าสุดนี้ซักนิด

ถือเป็นนิมิตรหมายใหม่ของ เบน สติลเลอร์ ผู้กำกับวัย 47 ปีคนนี้ กับการได้พาคนดูไปเปิดหูเปิดตา เปิดโลกที่เราไม่คุ้นชินด้วยมุมกล้องอันผาดโผน ไม่ต้องบอกว่าวิชวลเอฟเฟ็คต์จะต้องทำงานกันหนักขนาดไหน เพื่อผลลัพธ์ที่แสนมหัศจรรย์นี้ หนึ่งในฉากที่ผู้เขียนชอบมากที่สุดก็คือ ฉากที่สติลเลอร์เล่นสเก็ตบอร์ดลงมาตามถนนอันแสนลาดชันในไอซ์แลนด์ แม้จะรู้ว่ามีทั้งเครน ทั้งตัวลากอยู่ในงานเบื้องหลัง แต่มันออกมาดูดีมากๆ รวมทั้งหลายๆฉากที่งดงามประดุจดั่งงานศิลปะที่ใครๆก็สามารถเข้าถึง

ทว่ามันใช้สูตรเล่าเรื่องด้วยภาพที่ค่อนข้างมากจนข่มเนื้อหาให้เบาบางลงเช่นกัน จนใครหลายคนอาจรู้สึกเหมือนกำลังนั่งชมโฆษณาขายฉากสวยๆ ที่นำมาเรียงร้อยต่อกัน เคล้าเพลงประกอบเพราะๆ แต่ถ้าไม่แคร์ตรงจุดนี้ The Secret Life of Walter Mitty ก็คืองานที่ให้ทั้งแรงบัลดาลใจ ที่เปี่ยมไปด้วยพลังจนอยากหยิบเป้ออกไปเที่ยวตามใจตัวเองแบบตัวละครในหนังบ้าง หรือลุกขึ้นมาทำอะไรก็ได้ที่มันสร้างสรรค์ให้มันดีกว่าที่เป็นอยู่ เหมือนกับที่วอลเตอร์ไล่ตามหา "ความงามแท้จริง ไม่เรียกร้องความสนใจ" สิ่งที่ดั้นด้นตามหา บางทีมันอาจจะอยู่ใกล้ๆ แต่เรามองไม่เห็น งั้นถ้าเราอยู่นิ่งๆไม่ลงมือหาล่ะ มันก็ยิ่งมองไม่เห็นหนักเลยไม่ใช่เหรอ?

ระดับคะเเนน "B-"

ติดตามอ่านรีวิวหนังใหม่เรื่องอื่นๆได้อีกเพียบ อาทิ ฟัดจังโตะ // American Hustle // Blue is the Warmest Color // Like Father, Like Son // Mary is Happy, Mary is Happy ได้ที่ https://www.facebook.com/pages/The-.........101573433344532
แก้ไขล่าสุด 12 ม.ค. 57 14:30 | เลขไอพี : ไม่แสดง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | am_pooh | 23 ธ.ค. 56 13:40 น.

ยังไม่ได้อ่านนะ
ไว้ไปดูแล้วจะกลับมาอ่านๆ

55+
แต่อยากดูจริงๆ นะเรื่องนี้

ไอพี: ไม่แสดง

#2 | Bigtum | 31 ธ.ค. 56 22:53 น.

แนะนำครับ ภาพสวยมาก^^

ไอพี: ไม่แสดง

#3 | `ควายไทย๕ | 3 ม.ค. 57 14:57 น.

หนังโลกสวย ดูแล้วโลกสวยมากจริงๆ
ภาพสวยดูแล้วอยากไปเที่ยวมากๆ น่ารักมากๆ
ออกมาจากโรงแล้วมีความสุขเลยอ่ะ
เหมือนได้ไปเที่ยวไอซ์แลนด์ กรีนแลนด์ 555555555

ไอพี: ไม่แสดง

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google