ใครตอบเราเกี่ยวกับภาษาอังกฤษได้มาช่วยหน่อยค่ะ

27 มี.ค. 57 02:09 น. / ดู 546 ครั้ง / 3 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์
สวัสดีจ้า

บางทีเรื่องนี้อาจจะง่ายสำหรับหลายคน แต่เราไม่รู้อ่ะ พอไม่รู้แล้วมันนอนไม่หลับเลย (จะตี2แล้วT__T)
เรายกตัวอย่างประโยคนี้นะ (ยาวหน่อยเพราะมาจากแบบฝึกหัด)

To the annoyance of many readers considerable proportion of the space in many papers is devoted to advertisement.

คำว่าdevoted เราไม่แน่ใจว่าเค้าหมายถึงadj หรือเค้าเป็นกริยาช่องสามหรืออะไร  คือถ้าสมมติเป็นกริยาช่องสามแล้วทำไมมันถึงอยู่หลังis      ใครรู้ช่วยบอกให้เราเข้าใจหน่อยเถอะนะ อีกไม่กี่วันเราก็ต้องสอบเตรียมแล้ว เรายังบ่เข้าใจเลยยยยยย


คือเราเห็นพวกกริยาช่อง2,3อยู่หลัง is am are มาเยอะแล้วอ่ะ ไม่ได้เป็นpassive ด้วยน่ะ
แก้ไขล่าสุด 27 มี.ค. 57 02:17 | เลขไอพี : ไม่แสดง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | *.น้องแจ | 27 มี.ค. 57 14:21 น.

ถ้าเราแปลประโยคนี้ คือ
สิ่งสำคัญที่รบกวนผู้อ่านคือความได้สัดส่วนช่องว่างของกระดาษหลายแผ่นที่ถูกมอบให้กับการโฆษณา
ที่ประโยคนี้ใช้ is devoted เพราะเป็นpassive คือหมายถึงประธานทำกริยานั้นเองไม่ได้ รูปแบบ passive ก็คือ s+verb to be+v.3 แต่จะเลือกใช้verb to be ตัวไหนก็ต้องแล้วแต่ประโยคด้วย
ก็คือกระดาษมันทำให้ตัวเองเป็นช่องว่างไม่ได้ มันต้องถูกเราทำ
ต้องลองแปลความหมายดูก่อนแล้วถึงจะรู้ว่าเป็นactiveหรือpassive
is am  are +v3 กรณีไม่ใช่passive ก็มีค่ะแต่จะหมายถึงถูกทำในปัจจุบัน

เดี๋ยวรอดูคนต่อไปเน้อจะได้เพิ่มเติม

แก้ไขล่าสุด 27 มี.ค. 57 14:26 | ไอพี: ไม่แสดง

#2 | dimeloquequieres | 27 มี.ค. 57 19:20 น.

ขอบคุณมากเลยนะจ้ะ คือเราขอแค่รู้นิดหน่อยๆให้พอหายสงสัย ก็โอเคจ้า   หรือใครมีข้อมูลไรเพิ่มมาตอบเราได้น้า

ไอพี: ไม่แสดง

#3 | theq | 29 มี.ค. 57 01:14 น.

ตามหลัง is ที่จัดเป็น verb มีสองแบบค่ะ คือ
1) present participle (v. ing) ใช้ตอนเหมือนบรรยายว่ากำลังทำอะไรอยู่อ่ะจ้า
ตย. That naughty dog is biting my shoes. (สุนัขจอมซนตัวนั้นกำลังกัดรองเท้าฉันอยู่)
2) past participle (v.3) ใช้เป็น passive ที่เน้นกรรม
ตย. My shoes were bitten by that naughty dog. (รองเท้าของฉันถูกสุนัขจอมซนตัวนั้นแทะ)

แต่ที่จขกท. บอกว่าเจอ verb 2 อันนั้นคงเป็น verb ในรูป adj มากกว่าอ่ะค่ะ งงมั้ยอ่ะ5555
คือหลัง verb to be ถ้าเติม adj เข้าไปก็จะได้ประโยคประมาณว่า
She was really depressed after she realised that everything was her fault
ซึ่ง depressed ที่ขีดเส้นใต้ในประโยคข้างบนนี้ทำหน้าที่เป็น adj ค่ะ อันนี้เราอธิบายไม่ค่อยถูก
บางประโยคมันก็ใช้ sense เอาอ่ะ555555555

เสริมอีกนิดว่า verb บางอันที่ให้อยู่ในรูป verb 2  อาจจะไม่ได้ทำหน้าที่เป็น verb 2 เสมอไปค่ะ
ส่วนตัวเราว่าแทบทุกคำเลยนะที่เปลี่ยนเป็น adj ได้ ยกตัวอย่างเช่น
Indebt ที่แปลว่าติดหนี้เป็น base form , ถ้าเติม ed เข้าไป = indebted จะเป็น adj
ถ้าแต่งประโยคว่าคุณติดหนี้ You indebt จะผิดนะคะ ต้องเป็น You are undebted

ไม่รู้มาช้าไปมั้ยนะ555555

ไอพี: ไม่แสดง

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google