วิจารณ์ Captain America: The Winter Soldier

3 เม.ย. 57 23:57 น. / ดู 2,280 ครั้ง / 2 ความเห็น / 1 ชอบจัง / แชร์
Captain America: The Winter Soldier
By Bigtum

: กลิ่นระเบิดจากครั้งเก่ายังไม่จาง สงครามใหม่พร้อมระเบิดขึ้นอีกหน
มีข่าวว่า คริส อีแวนส์ จะหยุดพักรบจากการรับบทฮีโร่กัปตันอเมริกา แหม ก่อนหน้านี้เฮียน้ำยาปรับผ้านุ่ม โรเบิร์ต ดาวนีย์ หอมติดทนนาน ก็บอกจะเลิกเป็นไอร่อน แมน เหมือนกัน เป็นเครื่องหมายสินค้าที่คนดูติดตาไปแล้วคงยากอยู่นาที่จะล้างภาพเฮียออกจากหัวง่ายๆ อย่าลืมว่านี่เป็นบทที่ทำให้เฮียแกเเจ้งเกิด ค่าตัวพุ่งสูงลิบมีเงินให้ถลุงได้เป็นชาติ คุ้มค่าเเห่งการยึดอาชีพนักแสดงอยู่ ก็ไม่รู้สินะ (วลีนี้กำลังฮิตเหรอ) อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น อาจจะอิ่มตัวเพื่อเกษียณตัวเองออกไปหาเวลาใช้ตังค์ ผันตัวเป็นผู้กำกับ อำนวยการสร้าง เบื้องหลังอะไรแบบนี้ก็ได้

คริส อีแวนส์ ในวัย 32 เองก็ไม่ต่าง ย้อนกลับไปซัก 10 ปี เค้าเคยอยู่ในหนังแอ็กชั่นทริลเลอร์เรื่อง Cellular ตอนนั้นยังไม่ดัง แต่ความหล่อไม่เคยบดบัง ส่งผลให้กลายเป็นมนุษย์เพลิงใน Fantastic Four ซึ่งความหน่อมแน้มของฮีโร่เอฟโฟร์ยุคนั้นที่ออกเเนวใสๆ ไม่ดาร์คเหมือนฮีโร่ในยุคนี้ได้ถูกลบหายไปสิ้นด้วยมาดของชายถือโล่สุดเท่ห์ หลังจากเว้นช่วงไปร่วมทีมอเวนเจอร์มา ภาคที่ 2 ในชื่อทางการว่า The Winter Soldier กำลังถูกพูดถึงในแง่ว่าเป็นหนังมาร์เวลที่เครียดสุด แต่ก็เป็นความเครียดที่ลงตัวสุดเหมือนกันสำหรับฮีโร่ผู้อาวุโสสุดในทีมกู้โลกรายนี้

สมแล้วกับการยึดมั่นในอุดมการณ์อันแน่วแน่ไว้ลายชายชาติทหาร ปราดเปรื่อง ปรับตัวได้ไว แม้จะมาจากยุคเก่าแต่ความเก๋าในการเรียนรู้โลก พัฒนาศักยภาพของตัวเองนั้นถือว่าเร็ว ถึงจะไม่มีพลังวิเศษ แต่ด้านพละกำลังที่เน้นการใช้แรงนั้นถือว่าสุดฤทธิ์สุดเดชเลยทีเดียว โชว์ออฟกันตั้งแต่ฉากเปิด แสงจรัสฉายเจิดของพระอาทิตย์ส่องทอประกาย ภาพของชายหนุ่ม 2 คนที่กำลังออกวิ่ง คนหนึ่งเหน็ดเหนื่อย อีกคนบ้าพลัง ซึ่งพี่ สตีฟ โรเจอร์ส ไม่เพียงแต่โชว์ทักษะพลังเกินมนุษย์เท่านั้น ยังโชว์ในสิ่งที่หนุ่มๆหลายคนใฝ่ฝันปรารถนา กับรถสีดำคันซิ่งสุดหรู เชฟโรเล็ต คอร์เวตต์ สตริงเรย์ 2014 สวยแจ่มมากๆ เปิดตัวมาพร้อมกับสาวงามชุดดำ นาตาช่า โรมานอฟ เล่นเอาคุณ แซม วิลสัน ยิ้มเลยงานนี้

สิ่งที่ทำให้รู้สึกว่าเหนือไปกว่าแค่เป็นงานภาคต่อที่ขายหน้าตาหล่อๆของกัปตันก็คือ 'บทหนัง' ซึ่งน่าจะเป็นขั้นตอนที่ต้องรอบคอบสุดแล้วกับหนังระดับขวัญใจมหาชนแบบนี้ หนังทำได้เร้าใจดีกับฉากเปิดตัว วินเทอร์ โซลเยอร์ หรือ บัคกี้ บาร์นส อดีตเพื่อนซี้ของโรเจอรส์ซึ่งควรจะตายไปตั้งแต่สงคราม การคุกคามรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของ นิค ฟิวรี่ คือด่านแรกในการโชว์ความอหังการที่ออกมาดูเท่ห์เหลือล้น ไม่ว่าท่วงท่าลีลาในการต่อสู้ ชุด ทรงผม หรืออะไรก็แล้วแต่ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหลายคนถึงชอบตัวร้ายรายนี้นัก แถมบทยังฉลาดเล่น เข้าใจเชื่อมโยงกลับไปหาบางสิ่งในภาคแรกจนตัวร้ายที่แท้จริงอาจจะเป็นอุดมการณ์บางอย่างที่ไม่ได้ตายตกตามยุคไปง่ายๆ เบื้องหลังที่ซุกซ่อนช่างสั่นคลอนต่อหน่วยชิลด์เต็มๆ

อารมณ์สืบสวนแบบหนังสายลับถูกเข้ามาแทรกระหว่างฉากแอ็คชั่นมันส์ๆ ที่มีทั้งสู้กันด้วยมือเปล่า สู้ด้วยอาวุธ ใช้โล่รับการจู่โจมทุกรูปแบบ (มีประโยชน์มากๆอันนี้) และที่ขาดไม่ได้คือท่าไม้ตายเขวี้ยงโล่ จะได้รู้ไว้ว่ามันมีประโยชน์มากกว่าแค่การป้องกัน ใครที่คาดหวังอะไรแบบหลากหลายน่าจะถูกใจ ที่สำคัญตัวเท่ห์อีกคนอย่างวิลสัน อดีตจีไอ พอติดปีกเป็น เดอะ ฟัลค่อน วิหคเหินฟ้าแหงนหน้าสู่นภาเท่านั้นแหละ ก็เหมือนจะขโมยซีนกลับด้วยท่าทีแบบ 'ข้าออกทีหลังแต่เด่นกว่า' อดทึ่งไม่ได้กับปีกกลอันสวยงาม ที่มาพร้อมท่วงท่าการบินที่แสนลงตัว แม้จะมีบ่อยครั้งที่การเคลื่อนไหวมุมกล้องอย่างรวดเร็ว ตัดต่อฉับไว ทำให้เกิดปัญหาต่อสายตา มองไม่ทัน เก็บรายละเอียดไม่ครบอยู่บ้าง แต่เชื่อว่าเล็กน้อยมากถ้ามันเเลกมาด้วยความสนุกตื่นเต้น

พูดถึงเรื่องความจิ้นบ้างดีกว่า เสียงแตกออกเป็นสองฝั่งอย่างชัดเจน มีทั้งเชียร์ให้พระเอกจับคู่กับสาว แบล็ค วิโดว์ สายลับสาวสุดเซ็กซี่ มีทั้งเชียร์ให้คู่กับ เพ็กกี้ คาร์เตอร์ เฮ้ย ไม่ใช่สิ นั่นกลายคุณยายไปละ ฮ่าๆ ชาร์รอน คาร์เตอร์ เอเจนต์ 13 หลานสาวของคุณยายต่างหาก! ซึ่งหนังก็ช่างจิ้นต่อมคนดูเหลือเกิน ทั้งฉากจูบฉันซะเพื่อไม่ให้ตกเป็นเป้าสนใจ และฉาก อุ๊ย! เป็นเธอนี่เองสาวเพื่อนบ้าน ต่างก็สร้างเสียง 'อื้อหือ' ให้แก่เเฟนๆที่ชอบจับคู่ ซึ่งหนังก็ยังไม่ได้ฟันธง ปล่อยให้งงๆว่า เอ๊ะ ตกลงแล้วกัปตันจะได้กับใคร แต่ผู้เขียนแอบเชียร์นาตาช่าเป็นการส่วนตัวมากกว่า เพราะชอบประโยคที่เธอพูดว่า อย่าบอกนะว่านั่นเป็นจูบแรกของคุณตั้งแต่ยุคปี 1945 อ่ะจึ๊ย! เสียฟอร์มเเล้วไงพ่อกล้ามใหญ่ของเรา อิอิ

ถือเป็นนิมิตรหมายอันดี ในที่สุดแล้วเราก็ได้เห็นศูนย์บัญชาการใหญ่ของหน่วยชิลด์ซะที หลังรอดตายจากหายนะเรือลอยเคว้งกลางมหาสมุทร โรเบิร์ต เรดฟอร์ด วัย 77 ผันตัวมาเป็น อเล็กซานเดอร์ เพียร์ซ ท่านเลขาธิการผู้บงการอยู่ฉากหลังของหน่วยชิลด์ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เรื่องราวดูเป็นการเมืองขึ้น จริงจังในแบบสไตล์ของหนังยุคคลาสสิก ที่ไม่เบสิคเพราะสลับไปด้วยฉากแอ็คชั่นอันใหญ่โต ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. อาคารทริสเคเลี่ยน ที่มีสถาปัตยกรรมแสนโอ่อ่า ก็คือฉากหลังที่ว่านี้ มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และยังรายล้อมไปด้วยตัวประกอบที่เดินเข้าฉากมากมาย ซึ่งฉากคิวบู๊สู้กันในที่เเคบอย่างลิฟท์ถือว่าทำออกมาได้ดีทีเดียว

ที่ขาดไม่ได้สำหรับหนังมาร์เวลคือของแถมสองตัวหลังหนังจบ ตัวเเรกคือไฮไลท์เด็ดที่ทำออกมาทีไรก็ยั่วยวนให้แควนๆซี๊ดซ๊าดซู๊ดปากกันได้ตลอด กับการเปิดตัวแนะนำตัวละครสุดเด็ดเพื่อส่งไม้ไปยังภาคต่อของทีมกู้โลก ใน The Avengers: The Age of Ultron ใครที่ได้เห็นก็คงรู้สึกแปลกใจ ซึ่งหนังก็ไม่รอช้ารีบไขข้อข้องใจว่าโลกเรามันเปลี่ยนไปแล้ว อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ถ้ามีปาปริก้า ทำให้โทนหนังสุดจริงจังที่เพิ่งดูจบเปลี่ยนผันไปสู่ความแฟนตาซีอีกครั้งอย่างน่าติดตาม และตัวที่สองก็คือ shot สั้น ไพ่ใบสุดท้ายของคนที่ยังไม่ตาย ที่พร้อมจะกลับมาพบกับแฟนๆอีกครั้งใน Captain America ภาค 3 ซึ่งจะเป็นภาคจบเลยหรือเปล่านั้นต้องติดตามกันอีกที แต่ที่รู้ๆหนังฮีโร่เรื่องแรกของปีนี้ได้เปิดตัวอย่างอหังการสมชื่อ สมศักดิ์ศรีไปแล้วเรียบร้อย!

ระดับคะแนน "B+"

ยังมีหนังใหม่ๆให้อ่านอีกเพียบทุกสัปดาห์ ที่นี่ https://www.facebook.com/pages/The-.........101573433344532
แก้ไขล่าสุด 7 เม.ย. 57 16:23 | เลขไอพี : ไม่แสดง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | jackie | 4 เม.ย. 57 07:21 น.

shot สั้นๆตัวที่สอง เนี่ยไม่ทันดูแฮะ

ไอพี: ไม่แสดง

#2 | `เด็กเถื่อน;$ | 5 เม.ย. 57 18:08 น.

ภาคนี้เราชอบนะที่ทำให้โรมานอฟมีบทบาทมากขึ้น เพราะนางสวยขึ้นเรื่อยๆจริงๆ

ไอพี: ไม่แสดง

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google