8ข้อหลักในการดำรงชีวิตอย่างมีสุขภาพที่ดี

6 เม.ย. 57 12:01 น. / ดู 558 ครั้ง / 3 ความเห็น / 2 ชอบจัง / แชร์
8ข้อหลักในการดำรงชีวิตอย่างมีสุขภาพที่ดี

1. การดื่มน้ำ :: ในร่างกายของเรามีน้ำอยู่เพียง 50-75 % นั่นจึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ว่า ทำไมพอถึงช่วงกลางวันเราถึงรู้สึกเฉื่อยชา นั่นก็เพราะเราเริ่มจะตกอยู่ในสภาวะการขาดน้ำไงล่ะคะ และหากเรายังดื่มน้ำเข้าไปไม่พอกับความต้องการของร่างกายแล้วล่ะก็ การทำงานของระบบอวัยวะต่างๆในร่างกายก็จะเสียประสิทธิภาพหรือสูญเสียความสมดุลส่งผลให้เราเริ่มรู้สึกเหนื่อยล้า หรือแม้แต่กระบวนการสลายอาหารเพื่อเพิ่มพลังงาน(metabolism) ก็จะขาดประสิทธิภาพด้วยค่ะ เพราะฉะนั้นคงเห็นความสำคัญกันแล้วนะคะว่า ทำไมเราถึงต้องดื่มน้ำทุกๆวัน สำหรับประโยชน์ของการดื่มน้ำเพิ่มเติมนะคะ เช่น ช่วยให้เรารู้สึกกระชุ่มกระชวย สุขภาพดีขึ้น และรู้สึกว่ามันสดชื่นขึ้น ทีนี้หากเราต้องการจะ detox ตับ เราก็สามารถบีบมะนาว(lemon)ลงไปในน้ำได้ค่ะ โดยเขาแนะนำนะคะว่า ช่วงเช้าเนี่ยให้เราเริ่มดื่มน้ำเปล่าผสมกับมะนาว พอถึงช่วงพักกลางวันหรือช่วงบ่าย ก็หาพวกชาเขียว ชาขาว ชาดำ หรือน้ำสมุนไพรมาดื่มแทนค่ะ

2. ทานอาหารที่มีประโยชน์ :: การที่เราจะรู้สึกว่าร่างกายของเรามีพลังงานเต็มเปี่ยมได้นั้น เราก็ต้องเริ่มจากทานอาหารที่มีประโยชน์อุดมไปด้วยสารอาหารเพียบค่ะ โดยเราควรมีหลักคิดเกิดขึ้นภายในใจค่ะว่า เราควรจะกินบลูเบอรี่นะ ไม่ใช่ให้คิดว่า เราไม่ควรกินขนมหวานนะ (ซึ่งแน่นอนค่ะพอเราไปคิดว่า ไม่ควรกินขนมหวานนะ แต่อีกใจจะเกิดการแย้งขึ้นมาทันทีค่ะ ดังนั้นพยายามคิดไปในทางบวก แต่เปลี่ยนทางเลือกเป็นผลไม้แทนค่ะ) และเมื่อเราให้ความสนใจทางบวกไปกับอาหารที่เราควรทานหรืออาหารที่มีประโยชน์นี้นะคะ มันจะมีพลังจากจิตใต้สำนึกสั่งให้เราทานอาหารเหล่านี้ไปเรื่อยๆทุกๆวันค่ะ และสิ่งที่เราจะได้ตามมาจากการทานอาหารพวกนี้ก็คือ สุขภาพดี ผิวสวย และน้ำหนักลดยังไงละคะ


3. หันมาออกกำลังกาย :: คุณทราบไหมคะว่า การออกกำลังกายเนี่ยนอกจากจะช่วยในการเผาผลาญแคลอรี่ในร่างกายของเราแล้ว มันยังช่วยเพิ่มฮอร์โมนเอ็นโดฟิน (endorphins) ให้กับเราด้วยค่ะ ซึ่งประโยชน์ของเจ้าฮอร์โมนตัวนี้คือ ทำให้เรารู้สึกมีความสุข ทานอาหารได้ดีขึ้น ทำงานได้มากขึ้น(มีประสิทธิภาพมากขึ้น) และรู้สึกดีขึ้นค่ะ โดยเวลาในการออกกำลังกายที่ดีคือ 30นาที และพักมากกว่า 2 นาทีขึ้นไปค่ะ


4. การตามใจตัวเอง :: อันดับแรกที่เราควรทำในข้อนี้นะคะคือ การรักษาระดับอารมณ์และจิตใจของเราให้อยู่ในสภาวะสมดุลที่สุดค่ะ วิธีทำง่ายๆเลยก็คือ การตามใจตัวเอง ผ่อนคลายอารมณ์เราเองค่ะ อย่างเช่น การทาเล็บ การนวด หรือแม้แต่การเล่นฟองสบู่ในห้องน้ำก็สามารถช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้นได้ทีเดียวค่ะ


5. การมีเพศสัมพันธ์ หรือศึกษาพวกเรื่องเพศ :: คุณอาจจะสงสัยกันนะคะว่า หัวข้อนี้มันเชื่อมโยงระหว่างตัณหาราคะกับเรื่องของน้ำหนักได้ด้วยหรอ? แน่นอนค่ะว่า เรื่องนี้ต้องเป็นข่าวดีสำหรับพวกคุณแน่ๆค่ะ เพราะเขาบอกว่า ไม่เพียงแต่การลดน้ำหนักเท่านั้นที่จะช่วยเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ แต่การมีเพศสัมพันธ์ ยังช่วยให้เราลดน้ำหนักได้ด้วยนะคะ ซึ่งเขาได้แจกแจงมาเป็นข้อๆดังนี้ค่ะ 1. เขาบอกว่า Sexเนี่ยจะช่วยเผาผลาญแคลอรี่เราได้เป็นอย่างดีค่ะ 2.นักวิจัยพบว่า หลังถึงจุดสุดยอดของทั้งฝ่ายชายและหญิงแล้วจะมีการหลั่งฮอร์โมน oxytocin ออกมาค่ะ ซึ่งเกิดจากการเล้าโลม คลอเคลีย หรือแม้แต่การโอบกอด ซึ่งจะช่วยทำให้เรานอนหลับได้ดีขึ้น หรือเขาอาจจะเรียกว่า ฮอร์โมนแห่งความผูกพันค่ะ


6. การหลับลึก :: เขาบอกว่า การที่คุณพักผ่อนได้เต็มอิ่มหรือพักผ่อนจนหายเหนื่อยเป็นอย่างดีแล้วเนี่ย ประโยชน์หรือข้อดีของมันคือ คุณจะสามารถเลือกทานอาหารได้ดีขึ้น มีพลังงานไปออกกำลังกายมากขึ้น คุณอาจจะเริ่มเดินไปทำงาน หรืออาจจะใช้เวลาไปกับกิจกรรมโปรดของคุณได้มากขึ้น แต่ในทางกลับกัน หากคุณพักผ่อนไม่เต็มอิ่มแล้วล่ะก็ ระบบการป้องกันตัวเองของคุณจะเริ่มดรอปลงทันทีค่ะ(พลังงานหมด) และคุณก็จะเริ่มหันไปกินอาหารมากๆๆๆขึ้น และเลือกทานอาหารได้น้อยลง กินแต่อะไรที่มันซ้ำๆจำเจไร้ซึ่งประโยชน์ เขาจึงแนะนำสิ่งที่คุณควรจะทำค่ะ ก่อนอื่นคุณเคยได้ยินฮอร์โมน cortisol ไหมคะ? เขาบอกว่าการที่คุณนอนไม่เพียงพอจะส่งผลให้ระดับฮอร์โมนcortisolเพิ่มสูงขึ้น! หรือเขาเรียกฮอร์โมนนี้ว่า ฮอร์โมนแห่งการนอนไม่หลับนั่นเองค่ะ ดังนั้นสิ่งที่คุณควรทำคือ ละทิ้งทุกสิ่ง เลิกคิดทุกเรื่อง เอาทุกอย่างในหัวสมองของคุณออกไปก่อนที่จะเข้านอนค่ะ , ลองหรี่ไฟในห้องนอน และปิดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิดก่อนเข้านอนค่ะ


7. ลดความเครียด :: ระดับความเครียดจะแปรผันตรงกับระดับฮอร์โมนcortisolค่ะ นั่นหมายความว่า หากเรามีความเครียดที่มาก ฮอร์โมนcortisolก็จะเพิ่มสูงขึ้นมากเช่นกันค่ะ และผลกระทบที่ตามมาก็คือ ร่างกายเราจะต้องการคาร์โบไฮเดรตในปริมาณที่มากกก โดยเฉพาะน้ำตาลค่ะ และสุดท้ายแล้วเมื่อร่างกายมีน้ำตาลในปริมาณที่มากเกินไป ร่างกายเราจะนำน้ำตาลไปสร้างเป็นไขมันเก็บสะสมไว้ค่ะ ดังนั้นหากคุณไม่อยากจะอ้วน! หรือกินมากจนเกินไปแบบนี้ คุณก็ต้องรู้จักลดความเครียดของคุณลงบ้าง โดยพยายามปล่อยอารมณ์ ผ่อนคลายบ้างในแต่ละวัน อาจจะนั่งนิ่งๆสัก 5 นาที ลองฝึกหายใจลึกๆ หรืออาจจะเดินไปสูดอากาศดีๆข้างนอกบ้านก็ได้ค่ะ


8. ข้อสุดท้ายคือ … โลกของตัวคุณค่ะ :: ในที่นี้ก็คือ สภาพแวดล้อมรอบๆตัวคุณนั่นเองค่ะ เขาบอกว่าสภาพแวดล้อมรอบๆตัวคุณเนี่ยจะมีผลต่อสภาวะจิตใจและร่างกายของตัวคุณเองด้วยนะคะ  โดยมีมุมมองต่อสภาพแวดล้อมรอบๆตัวเราว่า เราเนี่ยไม่สามารถที่จะไปควบคุมมันได้ตลอดเวลา ก็เหมือนกันการจราจรนั่นแหละค่ะหรือแม้แต่การก่อสร้างบนท้องถนน ที่เราไม่สามารถจะสั่งให้รถห้ามติดนะ หรือห้ามก่อสร้างตึกนี้ตอนนี้นะ! คือเราทำไม่ได้หรอกค่ะ ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดที่เราควรทำคือ การหลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อมที่ไม่ดี หรือสร้างความแตกต่างในสถานการณ์ชีวิตประจำวันของคุณหรืออารมณ์ของคุณ เช่น จัดการความยุ่งเหยิง ความวุ่นวายในบ้านของคุณหรือแม้แต่ในออฟฟิส รวมไปถึงเรื่องเล็กๆอย่างการปิดทีวีหากคุณไม่ได้ตั้งใจจะดูค่ะ


Credit::nutritiouslife
แก้ไขล่าสุด 6 เม.ย. 57 12:01 | เลขไอพี : ไม่แสดง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | rainbow | 7 เม.ย. 57 09:08 น.

ขอบคุณมากค่าาาา

ไอพี: ไม่แสดง

#2 | แอร๊ะ | 7 เม.ย. 57 13:34 น.

กระทู้ที่ดีมากๆ ขอบคุณนะคะ

ไอพี: ไม่แสดง

#3 | 3vLDe1c | 7 เม.ย. 57 19:06 น.

ขอบคุณค่ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ไอพี: ไม่แสดง

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google