T a l k i n g : : มาพูดคุยเรื่องผิวกันดีกว่า

16 เม.ย. 57 12:22 น. / ดู 2,226 ครั้ง / 19 ความเห็น / 10 ชอบจัง / แชร์
เอาล่ะ...ก่อนอื่นเหลือบไปมองล็อกอิน คุ้นมะว่านังนี่เจ้าประจำการรีวิวสกินแคร์ ทำไมวันนี้หล่อนถึงมาขึ้นหัวกระทู้ด้วยข้อความแปลกประหลาดแบบนี้ล่ะยะ !!
แหม่ะ หล่อนๆจ๋า ใจคอจะให้หนูจ่ายเงินซื้อแต่สกินแคร์มารีวิวพวกหล่อนอย่างเดียวเหรอ ชั้นก็ต้องจ่ายต้องใช้เงินนะคะ ไหนจะค่าผ่อนไอโฟน3จีเอสที่ตกเดือนละ150.-ที่ยังผ่อนไม่หมด ค่าลูกบิดประตูหน้าบ้าน ค่านมบุตรหลาน ค่าเลี้ยงดูเด็กหนุ่มมัธยมปลายวัย18ปีอีก โอ๊ย ภาระเยอะค่ะ สกินคงสกินแคร์ไม่มีเงินซื้อมาละยุคนี้ แอร๊ย!!

ถึงหน้าไม่ใช่ใหม่ ดาวิกา แต่ก็ไม่กล้าบอกว่ามีส่วนคล้ายเกือบทั้งหมด ยกเว้นอยู่อย่างเดียว ... ความสวย

เหลือบไปดูชื่อหัวข้อ ก็พอจะดาออกใช่มั้ยว่าชะนีไทยคลั่งแค่ไหนกับเรื่องผิว ยอมลงทุนทุกบาททุกสตางค์ให้ผิวดี อีที่งบน้อยก็เจียดมาซื้อแมสมาร์เก็ตราคาเบาๆ อีที่ทุนหนาก็ประโคมแบรนด์เนมราคาเท่าเกาะฮาวายกันไป แต่ถามหน่อยเถอะว่าจะมีซักกี่คนที่ไปยืนอ่านยืนวิเคราะห์ส่วนผสมตอนซื้อ ส่วนใหญ่ซื้อเพราะ อะไร
- เพื่อนใช้แล้วดีค่ะ เลยซื้อตาม สมงสมองไม่คิดค่ะเพื่อนบอกอะไรแม่มดิฉันจัดหมดค่ะ
-บล็อกเกอร์บอกค่ะ หน้าตาเขาดูมีสมองเยอะค่ะ เลยซื้อ (ซึ่งหล่อนลืมคิดถึงเรื่องการตลาดไปไหมคะข้อนี้)
- แบรนด์นี้ดังค่ะ ราคาแพงค่ะ บ้านรวยซื้อหวยก็ถูกทุกงวดค่ะ จัดมาได้ไม่แคร์ความลำบากลำบนของบุพการีค่ะ
เห็นมั้ยเอเวอรี่บอดี้ ว่าส่วนใหญ่เหตุผลหลักๆมันก็วนเวียนอยู่กับแต่เรื่องแค่นี้ การหาซื้ออะไรสมัยนี้จึงเป็นอะไรที่ง่ายดายและแทบไม่ต้องคิดมากอะไร แต่ความจริงการเลือกซื้อสกินแคร์เราควรคำนึงถึงปัจจัยหลายๆอย่างประกอบกันด้วยนะ เช้น
- อย่างน้อยเราควรมีความรู้เรื่องส่วนผสมที่ใส่ลงไปในผลิตภัณฑ์
- อ่านรีวิวอย่างละเอียดรอบคอบ ใช้วิจารณญาณมากๆ อย่าลืมคล้องแขนคำว่า 'มาร์เก็ตติ้ง' กับ 'หน้าม้า' ให้มาเดินเล่นในสมองทุกครั้งที่อ่าน
แล้วอะไร...วันนี้จะอะไร ก้วันนี้จะมาพูดถึงเรื่องผิว การดูแลตัวเองไงล่ะคะหล่อนๆ ว่าจริงๆแล้ว ณ ปัจจุบันนี้พวกหล่อนตกเป็นเหยื่อการตลาดและปฏิบัติวิถีชีวิตถูกต้องมากน้อยแค่ไหนกับเรื่องของการประทินโฉม



1. กันแดด : ให้ตายเถอะ นี่ต้องบอกซ้ำอีกกี่รอบกันนักกันหนาว่ากันแดด SPF สูงๆการปกป้องมันไม่ได้ผันแปรไปตามนั้น จริงๆซัก60นี่ก็ถือเป็นแม็กซิมัมสุดๆแล้วนะ อีที่100กว่าๆนั่นก็คือการตลาดหรือไม่ก็ใช้หลักการทดลองแบบเบี่ยงเบนเพื่อให้ผลออกมาในลักษณะที่มีค่าสูง สังเกตได้จากอ.ย.ไทยงดให้ค่าSPFเกิน50 หากเกินก็ต้องใช้คำว่า 50+ และมาถึงตอนนี้บางนางก็ยังคิดว่าทากันแดดตอนเช้าครั้งเดียวชีวิตติดสต็อปไม่ต้องทาเลยตลอดวัน จะบอกว่า...นังบ้า! ถ้าหล่อนไปพลีกายอยู่กลางแดดนานๆและรู้ตัวว่าครบ2ชั่วโมงกันแดดต่อให้ประสิทธิภาพดี เสถียรและสตรองสุดๆให้ตายยังไงเจอแดดจัดนานขนาดนั้นมันเสื่อมทุกรายค่ะ ฉะนั้นพึงรำลึกไว้เสมอว่า หากตากแดดจัดๆเกิน2ชั่วโมง ให้ทาซ้ำทันที อย่าลืมเด็ดขาด นะ !~!
อ้อ...และข้อสำคัญที่หลายคนถามว่ากันแดดอันนี้ดีไหม เสถียรไหม อันนี้หนูตอบได้ยากจริงๆเพราะไม่เชี่ยวชาญตรงนี้ (เซเลบแต่ละคนจะมีความเก่งต่างกัน ซึ่งเซเลบแบบหนูไม่ถนัดเรื่องแดด *เซเลบ?*) แต่เอาเป็นว่ากันแดดของ L'oreal กับ Neutrogena เสถียรและสบายใจได้ ส่วนSoltanของบู๊ทส์สตรองมากๆในการกันแดดแต่แย่ตรงเหนียวเหนอะหนะ Banana Boat กับ Cancer Council มาจากประเทศโลกที่1ดังนั้นประสิทธิภาพหายห่วง ส่วนอื่นๆที่เหลือก็สามารถไปหาดูรีวิวเรื่องสารกันแดดหรือผลิตภัณฑ์กันเอาเอง แต่แอบกระซิบให้นิดนึงว่า Biore UV Aqua Rich นั้นแย่และห่วยมากโดยเฉพาะตัว Essence ความเสถียรไม่มีแอลกอฮอล์ก็ไม่ฟรีไปวันๆ ฉะนั้นจงเลืกซื้อซะ กันแดดแย่แล้วยังแอลกอฮอล์สูงมันใช่เรื่องไหมที่จะเอามาทาหน้าในระยะยาว? (หนูก็หลงซื้อค่ะ เจ็บใจมาก) และบอกอีกข้อที่สำคัญคือกันแดดแบบครีม แบบฟลูอิด โลชั่น น้ำนมหรืออะไรก็ตามแต่ประสิทธิภาพเท่ากัน ทุกอย่างขึ้นกับความชอบของผู้ใช้ล้วนๆ เนอะ!! 
อ้อฝากอีกนิดถึงการทากันแดดที่ถูก สำหรับใบหน้าก็2ข้อนิ้วมือต่อครั้ง ส่วนแขนขาก็บวกลบกันเอาเองเพราะหนูโง่คณิตขั้นบรม ส่วนการทาร่างกายโปรดอย่าลืมคอ ท้ายทอย ใบหู และหน้าผากนะจ๊ะ โดยเฉพาะการเริงร่าท้าทะเล โบกมันเข้าไปบนใบหน้าตรงที่เป็นจุดรับแสงแดดเต็มๆ(ส่วนที่ยื่นออกมาจากใบหน้า) เช่น หน้าผาก(เถิกมากยิ่งต้องลงมาก) โหนกแก้ม สันจมูก และคาง เน้นจุดนี้เป็นพิเศษเพราะพวกนางสามารถกระจายแสงแดดให้ส่วนอื่นบนใบหน้าได้ หากอยากป้องกันพวกนางส่งต่อความดำความแก่ก็จงดูแลพวกนางดีๆด้วยซันสกรีนที่เสถียรและทาซ้ำทุก2ชั่วโมงเมื่อเผชิญแดดจัด



2. การล้างหน้า : จริงๆขั้นตอนนี้สำคัญมาก แต่คนส่วนใหญ่ชอบละเลยไม่รู้ทำไม อีจำพวกแต่งหน้านอนแบบละครไทยหรือไม่ล้างเมคอัพละโดดขึ้นเตียงบอกเลยว่า What!!? จงอย่าทำ ท่อง10รอบเดียวนี้... การล้างหน้าให้สะอาดพูดว่ายากก็ยาก จะว่าง่ายก็พูดได้ ที่บอกยากคือเคล็นซิ่งดีที่สะอาดหมดจดมันหาง่ายที่ไหนล่ะ หรือมีก็ราคาสูงไป แต่ที่แนะนำได้คือ Bifesta กับ Bioderma อันแรกจะถูกหน่อยแต่อันสองแพงบรรลัย(ร้านหิ้วก็ยังแพง) ทว่าปริมาณก็คุ้มค่าซะจนครึ่งปียังไม่หมด ใครทากันแดดจงใช้ซะพวกเคล็นซิ่งทั้งหลาย จะเป็นแบบออยล์ มิลค์ หรือวอเตอร์ก็เลือกเอาตามสะดวกแต่ใครที่ชอบใช้แบบเคล็นซิ่ง วอเตอร์อาจเปลืองสำลีหน่อยนึงเท่านั้นเองเพราะตอนนี้มันหมดยุคกันแดดถูกล้างด้วยเหงื่อแล้ว ซันสกรีนสมัยนี้ทนน้ำทนเหงื่อสุดๆชนิดควายถึกยังยอมแพ้  และทุกวันนี้ยังมีหล่อนคนไหนใช้สบู่ล้างหน้าและล้างด้วยผลิตภัณฑ์ที่ล้างแล้วเอี๊ยดอ๊าดเหมือนถูด้วยซันไลต์มั่ง จะบอกว่า What!? เลิกใช้เดี๋ยวนี้นะ ผิวหน้าหล่อนจะแก่เร็วและเสียสมดุลรู้ไหม เพราะสบู่เป็นด่างละผิวหน้าเราเป็นกรดอ่อนๆ พอมาบ๊ะกันแล้วยังไงล่ะ สมดุลเสียไงทีนี้ หรือจะตัวล้างหน้าที่สะอาดตึงๆเอี๊ยดๆนั่นก็ตัวดี เพราะพอผิวแห้งไปหรือเสียสมดุลนางก็จะเริ่มผลิตน้ำมันออกมาเคลือบทำให้ผิวมันไม่มีที่สิ้นสุด เผลอๆทาครีม(ครีมมีค่าพีเอชเป็นกรดอ่อนๆ)อาจทำให้ค่าพีเอชไม่สมดุลจนครีมใช้ไปแล้วไม่เห็นผลอีกต่างหาก ร้ายแรงกว่าที่คิดเลยนะ ฉะนั้นจงเลือกเคล็นเซอร์ที่เป็นเคล็นซิ่ง เจลเพราะเจลจะไม่ชำระล้างน้ำหล่อเลี้ยงผิวออกไป และยังคงความชุ่มชื้นตามธรรมชาติไว้ ที่แนะนำได้ตอนนี้ก็คือ นูโทรจีน่าแบมบู ตัวนี้ล้างล้ำลึก สะอาดและให้ความชุ่มชื้นดีมาก ไรฟา15ของหมอมวลชน ตัวนี้ถูกและดี หนูเคยรีวิวไปแล้ว กับสมูทอีเจล ตัวนี้ก็ดี หรือวิชชี่ นอร์มาเดิร์ม ตัวนี้ก็เห็นหลายคนบอกเลิศอยู่


3. สภาพผิืว : บางคนถาม พี่คะสภาพผิวของอิชั้นเป็นยังไงอ่าคะ บอกเลยว่า What!? สภาพผิวตัวเองยังไม่รู้แล้วหนูจะจับยามสามตารู้ได้ไงคะคู้ณ สภาพผิวทุกวันนี้ก็แบ่งออกเป็นผิวธรรมดา ผิวผสม แห้ง มัน อะไรทำนองนี้อ่ะเนอะ พูดถึงผิวธรรมดาก่อนเลยละกันว่าหล่อนนั้นโชคดีมาก อยากใช้ไรก็ใช้ๆไปเหอะ ไม่แนะนำอะไรทั้งสิ้น อิจฉา !!! *แต่คนผิวรรมดานั้นหายาก แทบไม่มี* ส่วนผิวแห้งนั้นบอกเลยว่าหนูอยากสัมผัสความรู้สึกนี้มาก คนผิวแห้งควรหลีกเลี่ยงสกินแคร์ที่ดูดซับน้ำมันส่วนเกินนะหล่อน ผิวหน้าแทบจะไม่มันละยังไปซื้อสารดูดซับมีแต่ตายกับตายจ่ะ คนผิวแห้งเหมาะกับฮาดะ ลาโบะ เติมมันเข้าไปสิน้ำน่ะ ให้มันชุ่มชื้นเข้าไำว้ ส่วนประเภทสกินแคร์ควรเลือกครีมบำรุงเพราะมันมีออยล์เฟส(น้ำมัน)ผสมอยู่ด้วย น้ำมันจะทำหน้าที่เคลือบผิวไว้และกักเก็บความชุ่มชื้นไว้กับผิวหรือลองแบบอีมัลชั่นก็ได้ เก๋ๆดี ต่อมาเป็นผิวผสม ตัวนี้ค่อนข้างยากนะแต่การใช้ก็คือการเบลนด์สกินแคร์ของผิวแห้งกับมันเข้าด้วยกัน เช่น ทามอยเจอร์ไรเซอร์ในส่วนที่แห้ง โปะสารดูดซับความมันในส่วนที่มัน(ส่วนใหญ่จะเป็นทีโซน) และผิวสุดท้ายคือผิวแบบหนูเอง ผิวมัน แอร๊ย คนผิวมันนี่หน้าตาดีทุกคนอ่ะบอกเลย ผิวมันงดใช้ครีมนะหนูเพราะครีมนางจะข้นมากและมีส่วนผสมของน้ำมันเยอะมาก แต่หากอยากใช้จริงๆควรเลือกแบบโลชั่นเพราะเฟสน้ำจะเยอะกว่าเฟสน้ำมัน แต่ทางที่ดีควรใช้เอสเส้นส์ เซรั่ม หรือเจลบำรุงผิวไปเลยจะดีที่สุด ผิวมันควรทาโลชั่นเติมน้ำให้ผิวด้วยเช่นส่วนผสมที่มี Sodium Hyaluronate เพราะนางจะไปเติมน้ำให้ผิวรวมถึงสามารถทาน้ำมันพวก Essencial Oilก็ำได้เพราะทั้ง2อย่างนี้นางจะหลอกผิวเราได้โดยประการแรก -นังเติมน้ำให้ผิวจะหลอกผิวเราว่า นี่หล่อน ผิวหล่อนชุ่มชื้นเพราะฉันมามากพอละนะ งดผลิตน้ำมันด่วนๆ- แต่หากน้ำมันในผิวไม่เชื่อก็จะส่งสปายออกมาสอดแนมดูบนผิวว่าจริงไหม และหากเราทาน้ำมันลงไปนางน้ำมันจะเคลือบผิวไว้ ก็จะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น -สปายก็จะกลับมาบอกนังต่อมผลิตน้ำมันในผิวว่า นี่หล่อนบนผิวน่ะน้ำมันเพียบละนะ งดผลิต ชั้นไปส่องมาตะกี้เอง- น้ำมันในผิวก็จะสบายใจงดทำงานโดยนอนกินส้มแมนดารินเก๋ๆบนโซฟาเบด -->(อันนี้คนผิวแห้งก็อ่านได้)แต่น้ำมันที่ใช้ก็ไม่ใช่น้ำมันหมู หรือพวกกุ๊ก หยก แวว อะไรพวกนี้นะคะ หรือจะเป็นMineral Oil พวกจอห์นสันอะไรแบบนี้เสี่ยงอุดตัตายพอดี หนักหน้าด้วยอีกต่างหาก น้ำมันสังเคราะห์บอกเลยว่าหนูยี้มากๆ อย่างที่บอกไปว่าให้ใช้ Essencial Oil ที่อุดตันน้อย ซึมลงผิวง่าย มีสารบำรุงเด็ดๆอีกต่างหาก เช่นน้ำมันมะพร้าว หรือผิวแห้งก็เหมาะกับเชียร์บัตเตอร์เพราะนางเข้มข้นและเปี่ยมไปด้วยคุณภาพมาก แต่ถ้าไม่อยากให้บอกว่าทาน้ำมันมะพร้าวลงบนผิวแล้วเวลาไปงานทอดผ้าป่าคนจะมองว่าโลวคลาสก็หยิบโรสฮิปออยล์มาทาก็ได้(อันนี้นางแบบวิคตอเรีย'ส ซีเคร็ตใช้กันให้รึ่ม) หรือพวกน้ำมันมะกอกสวยๆอะไรแบบนี้(เหมาะกับคนผิวแห้งน่ะ คนผิวมันบอกเลยว่าหนักหน้า) โอ๊ยมีอีกสารพัดที่บรรยายวันนี้ไม่หมด ที่หนูสนใจและรู้สึกว่ามันเลิศก็มี น้ำมันเมล็ดองุ่น น้ำมันโจโจ้บา น้ำมันอาร์แกน น้ำมันแอปริคอต น้ำมันสวีต อัลมอนด์ น้ำมัแมคคาเดเมีย น้ำมันอโวคาโด หรือน้ำมันดอกคำฝอย บลาๆ เพราะน้ำมันจากธรรมชาติอย่างที่บอกไปว่าซึมง่าย ไม่อุดตันแถมยังมีสารบำรุงอีกเพียบที่หาไม่ได้จากในน้ำมันสังเคราะห์


4. เนื้อผลิตภัณฑ์ :: บางคนเกาหัวขยิกๆ ว่าความต่างของSerum Gel Essence Emulsion Cream Lotion มันต่างกันยังไงคะ แล้วมันเหมาะกับคนแบบไหน แต่ละอย่างมันได้กำไรกี่บาทถ้ารับมาขายต่อ? อันหลังไม่ทราบค่ะ ทราบแต่อันแรกๆ ก่อนอื่นหนูจะขออธิบายตามความเข้าใจของตัวเองนะคะ ถ้าผิดก็ช่างมัน ไม่รับผิดชอบค่ะ What!?
-Serum คำว่าเซรั่ม มันก็คืออันเดียวกับคำว่าเซรุ่มที่เป็นพิษงูนั่นแหละ ตัวนี้จะเป็นอะไรที่เนื้อเบาๆ แต่เืนื้อก็จะแอบข้นไม่เหลวเป็นน้ำเช่นกัน เพราะส่วนผสมคือน้ำ+ซิลิโคน ซึ่งซิลิโคนหากใช้เกรดดีหน่อยก็จะระเหยทันทีที่ทาลงบนผิวไม่อุดตัน แต่หากเกรดแย่เช่นซื้อที่แม่สายหรือสำเพ็งก็อุดตันแน่นอน เซรั่มจะมีความConcentrateกับผิวมากพอสมควร หากผลิตภัณฑ์นั้นในไลน์มีเซรั่มให้หยิบเซรั่มมาลองเป็นตัวแรกเพราะคำว่า 'เซรั่ม' ในเชิงสกินแคร์คือการสื่อให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์ตัวนั้นมีความ 'เข้มข้น' มากที่สุดในไลน์(เล่นคุกกี้รันกันป้ะ)
-Gel บางคนเรียกเจลว่าเซรั่มหรือเอสเส้นส์เพราะเนื้อมันจะหนืดกว่าน้ำแต่ก็ไม่ได้ข้นแบบโลชั่นหรือครีม เจลก็คือน้ำ+สารเพิ่มความหนืด ใครที่แอนตี้พวกซิลิโคนก็สามารถเลือกเจลแทนได้เพราะโอกาสอุดตันนั้นไม่มี ส่วนใหญ่เจลจะถูกเรียกแทนเซรั่มหรือเอสเส้นส์อยู่แล้ว (นั่นหมายความว่าความเข้มข้นของสารแอคทีฟอยู่ในระดับที่เข้มข้นมากพอสมควร) เพราะคำว่าเจลมันขายยากไง ฟังดูไม่สวยด้วย
- Essence หากสังเกตดีๆจะพอมองออกว่าหากในไลน์สกินแคร์มีเอสเส้นส์จะไม่มีเซรั่ม เพราะ2ตัวนี้มันแทบจะกลืนเป็นอันเดียวกันเลยด้วยซ้ำ ต่างกันแค่เื้นื้อผลิตภัณฑ์ เพราะเอสเส้นส์จะเน้นความเหลว เหลวแบบSKII ในตัวดังที่ชื่อ FTE (ย่อมาจาก Facial Treatment Essence) แบบนั้นเลย เอสเส้นส์ในเชิงสกินแคร์คือการสื่อให้เห็ว่า เฮ้ยแก ชั้นเนื้อบางเบาที่สุดในรุ่นอ้ะ และชั้นยังเข้มข้นที่สุดในรุ่นด้วย อีครีมหรืออีมัลชั่นที่วางข้างๆนี่เข้มข้นแค่ 0.0025เอ๊ง ส่วนชั้นเข้มข้นตั้ง 0.0026แน่ะ อะไรทำนองนี้
-Emulsion ตัวนี้เหมือนจะเป็นศัพท์ใหม่แต่มันก็คือการเล่นคำในเชิงการตลาดให้ดูมีึลูกเล่นและน่าซื้อเท่านั้นเอง อีมัลชั่นจะเจอบ่อยๆในสกินแคร์เกาจี๋ อีมัลชั่นคือระ(สก๊อยดีอ่ะ) มันคือโลชั่นที่เหลวกว่าโลชั่น ใช้อีมัลสิฟายเออร์ในการประสานน้ำเข้ากับน้ำมัน แต่ใช้เฟสน้ำเยอะกว่าทำให้เหลวจนสามารถบรรจุในขวดแบบเดียวกับเอสเส้นส์ เหลวจนสามารถเทลงฝ่ามือได้ง่ายๆเลย ลักษณะเนื้อก็คือจะข้นๆแต่มีความเหลวพอๆกับเซรั่มที่เนื้อบางเบา อิมัลชั่นทำหน้าที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว มีสารบำรุงมาให้(แต่ถ้าเทียบกับเซรั่มหรือเอสเส้นส์ก็จะไม่เข้มข้นเท่า) กักเก็บความชุ่มชื้นไว้เพราะมีเฟสน้ำมันประกอบด้วยจึงเคลือบผิวชั้นนอกไว้ไม่ให้น้ำในผิวระเหยออก
-Lotion เอ่อ...มันก็คืออีมัลชั่นที่เนื้อข้นกว่าเท่านั้นแหละ เท่านั้นเองจริงๆ ตัวนี้เหมาะกับผิวมันเพราะน้ำมันประกอบไว้ในส่วนผสมไม่เยอะ แต่ผิวแห้ง ผิวธรรมดา ผิวผสมก็ใช้ได้ เพียงแต่ความชุ่มชื้นที่ได้อาจไม่เพียงพอสำหรับคนผิวแห้งบางคน *คำว่าโลชั่นบางทีคือการสื่อถึงเนื้อที่เหลว (เหลวกว่าครีม) แต่อาจไม่มีน้ำมันเป็นส่วนประกอบ เช่น โลชั่นน้ำตบของฮาดะ ลาโบะ*
- Cream เนื้อข้นที่สุด มีน้ำมันผสมอยู่ด้วยเยอะที่สุด เหมาะกับคนผิวแห้งที่สุด คนสภาพผิวอื่นๆอาจหนักหน้าได้ ส่วนใหญ่บรรจุในกระปุกซึ่งแย่มาก เพราะเชื้อโรคทั้งจากในอากาศและจากมือเราจะสามารถไปทำลายความแอคทีฟของผลิตภัณฑ์ได้ โชคดีที่ผิวหนูไม่แห้งเลยไม่ต้องพึ่งครีม



5. ความเข้มข้นของสาร :: เห็นครีมเน็ตเยอะมากบอกส่วนผสมเช่น Alpha Arbutin , Collagen , Aloe Barbadenis Leaf Juice จบ นังบ้า!! หล่อนไม่มีน้ำเป็นตัวทำละลายเลยเหรอคะ ปวดหัวมากค่ะ... จริงๆแล้วการเรียงลำดับสารเป็นอะไรที่สำคัญมากนะเพราะผู้บริโภคมีสิทธิ์ที่จะรับข้อมูลจากส่วนผสมได้โดยการอ่านฉลากนี่แหละ ซึ่งหลักการเรียงที่ถูกต้องแบบสากลคือเรียงส่วนผสมที่เข้มข้นที่สูงสุดไปหาส่วนผสมที่เข้มข้นต่ำที่สุด บางที่บอก Aloe vera Collagen Hya บลาๆ คือจะบอกเลยว่ามั่วและผิดมาก ทุกชื่อต้องระบุโดยใช้ชื่อสากลหรือINCI Name การอ่านส่วนผสมเป็นจะทำให้เราได้เปรียบมากเพราะเราสามารถประเมินได้เลยว่านางใส่อะไรลงไปมั่ง เข้มข้นเท่าไหร่(ดูได้จากการเรียงลำดับสาร) สารแอคทีฟที่ใส่มาเข้มข้นพอจะคาดหวังได้ไหม มีสารระคายเคืองหรือเปล่า ยังใช้สารกันเสียแบบพาราเบนทีเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งไหม มีน้ำหอมหรือแอลกอฮอล์เยอะหรือเปล่า **Alcoholลำดับต้นๆพบได้ในกันแดดบิโอเร** หรือรู้แม้กระทั่งว่าชั้นแพ้ส่วนผสมนี้นะ ละนางใส่มาในผลิตภัณฑ์หรือเปล่า ถ้าเจอก็ บ๊าย!!


6. สาร Whitening :: นี่คือถามจริงว่าทุกวันนี้มีใครไม่ชอบไวเทนนิ่งบ้าง บอกเลยว่าไม่มี ชะนีไทยคลั่งขาวยิ่งกว่าคิมวูบินอีกค่ะ สารไวเทนนิ่งทุกวันนี้มีออกมาเป็นตับ โดยเฉพาะแบรนด์เน็ตที่มโนขึ้นมาเองว่านู่นนี่นั่นทว่าเบื้องหลังกลับใช้ปรอท ดีออก!! สารไวเทนนิ่งในปัจจุบันที่นิยมและแพร่หลายคือ Niacinamide หรือบีสามนั่นแหละ โอเลย์ใช้ทุกรุ่นยัน Sk-II Cellumination ขวดละเกือบหมื่นก็ยังขอร่วมหอลงโรงกับนางเลย ข้อดีคือนางปลอดภัย ข้อเสียคือเห็นผลช้า ในบางคนอาจไม่ชัดเจนเท่าที่ควร หรือจะอีกสารพัดสารเพที่พบเจอในปัจจุบันนี้ ทั้ง Alpha Arbutin ที่เห็นผสมกันในCutepress ตัวดังนั่นแหละ ข้อดีคือประสิทธิภาพนางสูงมาก ข้อเสียคือราคาแพงถ้าใส่ในปริมาณน้อยก็ไม่เห็นผลอีก, Azelaic Acid ตัวนี้ได้ผลดีมาก ค่อนข้างไวด้วย แต่ค่อนข้างระคายเคืองและโดนแดดไม่ได้หน้าจะคล้ำๆลงหากใช้ตอนเช้า, Vitamin C ตัวนี้เป็นสารไวเทนนิ่งที่ดีมาก เห็นผลชัดเจนแต่ข้อจำกัดคือการทำให้เสถียรนั้นยุ่งยากราคาเลยค่อนข้างสูง, Glucosamine (N-acetyl-D) ตัวนี้เป็นอีกตัวที่ปลอดภัยมากๆ ส่วนใหญ่ใช้คู่กับบีสามเพื่อเร่งประสิทธิภาพ (ตามผลการวิจัยของ P&G) ข้อด้อยคือประสิทธิภาพต่ำกว่าไวเทนนิ่งอื่นๆ หรืออีกมากมายหลายหลากที่ผลิตชึ้นมาในทุกวันนี้ แต่ทุกนางต้องระลึกไว้นะคะว่าสารไวเทนนิ่งไม่ได้เห็นผลกับทุกคน บางคนใช้แล้วใส บางคนขาวผ่อง บางคนไม่เห็นผล แต่ต้องอย่าลืมว่าคนเราจะขาวได้มากสุดเท่ากับส่วนที่ขาวที่สุดในร่างกายนะจ๊ะ 


7. การทากันแดดซ้ำ :: หนูผู้ซึ่งไม่ใช่ชะนีบอกเลยว่าทากันแดดสเต็ปเดียวจบค่ะ ฉะนั้นใครที่ไม่ได้แต่งหน้าหรือทาแป้งฝุ่นเบาๆก็สามารถทาซ้ำระหว่างวันได้เลย ส่วนเรื่องอุดตันอันนี้หากเราล้างหน้าอย่างสะอาดเพียงพอ ใช้เคล็นเซอร์ล้าง(หรือเช็ด)เมคอัพให้หมดจดก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร(เช็ดซ้ำด้วยโทนเนอร์อีกรอบหลังล้างหน้าหากไม่มั่นใจว่าสะอาด) ส่วนใครที่ใช้ตั้งแต่บีบีเพียงอย่างเดียวยันจัดเต็มชนิดแต่งอยู่บ้านแต่องค์การนาซ่าก็มองเห็นอันนี้อาจลำบากหน่อยนึงในการทากันแดดซ้ำ ทริคง่ายๆที่แนะนำคือเหยาะลงฝ่ามือแล้้วถูครีมกันแดดให้ทั่วจากนั้นค่อยๆประคบหรือกดลงบนผิวหน้าอย่างเบามือ อย่าปาดหรือเกลี่ยเพราะบางครั้งอาจ Ball-up จนเกิดเป็นขุยได้(พวกแป้ง รองพื้น ชิมเมอร์ ไพรเมอร์ บีบี ซีซี **โอโอ เคเค วายวาย พีพี**หรือคอนซีลเลอร์ทั้งหลาย) หรือกันแดดอีกชนิดที่เหมาะคือแบบเนื้อฟลูอิด เนื้อน้ำนม เพราะสามารถซึมและแห้งยึดติดกับผิวได้อย่างง่ายนั่นเอง
แต่ถ้าไม่ได้ตากแดดจัดจ้านชนิดที่ว่าอยู่กลางแจ้งตั้งแต่8โมงเช้ายัน6โมงเย็น เป็นสาวใสๆที่นั่งเพียงให้ห้องแอร์หรือฝ่าแดดฝ่าลมน้อยมากในระหว่างวัน ก็หากันแดดสุดเสถียรซักตัว ทาครั้งเดียวตอนก่อนออกจากบ้านก็เพียงพอละโนะ *แต่ก็แนะนำให้พกกันแดดติดตัวกันไว้ก่อน พกไำปแล้วไม่ใช้ยังดีกว่าจะหยิบใช้แล้วมันไม่มี เพราะของอย่างนี้ยืมกันไม่ได้ นอกจากจะแพง+เสียดายแล้วยังอาจไม่เหมาะกับผิวหน้าเราด้วยอีกต่างหาก



8. เหงื่อกับหน้ามัน :: ก่อนอื่นหนูต้องเรียนให้ทราบก่อนข่าว่าเหงื่อกับความมันบนใบหน้ามันมาจากคนละต่อมกันเลยเนอะ เหงื่อมาจากต่อมเหงื่อส่วนความมันมาจากต่อมไขมัน การที่เป็นคนขี้ร้อนและเหงื่อออกเยอะหรือง่ายนั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกสภาพผิว ใครที่จะลงสกินแคร์หรือทากันแดดซ้ำระหว่างวันควรหลีกเลี่ยงการมีเหงื่อบนใบหน้านะ เพราะมันเค็ม เอ๊ะไม่ใช่สิ เพราะเหงื่อค่อนข้างสกปรกหากทาอะไรลงไปทับสิวสามารถบุกท่านได้ ฉะนั้นไม่ต้องถึงขั้นล้างหน้าหรอกหากไม่สะดวก แค่หาผ้าสะอาดๆซับทิ้งระหว่างวันก็เพียงพอแล้ว




**ใครมีข้อสงสัยหรืออยากรู้อะไรเพิ่มเติม ทิ้งคำถามไว้ได้นะข่า หนูคิดเรื่องคุยไม่ค่อยออกแล้วอ่ะ ถ้าตอบได้จะเพิ่มเป็นข้ออื่นๆต่อไปเรื่อยๆละกัน เข้ามาอัพเดตกันได้น้า 
แก้ไขล่าสุด 16 เม.ย. 57 20:15 | เลขไอพี : ไม่แสดง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | ทาสแมวมุ้งมิ้งมุมิ | 16 เม.ย. 57 12:43 น.

ใช่ๆ ครีมบางตัว ส่วนผสมบอกแค่ว่า gluta vitaminc vitamine zinc aqua นู่นนี่นั่น
ซึ่งส่วนผสมมันไม่ชัดเจน บางทีก็ใส่มาซะเยอะเว่ออ ยังกะยำรวมมิตร
ดูดีๆก่อนใช้ครีมนะคะสาวๆ

ไอพี: ไม่แสดง

#2 | เด็กOdin | 16 เม.ย. 57 12:53 น.

กรี๊ดดดดดดดดด ขอบคุณข่าาาาา

ไอพี: ไม่แสดง

#3 | littlePoint | 16 เม.ย. 57 13:11 น.

ชอบมากข่าาาาา (วบพส) 

ไอพี: ไม่แสดง

#4 | `.uniQue* | 16 เม.ย. 57 14:24 น.

สาระล้วนๆ อ่านสนุกมากกกกกกกกกส์ ขอบคุณข่า รอกระทู่้อื่นๆนะจขกท. ภาษาถูกใจมาก4555555

ดิท. Biore uv aqua rich essence นี่ตัวลูกรักเราเลยนะ มันไม่ดีจริงๆใช่ไหม ฮือออออ ร้องไห้เป็นธารน้ำไหล55555

แก้ไขล่าสุด 16 เม.ย. 57 14:27 | ไอพี: ไม่แสดง

#5 | eye_smile | 16 เม.ย. 57 14:44 น.

ขอบคุนมากนะคะ กระทู้ดีมากเลยยยยยยยยย

ไอพี: ไม่แสดง

#6 | `hadalabo? | 16 เม.ย. 57 14:55 น.

ชอบมากกก ขอบคุณนะคะ

ไอพี: ไม่แสดง

#7 | chiffoncake | 16 เม.ย. 57 15:36 น.

ขอบคุณมากค่ะ เล่าได้สนุกดี อ่านเพลินจนจบเลย

อยากถามว่า กันแดดหน้า ควรทาซ้ำทุก2ชั่วโมง แต่ถ้าต้องทาทับเมคอัพล่ะคะ เพราะถึงเป็นวัยเรียน
ยังไง๊ยังไง ก็ต้องทาแป้งไปโรงเรียนอยู่ดี มันจะอุดตันเครื่องสำอางไหม
มีกันแดดที่บางเบาเหมาะสมกับเติมระหว่างวันแนะนำหรือเปล่า เพราะนึกออกแต่บิโอเรที่บางเบาจนทาทับได้
แต่จขกท.ว่าไว้ซะไม่กล้าซื้อ.      หรือมีทริคอะไรที่จะทำให้สามารถเอากันแดดเหนียวๆมาทาทับแป้งแบบไม่อุดตันไหมคะ.  //กราบขอบพระคุณล่วงหน้าแบบงามๆพร้อมกระพริบตาแบ๊วๆ3ทีค่ะ

ไอพี: ไม่แสดง

#8 | pixiedust | 16 เม.ย. 57 17:26 น.

ขอบคุณมากค่ะเขียนสนุกอ่านเพลินมาก

คือเลือกผลิตภัณฑ์ทาหน้าไม่ถูกอยู่พอดีเพราะผิวมัน ทู้มีประโยชน์มากค่ะ

แก้ไขล่าสุด 16 เม.ย. 57 17:38 | ไอพี: ไม่แสดง

#9 | `eam | 16 เม.ย. 57 17:55 น.

ขอบคุณมากนะค้าาา จขกท.ใช้สำนวนอ่านง่ายดีจัง ชอบมากนานๆจะมีกระทู้สาระแน่นปึ้กแบบนี้ 

ไอพี: ไม่แสดง

#10 | ข้า` | 16 เม.ย. 57 17:59 น.

อ่านมันส์มาก จินตนาการเสียงจขกท.ไปด้วย555555555
- ความมันกับเหงื่อเนี่ยเหมือนกันมั้ยคะ คือจากที่ดูลักษณะของสภาพผิวต่างๆ
เราจัดอยู่ในกลุ่มผิวธรรมดาค่ะ หน้าไม่แห้งและมันจนเกินไป แต่เป็นคนขี้ร้อน
เหงื่อออกเยอะกว่าคนอื่นมาก เวลาชั่วโมงเร่งด่วนไม่มีผ้าเช็ดหน้าหรือทิชชู่ ก็จะใช้
มือปาดเหงื่อออก เลยทำให้สิวขึ้นค่ะ ทีนี้เลยไม่มั่นใจว่าใช่ไหม

ไอพี: ไม่แสดง

#11 | กุ๊ย. | 16 เม.ย. 57 18:28 น.

Biore uv aqua rich essence นี่ไม่ดีจริงเหรอ คือเพิ่งไปซื้อมาข่าาา กริ้สสสสสสส ;___;

ไอพี: ไม่แสดง

#12 | nmw`โอนลี่ยูชูว. | 16 เม.ย. 57 19:00 น.

กระทู้ดีมีสาระ เนื้อหาจัดเต็มมาก 
ขอบคุณมากค่า ชอบกระทู้แบบนี้มากๆ เลย <3

ไอพี: ไม่แสดง

#13 | asdfjkl;; | 16 เม.ย. 57 19:34 น.

Biore uv aqua rich คือใช้มา4หลอดละข่าาา  ฮือออออออออ

แก้ไขล่าสุด 16 เม.ย. 57 19:34 | ไอพี: ไม่แสดง

#14 | นมสด'โฟร์โมสต์' | 16 เม.ย. 57 20:46 น.

ขอบคุณค่า  เนื้อหาเเน่น!มากค่ะ 

ไอพี: ไม่แสดง

#15 | .G | 16 เม.ย. 57 22:01 น.

ขอบคุณค่ะ Biore มันไม่ดีจริงๆใช่ม้ายยยย 
ลังเลกับบานาน่าโบ๊ทเฟส มานานแล้ววว ตอนนี้เลือกได้แล่ะ 

แก้ไขล่าสุด 16 เม.ย. 57 22:02 | ไอพี: ไม่แสดง

#16 | `Rilakkuma | 17 เม.ย. 57 00:53 น.

ขอบคุณมากๆ ค่า

ไอพี: ไม่แสดง

#17 | 'ยูสนี้คลั่งNU'eStie | 17 เม.ย. 57 10:56 น.

ขอบคุณค่า ทู้ดีมากๆ

ไอพี: ไม่แสดง

#18 | chiffoncake | 18 เม.ย. 57 15:25 น.

ขอบคุณสำหรับทริคการกันแดดมากกกกกค่ะ><
เราลองไปทำแล้วไม่อุดตัน ที่ว่าเกลี่ยที่มือก่อนแล้วค่อยแปะๆลงบนหน้าน่ะค่ะ    ขอบคุณมากๆนะคะ

ไอพี: ไม่แสดง

#19 | `TONYandMAXXIE | 19 เม.ย. 57 21:35 น.

กระทู้มีประโยชน์มาก เนื้อหาแน่นดี ฮิๆ

ไอพี: ไม่แสดง

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google