[Review Album] Tattoos - Jason Derulo

รอยสักที่ไม่ได้ติดตัว แต่ติดหู

วันนี้ผมมารีวิวอัลบั้มเพลงป็อบ อาร์แอนด์บี ฟังง่าย เข้าถึงง่าย studio album ชุดที่ 3 ของหนุ่มเท้าไฟมากความสามารถ Jason Derulo ที่มีชื่อว่า Tattoos พอจะบอกเจตนารมย์ของหนุ่มคนนี้ได้ดีอยู่ กับการทำเพลงติดหู โดนใจแฟนเพลงอีกครั้ง คราวนี้พี่แกขอมาแนวติดเรท ทะลึ่งๆ นิดๆบ้าง สังเกตได้จากฉลากขาวดำที่ติดอยู่บนหน้าปกอัลบั้มนี้ ถึงแม้ว่าจะไม่มีคำหยาบมากมายเหมือนเพลงฮิพฮอพทั่วๆไป แต่ถ้ามองในด้านเนื้อหาแล้ว ออกแนวสองแง่สองง่ามอยู่เหมือนกัน

ไม่ต้องเท้าความอะไรมาก ไปดูกันเลย

The Other Side (9/10) เปิดตัวด้วยซิงเกิ้ลแรกจากอัลบั้มนี้ บัลลาดป็อบฟังสบายๆรื่นหู เพิ่มความมีมีชีวิตชีวาตรง ท่อนฮุคซาวน์บดละเอียด มันส์เร้าใจเหลือเกิน เนื้อหาหวานซะ คงเอกลักษณ์ของหนุ่มคนนี้ได้เป็นอย่างดี

Talk Dirty (feat. 2 Chainz) (9/10) ซิงเกิ้ลจังหวะสนุกๆที่ฮิตระเบิด สิ่งที่ทำให้คนฟังจดจำได้คงหนีไม่พ้น เสียงแซกโซโฟนที่แสนทะลึ่ง ชวนเลื้อยได้ตั้งแต่แรกฟัง บีทตึบตึบ แถมยังได้ 2chainz มาช่วยแร็พเพิ่มความทะลึ่งเข้าไปอีก ยิ่งทำให้เพลงนี้ดูมีเสน่ห์ในตัวของมัน

Marry Me (9.5/10) เพลงนี้ไม่ใช่การคัพเวอร์เพลงของ Train นะ แต่เป็นเพลงขอแต่งงานตามแบบฉบับของ Jason เด่นด้วยเสียงเปียโน เมโลดี้สวยๆ เสียงร้องสูงๆ ใน MV ก็พิเศษมาก ได้Jordin Sparks แฟนสาวตัวจริง มาเป็นนางเอกเอ็มวีด้วย ชนิดที่ต้องคนนี้คนเดียวเท่านั้น

Tattoo (8.5/10) ฟังดนตรีผิวเผิน ดูค่อนข้างจะเป็นป็อปธรรมดามากๆ หาฟังได้ทั่วไป แต่ฟังไปซักพักกลับรู้สึกติดใจแฮะ เลยอยากฟังซ้ำ เพราะท่อนฮุคช่างติดหูเหลือเกิน เหมือนโดนแปะรอยสักโดยไม่รู้ตัว เพลงนี้เป็นการเปรียบเปรย ความรักกับรอยสัก ถึงจะเลิกราไปแล้วแต่ก็ยังติดอยู่ในความทรงจำไม่เคยจาง ลบยังไงก็ลบไม่ออกเหมือนรอยสักที่สักแล้วสักเลย ลบไม่ออก ตัวเพลงนั้นแน่นอนยังห่างไกล Tattoo ของ Jordin อยู่ดี เข้าใจง่ายดีครับ

Trumpets (10/10) single ล่าสุดที่กำลังมาแรงในคลื่นเมทกะเกทอยู่ ณ ขณะนี้ ฟังครั้งแรกรู้เลยว่าเพลงนี้ต้องมาแรงแน่ๆ ซาวน์สุดเปรี้ยวจี๊ด บีทแพรวพราวมากๆ เสียงทรัมเปทช่วยทำให้เพลงโดดเด้ง ฟังสนุก ดูแปลกใหม่มากขึ้น ถ้าให้คะแนนเรื่องซาวน์ ผมยกให้เพลงนี้เป็นที่หนึ่ง ส่วนเสียงร้อง Jason ก็โคตรโดดเด่นเลย เสียงหลบสูง ทำให้เพลงจี๊ดขึ้นไปอีก อีกหนึ่งเพลงที่ไม่ควรข้าม

Vertigo (feat. Jordin Sparks) (10/10) อีกหนึ่งเพลงที่ผมชอบมากสุด พอๆกับแทร็คที่แล้ว เสียงร้องเจสันเคล้ากับบัลลาดเปียโนได้อย่างลงตัว สมูท แถมยังได้แฟนสาวตัวจริงช่วยเติมเต็มให้เพลงนี้ได้อย่างดีเยี่ยม เป็นการใช้แฟนสาวได้เป็นประโยชน์จริงๆ เป็นการดูเอทที่ฟังแล้วเคลิ้ม ดูไม่จริงจังเกินไป ห้ามพลาด

Fire (feat. Pitbull) (6/10) จากเพลงช้ามาเข้าสู่โหมดแดนซ์กันแล้ว คราวนี้ขอเชื้อเชิญอ้ายโล้นพิทบูลมาฟีทเป็นการเปิดฟอลให้ลุกเป็นไฟ เป็นแทร็คที่มันส์ดีนะ แต่ดูดความเป็นเจสันไปหมดเลย แถมตัวเพลงไม่โดดเด้งพอที่จะเทียบกับ International Love ดูธรรมดาหาฟังได้ทั่วๆไป

Side FX (feat. The Game) (8.5/10) เพิ่มความร้อนแรงด้วยเพลงสไตล์ละติน ดูชื่อเพลงอาจจะตีความได้ว่าพี่แกติดยาแล้วได้รับผลข้างเคียงรึไงไม่ทราบ แต่ยังคงเปรียบเปรยกับเรื่องรักๆใคร่ๆอยู่ดี กว่าจะรู้ก็ถึงบางอ้อ ในท่อนฮุคว่า Side Fx รวบคำได้เป็น Sex Sex Sex นั่นเอง คงไม่บอกก็รู้ว่าติดอะไร

Stupid Love (7/10) เบรคด้วยเพลงช้าสไตล์อคลูสติก เนื้อหาดูจริงจังมากขึ้น ปิดตาก็รู้ว่า โง่งมงายในเรื่องความรักนั่นเอง ฟังได้เรื่อยๆ สบายๆ เพลินดี คั่นเวลาไปพลางๆ ฟังก็ได้ ไม่ฟังก็ได้

With the Lights On (3/10) ไม่รู้เหมือนกันว่าเพลงนี้ก๊อบ Look At Me Now มารึไงก็ไม่ทราบ สไตล์แร็พคล้ายโคตรๆ เนื้อหาก็โคตรจะไร้ซึ่งแก่นสารเสียจริง ยิ่งเกลียด Look At Me Now เป็นทุนเดิมแล้ว เพลงนี้ก็คงต้องข้ามไป

Rest of Our Life (9/10) บัลลาดป็อบฟังสบายๆน่ารักๆ เพลงนี้เจสันแต่งให้แฟนคลับของเขาด้วย เมโลดี้สวย ให้ความรู้สึกประทับใจ เหมือนอยากอยู่กับพวกเขา ตราบชั่วฟ้าดินสลายกันเลยทีเดียว ปิดท้ายแสตนดาร์ดเวอร์ชั่นได้ดีครับ

Deluxe Version

Love Before I Die (7/10) เพลงจังหวะสนุกๆ ออกแนวคล้ายๆกับเพลง Wind Up ยังไงก็ไม่รู้ แต่ฟังมันส์ใช้ได้ เนื้อหายังเข้าใจง่ายอีกเช่นเคย ไม่มีอะไรมาก

Perfect Timing (7/10) เพลงจังหวะสนุกๆ ฟังสบายๆ ฟังแล้วรื่นหูดี แต่บีทออกแนวโหลไปนิดนึง ฟังเพลินๆไป ปิดท้ายด้วย The Other Side (Version Acoustic) ทำออกมาได้เพราะไปอีกแบบ แตกต่างตรงที่เวอร์ชั่นนี้ฟังแล้วรื่นหูกว่าเท่านั้นเอง ก็แน่ล่ะ มันเป็นอคลูสติกเวอร์ชั่นนี่หว่า ยังให้ความรู้สึกประทับใจพอๆกับออริจินอลเวอร์ชั่น



โดยรวม(8/10)
เป็นอัลบั้มที่ฟังง่าย เข้าใจง่าย เนื้อหาไม่ซับซ้อน กลับมาคราวนี้ยังคงรักษามาตรฐานได้ดี คงเส้นคงวา สิ่งที่ผมชื่นชอบอัลบั้มชุดนี้คงหนีไม่พ้น เมโลดี้ที่ติดหู เอามาเปิดฟังได้เรื่อยๆ  ไม่มีวันเบื่อ และสิ่งหนึ่งที่ผมนับถือหนุ่มคนนี้ก็คือ ความสามารถรอบด้านทั้งด้านการร้องการเต้น รวมไปถึง พลังที่มีล้นเหลือในตัวเขา ซึ่งทำให้เพลงนั้นดูมีชีวิตชีวา เขามีครบทุกคุณสมบัติที่เอนเตอร์เทนเนอร์ควรจะมี ถ้าได้ดูเล่นสดน่าจะมันส์อยู่
ถ้าใครไม่สนใจอะไรมากจากงานเพลง หรืออยากฟังเพลงแก้เครียดในช่วงวิกฤต อกหักรักคุด อัลบั้มนี้ตอบโจทย์ได้ครับ

บางทีคุณอาจจะโดนรอยสักชนิดนี้ ประทับไว้ในหูคุณก็ได้

Thanks For Reading
See Ya

All Album Review by Istyle yo! [กระทู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี]