มหากาพย์สงครามเพลง The Pussycat Dolls
หลังจากนั้น Robin Antin ผู้ก่อตั้ง The Pussycat Dolls ก็มีความพยายามที่จะรวบรวมสาวๆมากหน้าหลายตามาเพื่อแทนที่สาวๆที่ลาออกไป แต่ท้ายที่สุดก็กลายเป็นความฝันลมๆแล้งๆไป เมื่อ Queen Doll ของวงอย่าง Nicole Scherzinger ประกาศลาออกจากวงด้วยเหตุผลที่ว่าเธอรู้สึกไม่สะดวกใจที่ต้องทำงานกับคนที่ไม่คุ้นตา ทำให้ชื่อวง The Pussycat Dolls กลายเป็นอีกหนึ่งตำนานเกิร์ลกรุ๊ปไป และเพื่อเป็นการทิ้งทวนอย่างสมบูรณ์แบบ คิมเบอร์ลี่จึงตัดสินใจปล่อยเพลง Not Just a Doll ออกมาในวันที่ 5 มีนาคม 2010 ซึ่งเพลงนี้ถือเป็นเพลงเปิดศึกที่ทำให้เกิดประวัติศาสตร์บทใหม่สำหรับ The Pussycat Dolls ขึ้น นั่นคือ มหากาพย์สงครามเพลง ความจริงเป็นอย่างไร?? ใครกันแน่ที่ถูกโจมตีโดยเหล่าสาว Dolls?? นิโคล?? ร้อบบิ้น?? หรือแท้จริงแล้วพวกเธอจะโจมตีกันเอง??
Not Just a Doll - Kimberly Wyatt คลิกฟังที่นี่
เพลง Not Just a Doll พูดถึงช่วงเวลาระหว่างที่คิมเบอร์ลี่ยังคงอยู่ในวง The Pussycat Dolls ซึ่งเธอถูกสั่งห้ามพูดในระหว่างการสัมภาษณ์และระหว่างการอัดรายการ โดยที่ก่อนการอัดรายการนั้นจะมีคนป้อนคำตอบให้เธอเผื่อว่าทางพิธีกรเกิดอยากถามคำถามเธอขึ้นมา (ซึ่งตรงกับคำสัมภาษณ์ของ Ashley Roberts ในรายการเรียลลิตี้ชื่อดัง Im a Celebrity.. Get Me Out of Here ที่ว่าเธอถูกสั่งห้ามพูดอะไรในระหว่างการสัมภาษณ์ มีเพียงนิโคลเท่านั้นที่มีสิทธิให้สัมภาษณ์) โดยตัวเพลงนั้นสรุปได้ดังนี้ ฉันถูกกำหนดว่าให้เป็นแบบนั้น ให้เป็นแบบนี้ ใครถามอะไรให้ตอบแบบนี้ ถ้าไม่มีใครถามห้ามตอบ ห้ามพูด หล่อนไม่มีสิทธิ์พูด..นั่งเฉยๆไว้ นี่!! ฉันเป็นนักวาดความฝันนะยะ!! ฉันมีอะไรต้องทำเยอะแยะ!! ฉันก็มีอะไรที่อยากพูดอยากทำบ้าง!! ฉันไม่ใช่แค่ Doll นะยะ!! แล้วฉันก็ไม่อยากเป็นกระโถนรองรับอารมณ์ใครแล้วด้วย เธอก็ดีสิ..เธอพูดอะไรก็ได้ เดินไปไหนก็ได้ เธอมีอิสระ แต่จะบอกให้นะ คนที่คิดว่าตัวเองเป็น Somebody มักจะจบลงอย่าง Nobody ทั้งนั้นแหละ ขอบคุณสำหรับทุกความช่วยเหลือนะ ฉันไม่เกลียดเธอหรอก แต่มันถึงเวลาแล้วที่ฉันจะต้องก้าวต่อไปด้วยตัวเอง ฉันก็แค่อยากร้องอยากเต้น นั่นแหละสิ่งที่ฉันจะทำ ตอนนี้ฉันมีโอกาสฉันก็จะทำมัน ฉันก็หวังว่าฉันจะเป็นแรงบันดาลใจให้เธอได้มั่งนะยะ ชีวิตก็แบบนี้แหละ แฟนๆฉันรู้ว่าฉันทำงานหนักแค่ไหน ฉันได้รับแฟนเมล์มาถามรายละเอียดเรื่องพวกนั้นตั้งเยอะแยะ ฉันก็บอกไปแค่ว่า..บางอย่างหายไปเพื่อให้เราค้นพบสิ่งใหม่
หลังจากปล่อยเพลงออกไปไม่นานสาวโลกสวยเจสสิก้าก็ตัดสินใจปล่อยเพลง I Wanna Be Bad ออกมาพูดกับเขาบ้างเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2010
I Wanna Be Bad Jessica Sutta คลิกฟังที่นี่
เจสสิก้ากล่าวโจมตี Robin Antin ผู้ก่อตั้งวง The Pussycat Dolls ผ่านทางบทเพลง I Wanna Be Bad เนื่องจากร้อบบิ้นพยายามให้เธอเป็นสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเอง โดยใช้คำเรียกแทนตัวร้อบบิ้นว่า มาดาม เจสสิก้านั้นถือเป็นสมาชิกที่มีความ Contrast ในตัวเองสูง เนื่องจากเธอเป็นคนมองโลกในแง่ดีมาก(โลกสวย) แต่ก็เซ็กซี่มากเช่นกัน ในเพลงนี้เธอจึงพูดถึงการปรับแคแรคเตอร์ที่ร้อบบิ้นจัดการกับเธอจนทำให้เธอสูญเสียความเป็นตัวเองไป โดยเนื้อเพลงกล่าวว่า มาดามพยายามสอนให้ฉันทำตัวแบบว่า เอามือไว้บนตักซิ หล่อนอยากดังหรอ?? จุ๊ๆๆ ดูสารรูปตัวเองซิ อย่าทำแบบนั้นสิจ้ะ..เพลาๆตัวเองลงหน่อย โอ๊ย!! มาดั้มขา ฉันเหนื่อยกับการเป็นบูมบูมแคทของเธอแล้วนะ!! มาตอนนี้ฉันได้เช็คค่าตัวของฉันแล้ว เธอจะกดให้ฉันต่ำลงแค่ไหนฉันก็ไม่สนแล้วล่ะ เพราะเธอก็แค่รับความจริงไม่ได้ว่าตัวตนของฉันเป็นยังไง ฉันเปลี่ยนไปแล้ว เธอจะไปไหนก็ไปเพราะตอนนี้ฉันจะทำในสิ่งที่อยากทำบ้างละ ฉันจะทำนู่น จะทำนี่ จะเป็นนู่น จะเป็นนี่ จะดี จะร้าย จะเป็นอีแSด จะเป็นคนรวย เธอจะรั้งฉันไว้หรอ?? ฝันไปเถอะ ฉันจะยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกบนรองเท้าส้นเข็มของฉันด้วยขาของฉันเอง
ทางด้านของนิโคล อดีตหัวหน้าวง หลังจากที่อดีตเพื่อนร่วมวงคนอื่นๆพากันปล่อยบทเพลงโจมตีไป เธอก็ได้แต่รอวันที่จะปล่อยเพลงโจมตีกลับบ้าง จนกระทั่งในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2011 นิโคลก็ปล่อยศึกลงสนามเป็นครั้งแรกในเพลง Dont Hold Your Breath
Don't Hold Your Breath Nicole Scherzinger คลิกฟังที่นี่
เพลงนี้หากมองภายนอกอาจเหมือนเป็นการโจมตีกลับไปยังอดีตเพื่อนร่วมวงของเธอ แต่แท้จริงแล้วนิโคลลงสนามด้วยความสง่าด้วยการโจมตี Robin Antin ผู้ก่อตั้ง The Pussycat Dolls เช่นเดียวกับคิมเบอร์ลี่และเจสสิก้า มากกว่าที่จะโจมตีเพื่อนร่วมวงคนอื่นๆของเธอ โดยเนื้อเพลงนั้นพูดถึงการอยู่ภายใต้เงา The Pussycat Dolls เป็นเวลานาน พอถึงเวลาที่เธอก้าวเท้าออกมาเพื่อใช้ชื่อของตัวเอง ร้อบบิ้นก็พูดชักแม่น้ำทั้ง5เพื่อให้นิโคลกลับไปเป็นนักร้องนำอีกครั้ง เนื้อเพลงของนิโคลกล่าวไว้ดังนี้ หล่อนแตะฉันไม่ได้แล้วย่ะ ฉันไม่รู้ร้ายรู้ดีอะไรกับหล่อนแล้ว คิดว่าฉันจะกลับไปตายรังหรอ?? อย่าหวังซะให้ยาก สิ่งที่หล่อนทำกับฉันน่ะฉันยังจำมันไม่ลืมเลยล่ะ ฉันหลงอยู่ภายใต้แบรนด์ของหล่อนมานานมากแล้วนะ ฉันทนกับหล่อนมามากแล้ว รวมทั้งคำโกหกทั้งหลายแหล่นั่นด้วย กว่าฉันจะกลับมายืนด้วยแข้งตัวเองนี่มันไม่ใช่ง่ายๆนะยะ มาตอนนี้หล่อนจะมาตะล่อมให้ฉันกลับไปอีกแล้ว?? เสียใจจ้ะ ช่วงเวลานั้นมันผ่านไปแล้ว ฉันรักหล่อนนะ ฉันหวังว่าสักวันหล่อนจะเปลี่ยน แต่ที่ไหนได้หล่อนก็เป็นของหล่อนเหมือนเดิม สำหรับพวกเธอฉันเป็นห่วงพวกเธอนะ แต่ดูเหมือนไม่มีพวกเธอซักคนที่เป็นห่วงฉันบ้างเลย พวกเธอเอาส่วนแบ่งของฉันไปแถมยังทำร้ายฉันอีก นี่ฉันให้พวกหล่อนไปทุกอย่างแล้วนะยะ!! นี่ยังจะมาอิจฉากันอีกหรอ!! นี่ฉันจะก้าวไปข้างหน้าและจะไม่หันกลับมามองแล้วนะ เบื้องหน้าฉันเท่านั้นแหละที่เป็นของจริงในตอนนี้ หนังห่วยๆเรื่องนี้มันจบลงแล้วจ้ะ
หลังจากที่นิโคลปล่อยเพลงออกมา ช่วงเวลาก็ผ่านไปโดยไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆจนเหมือนว่าสุดท้ายมหากาพย์นี้คงจบอยู่ที่เพลงของนิโคล จนกระทั่งเมโลดี้ซึ่งเป็นสมาชิกที่มีปัญหากับตัวนิโคลเป็นทุนเดิม ตัดสินใจปล่อย Mixtape ออกมาโจมตี นิโคลในวันที่ 15 มีนาคม 2012 โดยใช้ชื่ออัลบั้มว่า P.O.Y.B.L. (Piss on Your Black List) ซึ่งในจำนวน 10 เพลงของเธอนั้น เป็นเพลงโจมตีนิโคลถึง 4 เพลง เลยทีเดียว
Intro Melody Thornton คลิกฟังที่นี่
เพลงเปิดตัวของมิกซ์เทปนี้เป็นเหมือนการเปิดอัลบั้มที่อธิบายถึงความรู้สึกของเมโลดี้ที่ได้ร้องเพลงแบบเต็มเพลงเสียที (เดิมทีไลน์อัพแรกเดิมนั้นเมโลดี้จัดเป็นหนึ่งใน Lead Vocal แต่ท้ายที่สุดกลับมาเป็น Chorus Vocal แทน) โดยเนื้อเพลงนั้นกล่าวไว้ว่า โอ๊ยดีใจจังเลยที่ได้มาอยู่จุดนี้ซักทีหลังจากที่ฉันตกอับอยู่นาน นี่ดีใจจริงๆนะคะคุณขา แถมยังได้ร้องเพลงอีก ร้องเพลงน่ะ ฉันไม่ได้เนรคุณหรอกนะยะ ฉันแค่อยากได้ในสิ่งที่ฉันสมควรจะได้น่ะ แม้แต่พวกที่เหลือยังไม่มีใครชอบหล่อนเล๊ย!! นี่จะบอกให้เอาบุญนะถ้าหล่อนคิดว่าฉันทำดีที่สุดได้เท่าที่หล่อนเห็น งั้นหล่อนต้องคิดใหม่แล้วนะยะ เพราะคนที่สุดยอดที่ถูกเลือกมาน่ะชื่อว่า..เมโลดี้จ้ะ
Lipstick & Guilt Melody Thornton คลิกฟังที่นี่
มาถึงแทร็คที่3 ซึ่งเป็นซิงเกิ้ลโปรโมต ที่เมโลดี้กล่าวโทษถึงตัวนิโคลที่ทำให้วงแตก โดยตัวเพลงกล่าวด้วยทำนองว่า ทั้งรอยลิปสติกและความผิดที่หล่อนก่อไว้มันเขียนอยู่บนหน้าหล่อนนะ รู้มั้ย แล้วเป็นไงล่ะ..ตอนนี้ทุกคนเห็นแล้วว่าหล่อนน่ะตกต่ำแค่ไหน ถึงขนาดต้องไปอ้อนวอนของานคนเค้าทำเลยแน่ะ แม่คุณเอ๊ย พระเจ้าท่านไม่มองลงมาหาบาปที่หล่อนก่อหรอกนะยะ!! แล้วถึงแม้หล่อนจะรอดมาได้ก็ไม่มีใครเค้าอยากอยู่รอดูวันที่หล่อนชิบส์หายหรอกแม้แต่ค่ายเพลงที่หล่อนอยู่เองก็เถอะ มันไม่มีสัจจะในหมู่โจรหรอกย่ะ พอถึงวันไหนที่เพลงหล่อนมันเกิดแป้กขึ้นมามันคงเศร้าน่าดูนะ แต่คนที่ทำให้ทุกอย่างมันพังพินาศนั่นมันตัวหล่อนเองจ้ะ..ที่รัก ไม่ใช่ฉัน ฉันอาจจะสงสารหล่อนแต่ฉันไม่ยอมรามือจากหล่อนง่ายๆหรอก
Smoking Gun Melody Thornton คลิกฟังที่นี่
หากคุณคิดว่าเมโลดี้จะยอมแพ้แล้วปล่อยเพลงโปรโมตเพลงที่2 ที่ไม่มีเนื้อหาจิกกัดนิโคลออกมา เราคงต้องอ่านคำแปลเพลง Lipstick & Guilt กันอีกครั้ง เพราะเธอได้พูดไว้แล้วว่าเธอจะไม่ยอมรามือไปง่ายๆ และนี่คือเนื้อเพลง Smoking Gun ซิงเกิ้ลโปรโมตที่2 ของมิกซ์เทปนี้ ไม่มีคำไหนที่เหมาะกับหล่อนเลยจริงๆ แม้แต่ลมหายใจอันมีค่าของฉันก็เถอะ เวลาของหล่อนหมดแล้วนะที่รัก ยอมแพ้เถอะ ยอมซะตั้งแต่ตอนนี้เลย จำได้มั้ยว่าฉันนี่แหละที่เป็นขั้นบันไดให้หล่อนก้าวเหยียบขึ้นไป จำได้มั้ยว่าฉันนี่แหละที่ให้ความรักกับหล่อนมาตั้งหลายปี ถ้าหล่อนไม่รู้ว่าสิ่งที่หล่อนทำมันไม่ดีก็ดูซะ ความผิดที่หล่อนก่อไว้มันค่อยๆปรากฏแล้ว หล่อนนั่นแหละที่เป็นคนผิด หลักฐานมันก็ฟ้องกันอยู่เห็นๆ
Hit the Ground Running - Melody Thornton คลิกฟังที่นี่
แทร็คสุดท้ายของมิกซ์เทปที่เมโลดี้เคยกล่าวว่าเธออาจใช้ชื่อนี้เป็นชื่ออัลบั้มแรกของเธอเองด้วย เนื้อเพลง Hit the Ground Running ยังคงเป็นการจิกกัดตัวนิโคลที่เป็นสาเหตุให้วงแตกเช่นเคย (ด่ามาทั้งอัลบั้ม) ฉันอยู่เพื่อที่จะเตือนสติหล่อนว่าสิ่งร้ายๆที่หล่อนทำมันกำลังปรากฏสู่ความจริงแล้ว การที่หล่อนฝังฉันลงดินไม่ได้แปลว่าหล่อนจะเจิดจรัสขึ้นได้หรอกนะ ปราสาททรายของหล่อนไม่นานมันก็พัง ถ้าหล่อนดีจริงอย่างที่หล่อนพูด ตอนนี้ฉันก็ต้องยอมแพ้ไปแล้วสิ แล้วทำไมฉันยังยืนเชิดหน้าชูคออยู่ได้ล่ะจ้ะ?? ฉันขอให้หล่อนมั่นใจได้เลยว่าฉันจะเริ่มเดินบ้างแล้ว ฉันจะเริ่มก้าวแล้ว ฉันยังอยู่ตรงนี้เพื่อที่จะเตือนสติหล่อนว่าความสำเร็จของหล่อนมันไม่ได้มาจากการก้าวพลาดของฉันหรอก และจะบอกให้รู้เอาไว้นะว่าสิ่งที่หล่อนได้กอบโกยมานั่นมันควรเป็นของฉันทั้งนั้น หล่อนกล้าดียังไงมาเปลี่ยนแปลงสิ่งที่พระเจ้ากำหนดไว้ตั้งแต่แรก หล่อนไม่ได้อยู่เหนือใครเลยนะ และถ้าหล่อนคิดว่าหล่อนเหนือพระเจ้าล่ะก็หล่อนคิดผิดถนัดเลยล่ะ เพราะฉันจะเริ่มเดินบ้างแล้วไง และฉันยังอยู่ตรงนี้จ้ะ ไม่ได้หายไปไหน
(ต่อด้านล่าง)
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
ทางด้านแอชลีย์ที่เงียบมาโดยตลอด ในที่สุดก็ตัดสินใจปล่อยเพลง All in a Day ออกมาเพื่อเล่าเรื่องราวผ่านมุมมองของตัวเธอเองบ้างในวันที่10 ตุลาคม 2012
All in a Day - Ashley Roberts คลิกฟังที่นี่
เพลง All in a Day เป็นเพลงที่มีอารมณ์ที่แตกต่างกับเพลงที่ปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ เนื้อเพลงบอกถึงวันสุดท้ายที่แอชลีย์ตัดสินใจลาออกจากวง และความรู้สึกสับสนที่เธอไม่แน่ใจว่าอารมณ์ของเธอต่อตัวนิโคลนั้นเป็นความรู้สึกรักหรือเกลียดกันแน่ นี่มันเป็นอะไรที่แปลกมากเลยนะ จะให้ทิ้งเธอก็ยาก จะอยู่กับเธอก็ยากอีก นี่ฉันไม่รู้จะเกลียดหรือจะรักเธอดีเนี่ย ที่รักจ๋าเธอบิดเบือนความจริงมานานเกินไปแล้วนะ แล้วฉันก็เบื่อกับการร้องเพลงประโยคเดิมๆแล้วด้วย (ที่เธอจะสื่อคือการเป็นคอรัสได้ร้องแค่ Ooh, Ah ทุกเพลง) คือจะพูดยังไงดีล่ะ คือฉันยังต้องการเธอในวันที่ไม่อยากอยู่ใกล้เธอแล้วอ่ะ จะให้ร้องเพลงประโยคเดิมๆอีกน่ะหรอ?? หึ..พอค่ะ พัก ตอนนี้ฉันรักเธอ แต่ไม่กี่นาทีต่อมาฉันก็เกลียดเธอ วันนี้ฉันให้ใจเธอ แต่กลายเป็นว่าเธอพังความรู้สึกดีๆซะย่อยยับไปหมด มาวันนี้เธอเปลี่ยนให้ฉันเป็นอีกคน แต่เธอก็มาทำลายฉันในวันเดียวกันอีก ฉันรับตัวตนเธอไม่ได้แต่ก็ขาดเธอไม่ได้เหมือนกัน นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ย!! มันเป็นอะไรที่แปลกมากเลยนะ แต่มันก็ทำให้ฉันเห็นแล้วว่าเราไม่เหมือนเดิม วันนี้แค่วันเดียวทำเอาฉันไปไม่ถูกเลยนะเธอ
มหากาพย์สงครามเพลงดำเนินมาถึงย่อหน้าสุดท้ายเมื่อนิโคลตัดสินใจปิดท้ายสงครามด้วยการปล่อยเพลง Boomerang ออกมาตอกกลับทุกข้อกล่าวหา เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2013
Boomerang - Nicole Scherzinger คลิกฟังที่นี่
โลกอาจจะเมินฉัน ทำเอาฉันหมุนคว้างจนแทบแหลกสลายไปกับพื้น นึกว่าจะหยุดแต่ที่ไหนได้ฉันกลับร่วงหล่นลงไปอีก แต่ฉันถูกสอนมาไม่ให้ยอมแพ้จ้ะ แม้ว่ามันจะยากกับการกลับมายืนอีกครั้งแต่ฉันก็จะฮึดสู้จนกว่าฉันจะกลับมายืนได้อีกครั้ง แล้วฉันก็จะบอกหล่อนว่า หล่อนทำฉันตกต่ำได้ เหวี่ยงฉันได้ แต่ยิ่งแรงมากเท่าไหร่ฉันก็กลับมาผงาดได้มากขึ้นเท่านั้น หล่อนเหยียบย่ำหัวใจฉันได้ แต่หล่อนแตะต้องชื่อฉันไม่ได้ ฉันทนแรงกระแทกได้เพราะฉันคือบูมเมอแรงย่ะ!! ปัญหาพวกนั้นน่ะเล็กน้อยมากฉันจะบอกไว้เลย ไม่มีอะไรที่จะมาเปลี่ยนฉันได้ ท้องฟ้าของฉันมันไม่มีเพดาน เพราะงั้นเวลาฉันรู้สึกแย่ฉันก็แค่โบยบินขึ้นไปบนฟากฟ้าก็แค่นั้น และถึงแม้ว่าฉันจะบินสูงแค่ไหน วันหนึ่งฟ้าก็ต้องเปลี่ยนสี ฉันอาจจะเจอกับมรสุมก็ได้ แต่ฉันไม่แคร์หรอกจ้ะ ก็ฉันเป็นบูมเมอแรงนี่นา
หากสังเกตดูแล้วดูเหมือนว่าคนที่โจมตี นิโคลจริงๆแล้วมีแค่คนเดียว คือเมโลดี้(ซึ่งแค้นฝังหุ่นมาตั้งแต่หัวยันฮี) นอกนั้นดูจะโจมตีไปที่ร้อบบิ้นมากกว่า(แม้แต่นิโคลเองก็ตาม) ดังนั้นเมื่อหันกลับมามองกันจริงๆแล้ว คนที่สมาชิกต่างพากันแอนตี้จริงๆอาจไม่ใช่นิโคลก็ได้(แต่นิโคลตอนอยู่ในวงก็ทำแสบอยู่ไม่น้อย ก็ไม่น่าแปลกที่นางจะโดนหางเลขไปด้วย) แล้วตอนนี้อดีตสมาชิก The Pussycat Dolls มีผลงานอะไรกันบ้างล่ะ??
อัพเดทผลงาน The Pussycat Dolls
Nicole Scherzinger
หลังจากปล่อยเพลง Boomerang ออกมา นิโคลก็ถือโอกาสปิดฉากการทำงานกับค่าย Interscope Record ทันที ก่อนที่จะหันไปซบอกค่าย Sony Music UK พร้อมเซ็นสัญญาเป็นศิลปินภายใต้การดูแลของผู้จัดการคนใหม่อย่าง Larry Rudolph (ผู้จัดการของ Britney Spears, Miley Cyrus, G.R.L. ฯลฯ) เป็นที่เรียบร้อย นิโคลกำลังอยู่ระหว่างการทำอัลบั้มเต็มชุดที่2ของเธออยู่ และเพิ่งปล่อยซิงเกิ้ลใหม่อย่างเพลง Your Love ออกมาอีกด้วย นอกจากนี้ผู้อำนวยการรายการประกวดร้องเพลง The X-Factor อย่าง Simon Cowell ก็อยู่ในระหว่างเจรจาให้นิโคลกลับไปรับบทกรรมการผู้ตัดสินอีกครั้งในซีซั่นใหม่นี้อีกด้วย
Nicole Schersinger - Whatever you like คลิกที่นี่
Nicole Schersinger - Baby love คลิกที่นี่
Nicole Scherzinger - Poison คลิกที่นี่
Nicole Scherzinger - Don't hold your breath คลิกที่นี่
Nicole Scherzinger - Right there คลิกที่นี่
Nicole Scherzinger - Wet คลิกที่นี่
Nicole Scherzinger - Try with me คลิกที่นี่
Nicole Scherzinger - Boomerang คลิกที่นี่
Nicole Scherzinger - Your love *new release* คลิกที่นี่
Melody Thornton
หลังจากหมดการโปรโมทอัลบั้มมิกซ์เทป P.O.Y.B.L. เมโลดี้ก็ยังคงทำเพลงอยู่เรื่อยๆ และอยู่ในระหว่างการหยุดพักการทำงานเพื่อค้นหาแนวทางเดินใหม่ๆสำหรับตัวเอง
Melody Thornton - Sweet Vendetta(Audio) คลิกที่นี่
Melody Thornton - You & I(Intro) คลิกที่นี่
Melody Thornton - Lipstick & Guilt คลิกที่นี่
Melody Thornton - Smoking Gun คลิกที่นี่
Melodu Thornton feat.Bobby Newberry - Bulletproof คลิกที่นี่
Carmit Bachar
คาร์มิตฟอร์มวงอยู่กับนักร้อง/ดีเจ Sammy Jay อยู่ช่วงหนึ่งภายใต้ชื่อวงว่า The Lady Station ก่อนที่จะผันตัวออกมาเป็นครูสอนเต้นและคิดท่าเต้นให้กับศิลปินอย่างเต็มตัว พร้อมกับเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับโครงการสำหรับเด็กที่เป็นโรคปากแหว่งเพดานโหว่ในชื่อว่า Operation Smile โดยเธอได้ออกซิงเกิ้ล Keep On Smiling มาเพื่อโครงการนี้ และนอกจากนี้คาร์มิตก็รับบทบาทใหม่ในการเป็นคุณแม่เต็มเวลาให้กับลูกสาวตัวน้อย Keala Rose อีกด้วย
Lady Station - Intro คลิกที่นี่
Lady Station - Body in motion(Audio) คลิกที่นี่
Lady Station - Loud(Audio) คลิกที่นี่
Carmit Bachar - Keep on smiling คลิกที่นี่
Jessica Sutta
การเลื่อนอัลบั้มแรกในชีวิตของเจสสิก้าออกไปอยู่หลายครั้งหลายคราไม่ได้ทำให้คุณภาพเพลงของเธอลดถอยไปเลย หลังจากเป็นสมาชิก The Pussycat Dolls คนแรกที่ปล่อยซิงเกิ้ลออกมากี่ซิงเกิ้ลก็ไม่เคยหลุด Top15 ใน Billboard Dance Club Play chart ไปเลยแม้แต่เพลงเดียว ไล่มาตั้งแต่ซิงเกิ้ลแรก Show Me ที่ขึ้นอันดับ1 ก่อนจะร่วงลงมาเล็กน้อยกับ Again ที่ขึ้นสุดแค่อันดับ14 แล้วกลับมาทอปฟอร์มอีกครั้งกับ Lights Out ที่พีคสุดถึงอันดับ3 ล่าสุดเจสสิก้าได้ประกาศว่าอัลบั้มแรกในชีวิตของเธอจะไม่ใช้ชื่อว่า Sutta Pop แล้ว และเธอกำลังอัดเพลงอยู่กับโปรดิวเซอร์มือฉลัง Rico Love ผู้ทำเพลงให้กับศิลปินดังๆอย่าง Beyonce, Nelly, Usher ฯลฯ เรียกได้ว่างานช้าเธอไม่สน ขอคุณภาพเพลงไว้ก่อนว่างั้น
Jessica Sutta - I wanna be bad คลิกที่นี่
Jessica Sutta - Show me คลิกที่นี่
Jessica Sutta feat.Kemal Golden - Again คลิกที่นี่
Jessica Sutta - Lights out คลิกที่นี่
Ashley Roberts
หลังจากได้รับตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ1 มาจากรายการเรียลลิตี้ชื่อดังฝั่งอังกฤษ Im a Celebrity.. Get Me Out of Here แล้ว สาวแอชลีย์ก็เดินหน้าเต็มที่กับการทำงานสายบันเทิง โดยเริ่มจากการเป็นกรรมการผู้ตัดสินคนใหม่ของรายการ Dancing On Ice มาแล้ว2ปี และต่อกับรายการ Ant & Decs Saturday Night Takeaway พร้อมกับการเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับ Garnier คนใหม่ และล่าสุดแอชลีย์ได้ออกซิงเกิ้ลแรก Clockwork ออกมาภายใต้ค่าย Metropolis London Music Limited และเตรียมปล่อยอัลบั้มเต็มชุดแรกในชีวิตของเธอออกมาเร็วๆนี้ แอชลีย์เป็นสมาชิก The Pussycat Dolls คนที่สองที่ได้ออกรายการในเครือรายการ Next Top Model ต่อจากเจสสิก้า และเธอยังเป็นสมาชิกคนแรกที่ได้ออกแบรนด์น้ำหอมเป็นของตัวเองภายใต้ชื่อ Ashley by Ashley Roberts
Ashley Roberts - A Summer place(Audio) คลิกที่นี่
Ashley Roberts - All In a Day(Audio) คลิกที่นี่
Ashley Roberts - Yesterday คลิกที่นี่
Ashley Roberts - Clockwork *new release* คลิกที่นี่
Kimberly Wyatt
คิมเบอร์ลี่เป็นกรรมการผู้ตัดสินยุคบุกเบิกของรายการ Got To Dance ของทางฝั่งอังกฤษ โดยตอนนี้ได้ดำเนินมาถึงซีซั่นที่5แล้ว หลังจากที่ปล่อยอัลบั้มแรกออกไปกับวง Her Majesty and The Wolve คิมเบอร์ลี่ก็กลับมาทำอัลบั้มแรกอีกครั้งกับซิงเกิ้ลแรก Derriere ก่อนที่จะเปิดตัวแบรนด์เครื่องสำอางของตัวเองภายใต้ชื่อ Beautiful Movements by Kimberly Wyatt เธอแต่งงานกับนายแบบหนุ่มชื่อดังจากฝั่งอังกฤษ Max Rogers หลังจากคบกันมานานกว่า2ปี และล่าสุดเธอยังเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับหูฟัง Monster Headphones iSport และเริ่มต้นทำงานเป็น DJ มืออาชีพอีกด้วย
Kimberly Wyatt - Not Just a Doll คลิกที่นี่
Her Majesty and the Wolve - Glaciers คลิกที่นี่
Her Majesty and the Wolve - Stars in your eyes คลิกที่นี่
Her Majesty and the Wolve - Goodbye/Goodnight คลิกที่นี่
Kimberly Wyatt - Derriere(Audio) คลิกที่นี่
ปล.ขอความกรุณาถ้าจะนำออกไปรบกวนใส่เครดิตให้ด้วยค่ะ 
ปล2.แถมรูปถ่ายวันแต่งงานของคิมเบอร์ลี่ค่ะ วันนั้นแอชลีย์ เจสสิก้า เมโลดี้ไปเป็นเพื่อนเจ้าสาวในงานด้วย ส่วนคาร์มิทเป็นแขกรับเชิญ(เลยไม่มีในรูป) ส่วนนิโคลไปเล่นคอนเสิร์ตที่ฮาวายค่ะ
ถ้าเทียบแล้วในไทยไม่มีใครดังเลยค่ะ แต่ที่อังกฤษแอชลีย์ดังเทียบเท่านิโคลเลย แต่ดังคนละช่องกัน แอชลีย์จะออกบ่อยมากช่อง ITV คิมเบอร์ลี่ในอังกฤษก็ดังเพราะเต้นมากกว่าเป็นนักร้อง แต่ก็ดังขึ้นไปอีกเพราะสามีเป็นนายแบบชื่อดังในอังกฤษ ส่วนในวงการเพลงEDM เจสสิก้าถือว่าดังค่ะ
นี่เดี๊ยนทนอ่านจบได้ยังไง ยาวมากขร่ะ
คนที่ประสบความสำเร็จเดี๊ยนว่ามีแต่อินิคนี่แหละค่ะ
วงตุ๊กตาจิ๋มแมว เราเรียกแต่ วง นิโคล แอนด์เดอะแดนเซอร์มาตลอด
(เหมือนวงอิบี เราก็เรียก บียอนเซ่แอนด์เดอะแดนเซอร์)
เอาเป็นว่าสงครามเพลงเป็นอะไรที่มันส์มาก แต่งเพลงด่ากันนี่สมกับเป็นศิลปิน ถถถ
(อย่างกะอิเฟอร์กี้กับอิเนลลี่เฟอร์) 
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google