วิจารณ์ How to Train Your Dragon 2

How to Train Your Dragon 2
By Bigtum

***เปิดเผยเนื้อหาเล็กน้อย***

: อีกก้าวที่เติบโตขึ้นของเด็กชายสะอึก กับว่าที่อนิเมชั่นยอดเยี่ยมแห่งปี! จากเด็กชายที่เคยเลือกทางเดินอันแตกต่าง ด้วยการฉีกขนบประเพณีเดิมที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานนับ 300 ปีทิ้งลง ฮิคคัพ ผู้มีจิตใจอันแสนอ่อนโยน แทนที่จะฆ่ามังกรเหมือนเช่นชาวไวกิ้งคนอื่นๆ เค้ากลับเลือกที่จะดูแลมันอย่างลับๆ ทูธเลส หรือเพลิงนิล มังกรพันธุ์หายาก ว่องไว อำพรางตัวเก่ง มีระบบโซนาร์ที่สะท้อนคลื่นเสียงบอกตำแหน่งวัตถุต่างๆอย่างเป็นเลิศ ถูกขนานนามว่าหาตัวจับยาก กระทั่งมันบาดเจ็บและได้มาเจอกับฮิคคัพ

เมื่อความดื้อรั้นในแบบฉบับต่างเผ่าพันธุ์ได้มาเจอกัน ก่อเกิดเป็นความผูกพันระหว่างคนกับมังกร การผจญภัย ความรัก มิตรภาพ และการต่อต้าน ส่งผลให้เด็กหนุ่มได้ทำเรื่องกล้าหาญ จนนำไปสู่เหตุการณ์เศร้าๆ ที่กระแทกความรู้สึก จุกจนเกือบทำให้หยดน้ำตาทะลักเอ่อล้นออกมา

นั่นคือภาคแรกของฮิคคัพและเจ้าเขี้ยวกุด เด็กหนุ่มกับมังกรที่เปิดโลกทัศน์ใหม่ ให้ออกมาเป็นการผจญภัยที่ดูสนุกสนาน ในแบบมุมกล้องโลดโผนโจนทะยาน น่าติดตาม แถมยังมีเนื้อหาโดนๆที่จี๊ดใจใครหลายคน จะมีอนิเมชั่นเรื่องไหนกันเชียวที่กล้าให้พระเอกพิการ ถือเป็นก้าวแรกในโลกการ์ตูน เพราะกล้าที่จะแตกต่างในแบบกระทบต่อความรู้สึก แต่แฝงไปด้วยจิตใจวิญญาณที่แกร่งขึ้นแบบนี้ ในภาคที่สองเราจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอันเป็นผลมาจากการกระทำของพระเอกในภาคเเรกว่ามัน "ดีขึ้น" มากแค่ไหน ทุกคนแฮปปี้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่เจ๋งยิ่งกว่าเดิม

หมู่บ้าน "เบิร์ค" เผ่าไวกิ้งโบราณที่มีถิ่นฐานตั้งอยู่บนเกาะ จากเดิมพวกเค้าเคยมีอาชีพล่ามังกรกันมาอย่างช้านาน ทุกวันนี้หันมาเป็นมิตรกับมังกร ทุกบ้านทุกครัวเรือนอย่างน้อยต้องเลี้ยงมังกรไว้คนละ 1 ตัว มีชื่อเรียกให้มัน ใช้งานได้แต่ห้ามทารุณ นอกจากมังกรที่ใส่ใจรายละเอียดของพวกมันเเทบทุกตัวแล้ว หนังยังเด่นในด้านการนำเสนอความหลากหลายของตัวละคร

แอสทริด หวานใจจอมห้าวของฮิคคัพ ที่ดูสวยขึ้นกว่าเดิม และแก๊งจอมฮาที่ประกอบไปด้วย ฟิชเลกส์ เจ้าอ้วนจอมวางแผน ฮุคแฟง ผู้กล้าหาญ นิสัยทะมัดทะแมง แต่เสียเซลล์เมื่อจีบเพื่อนในกลุ่มไม่ติด และรัฟฟ์นัท กับทัฟฟ์นัท แฝดคู่กัดที่ยังทะเลาะกันไม่เลิก รอบนี้รัฟฟ์นัทขโมยซีนฮาไปหลายฉากด้วยอาการหลงใหลในตัวหนุ่มกลัดมันต่างถิ่นที่ชื่อ อีเรท

ขณะที่ตัวละครกลุ่มวัยรุ่นเป็นตัวสร้างบรรยากาศให้ครึกครื้น ตัวละครกลุ่มผู้ใหญ่นั้นมาพร้อมกับความซาบซึ้ง ประทับใจไม่แพ้กัน สโต๊ยค์ ผู้นำแห่งหมู่บ้านเบิร์คที่เชื่อมั่นในตัวลูกชายฮิคคัพอย่างภาคภูมิใจ เราจะได้เห็นอีกด้านของเค้าในยามเมื่อได้พบกับ วอล ภรรยาที่หายสาปสูญไปเมื่อ 20 ปีก่อน เป็นอีกมุมน่ารักๆที่ดูแล้วจะตกหลุมรักกันอย่างไม่ยาก

ก็อบเบอร์ นายช่างใหญ่และมือขวาของสโต๊ยค์ จากคนทำอาวุธสังหารมังกร วันนี้กลายเป็นผู้ทำอานมังกรมือหนึ่ง และเป็นทันตเเพทย์ผู้ตรวจฟันมังกร จุ๊ จุ๊ จะบอกอะไรให้ ก็อบเบอร์จริงๆแล้วเป็นเกย์! นี่เป็นความลับที่ออกมาจากปากทีมงานเอง และเราจะได้เห็นพฤติกรรมของเค้าชัดเจนขึ้นในภาคที่สาม

นอกจากมังกรทีเร็กซ์ตัวใหญ่ยักษ์ในภาคแรกที่พวกพระเอกไปปราบกันแล้วยังไม่มีตัวร้ายที่เป็นมนุษย์แบบจริงๆจังๆให้เห็น หนังภาคนี้จึงจัดมาให้ ดราโก้ บลัดวิสต์ ตัวร้ายหน้าโหดผู้สามารถควบคุมมังกรได้ เป้าหมายของเค้าคือช่วงชิงทุกสิ่งมาเป็นของตนเองด้วยการใช้มังกรเป็นเครื่องมือ เจ้าหมอนี่นอกจากจะซ่องสุมมังกรแล้ว ยังใช้มังกรเป็นทาสของตัวเอง เป็นตัวร้ายที่ร้ายกาจอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่มีด้านที่น่าเห็นใจใดๆทั้งสิ้น

เนื้อหาในภาคนี้ยังคงเป็นเรื่องราวของการค้นหาตัวเองในโจทย์ใหม่ของเด็กชายที่วันนี้เติบโตขึ้นกลายเป็นเด็กหนุ่ม หนักใจกับการแบกรับภาระอันหนักหนาที่ผู้เป็นพ่อโยนมาให้อีกครั้ง แถมยังต้องเจอกับศัตรูที่โหดขึ้นไม่ว่าจะเป็นคนหรือมังกร งานนี้หนังจึงจำเป็นต้องเปิดเรื่องด้วยการโชว์ศักยภาพของตัวละครที่เก่งขึ้นอย่างที่เห็น โดยเฉพาะสิ่งประดิษฐ์ชิ้นใหม่ของฮิคคัพที่บอกได้เลยว่าเท่ห์ระเบิด มีทั้งดาบ มีทั้งปีก ที่จะมาเพิ่มขีดพลังให้เร้าใจยิ่งขึ้นไปอีก

ใครที่ชื่นชอบตัวละครที่เป็นมังกรจากภาคที่แล้ว ในภาคนี้มันยังคงกลับมาเรียกเสียงฮากันครบทีม พร้อมกับเปิดตัวมังกรสายพันธุ์ใหม่ๆที่เรียกรอยยิ้มได้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เขี้ยวกุดอาจเป็นมังกรที่เหนือกว่าทุกตัว แต่ภาคนี้จะเจอกับมังกรที่เหนือยิ่งกว่า พอๆกับงานเทคนิคที่ละเอียดยิบ เก็บรายละเอียดครบ ทั้งเส้นผมเปียน้อยๆของฮิคคัพที่หวานใจถักให้ ไปจนถึงผิวหนังของมังกรที่ยิ่งดูจอใหญ่มากแค่ไหนก็ยิ่งเห็นชัดถึงรูขุมขน! แต่น่าเสียดายที่บ้านเราไม่เข้าฉายในระบบไอแมกซ์ ไม่งั้นคงได้ฝูงเห็นมังกรบินว่อนจ่ออยู่ในระดับสายตาเราแบบใกล้ๆ

แม้ว่าหนนี้จะขาด คริส แซนเดอร์ส หนึ่งในสองผู้กำกับจากภาคแรก เพราะติดพันกับการกำกับหนังอนิเมชั่น เรื่อง The Croods (เรื่องนี้ก็เยี่ยม) แต่ดีน เดอบลัวส์ ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเค้าสามารถสานต่อเรื่องราวของเด็กหนุ่มกับมังกรเพื่อนซี้ที่เดินต่อด้วยขาเพียงข้างเดียวให้ออกมาเป็นงานสุดประทับใจได้อีกหน จะว่าไป 2 คนนี้ก็ชอบสร้างสรรค์คาแร็คเตอร์อะไรแปลกๆ ของคนกับสัตว์มาตั้งแต่สมัย Lilo & Stitch แล้วด้วยซ้ำ

ได้ชมมา 2 รอบ ทั้งระบบปกติ และระบบ 3D งานนี้จึงเห็นความแตกต่างที่ค่อนข้างชัด แบบปกติสีสันของภาพจะสว่างกว่า ส่วนแบบ 3D จะมืดกว่าเล็กน้อยตามแว่นที่สวม แต่จะแลกมาซึ่งความอลังการที่จัดเต็ม เห็นเลเยอร์มิติชัดเจน โดยเฉพาะฉากขี่มังกรโชว์นั้น พรั่งพรูไปด้วยมุมกล้องสวยๆ ขณะที่ดนตรีประกอบยังคงเป็นสีสันชวนให้เราสนุกสนาน ปนระคนเศร้าในฉากที่ต้องแสดงอารมณ์ ซึ่งมันก็ได้ผลมากในหลายซีน ถือเป็นอีกครั้งที่ดรีมเวิร์คส์ขโมยหัวใจไปอีกแล้ว กับงานภาคต่อที่ไม่หยิ่งหย่อนไปกว่าภาคแรก

ระดับคะเเนน "B+"

อันนี้เป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย เกล็ดมังกรที่นำมาฝาก!

-How to Train Your Dragon มีเวอร์ชั่นซีรี่ส์ที่ฉายทางทีวีด้วยนะ มีออกมา 2 Season แล้ว รวมทั้งสิ้น 40 ตอน คุณภาพงานสร้างนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าเวอร์ชั่นภาพยนตร์เลย ภาพสวย คมชัด เป๊ะมากๆ เป็นตัวเชื่อมเรื่องราวระหว่างภาค 1 และ 2 ซึ่งกลุ่มของฮิคคัพได้ก่อตั้งโรงเรียนฝึกมังกรขึ้นมา งานนี้จึงทำให้พบกับเหล่ามังกรแปลกๆเพียบ ใครที่ติดใจหลงรักน้องมังกรในเรื่องก็ลองหามาดู

-นอกจากซีรี่ส์แล้วยังมีหนังสั้นที่แถมมากับดีวีดีในภาคแรกอีก 2 ตอน ทั้งเรื่องราวของมังกรพันธุ์หายากที่อยู่ในคัมภีร์ Book of Dragon และเรื่องราวซึ้งๆดีๆ Gift of the Night Fury ที่จะมาเรียกน้ำตา ระหว่างฮิคคัพกับเขี้ยวกุดที่จู่ๆมันก็บินหายไปพร้อมกับพวกมังกรตัวอื่นๆ จนทุกคนในหมู่บ้านพากันเศร้า

-และสุดท้ายหนังสั้นแนวตลกโปกฮา Legend of the Boneknapper Dragon ที่เคยฉายทางทีวี ตั้งแต่ปี 2010 เรื่องราวของก็อบเบอร์กับมังกรจอมขโมยกระดูกในตำนานอันลึกลับ!?