"Lost Stars: Begin Again" "ดาวหลงทาง: เริ่มต้นอีกครั้ง"

11 ก.ค. 57 04:50 น. / ดู 2,050 ครั้ง / 2 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์
หมายเหตุ :: ตัวรีวิวอาจจะยาวไปสักนิด และเปิดเผยเนื้อเรื่องบางส่วน คนที่ยังไม่ได้ดูข้ามไปได้ครับ
Lost Stars: Begin Again
เราต่างก็เป็น “ดาวหลงทาง” ที่ต้องการ “ดาวนำทาง” เพื่อ “เริ่มต้นอีกครั้ง”

ครั้งแรกที่ได้ดูตัวอย่างภาพยนตร์เรื่องนี้คือตอนไปชมภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง ความรู้สึกแรกคือ มันต้องเป็นอะไรที่ประทับใจ ซาบซึ้งไปกับบทเพลงและการแสดง จากนั้นจึงบอกกับตัวเองว่า ... ห้ามพลาดเรื่องนี้ด้วยประการทั้งปวง (ถึงแม้จะแอบเฟลเล็กๆ กับตัวอย่างที่เป็นพากย์ไทย)

สำหรับผมก็แอบถอดใจนะ เนื่องด้วยอยู่ต่างจังหวัด (พิษณุโลก) คิดว่าคงไม่มีฉายแน่ๆ หรือถ้ามีก็คงมีแต่พากย์ไทย แต่ทว่าโชคยังเข้าข้าง ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉายในระบบเสียงซาวด์แทร็กซับไทย รีบไปทันทีทันใดเลยครับ
หลังจากที่ตกลงกับเพื่อนและจองบัตรเรียบร้อย (ซึ่งเข้าไปในโรงทันเวลาพอดีกับเพลงสรรเสริญพระบารมี) จากนั้นก็เข้าประจำที่นั่ง และเริ่มตื่นเต้นกับสิ่งที่จะปรากฏตรงหน้า


อ่ะ !!! เข้าเรื่องสักทีเนาะ ภาพยนตร์เรื่องเปิดตัวการที่เราได้เห็นนางเอกของเรา เกรตต้า นั่งเศร้าในบาร์แห่งหนึ่งในนิวยอร์ก เนื่องจากแฟนหนุ่มนักร้องมาแรงทิ้งเธอ ซ้ำร้ายยังถูกเพื่อนชายคนสนิทลากมาด้วย และบังคับให้เธอร้องเพลงต่อหน้าลูกค้าในร้าน อย่างไรก็ดี ด้วยเพลงที่ร้องเป็นเพลงที่เธอแต่งเอง แน่นอนว่าไม่มีใครสนใจเธอเลย ยกเว้น ... พระเอกของเรา แดน ชายหนุ่มโปรดิวเซอร์ชื่อดัง ที่ตกงาน ติดเหล้า เมียทิ้ง ลูกไม่เอา เขาได้ยินบทเพลงที่เกรตต้าร้อง และสามารถเรียบเรียงทำนองจากเครื่องดนตรีต่างๆ ได้ ทั้งที่เกรตต้าเล่นเพียงกีต้าร์คนเดียว (ฉากนี้ประทับใจมาก น่ารักมากๆ และที่สำคัญมันทำให้เพลงดูยิ่งใหญ่มากขึ้นด้วย ไปดูเอาเองนะครับ) จากนั้นพระเอกของเราจึงไปคุยเพื่อขอร้องให้เธอมาร่วมมือกันทำเพลงขึ้นมา นั่นคือจุดเริ่มต้นของภาพยนตร์เรื่องนี้ครับ

เรื่องราวต่อจากนั้นก็เราถึงการทำเพลงขึ้นมาระหว่างเกรตต้าและแดน ซึ่งตัวภาพยนตร์นั้นจะเล่าเรื่องเดินหน้า และย้อนกลับมาเพื่อบอกถึงเรื่องราวก่อนหน้าว่ามีที่มาอย่างไร ไม่สับสนแน่นอนครับ กลับทำให้เราเข้าใจเรื่องราวมากขึ้นครับ แต่ประเด็นที่จะพูดถึงก็คือ ดาวหลงทาง หรือ Lost Stars ที่เป็นเพลงโปรโมตของภาพยนตร์เรื่องนี้ ด้วยตัวบทภาพยนตร์ การแสดง และบทเพลง มันสอดคล้องจนเป็นหนึ่งเดียวกันจริงๆ


ธีมที่ว่าด้วย ดาวหลงทาง นั้นก็เปรียบเสมือนกับตัวละครทั้งหมด ต่างก็เป็นดาวที่หลงทาง หมดอาลัยตายอยากกับชีวิต เป็นดาวที่ไร้แสง รอดาวที่จะมานำทาง และกลับมาส่องแสงเหมือนเดิมอีกครั้ง

แดน เป็นคนตกงาน ติดเหล้า เมียทิ้ง ลูกไม่เอา หลงทางเคว้งคว้างจนเกือบจะคิดสั้น (พี่มาร์กน่าสงสารมากครับกับฉากที่ต้องโดนไล่ออกมา)

เกรตต้า หลังจากโดนแฟนหนุ่มทิ้ง เธอก็เคว้งคว้าง หอบข้าวของทั้งหมดไปอยู่กับเพื่อนชายคนสนิท เธอหลงทางไม่รู้จะทำอย่างไรต่อกับตัวเอง คิดอยู่อย่างเดียวคือต้องกลับบ้าน เนื่องจากเงินจะหมดแล้ว (พี่อดัมช่างใจร้ายจริงๆ)

เดฟ แฟนหนุ่มของเกรตต้า ผู้หลงใหลและงมงายกับชื่อเสียงที่เพิ่มพูน จนยอมสูญเสียหญิงผู้ที่รักเขาและคอยอยู่เคียงเขาตลอดมา

สตีฟ เพื่อนชายคนสนิทองเกรตต้า นักดนตรีเปิดหมวกในนิวยอร์ก ซึ่งหลงคิดว่าสักวันตัวเองต้องมีชีวิตที่สุขสบายด้วยการเป็นนักร้องหรือนักดนตรีมืออาชีพ

มิเรียม เมียของแดน หญิงที่หลงผิดคิดนอกใจ เกือบจะทิ้งแดนและลูกไปกับนักร้องอีกคน แต่ทว่าอีกฝ่ายดันชิ่งหนีซะก่อน

ไวโอเล็ต ลูกสาวของแดน เด็กสาวที่หลงทางอย่างมากเพราะครอบครัวพังพินาศ ด้วยความที่เริ่มโตเป็นสาวจึงหลงใหลได้ปลื้มกับเด็กหนุ่มที่โรงเรียน จึงทำทุกหนทางเพื่อให้เขามาสนใจ ถึงกับยอมนุ่งสั้นเสมอหูเหมือนใบหนาดอาร์สยาม (อุ๊บส์)


จะเห็นแล้วว่า ตัวละครหลักๆ ทั้งหมด ต่างคนต่างหลงทาง สูญเสียบางสิ่งในชีวิต แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น จึงจุดประกายในตัวเอง เพื่อที่จะกลับมามีชีวิตที่ปกติสุขอีกครั้ง ซึ่งแต่ละคนก็มีดาวนำทางเป็นของตัวเอง ซึ่งดาวนำทางไม่ใช่ใครที่ไหนไกล ก็เป็นคนข้างกายของแต่ละคนนั้นแหละ จากดาวหลงทาง มาเป็นดาวนำทางแก่กันและกัน

แดน ที่ได้พบกับเกรตต้า เธอเป็นเหมือนดาวนำทางของเขา ทำให้เขาคิดที่จะทำเพลงอีกครั้ง เพื่อที่ตัวเองจะได้มีงานทำ เมียและลูกสาวจะได้เข้าใจเขาอีกครั้ง

เกรตต้า ที่ได้พบกับแดน เขาเป็นเหมือนพ่อ พี่ชาย (อาจรวมไปถึงคนรัก) เป็นผู้นำหนทางสว่างแก่ชีวิตเธอ ทำให้เธอรู้สึกมีกำลังใจที่จะต่อสู้กับปัญหาต่างๆ ทำให้เธอกลับมาส่องแสงได้อีกครั้ง

เดฟ ชื่อเสียงที่โด่งดังของเขานั้นไม่ใช่ทุกสิ่ง เขากลับพบว่าตัวเองยังขาดบางอย่างในชีวิต นั่นทำให้เขาพยายามกลับมาหาเกรตต้า เพื่อที่จะขอให้เธอให้อภัยเขา และให้เธอช่วยนำทางให้เขากลับมาเป็นเดฟคนเดิม

สตีฟ หลังจากที่ต้องแสดงเปิดหมวกมานาน การที่ได้เจอเกรตต้า ก็ทำให้เขาได้งาน มีเงิน มีชีวิตที่ดีขึ้น

มิเรียม การที่แดนพบหนทางในการทำงานครั้งใหม่ ทำให้เขาต้องมาปรึกษาและขอร้องให้เธอช่วยเขาในยามจำเป็น ก็ทำให้เธอได้คิดถึงวันเก่าๆ และกลับมาเป็นมิเรียมที่รักแดนเหมือนเดิม

ไวโอเล็ต เมื่อพ่อของเธอกลับมาโลดแล่นอีกครั้ง แม่และเธอก็ต้องร่วมหัวจมท้ายด้วย อีกทั้งการได้พบกับเกรตต้า ทำให้เธอได้มีพี่สาวที่ช่วยชี้แนะในเรื่องต่างๆ ทั้งเรื่องของการเล่นดนตรี ไปจนถึงการดึงดูดความสนใจจากหนุ่มในโรงเรียนของเธอ


จากเหตุการณ์ต่างๆ ในตอนต้นเรื่อง ไปจนถึงบทสรุปสุดท้ายของภาพยนตร์นั้น แน่นอนว่ามันทำให้เราได้ข้อคิดของการใช้ชีวิต ซึ่งก็คือ เราเป็นดาวที่ส่องแสงได้ แต่จะทำอย่างไรให้แสงของเรานั้นสุกสว่าง ไม่ดับลงกลายเป็นดาวที่หลงทาง นั่นก็คือ เราต้องมีดาวนำทาง หรือเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้านสักคน คนที่พร้อมจะช่วยเหลือ เคียงข้างเราอยู่ตลอดเวลา คนที่ทำให้เราใช้ชีวิตไม่หลงทิศหลงทางนั่นเอง

ข้อดี: บทภาพยนตร์ที่ลงตัว การแสดงชั้นดีของแต่ละนักแสดง ภาพมุมต่างๆ ของนิวยอร์ก รวมทั้งเพลงระกอบที่ไพเราะมากๆ นั้น ภาพยนตร์เรื่องนี้จัดว่า Feel Good สุดๆ

ข้อเสีย: แทบจะหาข้อเสียยากมาก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มี ส่วนตัวแล้วมีบางช่วงที่ความสัมพันธ์ของตัวละครเอกนั้นดูกระอักกระอ่วนมาก เกือบจะเฟลแล้วด้วย แต่ก็ขอขอบคุณผู้กำกับและผู้เขียนบทที่ไม่ทำให้มันเกินเลยกว่านี้ มิฉะนั้นแล้ว จากที่จะรักจะกลายเป็นเกลียดไปทันที (ส่วนตัวนะครับ อิอิ)

จากที่ไม่คิดว่าจะมีภาพยนตร์ซัมเมอร์เรื่องไหนมาแทนที่ X-Men: Days of Future Past ได้ จนกระทั่งมาเจอ Begin Again นี่แหละครับ ผมขอให้คะแนนเรื่องนี้โดยที่คะแนนเต็ม 10 ผมให้ 9 ครับ

ท้ายที่สุดนี้ ไม่ว่าเราจะเป็นใคร หรือทำอะไร จงอย่าหยุดที่จะส่องแสงในตัวเองออกมา จงทำสิ่งที่มีคุณค่า สิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองและคนรอบๆ ข้างเราให้มีความสุข และอย่าลืม !!! จงมีดาวนำทางเป็นของตัวเองสักดวงนะครับ


... อ้อ เกือบลืม เพลงประกอบภาพยนตร์แต่ละเพลงนั้นล้วนแล้วแต่มีความหมายที่ลึกซึ้งและเข้ากับตัวภาพยนตร์อย่างมาก และการที่ได้เสียงร้องของ “Keira Knightley” ไปจนถึงนักร้องนำวง Maroon 5 “Adam Levine” มาร่วมขับกล่อมบทเพลงต่างๆ นั้นทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ที่คุณไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

ผลงานรีวิวนี้เป็นผลงานชิ้นแรก หากผิดพลาดไป ก็ขออภัยด้วยนะครับ ชอบดูภาพยนตร์แต่ไม่เคยรีวิวเลย (ติชมได้นะครับ เป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ เผื่อจะมีรีวิวต่อๆ ไปออกมาให้อ่านอีกครับ ขอบคุณครับ)

แก้ไขล่าสุด 11 ก.ค. 57 04:57 | เลขไอพี : ไม่แสดง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | `|hp|Hogwarts. | 12 ก.ค. 57 21:34 น.

สุดยอดเลย เราจ้ำจี้ไปดูเรื่องนี้ไม่เคยอยากดูหนังแนวนี้เลย พอดูเรื่องนี้แล้วชอบมากๆ ไม่รู้ทำไมทั้งๆที่ไม่ค่อยมีอะไร เป็นเรื่องแรกเลยที่ทำให้เราไปดูรอบที่2

ไอพี: ไม่แสดง

#2 | adkk | 22 ส.ค. 57 19:51 น.

ชอบเรื่องนี้มากกกกกกกเหมือนกันค่ะะะ )) เห็นด้วยว่าหาข้อติไม่ได้จริงๆ
ปล. แอบอยากให้เกรตต้าลงเอยกับแดนนิดๆอ่ะค่ะ โดยเฉพาะฉากที่แดนจับมือเกรตต้าแนบที่หัวใจ โอ้ยฟินนนนน

ไอพี: ไม่แสดง

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google