R e V i e w : ฉะแหลก ส่วนผสมเครื่องสำอางแบรนด์ดัง Part 2

24 ก.ค. 57 12:42 น. / ดู 14,962 ครั้ง / 3 ความเห็น / 4 ชอบจัง / แชร์
มาล้าวๆ หลังจาก Part 1 ผ่านไปแน่นอนว่า Part 2 ต้องตามมาแน่ๆ นี่ไง พาร์ทสอง ตามมาแล้ว ไม่พูดพร่ำทำเพลงเนอะ บอกเลยละกันว่าธีมวันนี้มาในสารสกัดหลักอะไร


ตัวอะไรวะ (ทำเสียงและหัวเราะแบบมาดามมด) ตัวนี้คือ Bifida Ferment Lysate เป็นสารแบคทีเรียหมักบ่ม ในแบรนด์ไทยและแบรนด์ในท้องตลาดทั่วไปบอกเลยว่าหาได้ยากมาก เพราะแพง (แต่ก่อน)ติดสิทธิบัตร แต่ประสิทธิภาพนางดีมากนะจ๊ะ เพราะสามารถลดริ้วรอยได้ และกระตุ้นให้ผิวเกิดการซ่อมแซมตัวเองได้ถึงระดับ DNA เลยล่ะ วะ วะ ว้าว แหล่มขนาดนี้ไปดูกันเต๊อะว่ามีผลิตภัณฑ์ตัวไหนใช้มั่ง



พูดถึงสารสกัด Bifida แบรนด์แรกที่จะนึกถึงคือ Estee Lauder Advanced Night Repair Synchronized Recovery Complex ii (เขาปรับสูตรละจ้า) ฉะส่วนผสมให้ฟังเลยเนอะ ตัวแรกคือ น้ำ เป็นตัวทำละลายนำพาสารซึมลงผิว(ซึมง่าย ไม่ต้องคิดเยอะ น้ำในผิวเราก็มี เข้ากันได้) ตัวต่อไปไฮไลต์ของเขาเลยคือ Bifida Ferment Lysate ซึ่งอย่างที่เคลมไปว่าสามารถซ่อมผิวได้ถึงระดับDNA ผิวที่ถูกUVA(ผิวแก่ เหี่ยวจากแดด)ทำลายก็บรรเทาลงไปได้ มี Butylene Glycol ให้ความชุ่มชื้นและดูดน้ำในอากาศลงผิว กักเก็บความชุ่มชื้น เป็นตัวทำละลาย Arabidopsis Thaliana (ตอนแรกอ่านเป็นไทยแลนด์) ซึ่งเป็นสารสกัดจากดอกชนิดหนึ่ง ไม่เคยอ่านผลวิจัยว่าช่วยอะไรเพราะมันไม่กว้างพอ Lactobacillus Ferment เป็นการหมักบ่มแบคทีเรียชนิดเดียวกับนมเปรี้ยว (มีคนกระซิบมาว่าใช้ Sea Kelp บ่ม) มีสารอาหารและวิตามินบำรุงผิว ให้ความชุ่มชื้น บำรุงผิวที่อ่อนแอ มีสารสกัดที่ตามๆมาแต่ไม่น่าสนใจเพราะผลงานการวิจัยมีไม่สนับสนุนเพียงพอ (เคยทดลองก็พบว่าจริง) แต่ตัวที่น่าสนใจคือ Squalane ซึ่งเป็นชนิดเดียวกับในผิวคนเราจึงดูดซึมได้ง่าย ให้ความชุ่มชื้น ปกป้องเซลล์ผิว ลดการระคายเคือง (พบในมะกอกและกระดูกปลาฉลาม) Bisabolol ลดแบคทีเรีย การอักเสบ ระคายเคือง ซึ่งสกัดได้จากดอกคาโมมายล์สายพันธุ์เยอรมัน แต่แอบตกใจว่าทำไมถึงใส่ Anthemis Nobilis มาด้วย ซึ่งตัวนี้เป็นคาโมมายล์สายพันธุ์โรมัน จากผลการวิจัยพบว่าสู้สายพันธุ์เยอรมันไม่ได้ มีวิตามินอีมาต่อต้านอนุมูลอิสระ (แต่ทำไมน้อยจัง) กับไฮยาลูรอนให้ความชุ่มชื้น ปลอดน้ำหอมและแอลกอฮอล์ แต่ไม่ปลอดพาราเบนนะจ๊ะ ทว่าก็ใส่ Phenoxyethanol มาให้อีกตัวซึ่งเป็นสารกันเสียที่ปลอดภัย
สรุป: น่าซื้อมากพอสมควรเพราะยัดสารสกัดมาให้คุ้มราคา สารสกัด Bifida ก็ใส่ใน%สูงสุดทำให้คาดหวังผลได้มากๆ แต่แอบตงิดๆใจในสารบางตัวที่ใส่มาเพราะมันดูไม่จำเป็น แต่ก็ถือว่าใครที่แพ้น้ำหอม แอลกอฮอล์สามารถใช้ได้อย่างสบายใจพอสมควร




ตัวต่อไปแบรนด์เดิม แต่เปลี่ยนมาเป็น Micro Essence แทน ตัวนี้เป็นน้ำเหลวๆ เห็นว่าทำออกมาแข่งกับน้ำป้าเจี๊ยบ ฉะกันเลยละกัน ตัวแรกคือ น้ำ ของมันแน่อยู่แล้ว อันดับต่อไปคือสารสกัดแบคทีเรีย Bifida ได้ข่าวว่าEsteeใส่ตัวนี้ไม่ถึง10% (แหงล่ะปริมาณเยอะขนาดนี้ ใส่สูงสุดงบก็บานพอดี) สารที่น่าสนใจอีกตัวคือ Betaine ตัวนี้ให้ทั้งความชุ่มชื้น ต่อต้านการอักเสบระคายเคือง เสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง เป็นAfter-Sun หลังเจอแดดได้ด้วยนะ สารหมักบ่มจากจุลินทรีย์ในโยเกิร์ต และสารที่น่าสนใจมากๆคือ Acetyl Hexapeptide-8 ซึ่งทำหน้าที่เหมือนโบท็อกซ์คือลดการยึดตัวของริ้วรอยให้คลายลง แต่ถามว่าเข้มข้นไหมคำตอบคือไม่ ฮาาา แต่ใช้ไปนานๆอาจหวังผลได้ Acetyl Glucosamine เป็นไวเทนนิ่งและกระตุ้นให้ผิวสร้างไฮยาลูรอนตามธรรมชาติ ผลวิจัย P&G แนะนำให้ใช้ร่วมกับB3 แต่ในนี้ไม่มีB3ก็อาจเป็นไวเทนนิ่งได้ไม่สมบูรณ์ รวมถึงมี ทรีฮาโลส ให้ความชุ่มชื้นและปกป้องเซลล์ผิว มี ไฮยาลูรอน ให้ความชุ่มชื้นและสารสกัด คาโมมายล์สายพันธุ์โรมัน ซึ่งก็งงว่าทำไมไม่ใช้พันธุ์ที่ดีกว่าอย่างเยอรมัน ปลอดพาราเบน แอลกอฮอล์ และน้ำหอม เย้
สรุป: น่าใช้มาก สารหลายๆตัวน่าสนใจแม้สารสกัด Bifida ที่เป็นตัวชูโรงจะไม่เข้มข้นแต่ถ้าใช้คู่กับตัวบนก็น่าจะเห็นผลได้พอสมควร (แต่เสียเงินเพิ่มหลายพันเลยนะ อิอิ)




แบรนด์หรูหราไฮเอนด์อย่างลังโคมก็มีสารสกัดตัวนี้อยู่เช่นกัน ตัวนี้ขายดีมากนะ เรามาดูส่วนผสมกัน อันดับแรก น้ำ ทุกผลิตภัณฑ์ต้องมี ตัวต่อไปคือสารสกัด Bifida ซึ่งหลายคนบอกว่าเขาใส่ % สูงสุด มี กลีเซอรีน ให้ความนุ่มลื่น ชุ่มชื้น กักเก็บน้ำ มี เอ่อ... แอลกอฮอล์ ดีแนท (มีทำไมนะ) มี ไฮยาลูรอน ให้ความชุ่มชื้น ปลอดพาราเยนเพราะใช้ Phenoxyethanol มี Adenosine ซึ่งเป็นตัวต้านริ้วรอย แต่อยู่หลังสารกันเสียนี่น้อยมากนะ ดูไม่โอเคเลย ไล่ดูสารหลังจากนั้นก็แบบ...เฮ้อ มีน้ำหอมด้วยอ่ะ อะไรอ่ะแก !!
สรุป: เอาเงินไปซื้อเอสเต้ดีกว่า




แบรนด์น้องในเครือลังโคมอย่าง L'oreal Youth Code Pre Essence ก็ขอลงแข่งสนามนี้ด้วย ลำดับแรก น้ำ หนีไม่พ้นกันจริงๆ ตัวต่อไป Bifida Ferment Lysate อื้อหือ เข้มข้นมาก (แต่ไม่น่าจะใส่สูงสุดเพราะขวดนี้ราคา 990.- เอง ใส่%สูงสุดคงพันกว่าอะข่าาา) ตัวต่อไปเป็น กลีเซอรีน เอ๊ะ ก๊อปลังโคมมารึเปล่า เพราะตัวต่อไปก็แอลกอฮอล์ เลยยยย แต่...แต่ ดูจากตัวต่อๆไปแล้วกรีดร้องเบาๆ เพราะใส่เปปไทด์ลดริ้วรอยมาถึง2ชนิดเอาไว้ให้กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวอ่อนเยาว์ (แม้จะไม่เข้มข้นมากแต่ใส่มา=มีความหวีงในประสิทธิภาพ) อุว้าววว รวมถึงมี Adenosine มาเพิ่มด้วย ปราศจากพาราเบนแต่มีน้ำหอม เอ๊ะ ทำตามรุ่นพี่เหรอเนี่ย
สรปุ: เอาเงินจากลังโคมมาซื้อตัวนี้ดีกว่า ถึงจะเข้มข้นน้อยแต่ใส่สารหลายๆตัวกว่ามาก เป็นสารแอคทีฟระดับไฮเอนด์ที่ราคาเบาๆเลยจริงๆ คุ้มกว่ารุ่นพี่เยอะ
แก้ไขล่าสุด 4 มิ.ย. 58 22:44 | เลขไอพี : ไม่แสดง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | 'jellygreen' | 24 ก.ค. 57 18:30 น.

มาแล้ววววววววว รออ่านอยู่เลย เย่ๆๆ 

ไอพี: ไม่แสดง

#2 | Butterscotchie | 29 ส.ค. 57 11:52 น.

ขอบคุณน้าาา 

ไอพี: ไม่แสดง

#3 | nmw`โอนลี่ยูชูว. | 25 ต.ค. 57 20:01 น.

ตามอ่านทุกกระทู้ 555555
กระทู้ดีมีสาระมาก 

ไอพี: ไม่แสดง

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google