Guardians of the Galaxy ( 2014 ) Movie Review by FallsDownz

2 ส.ค. 57 21:06 น. / ดู 1,988 ครั้ง / 14 ความเห็น / 2 ชอบจัง / แชร์
Guardians of the Galaxy ( 2014 ) Movie Review บทวิจารณ์ภาพยนตร์โดย FallsDownz


"Guardians of the Galaxy คืออีกหนึ่งภาพยนตร์จากค่ายมาร์เวลที่เราคาดหวังว่ามันจะเป็นทุกสรรพสิ่ง มันเต็มไปด้วยการถาโถมซีจี , ระเบิด และเสียงหัวเราะใส่ผู้ชม แต่ไม่อาจที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ได้เลย"



        ถ้าหากจะเรียกว่านี้เป็นยุคของค่ายซุปเปอร์ฮีโร่ชื่อดัง Marvel อย่างแท้จริง ก็คงจะไม่ใช่คำพูดที่ดูจะเกินเลยจากความเป็นจริงซักเท่าไรนัก จากภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จมากมายและผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดของค่ายซุปเปอร์ฮีโร่ค่ายนี้ ไม่ว่าจะเป็นการยืนยันมาเรียบร้อยแล้วกับภาคต่อ Guardians of the Galaxy 2 ที่ทางดิสนีย์ดูเหมือนจะมั่นใจมากขนาดที่ประกาศภาคต่อตั้งแต่ตัวหนังยังไม่เข้าฉายด้วยซ้ำ หรือจะเป็นโปรเจคใหญ่ยักษ์ที่แฟนๆหลายคนรอคอยอย่าง The Avengers 2 ในปีนี้ ซึ่งในท้ายที่สุดจะนำไปสู่การต่อสู้ที่น่าจะยิ่งใหญ่ที่สุดของเหล่าซุปเปอร์ฮีโร่ใน The Avengers 3 ที่ปูเรื่องยาวกันมาเป็นปีๆ


เมื่อเราสำรวจดูค่าย Marvel แล้ว พอหันกลับไปมองดูค่ายซุปเปอร์ฮีโร่อีกค่ายหนึ่งอย่าง DC ก็จะพบว่าเหมือนจะประสบปัญหาเรื่อยๆกับภาพยนตร์ของพวกเขา เช่น Batman v Superman : Dawn of Justice ที่เลื่อนฉายยาวไปถึงปี 2016 ซึ่งก็หมายความว่าภาพยนตร์รวมตัวฮีโร่ของ DC อย่าง Justice League ก็ต้องเลื่อนฉายตามไปด้วย จะมีก็เพียงแค่ทีวีซีรียส์ของช่อง CW เท่านั้นที่พอจะสร้างความหวังที่เริ่มจะหายไปเรื่อยๆของค่าย DC ได้อยู่บ้างกับ Arrow กับ The Flash ที่ค่อนข้างจะประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง


ในส่วนของภาพยนตร์อย่าง Guardians of the Galaxy นั้น ก็เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งก้าวใหญ่และสำคัญของ Marvel อีกครั้ง กับตัวละครใหม่ๆ และจักรวาลที่เริ่มจะยิ่งใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ ของพวกเขา ซึ่งแน่นอนว่าการสร้างและแนะนำตัวละครใหม่ๆให้กับผู้ชมนั้น ต้องยากกว่าการนำตัวละครที่พวกเราชื่นชอบอยู่แล้วอย่าง Iron Man หรือ Thor มาใช้อย่างแน่นอน



ถึงแม้ว่านี้จะเป็นการแนะนำตัวสู่โลกใหม่ๆอีกด้านหนึ่งของค่าย Marvel แต่น่าแปลกใจที่ทุกอย่างมันช่างดูไม่แตกต่างไปจากภาพยนตร์ของค่ายเรื่องอื่นๆเลยแม้แต่น้อย
ถ้าหากคุณคาดหวังที่จะได้ชมซีจีอลังการงานสร้าง หรือ ฉากแอ็คชั่นสุดตื่นเต้น และตบท้ายด้วยมุขตลกสุดฮาที่ได้ผลบ้าง ไม่ได้ผลบ้างคุณก็จะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน เพราะนั้นคือสิ่งที่ดูเหมือนว่าได้กลายเป็นเอกลักษณ์ของภาพยนตร์จากค่ายนี้ไปทุกเรื่องเสียแล้ว

แต่สิ่งที่ดูเหมือนนับวันจะหนักหนาสาหัสขึ้นเรื่อยๆเปรียบเสมือนโรคร้ายที่รักษาไม่หายของภาพยนตร์ Marvel เลยก็คือบทภาพยนตร์ที่ซ้ำซากจำเจและไม่สามารถที่จะนำเสนออะไรใหม่ได้น่าสนใจมากพอขึ้นเรื่อยๆของมัน ต่อให้คุณไม่ได้ชมภาพยนตร์มาก่อนเลย คุณทราบดีว่ามันจะไปจบลงที่ใด หรือแม้กระทั่งตัวละครที่สุดแสนจะซ้ำซากตัดแปะมาจากแม่แบบ แทบจะขาวและดำอย่างชัดเจนของมันคุณก็เคยเห็นตัวละครแบบนี้มาก่อนแล้วในภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ซึ่งไม่แน่ใจว่าจุดๆนี้ทางค่าย Marvel พยายามแก้ไขกันอยู่หรือว่าไม่ได้สนใจที่จะแก้ไขมันเลยกันแน่


นอกจากนั้นแล้ว ไม่ทราบว่าด้วยความที่ว่าผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้คือเจมส์ กัน หรืออย่างไรไม่ทราบ ในด้านของมุขตลกของ Guardians of the Galaxy จึงแทบจะมีการสอดแทรกให้เห็นอยู่บนจอภาพยนตร์ทุกๆ 5 วินาที ซึ่งจากเป็นจุดที่น่าจะสร้างความบันเทิงให้กับผู้ชม กลายเป็นจุดที่สร้างความน่ารำคาญเสียมากกว่า จากจำนวนฉากและมุขตลกที่มากมายเกินความจำเป็นของมัน โดยเฉพาะในเมื่อมุขตลกส่วนใหญ่ของมันนั้นไม่ได้สร้างความตลกขบขันและได้ผลซักเท่าไรนัก ซึ่งเมื่อคิดถึงจุดนั้นแล้ว ทำให้ผู้เขียนยิ่งคิดเข้าไปอีกว่านี้คือวิธีการหนึ่งของเจมส์ กันหรือไม่ ที่จะพยายามกลบเกลื่อนตัวบทของภาพยนตร์ที่แทบจะไม่มีอะไรเลยด้วยมุขตลกที่ค่อนข้างจะฝืดของเขา


ในส่วนของนักแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้นั้น ในขณะที่บางคนนำแสดงผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมไม่ว่าจะเป็น คริส แพตต์ หรือ แบรดลีย์ คูเปอร์ที่พากษ์เสียงเป็นร็อคเก็ตได้อย่างยอดเยี่ยม นักแสดงบางคนก็แสดงผลงานในด้านแทบจะกลับกัน โดยเฉพาะเดฟ บาติสต้าที่เล่นได้แข็งเป็นหินไม่ใช่น้อย ซึ่งพาเอาตัวละครที่สุดแสนจะซ้ำซากของเขา น่าเบื่อยิ่งเข้าไปอีก ไม่แน่ใจว่าการตัดสินใจหันมาเล่นภาพยนตร์แทนมวยปล้ำเฉกเช่นเดียวกับ ดเวยน์ จอหน์สันหรือเดอะ ร็อคของเขา จะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องหรือไม่



ในท้ายที่สุดแล้ว Guardians of the Galaxy ก็คืออีกหนึ่งภาพยนตร์ของ Marvel ที่พยายามจะก้าวไปสู่อีกขั้นหนึ่งหากแต่ว่าตนเองกลับหารู้ไม่ว่าที่แท้จริงกำลังย่ำอยู่กับที่ ถึงแม้ว่ามันยังคงนำเสนอซีจีและฉากแอ็คชั่นที่น่าตื่นตาตื่นใจอยู่เช่นเคย แต่ผู้เขียนไม่อาจที่จะแน่ใจได้อีกต่อไปแล้ว ว่าในส่วนอื่นๆโดยเฉพาะบทภาพยนตร์ที่ซ้ำซากจำเจของค่ายซุปเปอร์ฮีโร่ค่ายนี้จะย่ำอยู่กับที่ไปอีกนานเท่าใด


Final Score [ B ]



สามารถอ่านบทวิจารณ์เก่าๆและติดตามบทวิจารณ์ใหม่ๆได้ที่นี้ครับผม http://fallsdownz.blogspot.com/

สามารถเข้าไปกดไลค์แฟนเพจกันได้ที่นี้ครับ
https://www.facebook.com/fallsdownzcritic
เลขไอพี : ไม่แสดง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | michaelangarano | 2 ส.ค. 57 22:24 น.

ดูเหมือนว่าความเห็นที่มีต่อ Guardians of the Galaxy จะแบ่งออกเป็น 2 ฝ่ายอย่างเห็นได้ชัด นั่นคือชอบและไม่ชอบไปเลยนะ

ฝ่ายแรกบอกว่า หนังสนุกมาก มันส์ ตลก ดราม่านิดหน่อย แถมบางคนยังบอกด้วยว่า นี่เป็นหนังมาร์เวลที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา! โอ้ว! ขนาดนั้นเลย

ส่วนอีกฝ่ายก็บอกว่า เป็นหนังแย่ (ขอเลี่ยงใช้คำว่าห่วย) มุกแป้กสนิท ฉากแอ็คชั่นจืดชืด น่าเบื่อ เสียดายตัง ป้าด! เอาล่ะซิ

ส่วนตัวผมเฉยๆ ดูก็ได้ ม่ดูก็ได้ หนังมันก็ดูซ้ำซากยังไงไม่รู้ หรือว่าผมดูหนังมาเยอะเลยดูเรื่องนี้แล้วออกจะธรรมดามากๆ แต่ทำไมผมดูcaptain ภาค 2 กลับไม่เห็นรู้สึกอะไรแบบนี้เลยแต่กลับรู้สึกออกจะสนุกไปกับหนังด้วยซ้ำทั้งที่เนื้อเรื่องก็แนวๆฮีโร่ปราบผู้ร้ายเหมือนกัน แต่captain2ยังรู้สึกดูสนุกกว่าเยอะเลยทั้งที่อะไรก็ซ้ำซากเหมือนกันแปลกเนอะ!!!(ความรู้สึกส่วนตัว)

ใน การ์เดียน ตัวละครทั้งหมดฮาเกรียนสุดๆมุขตลกทั้งเรื่องบวกกับเพลงยุค 70 ด้วยแล้วทำให้บางคนฟินกันใหญ่เลยจริงๆ แต่เรื่องนี้จัดอยู่ในขั้นยัดมุขตลกมากจนเกินไปจนบางครั้งก็รู้สึกว่ามันไม่ฮาสิ่งที่น่าเสียดายที่สุดคือบท ออกแนวสันติพิทักษ์รวมพลังปราบเหล่าร้ายเหมือนการ์ตูนมากจริงๆ จบง๊ายง่าย ตัวโกงก็ค่อนข้างไร้มิติแบบสุดๆ จึงทำให้ช่วงหลังของเรื่องนั้นดูดรอปลงไปจนหาวหลายครั้งอยู่เหมือนกันสุดท้ายต่างคนต่างความชอบครับ
สำหรับผมออกจะผิดหวังหน่อย ประมาณว่าหนังไม่ค่อยสนุกเหมือนที่คนอื่นเขาอวยกันนักสำหรับผม!!!

แก้ไขล่าสุด 2 ส.ค. 57 22:28 | ไอพี: ไม่แสดง

#2 | FallsDownz | 2 ส.ค. 57 23:05 น.

ส่วนหนึ่งผมว่า Guardian of the galaxy มันดันเป็นผู้กำกับหนังตลกมาก่อนด้วยไงครับ หนังมันเลยมีความเป็นตลกเยอะ แต่ประเด็นคือ ผมว่ามันมากจนเกินไป มากจนทำให้รู้สึกว่า หนังมันไม่เอาอะไรจริงจังซักอย่าง เอะอะก็ยิงมุข แถมตัวละครนี้ตัดแปะมาจากแม่แบบ Cliche สุดๆผมว่า โดยเฉพาะตัวร้ายนี้ผมรู้สึกว่า เอ็งทำอะไรได้มั้งทั้งเรื่อง เห็นมีแต่เดินไปเดินมา ยืนอยู่เฉยๆไม่ทำอะไร ฉากแอ็คชั่นสำหรับผมก็ถือว่าพอดูได้ ไม่แย่

แต่ถ้าจะให้เทียบกับ Captain America 2 : Winter Soldier นะครับ ผมพูดตามตรงว่าคนละชั้นเลยครับ แทบจะทุกด้าน แต่อาจจะเทียบลำบาก ผมว่า Theme หลักของ Cap American 2 มันค่อนข้างจะซีเรียสกว่า Guardian of the galaxy เยอะ ที่จะมาแตกต่างก็เพราะฝีมือผู้กำกับนี้แหละครับ ฉากแอ็คชั่นใน Cap 2 อลังการงานสร้าง สุดยอด และออกแบบมาได้อย่างยอดเยี่ยมมาก คือท่าทางการต่อสู้ของแต่ละตัวละครนี้ฟ้องเลย ว่าสองผู้กำกับทำการบ้านมาดีมากๆ มันยิ่งใหญ่สุดๆ พล็อตก็เต็มไปด้วยการเมืองที่เข้มข้น ถึงแม้ว่าเอาจริงๆนะ ถ้าเรามานั่งสำรวจจริงๆ บทมันก็ไม่ได้ใหม่หรอก ซ้ำเหมือนกันแหละ แต่วิธีถ่ายทอดออกมาของผู้กำกับ Cap 2 ทำได้อย่างยอดเยี่ยมกว่าเยอะครับ ใช่มันซ้ำ แต่มันก็เอาคนดูอยู่ ในขณะที่ Guardian of the galaxy บทรู้สึกแทบจะไม่ได้คิดอะไรเลย ฉันจะนู้น ฉันจะนี้ จบ ง่ายสุดๆ ที่สำคัญคือมุขตลกผมว่าฝืดพอตัว ตอนดู Cap 2 นี้ผมนั่งลุ้นทั้งเรื่อง ทั้งๆที่ต้องสารภาพเลยว่าไม่ชอบ Cap ภาคแรกเอาเลย ส่วน Guardian นี้ผมนั่งแล้วรุ้สึกเบื่อเล็กน้อย ออกแนวเรื่อยๆ ไม่ได้เกลียด แต่ก็ไม่ได้ชอบ

ไอพี: ไม่แสดง

#3 | jackie | 3 ส.ค. 57 10:36 น.

ตลกมากไป (ที่สำคัญฝืดอ่า) เราไม่หัวเราะเลยซักตอน บอกตรง!! เห็นเค้าขำกัน เรา อ้าวว ขำแล้วเหรอ ประมาณนี้เลยย

  งานนี้ ผกก ไม่แม่นซักเท่าไหร่ ผมดูไปหลับไป แม่เจ้า (ไม่เคยเป็น)
เรื่องเอาตลกนำเน้อเรื่อง ceo marvel ต้องเอาไปกลับไปคิดใหม่โดยเฉพาะที่จะทำแบบเดียวกันกับ Ant Manในปีหน้า นั้น ต้องทำการบ้านแล้วครับ

หรือนี่ คือ "ขาลง"ของ มาร์เวลล์ ซะแว้ว

ไอพี: ไม่แสดง

#4 | FallsDownz | 3 ส.ค. 57 16:56 น.

ผมกำลังสงสัยว่ามันเป็นมุขฝรั่งรึเปล่าครับ แบบเขาขำ เราไม่ขำ ไรงี้ ผมดูแล้วแทบไม่ขำเลย แล้วพี่แกก็โยนมาอยู่นั้นแหละมุขอะ

ไอพี: ไม่แสดง

#5 | Kwarddy | 4 ส.ค. 57 09:02 น.

ก็สนุกดีระดับนึง แต่ไม่น่าประทับใจ
จริงๆก็ไม่ได้คาดหวังและไม่คิดว่าต้องไปดูที่โรงด้วย
พอดีเจ้านายชวน เลยต้องไป
จริงๆ อยากเห็นฉากถล่มล้างบางดาวเคราะห์ที่กาโมร่าและเนบิวล่าเคยอยู่
รวมถึงอยากเห็นความงามของกาโมร่า ที่ดูยังไงๆก็รู้สึกสะอิดสะเอียน

แก้ไขล่าสุด 4 ส.ค. 57 09:03 | ไอพี: ไม่แสดง

#6 | am_pooh | 4 ส.ค. 57 09:07 น.

อวยอย่างแรงกับที่บอก.. "นี่เป็นหนังมาร์เวลที่ดีที่สุด" เพราะจากที่ดูคือ ธรรมดา ก็สนุกดี / ผมไม่อินกับหลายมุขตลก และเสียดายกับบางฉากที่แบบสวยเวอร์ แต่ตัดอารมณ์เร็วไปหน่อย ซึมซับไม่ทัน 
แต่จากที่ดูมา ผมชอบคาแรกเตอร์ของแต่ละตัวนะ และหนังมันก็สอนเด็กๆ ได้ดีนะครับ : )
แบบจะทำอะไรก็รู้จักคิดก่อน หรือแบบความซื่อสัตย์ รักษาสัจจะไรงี้
และเด็กที่ดูแถวหลัง ฮา ลั่นโรงเลย (แกอินขนาดนั้นเลยหรอ!)



ปล... ตอนเปิดเรื่องผมหลับ - -" พยายามฝืนละนะ แต่ก็ยังหลับ 555+
ปล.ผมไม่อินกับเพลงนะ เกิดไม่ทัน 55+

ไอพี: ไม่แสดง

#7 | EGG_normal | 5 ส.ค. 57 00:17 น.

Guardian of the galaxy สนุกมั้ย สนุกนะ แค่สนุก ตามมาตรฐานมาร์เวล ถึงจะอวยกัน ว่ามันเปิดจักรวาลหนังใหม่ให้มาร์เวล แต่ทั้งหมดทั้งมวล ล้วนอยู่ในมาตราฐานเดิมๆ ความฮา แอคชั่น แผนการร้ายระดับถล่มยับจักรวาล(แต่มันจะไร้ค่าและก็องแก็งทันทีเมื่ออยู่ต่อหน้าเหล่าพระเอก) ยานและไอเทมเทพๆ แต่ถามหน่อย มันจบแล้วมันได้ความรู้สึกอะไรหลังดูบ้าง ตอนดูสนุกมาก พอจบออกมา ก็เอ่อ.. ได้แค่สนุกอ่ะ โรแนนปูมาซะอย่างเทพ ทำลายล้างเผ่าพันธ์ แต่พอจะแพ้ก็... เห็นทุกเรื่องแล้วของมาร์เวล ตัวร้ายเก่งอหังการ์ขนาดไหน เจอทีมพระเอกเข้าไป อย่างหมาทุกเรื่อง รอธานอสเถอะ ตายง่ายอีกแน่ๆ ดูแล้วไม่ได้อิน ไม่ได้รู้สึกเฮ้ยจิตวิญญาณฮีโร่ มีบางอย่างในใจจัง ดูแล้วครุกกรุ่นในใจ ไม่ได้เลย มันได้แค่สนุก แค่นั้นจริงๆ โมเม้นท์น่าจดจำอะไรบ้างที่มันตรึงตาตรึงใจที่ต้องมาพูดถึงฉากนี้ซ้ำๆ แทบจะไม่มี เวลาใครถามถึงว่าเฮ้ย ดูGuardian of the galaxyแล้วเป็นไงบ้าง แน่ใจเลยบางคนตอบเลยง่ายๆ "สนุก สนุกมากๆ อย่างฮา และ i am Groot... ทีเหลือจำไม่ได้แล้ว ตัวร้ายทำอะไรนะ แซนดร้ามันคืออะไรนะ ชาวครี ธานอส โรแนน แล้วมันอะไรอีกนะ .... แต่จำได้แม่นเลย I am Groot!!" ผมเบื่อมากกับหนังมาร์เวล ที่ยังคงรักษามาตรฐานแบบหากินกับแฟนรุ่นใหม่และเด็กๆได้อย่างไม่รู้จบ ส่วนผู้ใหญ่จะได้อะไรจากหนังเรื่องนี้ คือ สนุกเหมือนกันนะ คลาดเครียดได้ดีจัง เพลงได้ใจเต็มๆ อืม สนุกจัง...จบ

ผมแฟนคอมมิคทั้งมาร์เวลและดีซีนะ(แต่ดีซีมากกว่า) ส่วนตัวแล้วปลื้มทุกเรื่องทุกค่ายแหละ ตอนเห็นข่าวGuardianเป็นหนัง ก็ดีใจและคาดหวังมากๆ เห็นคะแนนเว็ปนอกแล้วมันก็ดีใจนะ แต่พอได้ดูจริงๆ สุดท้ายก็เดิมๆ ตั้งแต่อเวนเจอร์มา ไม่มีอะไรใหม่เลยสำหรับหนังค่ายมาร์เวล ส่วนตัวชอบหนังมาร์เวลจากค่ายอื่นทำมากกว่า โดยเฉพาะX-men First ClassและAmazing Spider Man2 กล้าคิดต่างและไม่ทำหนังออกมาเด็กจนเกินไปด้วย

ปล. รอ Bat v Sup อยากดู Trinityสุดหัวใจ...

แก้ไขล่าสุด 5 ส.ค. 57 03:53 | ไอพี: ไม่แสดง

#8 | FallsDownz | 5 ส.ค. 57 01:30 น.

เห็นด้วยกับคุณ EGG_normal ทุกประการครับ ถึงแม้ว่าผมต้องพูดเลยว่าไม่เคยอ่านการ์ตูนเลย (เคยอ่านตอนดังๆที่เขาส่งต่อๆกันมาบ้างเช่นตอนธานอสกับถุงมือสุดโกงแต่ก็ลืมไปแล้ว = =)

ผมว่าประการหนึ่งเลยก็คือ Marvel โดนซื้อไปโดย Disney ครับ มันทำให้ถูกจำกัดว่าจะต้อง PG จะต้องเด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูดี และรุนแรงมากไม่ได้ แต่ที่ผมแปลกใจก็คือ หนังมาร์เวลบางเรื่องมันก็ดีเหมือนกันนะ อย่าง Captain America 2 : Winter Soldier อืมยอมรับ บทมันก็ นะ...งั้นๆแหละ แต่มันถ่ายทอดออกมาได้เคร่งเครียดและน่าสนใจ หยั่งกับเป็นหนังผู้ใหญ่ที่อยู่ภายใต้เรท PG เลยทีเดียว แต่พอหันมาดู Guardian of the Galaxy มันเหมือนทุกอย่างถอยหลังมาเป็นเด็กหมด ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าเพราะว่าในเรื่องนี้มันเต็มไปด้วย แรคคูน กับ ต้นไม้พูดได้รึเปล่า เลยไม่อยากให้เครียดมากนัก (ผมมั่วเอาเองนะฮะ) อย่างที่บอกทุกอย่างมันดูช่างง่ายดายหยั่งกับในหนังสือการ์ตูนไปหมด ตัวร้ายก็ปูมาซะอลังการยิ่งใหญ่ ถึงเวลาจริงไม่เห็นทำอะไรเลย = = อย่างที่บอกไปในบทวิจารณ์ครับ ณ ปัจจุบันผมก็ไม่แน่ใจว่าทางค่าย Marvel จะคงบทเช่นนี้ไปถึงไหน แต่คาดว่าก็คงอีกนาน เพราะยังไงก็ขายออก ขายดี แถมหลายคนชอบเสียด้วย (ขนาดกลุ่มนักวิจารณ์ต่างประเทศยังชอบ) หรือเพราะผมไม่ใช่แฟน Marvel ก็ไม่รู้ เลยไม่ฟินแบบคนอื่นๆเขา = =

ไอพี: ไม่แสดง

#9 | EGG_normal | 5 ส.ค. 57 04:03 น.

ผมฟินนะครับ ตอนได้เห็นทานอสแค่นั้นแหละ มาอย่างราชา แต่อนาคตกลัวจะตายง่ายเหลือเกิน ToT

กราเดี้ยนผมดูสองรอบ วันละรอบครับ 3D(กับน้อง)กับธรรมดา(กับแฟน)
3Dสวยเฉพาะฉากสโลว์บอกเลย ดูธรรมดาก็พอ ส่วนความรู้สึกหลังดู รอบแรก สนุกมากๆ ฮาจริง พอมารอบสองได้ดูแบบละเอียดจริงๆ เก็บหมด หนังมันธรรมดามากๆ เฉยสุดๆ เดิมๆเลย เอาฮาอะไรมากมาย ตัดอารมณ์เละ (หรือเพราะมันสองรอบติดกันก็ไม่รู้นะ) ขนาดแฟนผมเส้นตื้น ยังไม่เห็นจะขำเท่าไหร่เลย พอหนังจบแฟนผมจำไรไม่ได้เลย จำได้แต่ต้นไม้กะแรคคูนน่ารัก 55555

ส่วนตัวเมื่อก่อนเป็นแฟนหนังมาร์เวลพอสมควรนะครับ ตอนนั้นมันแปลกใหม่ด้วยแหละ แต่พอทั้งหมดมันเดิมๆ มากๆเข้าก็เบื่อ เอาใจตลาดมากๆ ดูก็ได้ไม่ดูก็ได้แล้ว ตอนนี้มาเป็นแฟนหนังดีซีเต็มตัว ตั้งแต่เด็กรู้จักแบทแมนก่อนสไปดี้ และรู้จักJustice League ก่อนAvengers ก็เลยค่อนข้างตื่นเต้นหลังจากแบทแมน ทิม เบอร์ตัน จนมาโนแลน สุดท้ายมาเจอผู้กำกับในดวงใจแซ็ค สไนเดอร์ในWatchmen และMan of steel ผมก็รอคอยBat v Sup และการมาถึงของJustice Leagueในอนาคตมากๆ มันน่าลุ้นมาก ว่าจะเจออะไรใหม่ๆแบบไหนในหนังฮีโร่ในโลกมืดมนนี้เหลือเกินครับ

แก้ไขล่าสุด 5 ส.ค. 57 04:09 | ไอพี: ไม่แสดง

#10 | ma_meaw | 5 ส.ค. 57 15:37 น.

ต้องเข้าใจน่ะครับว่า GOTG เป็น comic ในยุคแรกๆของมาร์เวลเลยแล้วก็หยุดเขีียนไปนานมาก เนื้อเรื่องเลยดูล้าสมัยไปนิดนึงน่ะ ดูดีๆแล้วเรื่องนี้บทมันก็คล้ายๆกับ The Avengers นั่นแหละที่ตัวละครแตกขอกันแล้วมาร่วมมือกันทีหลัง+ฉากอลังการ

จขกท.อย่าพึ่งหมดหวังกับบท ยังมีอะไรอีกมากของ marvel ที่น่าสนใจ แต่นั่นแหละขึ้นอยู่กับผู้กำกับ+คนเขียนเหมือนกัน แต่ก่อนดูก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เรื่องนี้ก็ประมาณ cap1 นั่นแหละน่าจะเอาไว้ปูเนื้อเรื่องให้เรื่องอื่นๆในอนาคต

7/10 พอน่ะ 

ไอพี: ไม่แสดง

#11 | hrwk. | 5 ส.ค. 57 20:24 น.

เราว่าหนังเรื่องนี้สนุกดีนะคะ ในฐานะของคนที่ดูหนังแบบไม่ได้คิดอะไรมากแบบเรา
มุขก็ตลกพอใช้ได้ คงเป็นเพราะเราเป็นผู้หญิงด้วย (เกี่ยวไหม?5555)
แต่เรารู้สึกเบื่อกับมุขที่รวมพวกไปเพื่อกำจัดผู้ร้าย ปกป้องโลก อะไรแบบนี้ มันเป็นหนังที่พอจะเดาตอนจบออก แล้วตัวละครเราว่ามันก็มาแนวเดิมๆ พระเอกไม่ขรึมเงียบจริงจังก็กวนโอ๊ยไปเลย แล้วก็มีตัวซื่อๆ กับตัวฉลาดแต่ปากมาก
แต่พวกซีจีกราฟฟิคอะไรนี่เรายอมรับว่าอลังในความคิดเรานะคะ เราโอเคเลย
มันต่างจากพวก The Avengers ตรงที่มันไม่ต้องเครียดอะไรมาก (เวลาเราดูหนังพวกอเวนเจอร์ชอบคิดล่วงหน้าไปก่อนว่าจะเกิดอะไรขึ้น) ในความคิดเราเฉยๆนะคะ แหะๆ แค่อยากแสดงความคิดด้วย 

ไอพี: ไม่แสดง

#12 | FallsDownz | 6 ส.ค. 57 00:58 น.

ตราบใดที่ยังคงมีคนดูและหนังยังทำรายได้ ผมว่ายังไงหนังแนวนี้ก็จะมีออกมาให้ดูเรื่อยๆแหละครับ นี้ได้ยินมาว่าเก็บต้นทุนสร้างหลายร้อยล้านไปได้ตั้งแต่อาทิตย์แรกแล้วด้วยซ้ำ ที่เหลือกำไรล้วนๆ

จริงๆผมว่าเนื้อเรื่องมันก็ไม่เชิงเชยหรอกนะครับ อย่าง X-Men : First Class ผมว่าเนื้อเรื่องเอาจริงๆมันก็เชย แต่วิธีการถ่ายทอดและกำกับมันออกมามันคนละชั้นอะครับ อันนั้นนี้มีชั้นเชิง ซีเรียส และเอาประวัติศาสตร์มาผสม(มั่วๆ)ได้อย่างน่าสนใจ รวมถึงความสัมพันธ์ความขัดแย้งของตัวละครต่างๆก็น่าสนใจมากๆอีกด้วย

ในขณะที่ GOTG ตัวละครทุกตัวอย่างที่บอกตัดแปะมาจากแม่แบบ ขาว/ดำ ชัดเจน เนื้อเรื่องก็ไม่ได้น่าสนใจเลยแม้แต่น้อย จริงๆส่วนใหญ่ๆเลยผมว่ามาจากผู้กำกับเนี้ยแหละครับ GOTG ผู้กำกับเคยทำหนังตลกมาก่อน มันเลยมีธีมตลกเยอะ แต่ผมว่ามันเยอะเกินจนมันไปดึง tension ของหนังลงมาด้วยทำให้รู้สึกว่าหนังมันไม่เอาจริงเอาจังอะไรซักอย่าง ปูตัวละครก็แย่สุดๆ อีกทั้งด้วยความที่ตัวละครหลายๆตัวเป็น CG ส่วนบางคนที่ไม่เป็น CG ก็แสดงไม่ค่อยจะได้เรื่อง ก็เลยยิ่งพาทำให้ตัวละครเหล่านี้ไม่น่าสนใจเข้าไปใหญ่

ก็นะแต่ที่ผมดูมาจาก IMDB เห็นลงไว้ว่าภาคต่อ GOTG เป็นผู้กำกับท่านเดิม
เมื่อวานผมเข้าไปใน 9gag นี้บางคนถึงกับอวยว่านี้มันยอดเยี่ยมพอๆกับ The Dark Knight ภาพยนตร์แห่งปีอะไรทำนองนั้นเลย ผมอ่านแล้วแบบอึ้งเหมือนกันนะ ส่วนตัวผมว่า 2 เรื่องนี้มันคนละชั้น คนละคลาสกันด้วยซ้ำ ไม่ได้อยู่ในลีคเดียวกันเลย ไม่รู้คิดแบบนี้คนเดียวรึเปล่า = =

ไอพี: ไม่แสดง

#13 | michaelangarano | 6 ส.ค. 57 02:11 น.

โห้!!! เอาไปเทียบกับ the dark knight เลย อย่างนี้คงไม่ได้ชื่นชมหนังแล้วนะ มันจะออกเป็นการอวยหนังกันซะมากกว่า  หนังมันไม่ได้ดีขนาดต้องไปเปรียบเทียบแบบนั้นเลยเผลอๆไม่ได้ครึ่งด้วยซ้ำ ขนาดผมชอบ captain america ภาค2 มากๆผมยังไม่กล้าเอาไปเทียบกับ the dark knight เลยนะขนาดcap2หนังมีบทที่ดี แอคชั่นที่มัน แต่ก็มันยังไม่ถึงระดับ the dark knight เพราะหนังระดับนั้นมันมีอะไรที่เหนือชั้นไปมากกว่านั้นมาก

ไอพี: ไม่แสดง

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google