‘อ้วน ลง พุง’ อ้วนอันตราย เสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด

11 พ.ย. 57 15:07 น. / ดู 479 ครั้ง / 2 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์
‘อ้วน ลง พุง’ อ้วนอันตราย เสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด
เกณฑ์ตรวจสอบรอบเอวของคุณว่าอยู่ในภาวะเสี่ยงแค่ไหน รอบเอวคุณผู้หญิงไม่ควรเกิน 33 นิ้วและไม่เกิน 36 นิ้วในผู้ชาย ทำไมหน้าท้องที่แบนราบหรือคอดกิ่วในวัยหนุ่มสาวกลับมาเป็นสภาพแบบที่เราไม่ชื่นชม ส่วนเกินที่เพิ่มขึ้นมานั้น รับรองว่าไม่ใช่กล้ามเนื้อแน่นอน แต่เป็นไขมันและไขมันล้วน ๆ
ไขมันหน้าท้องมีอยู่สองประเภทที่เราควรรู้จักเอาไว้ คุณลองเอามือหยิกหน้าท้องคุณดู คุณจับได้แต่ผิวหนังหรือหนังติดมัน(เหมือนกับอาหารติดมันที่เราชอบกินทุกวัน)
ส่วนไขมันที่อยู่ติดผิวหนังและกล้ามเนื้อเราเรียกว่าไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Fat) ส่วนนี้เป็นไขมันที่เรามองเห็นเป็นตัวปกปิด six pack ที่แสนงามของเรา ไขมันชนิดนี้อันตรายต่อสุขภาพของเราไม่มากนัก แต่อีกตัวสิน่ากลัว
ไขมันในช่องท้อง(Visceral Fat)ไขมันตัวนี้ไม่ทำให้พุงเรายื่นออกมาน่าเกลียด แต่มันจะอยู่ระหว่างกล้ามเนื้อท้องกับอวัยวะภายในช่องท้องของเรา หากมีมากก็เหมือนเราเอาไขมันไปหุ้มอวัยวะภายในร่างกายของเรา มันน่ากลัวขนาดไหน
ความน่ากลัวของไขมันในช่องท้องนี้ มันสามารถทำให้อวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกายเกิดการอักเสบในระดับเซลล์ ซึ่งเป็นสาเหตุใหญ่ของโรคอันตรายต่าง ๆ อาทิ โรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง เส้นโลหิตในสมองตีบหรือแตก เป็นเรื่องเร่งด่วนอย่างยิ่งสำหรับคนที่รักสุขภาพและรักคนใกล้ตัวอยากอยู่กับเขานาน ๆ การกำจัดไขมันในพุงควรเป็นวาระสำคัญสำหรับคุณ

มีการศึกษาถึงวิธีการลดพุงโดยใช้กลุ่มศึกษานับพันคน โดยแบ่งเป็นกลุ่มแรกเน้นควบคุมอาหารอย่างเดียว กลุ่มที่สองเพิ่มการออกกำลังกายเข้าไปด้วย ผลปรากฏว่ากลุ่มที่ควบคุมอาหารไปพร้อม ๆ กับการออกกำลังกาย สามารถลดไขมันหน้าท้องได้ดีกว่ากลุ่มแรก
การออกกำลังกายบางประเภทก็ไม่ใช่ปัจจัยหลักในการลดพุง บางคนวิ่งบนสายพานแบบหนักหน่วง หรือเล่นเวทยกน้ำหนัก ซิทอัพเป็นร้อยครั้ง หัวใจเราได้ประโยชน์ กล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น แต่หน้าท้องก็ไม่เรียบเนียนดังใจต้องการ พุงอาจจะยุบไปหน่อย ได้ผลเล็กน้อย อะไรคือข้อผิดพลาดตกหล่น การลดไขมันหน้าท้องทั้งไขมันใต้ผิวหนัง(Subcutaneous Fat) และไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat) ต้องใช้ความตั้งใจจริง ขอให้ระลึกไว้เสมอว่ากว่าที่เราจะสะสมไขมันจนได้พุงใหญ่ขนาดนี้ เราต้องใช้เวลาไม่น้อยและเมื่อจะขจัดมันออกไปเราก็ต้องใช้เวลาพอสมควร ไม่ใช่ปล่อยให้มันใหญ่ใช้เวลามาห้าปีแล้วจะจัดการมันออกไปในเวลา5 อาทิตย์คงเป็นไปได้ยาก ในสภาพพฤติกรรมการกินการออกกำลังกายแบบเดิม ๆ

ลดพุง...ลดโรค
การรักษา metabolic syndrome หรือโรคอ้วนลงพุงนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือการปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตเป็นอันดับแรก เช่น การลดน้ำหนัก ออกกำลังกาย ควบคุมอาหารที่รับประทาน บริโภคผักและผลไม้ให้มากขึ้น ลดการดื่มสุรา ตรวจสุขภาพเป็นประจำ เมื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้ว ยังไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาล ไขมัน หรือความดันโลหิตได้ อาจจำเป็นต้องมีการใช้ยาในการควบคุมร่วมด้วย เป้าหมายในการใช้ยาก็เพื่อลดระดับไขมัน Triglyceride เพิ่มระดับไขมัน HDL(ทำหน้าที่เก็บกวาดคอเลสเตอรอลจากหลอดเลือดไปขจัดที่ตับ นับว่าเป็นชนิดดี) และลดระดับไขมัน LDL(ทำหน้าที่นำคอเลสเตอรอลออกจากตับไปสะสมตามผนังหลอดเลือด ถือว่าเป็นชนิดไม่ดี) ซึ่งเหล่านี้เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด และโรคเบาหวาน

สรุปคือ ยิ่งพุงโตมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งสะสมโรคมากขึ้นนั่นเอง รู้อย่างนี้แล้ว หันมาออกกำลังกายวันละนิด ค่อยๆ ปรับพฤติกรรมทีละน้อย ทำบ่อยๆ จนกลายเป็นไลฟ์สไตล์ นอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคดังกล่าวแล้ว ยังเป็นเหมือนเกราะป้องกันโรคภัยต่างๆ ทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นอีกด้วย...

ทางลัดสำหรับคนอยากลดพุง
Slim Melt Lunch Time Slim Lipo
- เลเซอร์หนึ่งเดียวที่หลอมละลายเซลล์ไขมันให้กลายเป็นน้ำมันได้ใน 30 นาที
- ไม่เจ็บ ไม่บวม ไม่ช้ำ
- ครั้งเดียวเห็นผล
- Dinner ได้ทันทีหลังการรักษา ทำงานได้ตามปกติในวันถัดไป
- ออกกำลังกายได้ภายใน 2 – 3 วัน

Q & A

Q : Slim Melt คืออะไร
A : เป็น “นวัตกรรมขั้นสูง” ซึ่งใช้แสงเลเซอร์ระบบ Dual – A หลอมละลายเซลล์ไขมัน โดยผ่านรูเล็กๆ ประมาณ 1 ม.ม. บนผิวหนัง ไขมันส่วนเกินของคุณจะค่อยๆหลอมละลาบอย่างอ่อนโยนจนกลายเป็นของเหลวและถูกขจัดออกจากร่างกายทันที เพียงเท่านี้คุณจะมีรูปร่างใหม่ที่ผอม เพรียว กระชับภายในเวลาอันรวดเร็ว

Q : ทำไมต้อง “Lunch Time Melt”?
A : เพราะใช้เวลาเพียงแค่ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมงในช่วงพักเที่ยง ไขมันก็จะถูกหลอมละลาย คุณก็จะกลับออกไป พร้อมรูปร่างใหม่ที่เพรียวกระชับทันที

Q : ความคาดหวังจากการรักษา?
A : รูปร่างที่เพรียวบาง อย่างน่าอัศจรรย์ พิสูจน์ได้จาก Photo Gallery (Before & After) จากแพทย์ชั้นนำทั่วโลก

Q : บริเวณใดของร่างกายที่สามารทำ Slim Melt ได้?
A : ทุกจุดที่มีไขมันส่วนเกิน... หน้าท้อง, เอว, สะโพก, ต้นขา, เข่า, บั้นท้าย, แขน หรือแม้แต่บริเวณบอบบาง เช่นใต้คาง

Q : เฉพาะผู้หญิง ?
A : ได้ทั้งหญิงและชาย ในทุกจุดที่มีไขมันส่วนเกิน

Q : กี่ครั้งจึงเห็นผล
A : โดยทั่วไป แค่ครั้งเดียวก็เพียงพอแล้ว

Q : บวม – ช้ำ – ต้องพักงาน?
A :
- แทบจะไม่เกิดอาการบวม หรือช้ำ หรืออาจเกิดขึ้นได้น้อยมาก
- ไม่ต้องพักงาน
- สามารถไป Dinner ได้ทันทีหลังการรักษา
- ทำงานได้ตามปรกติในวันรุ่งขึ้น
- ออกกำลังกายได้ภายใน 2 – 3 วัน

Q : Slim Melt ต่างจาก Laser ชนิดอื่น หรือ การดูดไขมันอย่างไร
A :
- Slim Melt สามารหลอมละลายเซลล์ไขมันและขจัดออกจากร่างกายได้ในปริมาณที่สูงกว่า Laser ชนิดอื่นมาก
- มีความปลอดภัยสูง
- หลอมละลายเฉพาะเซลล์ไขมันโดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อข้างเคียง จึงไม่เกิดอาการบวม หรือจ้ำเลือด
- หลังทำการรักษาผิวไม่ขรุขระเป็นคลื่น หรือห้อยย้อย เช่นเดียวกับการดูดไขมัน หรือใช้เลเซอร์ชนิดอื่น

Q & A
1.หลักเกณฑ์ในการพิจารณาว่าคุณอ้วนแล้วไม่ คืออะไร
ใช้หลักเกณฑ์การคำนวณดัชนีมวลกาย (BMI Body Mass Index) = น้ำหนักตัว / ส่วนสูง (ยกกำลัง)
หากมีค่าออกมาอยู่ระหว่าง
18.50 – 22.99 ถือว่าน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ปกติ
23.00 – 24.99 ถือว่า ท้วม
25.00 ขึ้นไป ถือว่า อ้วน

2. หากคำนวณค่า BMI แล้วอยู่ในเกณฑ์ปรกติ แต่รู้สึกว่ามีไขมันสะสมบางส่วน อย่างนี้ก็ไม่จำเป็นต้องลดน้ำหนักใช่มั๊ยค่ะ
ไม่จำเป็นค่ะ

3.ในกรณีที่มีปัญหาไขมันสะสมเฉพาะส่วน หากอดอาหาร ส่วนอื่นๆลดลง แต่ส่วนที่กังวลกลับไม่ลดควรทำอย่างไรดี
การที่เรามีไขมันสะสมเฉพาะส่วน เช่นแขนใหญ่ / ขาใหญ่ ส่วนหนึ่งเกิดจากพันธุกรรมด้วยทำให้มีการกระจายตัวของไขมันผิดสัดส่วน หากเป็นกรณีนี้ไม่ควรอดอาหารเพื่อลดน้ำหนัก ควรใช้เทคโนโลยีเลเซอร์ลดไขมันเฉพาะส่วน ซึ่งวิธีการนี้จะทำให้สัดส่วนลดลงโดยไม่มีผลต่อน้ำหนักตัว

4.วิธีกำจัดไขมันส่วนเกินแบบเร่งด่วนในปัจจุบัน อาทิการ สลายไขมันหรือการหลอมละลายไขมัน ทำครั้งเดียวเห็นผลจริงหรือ
Slim Melt เป็นนวัตกรรมกึ่งเลเซอร์ กึ่งศัลยกรรมที่สลายไขมันได้ในคราวเดียว โดยใช้ Laser Fiber ขนาด 1.3 mm. สอดเข้าไปใต้ผิวบริเวณที่มีไขมันสะสมโดยตรง ไขมันบริเวณนั้นก็จะหลอมละลายกลายเป็นน้ำมัน แล้วต่อท่อดูดออกจากร่างกายโดยตรงเลย

5.วิธีการ Slim Melt ทำครั้งเดียวเห็นผลเลยหรือไม่? และผิวหนังบริเวณที่เอาไขมันออกไปจะเหี่ยวหรือไม่?
ทำ Slim Melt ครั้งเดียวเห็นผลทันที เนื่องจากเป็นการใช้แสงเลเซอร์ เข้าไปละลายไขมันตรงจุดโดยตรง และยังมีผลในการกระชับผิวในบริเวณนั้นๆด้วย คือนอกจากสัดส่วนจะลดลงแล้ว ผิวก็จะตึงกระชับขึ้นประมาณ 30 – 80% อีกด้วย

6.หากคนอ้วนทั้งตัวอยากลดน้ำหนักด้วยวิธีนี้ สามารถทำ Slim Melt เพื่อละลายไขมันทั้งตัวไปเลยในครั้งเดียวได้หรือไม่
ไม่ได้ค่ะ เพราะเวลาละลายไขมัน เราจะทำได้ครั้งละ 1-2 บริเวณเท่านั้น หากอยากละลายไขมันมากกว่านั้นจะต้องเว้นระยะห่างกันอย่างน้อย 1 เดือน แต่อย่างไรก็ตามก็ไม่ใช่การลดน้ำหนัก เป็นเพียงการลดไขมันเฉพาะส่วนจากร่างกายเท่านั้น หากท่านใดที่ต้องการลดน้ำหนักตัว โดยไม่กังวลเรื่องสัดส่วน วิธีการ Slim melt ไม่สามารถช่วยได้ทั้งหมดค่ะ

เนื้อหาโดย แพทย์หญิง สุนิดา ยุทธโยธิน แพทย์เฉพาะทาง ทางด้านผิวหนังและเลเซอร์
Nida Skin Cosmetic & Surgery สยามสแคว์ ซอย 9
www.nidaskincosmrtic.com , www.slimlaserthailand.com
เลขไอพี : ไม่แสดง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#2 | ctoon | 18 มี.ค. 62 16:07 น.

https://hellokhunmor.com/health-centre/ศูนย์โรคหัวใจ/โรคอ้วน-กับ-โรคหัวใจ/

บทความเกี่ยวกับโรคอ้วนซึ่งถ้าเกิดว่าเราเป็นโรคนี้ ก็อาจจะมีผลต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดตามมาได้ค่ะ ยังไงก็ลองอ่านเพิ่มเติมกันดูได้นะคะ

ไอพี: ไม่แสดง | โดย Windows 10

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google