[ Luhan ] แปลสัมภาษณ์ฉบับเต็ม Sina Entertainment ^^

11 ธ.ค. 57 20:49 น. / ดู 2,663 ครั้ง / 10 ความเห็น / 7 ชอบจัง / แชร์
ยาวหน่อยน๊า จะมีซักกี่คนที่อ่านจบ 555

[TRANS] บทสัมภาษณ์ลู่หานกับ Sina Entertainment




ลู่หานวัยรุ่นยุคใหม่

อะไรจะทำให้ลู่หานต้องปิดหูแล้วบอกว่า ปล่อยผมไปเถอะนะครับ

อารัมภบท:

ใช่แล้ว ซินล่างได้มาพูดคุยแบบ Exclusive กับลู่หาน ในช่วงเวลาพิเศษแบบนี้ คุยเรื่องราวในอดีตก็ดูจะไม่เหมาะกับกาลเทศะสักเท่าไร คุยเรื่องอนาคตก็ดูจะจับต้องอะไรไม่ได้ เช่นนั้นแล้ว เราก็มาดูลู่หานที่ตอนนี้กำลังก้าวเดินไปข้างหน้าดีกว่า

ช่วงนี้ ลู่หานกำลังยุ่งอยู่กับการเดินสายโปรโมทภาพยนตร์กับทีมงานเรื่อง Miss Granny ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เป็นผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกของเขา บ.ก.ก็เคยคุยกับเฉินเจิ้งเต้าผู้กำกับเรื่องนี้ ลองสืบดูว่าลู่หานแสดงออกมาเป็นอย่างไรบ้าง และก็ได้รับคำตอบที่ผู้กำกับได้ยอมรับในฝีมือการแสดงของลู่หาน ชื่นชมเป็นยกใหญ่เลยว่าเสี่ยวลู่ฉลาดไหวพริบดี และในฐานะที่ลู่หานเป็นคนปักกิ่ง ทำให้เขาได้เปรียบในเรื่องการพูดถ่ายทอดบทบาทออกมา เมื่อได้คุยเรื่องผลงานภาพยนตร์เรื่องแรก ตัวลู่หานเองก็พูดอย่างเปิดเผยเลยว่าเขารู้สึกenjoy ในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้มาก และรู้จักค่อยๆปลดปล่อยตัวเองออกมาแล้ว เพียงแต่ว่า ในภาพยนตร์มีฉากจูบที่ทำให้ตอนนี้ลู่หานนึกทีไรก็ยังต้องเขินจนหน้าแดง ลู่หานใช้มือทั้งสองข้างจับหูแล้วพูดขอร้องว่า “ผมเป็นคนขี้อายครับ”

ผมเป็นคนขี้อายนะครับ ประโยคนี้เป็นประโยคที่ลู่หานพูดถึงระหว่างสัมภาษณ์อยู่หลายรอบเลยทีเดียว ลู่หานก็ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าเขาเป็นคนกลัวคนแปลกหน้า พอถามเขาว่ารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนหล่อรึเปล่า ลู่หานก็เขินเสียแล้ว ขณะที่กำลังจะถ่ายรูปรวมกับไอดอลของตัวเองอย่าง หวังลี่หง,เจย์ โจว,เจเจ หลิน เสี่ยวลู่ก็เขินอีกแล้ว เขาถูกทีมงานค้นพบว่าเขาเขินจนหูแดงจากภาพประกอบภาพยนตร์ฉากจูบในเรื่อง Miss Granny  ตอนที่ทีมงานนำเรื่องนี้มาบอกบ.ก. เสี่ยวลู่ก็ได้แต่ห้ามในสภาพที่แบ๊วๆอย่างไร้ผลว่า “อันนี้อย่าพูดเลยนะ” “อย่านะ อย่านะ อย่านะ”

แต่ว่าทีมงานจะปล่อยโอกาสที่ได้หยอกล้อลู่หานไปได้อย่างไรล่ะ “เขาเป็นคนที่ทำให้พวกเรามีความสุข เวลาไม่มีอะไรทำก็หยอกล้อกับพวกเขาสองคน” ทีมงานของลู่หานบอกว่า “สองคน” ที่ว่าอีกคนหนึ่งหมายถึงเหล่าเกา เพื่อนสนิทของลู่หาน ในวันนั้นเอง เขาได้นั่งอยู่ตรงข้ามกับลู่หาน แล้วก็ได้เข้าร่วมสัมภาษณ์กับพวกเราด้วย แล้วก็กลายเป็นคนที่โดนทีมงานแหย่เล่น ลู่หานก็ยอมแพ้แต่โดยดี “ผมรู้สึกว่าสนุกดี สร้างบรรยากาศแบบนี้ก็ดีนะ” เหล่าเกาก็ได้แต่ทำหน้าอย่างไร้เรี่ยวแรงว่า:“จริงๆแล้วคนที่โดนจนเจ็บตลอดคือผมเองครับ”。

ขณะนี้เหล่าเกาได้ป็อบมากในหมู่แฟนคลับของลู่หาน เมื่อทุกคนหาร่องรอยในเวยป๋อของลู่หานไม่เจอ ก็คงได้เจอเบาะแสอะไรบางอย่างในเวยป๋อของเหล่าเกาแน่ๆ ในสายตาของเพื่อนเก่าอย่างเหล่าเกา ลู่หานในวัยเรียนก็นับว่าเป็นคนซนๆคนหนึ่ง ตอนนี้ก็เป็นคนที่น่าสนใจคนหนึ่ง ถึงแม้ว่าฐานะในตอนนี้จะกลายเป็นไอดอลยอดนิยม แต่ก็ยังไม่แตกต่างอะไรจากตอนนั้น “สิ่งที่พวกคุณได้เห็นก็คือตัวตนที่แท้จริงของเขา” ระหว่างสัมภาษณ์ ตอนที่ลู่หานโดนถามคำถามที่เกี่ยวกับนิสัย เขาก็จะถามความเห็นเหล่าเกาเสียหน่อย เช่น ลู่หาน คุณเป็นพวกยึดเอาผู้ชายเป็นใหญ่รึเปล่า? เหล่าเกาก็จะตอบว่า:ไม่ใช่ๆ;เสี่ยวลู่ เธอมีด้านที่เป็นเหมือนCEOมาดเข้มแบบในนิยายรึเปล่า?ทุกคนก็จะมองไปยังเหล่าเกาอย่างพร้อมเพียงกัน ทำให้เหล่าเกาต้องพูดออกมาว่า:ทำไมถึงถามคำถามแบบนี้กับผมล่ะ!ที่ทำให้เหล่าเกาเป็นเพื่อนสนิทของลู่หานได้ สาเหตุหลักก็เพราะเหล่าเกาเป็นคนใจเย็น “เสี่ยวลู่วิ่งเร็ว” ไม่ได้เป็นชื่อที่ได้มาลอยๆ ในชีวิตจริงลู่หานเป็นคนเดินเร็วม๊ากมาก กึ่งเดินกึ่งวิ่งตลอดทางอยู่เสมอ นิสัยรีบร้อนแบบนี้ก็ต้องหาเพื่อนที่ใจเย็นมาบาล๊านซ์ให้สมดุลกันหน่อย

ลู่หานเดบิวท์ที่ต่างประเทศในปี 2012 ประสบการณ์การเข้าวงการบันเทิง2ปี ทำให้ลู่หานได้รับความนิยมเป็นอย่างมากแบบสุดขีด ยอดคอมเมนต์เวยป๋อของลู่หานเพียงอันเดียวก็มียอดทะลุสิบล้านคอมเมนต์ และยังทำให้ได้รับการบันทึกกินเนสบุ๊ค1รายการดังกล่าว เมื่อลู่หานได้เข้าร่วมงานแถลงข่าวในประเทศ หน้างานก็มักจะเบียดเสียดเต็มไปด้วยแฟนคลับที่มาจากที่ต่างๆ ตอนที่ลู่หานปล่อยซิงเกิ้ล《Our Tomorrow》แฟนไซท์ทั่วโลกก็ได้นำตะกร้าดอกไม้มามอบให้เขา อีกทั้งยังได้ร่วมกันสร้างยอดวิวของ MV ออกมาได้อย่างสูง แฟนคลับที่ซื่อสัตย์เหล่านี้เป็นเสาหลักแห่งความมั่นใจของลู่หาน เขาพูดอย่างเปิดเผยว่าเขาเคยรู้สึกประหม่าเกี่ยวกับการพัฒนาการงานของตัวเองในอนาคต แต่แรงสนับสนุนของแฟนคลับ ของครอบครัว และของเพื่อนก็ทำให้เขาได้เลิกคิดแบบนี้ในเวลาไม่ช้า

เมื่อพูดถึงแผนในอนาคต ลู่หานมักจะพูดเป็นประจำว่า “ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ” เขากล่าวว่าตัวเองเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีที่ไม่หมกมุ่นลังเล “ได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ปล่อย” แน่นอนว่าความพยายามก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ไม่ว่าจะพูดถึงเรื่องร้องเพลงหรือแสดงละคร ลู่หานก็ได้แต่กล่าวว่ายังต้องฝึกฝนต่อไปอีก

กลับประเทศบ้านเกิดของตัวเองในอายุ 24 ปี  ในขณะที่เขามีพื้นฐานความฮ็อตแบบสุดๆ แต่ก็ยังไม่ได้มาเปิดตีตลาดในประเทศ ลู่หานกล่าวว่าความขัดแย้งกันในลักษณะนี้เป็นแรงผลักดันที่ทำให้เขาก้าวเดินไปข้างหน้า “ก็ยังคงต้องมองไปยังที่สูง นำสิ่งที่มีในตอนนี้เป็นจุดเริ่มต้น แล้วเดินหน้าต่อไป”

…

หยางจิ้นหย่า:《Miss Granny》เป็นผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกของคุณ คุณคิดว่าการแสดงละครเป็นเรื่องยากสำหรับคุณไหม?

    ลู่หาน:ว่าไปแล้วผมก็ถือว่าเป็นมือใหม่ เล่นภาพยนตร์เป็นครั้งแรก แล้วก็ไม่ได้ฝึกการแสดงละครมาก่อน รู้สึกค่อนข้างกดดันเลยครับ แต่ยังดีที่ตัวละครตัวนี้ถือว่าผมได้แสดงบทบาทที่ตัวเองเป็นอยู่จริงๆ นิสัยส่วนหนึ่งของตัวละครก็คล้ายๆกับนิสัยของผม เป็นแบบที่ว่าพุ่งไปข้างหน้าตามความฝันและสภาพความคิดจิตใจที่ไม่รู้จักละทิ้งความฝันนั้นครับ

หยางจิ้นหย่า:แล้วคุณทำความเข้าใจตัวละครตัวนี้อย่างไร?

    ลู่หาน:ในตอนแรกก็ได้ดูการแสดงออกของตัวละครตัวเดียวกับผมใน《Miss Granny》เวอร์ชั่นเกาหลี แล้วผมค่อยมาพิจารณาอีกทีว่าผมจะแสดงออกมาอย่างไรให้เป็นธรรมชาติ

หยางจิ้นหย่า:ยังจำฉากแรกที่ได้แสดงได้ไหม มันคือฉากไหน?

    ลู่หาน:ฉากแรกเป็นฉากที่ผมทะเลาะกับพี่สาวฝาแฝดของผมในห้องรับแขกครับ เพราะว่าในเรื่อง คุณพ่อจะส่งคุณย่าไปที่บ้านพักคนชรา ตอนแรกๆผมเกร็งครับ NGก็เยอะพอสมควรเลยล่ะ ก็พยายามที่จะทำให้ผ่านครับ แต่ตอนนั้นรอบข้างมีคนเยอะมากๆเลย จนกระทั่งตอนหลังๆก็ต้องคิดไปเองว่าไม่มีคนไม่มีใครอยู่ตรงนั้นนะ เราต้องโมโหนะ เราต้องแสดงออกมาให้เป็นธรรมชาติ ต้องแสดงออกมาเหมือนเวลาปกติที่เราโมโหกัน

หยางจิ้นหย่า:งั้นแสดงว่าปกติคุณก็โมโหบ่อยหรอ?รู้สึกว่าหน้าตาคุณเป็นคนที่ไร้พิษภัยอย่างเป็นพิเศษเลยนะ

    ลู่หาน:ปกติผมไม่ค่อยโมโหหรอกครับ ผมอารมณ์ดีอยู่นะ นอกจากว่าเพื่อนหรือไม่ก็คนในครอบครัวโดนรังแก ผมก็จะโมโหครับ

หยางจิ้นหย่า:ยังจำได้อยู่รึเปล่าว่า NG ไปกี่ครั้ง?รู้สึกกดดันมากๆเลยไหม?


    ลู่หาน:NG หลายรอบมากๆเลย จำไม่ได้แล้วว่ากี่รอบ ตื่นเต้นสุดๆเลย ตอนถ่ายทำบางครั้งความรู้สึกดีมาก แต่พูดบทไม่ค่อยคล่อง พอพูดบทได้คล่อง ความรู้สึกก็ดันไม่มี ตอนแรกๆเลยรู้สึกลำบากใจ ต่อมาก็ค่อยๆปรับตัวได้ แล้วก็ค่อยๆปลดปล่อยตัวตนของตัวเองออกมา

หยางจิ้นหย่า:ก่อนหน้านี้ในการถ่ายทำ MV ก็มีส่วนที่ต้องแสดงละคร คุณคิดว่าสิ่งนี้กับการถ่ายทำภาพยนตร์แบบจริงๆจังๆมีอะไรที่แตกต่างกันบ้าง?

    ลู่หาน:ถ่าย MV กับถ่ายภาพยนตร์แตกต่างกันมากเลยครับ MV ที่ผมเคยถ่ายจะไม่มีบทพูด ผมแค่แสดงออกมาก็พอแล้ว แต่ก็แอบยากอยู่ ครั้งแรกที่ถ่ายทำภาพยนตร์แล้วพูดบทพูดประโยคแรกออกมา ผมเพิ่งรู้ว่า โอ้! พูดบทนี่มันยากจริงๆนะ ต้องพูดออกมาอย่างเป็นธรรมชาติแถมยังติดขัดไม่ได้อีกด้วย ยังต้องฝึกฝนกันอีกสินะ

หยางจิ้นหย่า:การท่องบทเป็นเรื่องยากสำหรับคุณหรือเปล่า?

    ลู่หาน:การท่องบทไม่ยากมั้ง ผมรู้สึกว่าง่ายๆแป๊ปเดียวก็ท่องได้แล้ว เพราะตอนนี้อายุยังน้อย ความจำดี แต่จะพูดบทพูดออกมาอย่างไรให้เป็นธรรมชาติ แสดงอารมณ์ที่คุณอยากถ่ายทอดออกมาจะเป็นเรื่องที่ยากที่สุด

หยางจิ้นหย่า:ดิฉันเคยถามเป็นการส่วนตัวกับผู้กำกับ เขาประเมินคุณเอาไว้สูงมากๆเลยทีเดียว บอกว่าคุณแสดงออกมาได้ดีเกินที่คาดเอาไว้เยอะ พูดบทได้ดี แถมยังฉลาดมากด้วย เช่นนั้นแล้วคุณคิดว่าตัวเองเป็นคนที่มีพรสวรรค์ด้านการแสดงรึเปล่า?

    ลู่หาน:ผมว่าเป็นเรื่องที่พูดได้ยากครับ ผมเป็นคนขี้อาย ยังเป็นมือใหม่ ยังต้องพยายามอีกเยอะ พื้นฐานของผมยังไม่ได้ดีมาก ไม่เคยเรียนมา ยังต้องไปเรียนคอร์สพื้นฐานการแสดง ต้องถ่ายภาพยนตร์เยอะๆ ทำความเข้าใจมากๆ ต้องฝึกฝนประสบการณ์จากกับรุ่นพี่ผู้อาวุโส ถ้ามีโอกาสผมจะไปฝึนฝนการแสดงให้ลึกซึ้งครับ

หยางจิ้นหย่า:คุณสนุกกับการแสดงไหม?คุณสามารถปรับตัวให้เข้ากับจังหวะและวิธีการทำงานได้ไหม?

    ลู่หาน:การถ่ายภาพยนตร์เป็นอะไรที่น่าสนใจมาก ดังนั้นจึงอยากได้รับเล่นในบทบาทต่างๆที่แตกต่างกันไป อยากลองท้าท้าย สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่วงการทำงานใหม่ของผม เมื่อก่อนถึงแม้ว่าจะได้ไปเผชิญหน้ากับกล้องในลักษณะเดียวกันบนเวที แต่ว่าเป็นแค่การยืนตรงเหมือนกัน ใช้มุมไหนถ่าย ล้วนต่างกัน และก็เป็นเรื่องที่แปลกใหม่มาก



ไปต่อที่ คห.1 น๊า

แก้ไขล่าสุด 11 ธ.ค. 57 22:03 | เลขไอพี : ไม่แสดง

มุมสมาชิก กระทู้ล่าสุดโดย fexoshi.apink

แสดงกระทู้ล่าสุดโดยเปิด มุมสมาชิก และเลือกแสดงกระทู้ที่ตั้ง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | fexoshi.apink | 11 ธ.ค. 57 20:50 น.




หยางจิ้นหย่า:ในเรื่อง《Miss Granny》มีฉากที่หยางจื่อซานต้องบังคับจูบคุณ ตอนนั้นรู้สึกอย่างไร?


    ลู่หาน:ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ ผมลืมไปแล้ว ตอนนั้นในสมองว่างเปล่าไปเลย หูอาจจะแดง เพราะว่าผมเป็นคนขี้อาย(ตรงนี้ทีมงานขอลงสักกะทง:“โดนพวกเราค้นพบว่าในภาพประกอบภาพยนตร์หูแดงล่ะ” ลู่หานเขินจนต้องลูบๆหู)พี่จื่อซานบอกว่าเธออยู่เฉยๆไม่ต้องทำอะไรก็โอเคแล้ว เดี๋ยวฉันจะช่วยเธอเอง เพราะว่าเธอเล่นเป็นบทบาทในฐานะที่เป็นคุณย่า พอรู้สึกว่าหลานชายตัวเองกำลังจะประสบความสำเร็จแล้ว ก็เลยจูบแบบหอมแก้มหลานครับ ไม่ได้เป็นแบบที่ทุกคนคิดอย่างนั้นนะ

หยางจิ้นหย่า:จริงๆแล้วฉากนี้ถือว่าเรทไม่เท่าไรเลยนะ คุณยังเขินได้ขนาดนี้ ถ้าทีหลังมีฉากจูบจริงๆคุณจะทำยังไงเนี่ย?

    ลู่หาน:ก็คงลำบากใจนิดหน่อย ถ้าในเรื่องจำเป็นผมก็จะพยายามทำครับ ผมจะเขิน

หยางจิ้นหย่า:แล้วขีดจำกัดของคุณอยู่ตรงไหนคะ?หนังแบบไหนที่คุณจะไม่รับเล่นแน่ๆ?

    ลู่หาน:ก็ต้องดูบทละครก่อนครับ ถ้าบทดีมากๆ ผมก็จะทำตามความต้องการของผู้กำกับครับ

หยางจิ้นหย่า:แล้วถ้าแบบ《เล่ห์ ราคะ Lust, Caution》แบบนั้นล่ะ?

    ลู่หาน:อันนี้คงห่างไกลกับผมค่อนข้างมากเลยครับ

หยางจิ้นหย่า:ถ้าเป็นประเภทโชว์กล้ามเนื้อตรงหน้าท้องล่ะ?

    ลู่หาน:อันนี้ OK ครับ ผมหวังที่จะได้โชว์ด้าน Manของผมออกมาครับ

หยางจิ้นหย่า:คุณคิดว่าละครแนวไหนเหมาะกับคุณ?

    ลู่หาน:ตอนนี้ยังไม่ค่อยถนัดเล่นละครเท่าไร ขอแสดงแบบที่ตัวเองเป็นอยู่ชั่วคราวไปก่อนจะรู้สึกสบายกว่าครับ หลังจากที่ผ่านการฝึกฝนก็จะเริ่มท้าทายบทบาทที่หลากหลายมากขึ้น ตัวผมเองค่อนข้างชอบคอมเมดี้ แล้วผมก็เป็นคนน่าที่สนใจ ทุกคนลองไปดูภาพยนตร์กันได้นะครับ ในเรื่อง《Miss Granny》มีรายละเอียดส่วนเล็กๆเป็นจำนวนมากที่คาดว่าจะเซอร์ไพรส์ทุกคนมากๆ ซึ่งเป็นตัวชูด้านที่เป็นคอมเมดี้ออกมาครับ

หยางจิ้นหย่า:มีโอกาสที่จะรับงานแสดงละครโทรทัศน์ไหม?ปกติได้ดูละครโทรทัศน์บ้างไหม?

    ลู่หาน:ในเรื่องละครโทรทัศน์ ขอแค่มีโอกาส หรือที่เหมาะกับผม ผมก็จะลองท้าทายดู ปกติก็ดูละครโทรทัศน์นะครับ มีเวลาผมก็เปิดดูเรื่อยเปื่อยของผม ช่วงก่อนดูของต่างประเทศค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะการ์ตูนเอนิเมชั่นก็จะยิ่งเยอะครับ《Attack on Titan》โหดมากเลย ผมชอบมาก แล้วก็《Tokyo Ghoul》ที่ตอนนี้ยังฮิตอยู่ ตอนเด็กผมชอบอ่านมังงะมากครับ

หยางจิ้นหย่า:คุณจะเก็บสะสมจนมากพอสมควรแล้วค่อยดูหรือว่าตามดูเป็นตอนๆ?คุณไม่ชอบให้คนอื่นสปอยล์ไหมคะ?

    ลู่หาน:ผมคงไม่ตามดูหรอกครับ ถ้ารอแล้วตอนใหม่ไม่ออกมาสักที ผมจะรู้สึกทรมาน ก็เลยเก็บสะสมไว้แล้วค่อยดูทีเดียว ส่วนสปอยล์ผมรู้สึกเฉยๆครับ พูดไปแล้วก็ถือว่าพูดไปแล้ว ถ้าไม่มีคนมาสปอยล์ผมก็ดูของผมเอง

หยางจิ้นหย่า:ถ้าให้คุณแสดงเป็นตัวจอมร้ายหรือไม่ก็คนที่มีประสบการณ์ชีวิตน่าสงสารมาก คุณจะปฏิเสธไหม?


    ลู่หาน:ผมได้หมดครับ แต่สำหรับตอนนี้แล้วตัวผมเองยังไม่มีความสามารถในการพิจารณาตัดสินว่าเป็นอย่างไรในด้านนี้ ยังต้องไปศึกษาเพิ่มเติมครับ

หยางจิ้นหย่า:คุณได้ติดตามรายการวาไรตี้ของจีนบ้างไหมคะ?คิดว่าจะมีโอกาสได้ไปร่วมสนุกกันหน่อยไหม?

    ลู่หาน:ช่วงนี้ยังไม่มีเวลาก็เลยไม่ทันได้ดูครับ แต่เคยได้ยิน《Where are we going, Dad?》อะไรประมาณนั้นครับ เพราะว่าทุกคนก็คุยเรื่องนี้กันเยอะมาก ผมยินดีที่จะไปร่วมสนุกกับรายการเหล่านี้อยู่แล้วครับ บางครั้งผมอาจจะลองรายการฟุตบอลเรียลลิตี้โชว์ เช่นได้รับการเทรนด์ เข้าร่วมการแข่งขัน แล้วลองไปแข่งกับทีมมืออาชีพ ถ้ามีรายการแบบนี้ ผมคิว่าผมสนใจที่จะไปออกรายการครับ





หยางจิ้นหย่า:คุณชอบเพลงแนวไหน?มีนักร้องจีนที่ชื่นชอบบ้างไหม?

    ลู่หาน:ผมค่อนข้างชอบแนว R&B, HIPPOP บางทีก็ชอบแบบBallad ส่วนนักร้องจีนนี่ผมชอบผลงานของพวกเขาครับ ถ้าผลงานออกมาเพราะผมก็จะชอบ เช่น หวังลี่หง,  เจย์ โจว,  เจเจ ลิน ส่วนตัวแล้วตอนไปร้องคาราโอเกะก็จะร้องเพลงของพวกเขาครับ

หยางจิ้นหย่า:ตอนไปร้องคาราโอเกะ คุณเป็นพวกครองไมค์รึเปล่า?ปกติจะร้องอะไรบ้าง?


    ลู่หาน:ผมไม่ได้เป็นคนครองไมค์ครับ เวลาร้องชอบร้องด้วยกันกับเพื่อนที่ไปด้วย ก็ต้องดูอารมณ์ในวันนั้น ถ้าอารมณ์ค่อนข้างดีก็จะร้องเพลงที่มันส์ๆหน่อย ถ้าค่อนข้างเศร้าก็จะร้องเพลงแนวบัลลาด

หยางจิ้นหย่า:เหมือนว่าก่อนหน้านี้คุณก็เคยเจอ หวังลี่หง,  เจย์ โจว,  เจเจ ลินมาแล้ว ตอนนั้นอยู่ในสถานการณ์อย่างไร?

    ลู่หาน:ก่อนหน้านี้ผมเจอพวกเขามาครั้งหนึ่งครับ เจอพร้อมกันทีเดียวเลย3คนในงานวันเกิดของเฉินหลง ตอนเด็กฟังเพลงของพวกเขา ตอนนี้ได้ขึ้นแสดงบนเวทีเดียวกับพวกเขาแล้วรู้สึกมหัศจรรย์มากเลย ตอนนั้นผมเขินมากๆเลย ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี ก็บอกว่าถ่ายรูปด้วยกันหน่อยครับ ก็แค่ขอถ่ายรูปในสภาพจิตใจที่คิดว่าตัวเองเป็นแฟนคลับตัวน้อยๆคนหนึ่งครับ

หยางจิ้นหย่า:ร้องไปเต้นไปถือว่าเป็นเรื่องที่สบายมากสำหรับคุณใช่ไหม?


    ลู่หาน:สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ผมฝึกฝนอยู่เสมอครับ ทุกวันก็ต้องไปเผชิญหน้าปรับตัวกับมัน ดังนั้นจึงไม่ได้รู้สึกว่าเหนื่อยมาก

หยางจิ้นหย่า:ถ้าเลือกได้ คุณค่อนข้างชอบเพลงที่ไปทางเร็วแล้วร้องไปเต้นไป หรือเป็นแค่นักร้องแนวโซวล์ที่อยู่นิ่งๆ

    ลู่หาน:ผมชอบทั้งคู่เลยครับ อยากท้าทายกับแนวต่างๆที่หลากหลาย อายุมากขึ้นหน่อยผมอายจะลองแนว RAP กับ ROCK ตอนนี้ผมไม่ค่อยได้สัมผัสกับเพลง2แนวนี้เท่าไรนัก ถ้าได้มีโอกาสก็จะลองไปท้าทายดู

หยางจิ้นหย่า:ถ้ามีเวลาคิดว่าจะหัดเล่นเครื่องดนตรีชนิดไหน?

    ลู่หาน:ถ้ามีเวลาจะหัดเล่นเครื่องดนตรีแน่ๆ อยากเรียนกีต้าร์มากที่สุดเลย ช่วงที่ถ่ายทำ《Miss Granny》ผมได้เล่นกีต้าร์ แล้วพบว่าก็น่าสนใจดี จึงอยากเรียนให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

หยางจิ้นหย่า:คุณคิดที่จะลองแต่งเนื้อร้อง-ทำนองเองไหม?

    ลู่หาน:พูดตามความจริงนะครับ ผมคิดว่าผมไม่มีพรสวรรค์ด้านนี้ แต่แน่นอนว่าอยากจะลองดู ก็ยังต้องพยายามอีกครับ

หยางจิ้นหย่า:เคยได้คิดไว้บ้างไหมคะว่าอัลบั้มแรกของคุณจะมาในคอนเซ็ปท์ไหน?

    ลู่หาน:ตอนนี้ยังไม่ได้คิดเอาไว้มากมายขนาดนั้นครับ แต่อันนี้ก็ถือว่าเป็นความลับอยู่ แน่นอนว่าผมเองก็จะต้องเป็นคนตัดสินใจลงความเห็น

หยางจิ้นหย่า:คุณหวังว่าเส้นทางการพัฒนาด้านการงานในอนาคตจะเน้นไปในด้านไหนเป็นหลัก?

    ลู่หาน:ผมหวังเป็นอย่างยิ่งเลยว่าจะเดินหน้าพัฒนาทั้งภาพยนตร์ โทรทัศน์ เพลง ทั้ง3ด้านไปพร้อมๆกันครับ แต่ผมเองคงเอนเอียงไปทางดนตรีนิดหน่อย





หยางจิ้นหย่า:คุณคิดว่าตัวเองเป็นคนที่หล่อไหม?

    ลู่หาน:ทุกคนว่ายังไงล่ะครับ?ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ ผมเขิน

หยางจิ้นหย่า:คุณยึดติดกับมาดความเป็นไอดอลไหม?

    ลู่หาน:ผมไม่ยึดติดกับมาดความเป็นไอดอลเป็นพิเศษเลยนะครับ ถ้าเคยดูรายการวาไรตี้ที่ผมเคยไปออกแล้วก็จะรู้เลยว่าผมเป็น King of Emoticon ผมอยากแก้ตรงนี้เป็นพิเศษเลย ผมไม่รู้เลยว่าอยู่ๆตัวเองก็จะมีสีหน้าน่าเกลียดแบบนั้นโผล่ออกมา แม้กระทั่งตัวเองก็ยังไม่รู้เลย

หยางจิ้นหย่า:คุณคิดว่าแฟนคลับชอบอะไรในตัวคุณ?

    ลู่หาน:ชอบที่ผมเป็นธรรมชาติหรือเปล่าครับ?ที่พวกเขาพูดว่าผมแบ๊วแบบนั้น แต่ผมคิดว่าผมManอยู่นะ อาจจะเป็นเพราะว่าบางครั้งผมค่อนข้างมึนๆ(เหล่าเกากล่าวเสริม:มึนโดยธรรมชาติ)เก่งกีฬา(สต๊าฟทีมงานเล่นอีกกะทง:จริงๆแล้วเขาอยากให้คนอื่นรู้สึกว่าเขาเป็นคนเก่งกีฬา)ใช่แล้ว กลายเป็นแข้งโปรฟุตบอลที่สุดในบรรดาดาราทั้งหลายครับ

หยางจิ้นหย่า:แล้วปกติคุณเตะฟุตบอลตำแหน่งไหนในสนาม?

    ลู่หาน:ผมค่อนข้างชอบเตะตำแหน่งกองหน้า เตะตำแหน่งกองกลางเป็นบางครั้ง

หยางจิ้นหย่า:ตอนที่คุณดูบอลมักจะอยู่สภาพแบบไหนคะ?คุณชอบMan Uขนาดนั้น และคิดยังไงกับทีมอื่น?

    ลู่หาน:ตอนผมดูบอลผมจะอยู่ในสภาพที่ตื่นตัวครับ ปกติจะดูถ่ายทอดสดทั้งนั้นเลย หยิบขนมขึ้นมา แล้วก็กินไปดูไปครับ ตอนที่ตื่นเต้นก็จะลุกขึ้นมาหมุนตัวครับ ผมรู้สึกเฉยมากเลยกับทีมพรีเมียร์ลีกอื่นๆอีก19ทีมครับ

หยางจิ้นหย่า:นอกจากฟุตบอลแล้ว คุณถนัดกีฬาอะไรอีกบ้าง?

    ลู่หาน:เล่นกีฬาเป็นอะไรที่ผมชอบหมดเลย บาสเก็ตบอล ไอซ์สเก็ต โรลเลอร์สเก็ต บิลเลียด ปิงปอง แต่บันจี้จั๊มพ์ กระโดดร่มอะไรทำนองนั้น ผมไม่กล้าเล่นครับ กลัวความสูงเป็นจุดตายของผม

หยางจิ้นหย่า:ตอนนี้มีรายการวาไรตี้จำนวนมากบังคับให้ดาราเล่นกีฬาสุดโต่ง(Extreme Sports) ถ้าเจอสถานการณ์แบบนี้คุณจะทำอย่างไร?

    ลู่หาน:พูดตามจริงไหมครับ ผมจะไม่ไปเข้าร่วมรายการแบบนั้นแน่นอนครับ แค่คิดก็รู้สึกทรมานแล้ว อาการกลัวความสูงของผมเป็นแบบที่ว่าให้ผมเห็นสภาพแวดล้อมที่อยู่ข้างนอกไม่ได้ บนเครื่องบินก็มีหน้าต่างใช่ไหมล่ะ ผมรู้ว่าตัวเองอยู่บนที่สูงมากๆ ทุกครั้งที่นั่งเครื่องบินเป็นความทรมาน ดังนั้นถ้าขับรถได้ก็ขับรถ ล่วงหน้ากี่วันก็ไม่เป็นไรครับ

หยางจิ้นหย่า:ในวงการบันเทิง ข่าวลือซุบซิบอาจเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ คุณจะจัดการกับข่าวลืออย่างไร?

    ลู่หาน:ผมคิดว่าใช่ก็คือใช่ ไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ ผมจะซื่อสัตย์ครับ ผมจะเป็นคนออกมาแถลงเอง แทนที่จะปิดบัง สู้เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของตัวเองออกมาจะดีกว่า

หยางจิ้นหย่า:ถ้าคุณคิดที่จะเปิดเผยความรักของคุณ แฟนคลับของคุณไม่ยอมรับแล้วจากคุณไป คุณจะทำอย่างไร?

    ลู่หาน:ผมคิดว่าปล่อยไปตามธรรมชาติเถอะครับ คนเราก็ต้องเรียนรู้ที่จะเติบโต ผมจะขอให้เธอได้รับแต่สิ่งที่ดีครับ และขอบคุณเธอที่สนับสนุนผมมาเป็นเวลายาวนานขนาดนี้ครับ

หยางจิ้นหย่า:ฉันเคยได้คุยกับแฟนคลับคุณ พวกเธอบอกว่า แฟนคลับส่วนหนึ่งยึดคุณเป็นสเป็คในอุดมคติ ยังมีอีกส่วนหนึ่งที่มองคุณเป็นน้องชาย ถูกผู้หญิงมากมายขนาดนี้ดูเป็นน้องชายแล้วรู้สึกอย่างไร?

    ลู่หาน:ผมคิดว่าผมเป็นพี่ชายได้นะ เป็นพี่ชายดีกว่าManกว่า

หยางจิ้นหย่า:ถ้าแฟนคลับอยากจะพบคุณโดยบังเอิญ คุณคิดว่าโอกาสไหนที่ดูเป็นไปได้?

    ลู่หาน:มาในงานที่เป็นอีเว้นท์ของผมให้มากๆครับ ต้องดูโชคด้วย อย่าตามแบบเจาะจงมากเกินไปครับ

หยางจิ้นหย่า:ครั้งที่แล้วเพื่อนร่วมงานของดิฉันได้พบคุณโดยบังเอิญในร้านกาแฟล่ะ?

    ลู่หาน:ผมชอบดื่มกาแฟมากๆครับ ต้องดื่มวันละแก้วทุกวัน แต่ตอนนี้ไม่มีโอกาสไปซื้อ ผมชอบดื่ม Ice americano รสจะออกขมๆครับ

หยางจิ้นหย่า:ถ้าแฟนคลับขอให้คุณถ่ายรูปด้วย คุณจะอนุญาตไหม?

    ลู่หาน:ถ้าสถานการณ์เป็นไปได้ก็อนุญาตทั้งนั้นแหละครับ บางครั้งผมกลัวว่าถ่ายรูปด้วยแล้วจะส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของทุกคนครับ ปกติเวลาจบคอนเสิร์ตผมมักจะถ่ายรูปรวมกับทุกคนครับ

หยางจิ้นหย่า:แฟนคลับของคุณได้ทำสิ่งต่างๆมากมายเพื่อคุณเลยจริงๆ คุณมีอะไรที่อยากจะบอกกับพวกเธอหน่อยไหม?

    ลู่หาน:ผมรู้สึกขอบคุณพวกเธอมากครับ หวังว่าทุกคนระมัดระวังความปลอดภัย สนุกสนานอารมณ์ดี สุขภาพร่างกายแข็งแรง ทุกคนมีความสุขก็โอเคแล้วครับ ขอบคุณทุกคนที่สนับสนุนผมมากมายขนาดนี้ ผมจะพยายามต่อไปครับ ผมจะแสดงออกด้วยการกระทำ ไม่จำเป็นต้องพูดให้เพราะมากมายเป็นพิเศษ ผมจะทำในสิ่งที่เป็นพลังทางบวก หวังว่าจะเป็นแนวทางที่ถูกต้องในการนำทางทุกคนครับ





หยางจิ้นหย่า:ช่วงก่อนหน้านี้ร่างกายไม่ค่อยดีเท่าไร ช่วงนี้เป็นอย่างไร?


    ลู่หาน:ตอนนี้ยังอยู่ในระหว่างฟื้นฟูครับ ฟังคำแนะนำของแพทย์ คุณหมอบอกให้ทำอย่างไรผมก็ทำตามนั้นครับ เวลาและคุณภาพการนอนดีขึ้น ฟื้นฟูได้ค่อนข้างดีแล้วล่ะครับ

หยางจิ้นหย่า:เพิ่งกลับประเทศ คุณ รู้สึกประหม่าต่อการพัฒนาด้านการงานในอนาคตบ้างไหม?

    ลู่หาน:ไม่หรอกมั้งครับ อาจจะแค่นิดหน่อย แต่ก็เพราะว่ามีแฟนคลับ ครอบครัว แล้วก็เพื่อนที่อยู่รอบข้างได้ช่วยเหลือไว้เยอะ ความคิดแบบนี้จึงหายไปในไม่ช้าครับ

หยางจิ้นหย่า:กลับประเทศแล้ว พ่อแม่คงต้องดีใจมากเป็นพิเศษแน่ๆเลย พวกท่านได้ฝากคำพูดอะไรไว้กับคุณหรือเปล่า?

    ลู่หาน:พ่อแม่รู้สึกดีมากเป็นพิเศษเลยครับ พวกท่านบอกว่าขอแค่เธอดีใจก็โอเคแล้วล่ะ สุขภาพร่างกายแข็งแรงก็ดีที่สุด ไม่ต้องไปใฝ่หาอะไรมากมาย

หยางจิ้นหย่า:อนาคตคุณหวังว่าจะเป็นผู้กำหนดเส้นทางหรือปล่อยไปตามธรรมชาติ?

    ลู่หาน:อันดับแรกคือก็ค่อนข้างปล่อยไปตามธรรมชาติครับ อันดับที่สองคือพูดคุยกับทีมงานครับ

หยางจิ้นหย่า:คุณเป็นคนที่มีนิสัยชอบตัดสินอะไรเองหรือเปล่า?

    ลู่หาน:ผมไม่ค่อยเป็นแบบนั้นครับ แต่ผมก็มีความคิดเป็นของตัวเองนะ แต่ค่อนไปทางคุยผ่อนปรนกันได้

หยางจิ้นหย่า:วิธีคลายเครียดของคุณคืออะไร?คุณจะหาคนระบายไหม?

    ลู่หาน:ตอนที่หาคนระบายไม่ได้… แต่สิ่งนี้ก็ถือเป็นความลับนะ ผมคลายเครียดเอง(เหล่าเกาพูดแทรก:เขาค่อนข้างมองโลกในแง่ดี)

หยางจิ้นหย่า:คุณมองโลกในแง่ดีขนาดนี้ เรื่องอะไรที่ทำให้คุณรู้สึกไม่มีความสุข?


    ลู่หาน:การนั่งเครื่องบินทางไกล แล้วก็ไม่ให้ผมเตะบอลครับ

หยางจิ้นหย่า:ปกติภายนอกของคนที่มองโลกในแง่ดีมักจะมีวิญญาณอันโศกเศร้า คุณเป็นคนแบบนี้หรือเปล่า?


    ลู่หาน:55555555(พยายามนึกถึงเรื่องเศร้าๆ)(สต๊าฟทีมงานพูดแทรก:คุณประเมินเขาสูงไปแล้วล่ะ 55)

หยางจิ้นหย่า:ถ้าไม่ได้ไปเกาหลี คุณจะเข้าวงการนี้ไหม?

    ลู่หาน:ผมว่าผมจะเข้านะ แต่ว่าคงเป็นชีวิตอีกแบบหนึ่ง ความฝันในตอนเด็กของผมคือเป็นนักฟุตบอลคนหนึ่ง ความฝันอันดับสองคือการเป็นนักร้อง

หยางจิ้นหย่า:ด้านหนึ่งคุณมีแฟนคลับที่รักคุณเป็นจำนวนมาก อีกด้านหนึ่งคนจีนอีกจำนวนมากอาจจะยังไม่ค่อยรู้จักคุณ คุณคิดว่าสิ่งนี้เป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งไหม?


    ลู่หาน:ไม่เป็นอุปสรรคครับ สำหรับผมแล้วเป็นแรงผลักดันอย่างหนึ่งครับ ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติครับ ถ้าทุกคนอยากจะรู้จักผมก็รู้จักผม ไม่มีจุดมุ่งหมายที่เป็นรูปธรรมขนาดนั้นครับ





หยางจิ้นหย่า:คุณเข้าใจมิตรภาพอย่างไร?คนแบบไหนที่สามารถเป็นเพื่อนกับคุณได้?

    ลู่หาน:ผมว่าต้องดูที่ความรู้สึกนะ จะว่าไปก็ผ่านมาหลายปีขนาดนี้แล้ว เขาก็เป็นเพื่อนที่ดีนะ(ชี้ไปทางเหล่าเกา)คนที่มีนิสัยแบบนั้นจะเป็นเพื่อนกับผมได้มั้ง ผมเป็นคนรีบร้อน ผมชอบคนที่รักษาบาลานซ์กับนิสัยผมได้(เหล่าเกา:นิสัยผมค่อนข้างใจเย็น ใจเย็นมากเป็นพิเศษ ไม่มีอะไรที่รับไม่ได้ครับ)

หยางจิ้นหย่า:ตอนนี้CEOมาดเข้มเป็นที่นิยมกันมาก ในความสัมพันธ์ด้านความรักคุณจะเป็นฝ่ายรุกที่มีความต้องการแสดงความเป็นเจ้าของสูงไหม?

    ลู่หาน:ผมคิดว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่อยู่ในละครโทรทัศน์ไอดอลใสๆครับ ในความสัมพันธ์ด้านความรัก ถ้าเป็นผู้ชายก็ต้องมีความรู้สึกที่อยากเป็นเจ้าของอยู่แล้ว

หยางจิ้นหย่า:ถ้าได้เจอผู้หญิงที่ต้องใจคุณจะเป็นฝ่ายเข้าหาเองไหม?

    ลู่หาน:เป็นครับ ผมเป็นพวกออกตัวรุกเองครับ ถูกปฏิเสธก็ปล่อยครับ ถ้าชอบมากเป็นพิเศษก็จะยืนหยัดจนวินาทีสุดท้าย

หยางจิ้นหย่า:คุณชอบผู้หญิงแบบไหน?

    ลู่หาน:อันนี้ยังไงก็ได้ครับ ต้องดูเป็นรายๆไป ดูความรู้สึกโดยรวมครับ ถ้ารู้สึกดี ไม่ว่านิสัยจะเป็นอย่างไรก็ทนได้ครับ ต้องปรับตัวกันทั้งสองฝ่าย

หยางจิ้นหย่า:มีgoddess(ดาราผู้หญิงที่ชอบ)ในวงการไหม?

    ลู่หาน:ตอนนี้ยังไม่มีมีดาราผู้หญิงที่ชอบในวงการครับ เพราะยังไม่ค่อยสนิทกับใครเลย

หยางจิ้นหย่า:วางแผนไว้ว่าจะแต่งงานตอนอายุเท่าไร?

    ลู่หาน:เดิมทีผมวางแผนเอาไว้เร็วอยู่นะครับ อายุ27、28 เพราะเป็นสิ่งที่พ่อแม่ต้องการครับ ผมก็ค่อนข้างหัวโบราณ อาจจะผ่านไปอีกสักปีสองปีผมก็จะไม่ทำงานอยู่ในวงการบันเทิงอีกต่อไปแล้วครับ พ่อแม่ผมค่อนข้างรีบอยากจะอุ้มหลาน

หยางจิ้นหย่า:พ่อแม่คุณชอบลูกสะใภ้แบบไหน?พวกท่านจะให้คุณนัดบอดไหม?

    ลู่หาน:พ่อแม่ผมค่อนข้างเคารพในความคิดของผมมาแต่ไหนแต่ไรเลยล่ะครับ ไม่บังคับให้ผมไปนัดบอดแน่ๆ เพราะพวกท่านรู้ว่าถ้าบังคับผม ผมจะไม่ไปแน่ๆ ผมไม่พอใจมากๆกับการนัดบอด ต้องอาศัยความรู้สึกที่คิดว่าใช่ครับ

หยางจิ้นหย่า:เคยคิดว่าถ้าได้เป็นพ่อแล้วอยากได้ลูกสาวหรือลูกชายมากกว่ากัน?

    ลู่หาน:ชอบทั้งคู่ครับ ถ้าเป็นไปได้ขอชาย1หญิง1ครับ เป็นสิ่งที่ดีที่สุดครับ แน่นอนว่าตอนนี้เราทำได้แล้ว เพราะมาตรการ(ในจีน)ได้ลดลงมาแล้ว ครั้งก่อนที่ผมอ่านข่าวได้เขียนไว้ว่า ถ้าเป็นลูกคนเดียวที่เกิดหลังปี1990 จะสามารถมีลูกได้2คน บังเอิญอ่านเจอตอนเล่นเวยป๋อครับ ผมไม่ได้เจตนาติดตามข่าวเรื่องแผนกำหนดการมีบุตรหรอกครับ

หยางจิ้นหย่า:คุณคิดยังไงกับเรื่องของ CP โดยเฉพาะCPที่ออกแนววาย?คุณรู้สึกหงุดหงิดไม่พอใจไหม?

    ลู่หาน:ไม่หงุดหงิดครับ จะให้พูดแล้ว ทุกคนมีความชอบไม่เหมือนกัน แต่พวกเราก็มีมิตรภาพที่แท้จริงต่อกัน ถ้าทุกคนอยากรับรู้มิตรภาพในรูปแบบนั้น ผมว่าก็โอเคนะครับ ผมไม่ได้นำเรื่องนี้ไปคิดมาก ก็เพียงแค่รู้สึกตลกน่ารักดี

หยางจิ้นหย่า:การพูดคุยในวันนี้ก็ได้จบลงแล้ว ขอบคุณนะลู่หาน!

    ลู่หาน:ขอบคุณทุกคนครับ


บทสรุป:

รูปลักษณ์ภายนอกของลู่หานแบ๊วมากจริงๆ คอนเซ็ปท์หลักใน《Miss Granny》ก็ได้กำหนดให้เขาเป็น“หลานแบ๊วขวัญใจของประเทศ” แต่คนที่ชอบลู่หานก็รู้กันทั้งนั้นว่าตัวเขาเองไม่ได้ชอบแนวนี้หรอก “ผมหวังว่าจะได้Manสักหน่อย” “ผมหวังว่าจะได้แสดงด้านที่ดูเป็นผู้ชายมากขึ้น” เมื่อพูดถึงประโยคเหล่านี้ ลู่หานก็มักจะนั่งยืดตัวตรงจากบนโซฟา แต่พอประกอบกับรอยยิ้มแบบประจำตัวของเขาแล้วก็ยิ่งทำให้เขาดูแบ๊วขึ้นทันตา ก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี ระหว่างสัมภาษณ์ลู่หานกล่าวว่าเป็นคนโมโหน้อยมาก นอกจากต้องลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อคนในครอบครัวและเพื่อนๆ สิ่งนี้กลับเป็นพฤติกรรมที่ทำให้เขาดูManมากเลยทีเดียว เมื่อได้รับคำชมที่ออกมาจากใจของบ.ก.แล้ว ลู่หานก็กล่าวแสดงด้วยความดีใจว่า:“ขอบคุณครับ สุดท้ายก็ได้ยินคำว่าManแล้ว”

เพราะว่ายังมีเรื่องอีกมากมายที่ยังสรุปไม่ได้ ทำให้การสัมภาษณ์ในครั้งนี้มีข้อจำกัดจำนวนมากไปโดยปริยาย เมื่อคำถามที่บ.ก.ได้ถามออกไปถูกสต๊าฟทีมงานสั่งให้ข้าม ลู่หานก็จะกล่าวเบาๆว่า“ขอโทษครับ” ถือได้ว่าลู่หานเป็นคนพิถีพิถันในมารยาทมากจริงๆ ทุกครั้งที่เปลี่ยนชุดเสร็จแล้ว พอได้เจอบ.ก.ยืนระหว่างทาง เขาก็จะโค้งคำนับให้อยู่เสมอ

—————————

CR: Sina Entertainment

TH-TR: iThinGzZu@LUHANLAND

กรุณานำออกไปพร้อมเครดิททั้งหมด!
Please take out with full credit!

แก้ไขล่าสุด 11 ธ.ค. 57 20:53 | ไอพี: ไม่แสดง

#2 | LULULUHAN | 11 ธ.ค. 57 22:38 น.

:

ไอพี: ไม่แสดง

#3 | love_kaisoo | 12 ธ.ค. 57 01:13 น.

ขอบคณค่ะ รักผู้ชายคนนี้จริงๆ

ไอพี: ไม่แสดง

#4 | EXO-LOVE | 12 ธ.ค. 57 18:26 น.

ขอบคุณค่ะ 

ไอพี: ไม่แสดง

#5 | เลิ้บตุ๊ดแบรนด์ | 12 ธ.ค. 57 19:28 น.

แปะๆ 

ไอพี: ไม่แสดง

#6 | เอลโม่ | 12 ธ.ค. 57 20:14 น.

ขอบคุณค่ะ 

ไอพี: ไม่แสดง

#7 | `Twenty-9. | 13 ธ.ค. 57 11:32 น.

ขอบคุณมากค่าา 

ไอพี: ไม่แสดง

#8 | (#`อยู่ที่เดิม..) | 13 ธ.ค. 57 20:01 น.

แปะๆ  

ไอพี: ไม่แสดง

#9 | jupiter | 16 ธ.ค. 57 00:04 น.

Man มากๆเลยค่ะลู่เก่อออ 555555555

ไอพี: ไม่แสดง

#10 | GalaxyHyung | 22 ธ.ค. 57 01:58 น.

หยางจิ้นหย่า:ถ้าเป็นประเภทโชว์กล้ามเนื้อตรงหน้าท้องล่ะ?
ลู่หาน:อันนี้ OK ครับ ผมหวังที่จะได้โชว์ด้าน Manของผมออกมาครับ

แหม แมนจิงๆนะพ่อคนแมน

ไอพี: ไม่แสดง

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google