พาเที่ยว Iwappara Ski Resort เพียงประมาณ 2 ชั่วโมงจากโตเกียว

4 พ.ค. 58 19:46 น. / ดู 813 ครั้ง / 1 ความเห็น / 1 ชอบจัง / แชร์
วันนี้ พ่อแม่น้องน้ำใจจากเพจ "น้ำใจไปไหน"
http://www.facebook.com/namjaipainai
ขาประจำแชร์ที่เที่ยวและกิจกรรมของเด็กๆ วัย 1-3 ขวบมาอีกแล้วครับ
กระทู้อื่นๆ กดดูใน Profile ได้เลยนะครับ
ลางานไปห้าวันครับ ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เพราะเจ้าเพื่อนญี่ปุ่นตัวแสบมันกระเซ้าเหลือเกินว่าให้พาน้องน้ำใจมาเล่นหิมะกัน
เพราะมันโม้ไว้นานแล้วว่าแม่มันมี ห้องอยุ่ที่ Ski Resort แห่งนึงใน Niigata ตัวผมเองเคยเจอหิมะหลายครั้งแล้ว
แต่ภรรยาและลูกไม่เคยถือว่าเป็นโอกาสดี ก็เลยตัดสินใจรับคำชวนของเจ้าไดสุเกะ เดินทางออกจากกรุงเทพไปโตเกียว
แบบซื้อตัวล่วงหน้าแค่ 5 วัน เตรียมตัวกันเต็มที่เพราะเห้นบอกว่า อุณภูมิ เกือบ 0' !!!



ออกเดินทางเช้าตรู่เลยครับ เพราะเอาที่ราคามันโอเค ไปการบินไทยไปกลับ ตก 16500 THB
แลกเงินไปรวมๆ 30000 บาทเพราะกะไปเกาะเพื่อนกินอย่างเดียว ฮาๆๆๆ

พอถึง นาริตะ ก็ต่อรถ NEX มาที่ Shijuku และต่อรถอีกทีมาที่บ้านเพื่อนที่ Soshigaya ที่เป็นเมือง Ultra Man...
รวมเวลาเดินทางจาก Airport มาถึงนี้ แบบหนาวมากๆ 3 ชัวโมง ต้องขอบอกว่าแอบทรมานมาก
แค่เดินในสถานี จากฝั่งนึงไปฝั่งนึงก็หนาวละ


ดูหน้าน้ำใจครับ ว่าทรมานขนาดไหน หนาวจรจมูกบานหน้าเครียดกันเลยทีเดียวละ

มาถึงก็เย็นละ เกือบหกโมงเย็น เพื่อนก็ขับรถพาไปหาอะไรทานที่ Shinjuku วันนั้นค่อนข้างเงียบแหะ
สงสัยจะวันธรรมดาและก็จะหนาวมากด้วย


ตื่นมาตอนเช้าวันรุ่งขึ้น ครอบครัวเพื่อนรักก็เลี้ยงดูอย่างดีไปซื้ออาหารมาอุ่นให้กิน ได้อาหารอุ่นๆ ก็โอเคหน่อย


น้ำใจหนาวมาก ขนาดในบ้านยังขอไปนอนตรงหน้าต่างตากแดดอุ่นๆ เลย

แล้วเด็กๆ ก็เล่นกันไป พ่อแม่ก็หาข้อมูลออกไปทำธุระในโตเกียวกันไป



นี้ครับบ้านของเจ้าไดสึเกะ เป้นบ้านขนาดกลางมีสองชั้น ในซอยจะเป็นซอยเล็กๆ แบบรถผ่านได้คันเดียว
แล้วบ้านปลูกติดๆกัน ถี่ยิบๆ ได้มาสัมผัสชีวิตเรียกว่า นอกเมืองแบบที่คนโตเกียวเค้าอยู่กันจริงๆ ก็เป็นประสบการ์ณที่ดีครับ

ตอนกลางวันทำธุระกันเสร็จ ก็เริ่มออกเดินทางจากกรุงโตเกียวตอนกลางคืน ในโตเกียวหนาวมาแต่หิมะไม่ตก
แต่ในข่าวบอกว่าที่ Niigata ตกหนักมาๆ เพื่อนเลยจำเป็นต้องไปเปลี่ยนยางรถเป็นยางสำหรับวิ่งบนหิมะก่อน
แวะมาร้านนี้ มีของแต่งรถเพียบเลย ราคาดีๆ ทั้งนั้น แต่ให้ซื้อแล้วแบกกลับคงจะไม่ไหว

เป็นการเดินทางที่เหนื่อยมากๆ ครับ จริงๆ สมควรจะใช้เวลา 2 ชัวโมง เห้นว่าทางรถไฟ แค่ 1.30-2 ชั่วโมง
แต่เจ้าเพื่อนมันขับหลง คุยกันเพลินขับเลยทางออก กลายเป็นว่าใช้เวลาเกือบ 4 ชัวโมง โว๊ะ
Iwappara อยู่ตรงไหนเลย ลองดูใน แผนที่ได้เลยครับ ไม่ไกลเลยจากโตเกียว
ติวเตอร์ตู่มีแนะนำ ที่ใกล้เคียงกันไว้ด้วยว่าเดินทางด้วยรถไฟมาสะดวกมาก
http://pantip.com/topic/30043329



ระหว่างทางก็มีที่แวะเหมือนเรามีจุดพักบน Motorway นะครับ ครึ่งทาง เวลาประมาณ 3 ทุ่ม คนจอดแวะเยอะเหมือนกัน
อากาศหนาวมากแวะไปหาอะไรกินอุ่นๆ ข้างในก่อน



เจ้าเอโตะ เพื่อนรักเพื่อนแค้นของน้ำใจ (เพราะตีกันตลอดเวลา แต่เวลาเจอกันก็ดีใจนะ)
มายืนขอเหรียญพ่อกดของเล่น

คุณแม่ก็แต่งตัวให้น้ำใจแน่นหนาตลอดเวลา เพราะยังไม่ชินกันกลัวไม่สบายจะหมดสนุก

ตรงส่วนอาหารจะเป็น Food Court สั่งยากนักกิน Yoshinoya ละกัน ฮาๆๆๆ
ได้กินอาหารอุ่นๆ ค่อยมีกำลังใจเดินทางต่อหน่อย


ขับมาซักพักจะมีน้ำคล้ายๆ ฝนตก ผ่านอุโมงไปก็เห็นหิมะตก
เรียกให้น้ำใจดูก็มองไม่เห็น เพราะมันปลิวเร็วมากๆ แต่พอผ่านอีกอุโมงนึงเท่านั้นละ
เห็นเป้นกำแพงหิมะเลย ผมละเสียวเพื่อนขับรถจริงๆ ดูแล้วท่าทางอันตรายน่าดู




ขับเลยไปสองทางออกได้ เกือบจะลงเขาอยู่ละ รถมีวิ่งน้อยมาครับ ขับอย่างปราดเปรียว
ยังกลัวเลยถ้าหลงทำไง**นอนในรถกลางหิมะเหรอ** ฮาๆๆ แต่สุดท้ายก็มาถึงขนได้

Resort ของเพื่อนจะเป็นตึก Condo อายุน่าจะซัก 20 ปี เหมือนพวกคอนโดที่พัทยาอะไรแบบนี้ละฮะ
รอบไม่มีร้านอะไรเปิดเลย ร้านเดียวที่เปิด 24 ชัวโมงคือ ปั้มที่อยู่ที่ตีนเข้าขับรถไปประมาณ 10 นาที
http://f.ptcdn.info/916/030/000/1430486889-DSC04281-o.jpg

เจอหิมะครั้งแรก คุณเมียก็ แอ็คถ่ายรูปใหญ่

กว่าจะถึงก็ดึกเหนื่อยกันละ จัดตงจัดเตียงเตรียมตัวนอนกัน ตอนแรกเปิด heater เห้ย ไม่ร้อนซักทีเว้ย
มันใช้เวลาอุ่นนานมาประมาณชัวโมงนึงถึงจะมีลมร้อนออกมา รอดตัวไป คอนโดมี สองห้องนอน ก็แยกกันนอนห้องละครัว
ปูเตียงนอนแบบชาวญีุ่่นเลย



ตื่นมาก็เจอวิวนี้ครับ ค่อนข้างโชคดีแดดออกฟ้าใสเชียว แต่หิมะยังเต็มครับ
แต่พออกไปเดินกลางแดดมันบรรเทาความหนาวได้เยอะเลยละ


แต่งตัวกันจัดเต็มเพราะ วันนี้คงต้องไปเกลือกกลิ้งในหิมะ แต่น้ำใจไม่มีเสื้อมาใส่เหมือนเดิมไปก่อน


เดินไปที่จอดรถ หิมะข้างทางเต็มไปหมดเลย


เอโตะจอมซน ทั้งเตะโยน หิมะเละเทะไปหมด เจ้าน้ำใจก็ทำตามนะซี้



ขึ้นรถขับขึ้นเขามาไม่ถึง 5 นาที ก็ถึงที่จอดรถ ป๊าดโถ่ เดินขึ้นมาก็ได้ ... แต่เดินขึ้นเขานี้หว่าไม่เอาดีกว่า
ขึ้นมาจะเป็นคล้ายๆ ระเบียงจอดรถ เห็นวิว สวยดีครับ เห็นมีรถแบบที่เป็นรถบ้านมาจอดเต็มเลยสงสัยไม่ต้องเปลืองที่พัก
ออกแนว แคมป์กันเลยก็เจ๋งดีครับ


ตึกนี้เป้นตึกขายและให้เช่าอุปกรณ์ รวมถึงเป็น คาเฟ่เล็กๆ ด้วยครับก็เข้าไปเช่าชุดและซื้อ อุปกรณ์ให้น้ำใจกันเลย



พ่อแม่ก็บ้าเห่อไปหน่อย ซื้อทั้งรองเท้า ถุงมือแว่น ทั้งๆที่เล่นวันเดียว เสียไป 3000 กว่าบาทแอบเสียดาย





ทางเข้าไปลานสกี ไม่มีเก้บเงินใดๆนะครับ คงได้เงินจากค่าอุปกรณ์ค่ากินอะไรพวกนี้มากกว่า
เดินขึ้นเนินไปประมาณ 50 เมตรก็จะเจอลานกว้างละ มีตึกที่เป็นเหมือนร้านอาหาร ร้านอุปกรณ์ อองเซ็นอยู่เรียงราย





ชั้นล่างนี้จะออกแนวครอบครัวครับ กับพวกหัดเล่นใหม่ พวกที่เอาจริงเค้าจะนั่ง ทางเลื่อนยาวๆ ขึ้นไปเล่นกันข้างบน
จริงๆก็อยากไปลองนะครับ แต่มีลุกมาด้วยคงต้องดูแลให้ลูกสนุกจะดีกว่า



ไดสุเกะ ไปเช่า Board แบบไถ่มาเล่นอยู่คนเดียวเพลินไปเลย



เจ้าน้ำใจใส่เต็มสูตร แต่ดูเหมือนไม่ค่อยถนัดเลยนะ ดึงแว่นบ้างดึงถุงมือบ้าง

เดินเล่นกันซักพักก็ตัดสินใจเข้าไปหาอะไรกินกันก่อน เป็นเหมือนห้องอาหารโรงเรียนเลย
มีอาหารเบสิคแบบ ทงคัสซึ แกงกะหรี่ ราเมงอะไรเทือกนี้ครับ แต่บรรยากาศใช้ได้นะชิวๆ นั่งเล่นกันได้นานเลยละ


ดูน้ำใจทำปากซะก่อน อะโห้วววววว น่าทานจุงเบยยยยย


หม่ำๆ อร่อยจังเลย หนาวด้วยเหนื่อยด้วย ฮาๆ


ออกมามีแรงเล่นละ ก็โขมยไสลเดอร์ของ เอโต๊ะมาเล่น ตอนแรกกลัวงอแงไม่กล้าลงครับ
พอต้องทำเป้นให้นั่งแล้วลาก เลื่อนไปเลื่อนมา พอชินก็เริ่มปล่อยให้ ไสดล์ลงมา ตอนหลังติดใจมาก ฮาๆ



กิจกรรมครอบครัวครับ ปั้นหิมะ แล้วก็ปาใส่กัน




เดินกันขึ้นมาไกลอีกหน่อยครับ ให้มันชันหน่อยจะ ไสลดเดอร์จะได้ไหลไกลๆได้



ไดสุเกะเริ่มขี้เกียจ นอนดูเมียและลูกเล่นกัน ไม่สนใจละ ฮาๆ


พอซัก สี่โมงก็เดินทางกลับคอนโด ไปนอนอืดกัน





น้ำใจมายืนชมวิว ยามเย็น ฟ้าสลัวๆ สวยไปอีกแบบครับ


พอค่ำก็ออกเดินทางไปหาอะไรกินกันแถวสถานี แค่ทุ่มนึงแต่ต้องบอกว่าเมืองเงียบมากๆ
มีร้านอาหารเปิดอยู่บ้างแต่ร้านอย่างอื่นปิดหมด คนเดินบนถนนนี้นับหัวได้เลยครับ
เพราะมันมืดแล้วหนาว คนก็ขี้เกียจ นอนดูทีวีอยู่บ้านกันแล้ว

แต่ยังดีที่สถานีค่อนข้างใหญ่เลยนะมีร้านเยอะแยะ มีตลาดของฝาก ร้านอาหาร ฟาสฟูด
แถมตกแต่งสวยดีอีกตั่งหากก็เดินเพลินกันไป ที่หลังมา มารถไฟก็ได้นะจะได้ไม่หลง ฮาๆ



แต่ผมไม่อยากกินร้าน ฟาสฟูดหรือราเมงอ่ะ เลยขอมันออกมาขับรถวนรอบได้มั้ยเผื่อจะมีร้านท้องถิ่น





เจอร้านนี้จอดรถลงไปดู หูยใหญ่โต ตกแต่งสวยงามแต่แพง รีบหิ้วลูกวิ่งออกมาไปหาร้านอื่นกัน ฮาๆ



สุดท้ายมาลงเอยที่ร้านเล็กๆ แต่ดูคึกคักครับออกแนว อิซากายะ ที่กำลังฮิตในเมืองไทย (รึเปล่า)
อาหารก็อาหารญี่ปุ่นทั่วไปครับ กินซูชิ ข้าวหน้าต่างๆ ลงทุนสั่งซาซิมิจานใหญ่มาเพราะเพื่อนบอกว่าอาหารี่นี้สดกว่าโตเกียว


น้ำใจชอบ Ikura หรือไข่ปลาแซลมอนมากสั่งข้าวมาให้จัดหนักเลย




ได้สั่ง หอยนางรมมาทานด้วย แต่พอดึกเข้าปากสดไปเสร็จ โอ้วววววมายยยย ก็อดดดด
เห็นตัวหนอนดึ๊บๆ อยู่ที่เปลือก ในใจก็ได้แต่หวังว่ามันคือหนอน ไม่ใช่ พยาธิใช่มั้ย
กลับมาเมืองนี้รีบซื้อยาถ่ายพยาธิมากินเลย เพราะผมเคยมีประสบการ์ณไม่ค่อยดีกับ พยาธิมาแล้วหนนึง
ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นอีก ฮือๆ

สี่ทุ่มละ ไม่น่าเชื่อยังมีชุปเปอร์ที่ใหญ่อยุ่ที่นึง ก็เลยแวะซื้อขนมนมเนยและเบียร์สำหรับคุณพอไดกกันเล็กน้อย



น้ำใจจนี้ถนัดนักละ เวลาผู้ใหญ่เค้าดืมกันชอบมานั่งข้างคุยด้วย แล้วก็เทเบียร์ เอาแก้วเปล่ามาชน คัมไป คัมไป
ขอร้องแค่อย่ายึดอาชีพนี้ในอนาคตละกันนะลูก พ่อไม่ชอบ!!!



ตื่นมาเช้าอีกวันนึง หิมะตกหนักเลยแหะ จะเดินทางกลับกันละด้วยไหวมั้ย
แต่คนที่นี้ไม่กลัวหิมะกันเลยนะ ใช้ชีวิตเหมือนปกติมากๆ เมืองไทยแค่ฝนตกยังไมอยากออกเลย



ตกหนักมาก รถต้องเอาไม้โกงหิมะมากวาดก่อนไม่งั้น ขับไม่ได้แน่นอน

http://f.ptcdn.info/918/030/000/1430491225-PhotoFeb11-o.jpg

กลับโตเกียวแล้วจ้า ไว้มีที่เที่ยวสนุกๆ สำหรับเด็กจะมาแชร์กันใหม่นะครับ
อย่าลืมไป ไลค์เพจนะครับ http://www.facebook.com/namjaipainai
เลขไอพี : ไม่แสดง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | go1daytrip | 23 พ.ค. 58 19:44 น.

ประสบการณ์ที่น่าไปลองมากๆครับ

ไอพี: ไม่แสดง

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google