นายกฯ สั่งคสช.ตั้งศูนย์ติดตามน้ำท่วม
10 มิ.ย. 58 15:18 น. /
ดู 361 ครั้ง /
0 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
https://www.youtube.com/watch?v=6L5OA4r9Tdk
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่มีฝนตกหนักจนเกิดน้ำขังในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลว่าได้มอบหมายให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) ไปตรวจสอบสาเหตุและการเตรียมรับมือกับปัญหาน้ำท่วมรวมถึงการบริหารจัดการปัญหาขยะที่อุดตันท่อระบายน้ำจำนวนมากจนทำให้ไม่สามารถระบายน้ำได้อย่างเต็มที่นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้มอบหมายให้ คสช. ตั้งศูนย์ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดโดยให้เตรียมความพร้อมด้านอุปกรณ์และรถใหญ่ รถกลาง รถเล็ก เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดโดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ
ส่วนกรณีที่มีข้อเสนอจากบางฝ่ายให้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ปลดผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หลังจากไม่สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมขังในกรุงเทพฯได้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องรวมทั้งต้องดูปัจจัยแวดล้อมประกอบด้วยโดยการใช้อำนาจพิเศษคงไม่สามารถใช้แก้ปัญหาได้เพราะผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครก็มาจากการเลือกตั้ง ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่ประชาชนควรเรียนรู้จากการใช้สิทธิ์โดยจะใช้อำนาจผ่านทางปลัด กทม. และกระทรวงมหาดไทยเข้าไปดูแล นายสัญญา ชีนิมิตร ปลัด กทม. กล่าวว่าโดยทั่วไป กทม.สามารถจัดเก็บขยะและวัชพืชในคูคลองและระบบระบายน้ำได้ไม่ต่ำกว่าวันละ 1,000 ตันแต่ในช่วงฝนตกจะเก็บได้มากขึ้นอีกหลายร้อยตัน จึงต้องขอความร่วมมือประชาชนให้ช่วยกันทิ้งขยะให้เป็นที่ด้วย
นายโสภณ โพธิสป ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ ระบุว่าได้ให้เจ้าหน้าเทศกิจทั้ง 50 สำนักงานเขตเข้มงวดกวดขัดการทิ้งขยะลงในที่สาธารณะ คู คลองของประชาชนทั่วกรุงเทพมหานครโดยเฉพาะช่วงนี้เป็นหน้าฝนซึ่งผู้ที่ทิ้งขยะในที่สาธารณะถือว่ามีความผิดตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 มีโทษสูงสุดปรับไม่เกิน 2,000 บาท ส่วนการเทสิ่งปฏิกูลมูลฝอย น้ำโสโครก หรือสิ่งอื่นใดลงบนถนนหรือในทางน้ำโทษสูงสุดปรับไม่เกิน 10,000 บาท
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่มีฝนตกหนักจนเกิดน้ำขังในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลว่าได้มอบหมายให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) ไปตรวจสอบสาเหตุและการเตรียมรับมือกับปัญหาน้ำท่วมรวมถึงการบริหารจัดการปัญหาขยะที่อุดตันท่อระบายน้ำจำนวนมากจนทำให้ไม่สามารถระบายน้ำได้อย่างเต็มที่นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้มอบหมายให้ คสช. ตั้งศูนย์ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดโดยให้เตรียมความพร้อมด้านอุปกรณ์และรถใหญ่ รถกลาง รถเล็ก เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดโดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ
ส่วนกรณีที่มีข้อเสนอจากบางฝ่ายให้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ปลดผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หลังจากไม่สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมขังในกรุงเทพฯได้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องรวมทั้งต้องดูปัจจัยแวดล้อมประกอบด้วยโดยการใช้อำนาจพิเศษคงไม่สามารถใช้แก้ปัญหาได้เพราะผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครก็มาจากการเลือกตั้ง ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่ประชาชนควรเรียนรู้จากการใช้สิทธิ์โดยจะใช้อำนาจผ่านทางปลัด กทม. และกระทรวงมหาดไทยเข้าไปดูแล นายสัญญา ชีนิมิตร ปลัด กทม. กล่าวว่าโดยทั่วไป กทม.สามารถจัดเก็บขยะและวัชพืชในคูคลองและระบบระบายน้ำได้ไม่ต่ำกว่าวันละ 1,000 ตันแต่ในช่วงฝนตกจะเก็บได้มากขึ้นอีกหลายร้อยตัน จึงต้องขอความร่วมมือประชาชนให้ช่วยกันทิ้งขยะให้เป็นที่ด้วย
นายโสภณ โพธิสป ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ ระบุว่าได้ให้เจ้าหน้าเทศกิจทั้ง 50 สำนักงานเขตเข้มงวดกวดขัดการทิ้งขยะลงในที่สาธารณะ คู คลองของประชาชนทั่วกรุงเทพมหานครโดยเฉพาะช่วงนี้เป็นหน้าฝนซึ่งผู้ที่ทิ้งขยะในที่สาธารณะถือว่ามีความผิดตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 มีโทษสูงสุดปรับไม่เกิน 2,000 บาท ส่วนการเทสิ่งปฏิกูลมูลฝอย น้ำโสโครก หรือสิ่งอื่นใดลงบนถนนหรือในทางน้ำโทษสูงสุดปรับไม่เกิน 10,000 บาท
เลขไอพี : ไม่แสดง
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
ยังไม่มีความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google