หนังสือนิยายแปล Witch&Wizard ปฐมบท-ถูกล่า

7 ก.ค. 58 10:16 น. / ดู 1,100 ครั้ง / 2 ความเห็น / 1 ชอบจัง / แชร์
หนังสือ ดนตรี และงานศิลป์ของพวกคุณ... เป็นของต้องห้าม

สิ่งที่พวกคุณกำลังถืออยู่นี้คือ
เรื่องราวที่เร่งด่วนและสำคัญมาก
เพราะมันเปิดเผยความจริงต้องห้าม
เกี่ยวกับช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยอันตรายนี้...



นี่เป็นบททดสอบที่น่าอัศจรรย์ของวัสติและวิส ออสกู้ด สองพี่น้องซึ่งถูกพรากจากครอบครัวในกลางดึกคืนหนึ่ง ถูกจับโยนเข้าคุกพร้อมข้อกล่าวหาร้ายแรงว่าทั้งคู่เป็น"แม่มดพ่อมด"

สองพี่น้องไม่ได้เจอสถานการณ์ที่น่าสะพรึงกลัวแต่ลำพัง มีเด็กๆ อีกหลายพันคนถูกลักพาตัว ถูกกล่าวหา หลายคนหายสาบสูญไป ไม่มีใครรู้ชะตากรรมของเด็กๆเหล่านั้น สิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือ    น่ากลัวว่าระบบการปกครองใหม่นี้จะไม่ยอม หยุดยั้งการคร่าชีวิตและอิสรภาพ ดนตรีและหนังสือ ศาสตร์แห่งเวทย์มนตร์... และความพยายามที่จะเป็นเพียงเด็กวัยรุ่นธรรมดาๆ

    หนังสือเรื่องนี้ส่วนใหญ่ได้ถูกยึด ฉีกทิ้ง เผาทำลายไปแล้ว ที่เหลือรอดมานี้เป็นเล่มหายาก  ขอให้ส่งต่อกันออกไป ก่อนที่จะสายเกินไป

เขียนโดย JAMES PATTERSON เป็นนักเขียนหนังสือขายดีที่ได้รับความนิยมอย่างสูงหลายเล่ม อาทิ Maximum Ride novels, the Daniel X series และหนังสือชุดสืบสวนขายดี เรื่อง ALEX Cross และ the Women's Murder Club หนังสือของเขามียอดขายรวมมากกว่า 170 ล้านเล่มทั้วโลก เขาอาศัยอยู่ที่ฟลอริดา
เกเบรียล ชาร์บอนเน็ต (Gagrielle Charbonnet) เป็นผู้แต่งร่วมของของหนังสือ Sundays at Tiffany's

โดยเขียนร่วมกับเจมส์ แพ็ตเทอร์สัน และเธอยังมีผลงานเขียนหนังสือวรรณกรรมเยาวชนเรื่องอื่นๆ อีกหลายเล่ม เธออาศัยอยู่ที่นอร์ธแคโรไลนา


ลิขสิทธิ์ Nation Book
source: http://blog.nstore.net/archives/2114
แก้ไขล่าสุด 8 ก.ค. 58 09:31 | เลขไอพี : ไม่แสดง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | nation | 8 ก.ค. 58 09:33 น.

อารัมภบท


คุณ
ไม่ได้อยู่
ที่
แคนซัส
อีกต่อไป


วิสตี

มันเกินกว่าจะรับได้จริงๆ ใบหน้าโกรธขึ้งของคนทั้งเมืองกำลังจ้องมาที่ฉันเหมือนเป็นอาชญากรโหด...แต่ฉันยืนยันกับคุณได้เลยว่า ฉันไม่ได้เป็นสนามกีฬาแห่งนี้มีคนอยู่เต็มความจุ...ที่จริงมากเกินความจุด้วยซ้ำ มีผู้คนยืนอยู่ตามทางเดิน ตามบันได บนเชิงเทินคอนกรีต และที่เหลืออีกนับพันพากันปักหลักอยู่บนสนามแข่ง วันนี้ไม่มีการแข่งขันฟุตบอลหรอกนะ แต่ถึงจะมีนักฟุตบอลก็คงลุยผ่านผู้คนออกมาตามทางเดินจากห้องพักนักกีฬาไม่ได้หรอก
    ภาพความเกลียดชังทั้งหมดนี้กำลังออกอากาศทางโทรทัศน์ และทางอินเตอร์เน็ต ทั้งผู้สื่อข่าวนิตยสาร และหนังสือพิมพ์ที่ไร้สมองทั้งหลายก็พากันมาอยู่ที่นี่ด้วย ใช่ ฉันเห็นช่างภาพโทรทัศน์หลายคนอยู่ตามยกพื้นที่ตั้งอยู่เป็นระยะๆ รอบสนามกีฬาด้วย
    พวกนี้มีแม้กระทั่งกล้องควบคุมจากระยะไกลที่เคลื่อนที่ไปมาตามลวดที่ขึงอยู่เหนือสนามแข่ง นั่นไง...มันโฉบมาอยู่ที่หน้าเวที และแกว่ง
เล็กน้อยตามกระแสลมเพราะอย่างนี้จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า นอกจากที่ฉันเห็นแล้ว ยังมีสายตาอีกนับล้านคู่ที่กำลังดูอยู่ แต่สายตาในสนามนี่เองที่ทำให้ฉันใจสลาย นั่นก็คือการประจันหน้ากับคนเป็นหมื่น หรืออาจจะเป็นแสน เผชิญกับผู้คนที่มีสีหน้าอยากรู้อยากเห็น ไม่สนใจใยดี หรือไม่แยแสแม้แต่น้อย ...เจออย่างนี้แล้วที่ว่าน่ากลัวนั้นน่ะ จิ๊บจ๊อยเลยและไม่ต้องพูดถึงน้ำตาเลย แค่น้ำตาคลอก็ยังไม่มี
    ไม่มีคำประท้วง
    ไม่มีการกระทืบเท้า
    ไม่มีการชูกำปั้นแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว
    ไม่มีอะไรที่บ่งชี้เลยว่าจะมีใครสักคนที่คิดจะฮือเข้ามา ฝ่าวงล้อมของเจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคง แล้วพาครอบครัวของฉันไปสู่ความปลอดภัยเห็นชัดๆ เลยว่า วันนี้ไม่ใช่วันดีของพวกเรา ตระกูลออลกู้ดจะว่าไป **เจ้านาฬิกานับถอยหลังที่กำลังสว่างวาบๆ อยู่บนจอ
ขนาดยักษ์ทั้งสองฝั่งของสนามกีฬานั้น ยิ่งทำให้รู้สึกเหมือนว่า วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายของพวกเรา
    ประเด็นนี้ตอกย้ำโดยชายร่างสูง หัวล้าน ยืนอยู่บนหอคอยที่ก่อขึ้นตรงกลางสนาม เขาดูมีลักษณะผสมกันระหว่างหัวหน้าผู้พิพากษาศาลฎีกากับหมิงผู้ไร้ความปรานี ฉันรู้จักผู้ชายคนนี้ เคยพบเขาแล้ว เขาคือ ‘บุคคลผู้ที่เป็นหนึ่ง’ตรงไปทางด้านหลังเขาผู้ทรงไว้ซึ่งความยิ่งใหญ่นั้น คือ แผ่นป้ายขนาดยักษ์ของ ป.ม. – ประกาศิตใหม่และแล้วฝูงชนก็เริ่มส่งเสียงขึ้นซ้ำๆ จนฟังเหมือนกับบทเพลง “บุคคลผู้ที่เป็นหนึ่ง บุคคลผู้ที่เป็นหนึ่ง...” บุคคลผู้ที่เป็นหนึ่งยกมือขึ้นด้วยท่วงท่าของจอมเผด็จการ ลูกสมุนของเขาที่สวมผ้าคลุมหัวอยู่บนยกพื้นผลักพวกเราไปข้างหน้า ผลักไปไกลจนสุดเชือกที่คล้องคอของพวกเรา
    ฉันเห็นพี่ชายของฉัน ‘วิต’ ซึ่งทั้งสง่างาม และกล้าหาญ กำลังมองลงไปที่กลไกของตะแลงแกง คะเนดูว่าจะทำให้มันติดขัดได้อย่างไร จะทำอย่างไรที่จะไม่ให้มันปลดสลัก แล้วปล่อยให้เราร่วงลงไปให้เชือกกระตุกจนคอหักตายฉันเห็นแม่กำลังร้องไห้อยู่เงียบๆ แน่นอนอยู่แล้วว่าไม่ได้ร้องไห้สงสารตัวเอง แต่สงสารวิตกับฉัน
    ฉันเห็นพ่อ ร่างสูงของท่านค้อมลงอย่างอับจนหนทาง ยิ้มให้ฉัน และพี่ชายเพื่อให้เรามีกำลังใจ และเตือนให้เราระลึกว่า ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะต้องมาทุกข์กับวาระสุดท้ายของเราบนโลกใบนี้แต่ว่าตอนนฉันเล่าเรื่องตัวเองล้ำหน้าไปหน่อย ฉันควรจะแค่เกริ่นเท่านั้น
ไม่ใช่เล่ารายละเอียดของการถูกประหารต่อหน้าฝูงชนของพวกเราถ้าอย่างนั้น ก็ขอเล่าย้อนกลับไปสักหน่อยหนึ่งก็แล้วกัน...

ไม่มี
การก่อ
อาชญากรรม
มีแค่
บทลงโทษ

บทที่ 1

วิต

บางครั้งคุณตื่นขึ้นมา แล้วโลกก็ต่างไปจากเดิมเสียอย่างนั้นแหละ เสียงเฮลิคอปเตอร์ที่บินวนเวียนทำให้ผมต้องลืมตาตื่นขึ้น แสงสีฟ้าขาว
เย็น ยะเยือกแทรกผ่านบังตาเข้ามาส่องจ้า อยู่ในห้องนั่งเล่นจนดูราวกับว่าเป็นตอนกลางวัน แต่นี่ไม่ใช่กลางวัน ผมเพ่งสายตาสะลึมสะลือไปที่นาฬิกาบนเครื่องเล่นดีวีดี ตีสองสิบนาที ผมรู้สึกเหมือนได้ยินเสียง ตุบ ตุบ ตุบ ที่ดังอย่างสม่ำเสมอ คล้ายเสียงของหัวใจกำลังเต้นแรง ระรัว กดดันเข้ามา มันเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?  ผมเดินโงนเงนไปที่หน้าต่าง บังคับร่างกายให้ตื่นตัวขึ้นมาหลังจากที่นอนหลับผล็อยอยู่บนโซฟามาสองชั่วโมง แล้วเพ่งมองลอดช่องระหว่างแผ่นบังตาออกไป


แล้วก็ต้องผงะ ขยี้ตาตัวเอง แรงๆ เพราะเป็นไปไม่ได้ที่ผมจะเห็นสิ่งที่ผมเพิ่งเห็น และเป็นไปไม่ได้ที่ผมจะได้ยินสิ่งที่ผมเพิ่งได้ยิน
มันใช่เสียงตบเท้าที่สม่ำเสมอและหนักแน่นของทหารเป็นร้อยๆ จริงๆ หรือ? ทหารมาตบเท้าเดินแถวพร้อมเพรียงกันที่ถนนหน้าบ้านผมหรือ?
ถนนสายนี้ก็ไม่ได้อยู่ใกล้กับใจกลางเมืองมากพอที่จะเป็นเส้นทางของขบวนพาเหรดประจำเทศกาลอะไรทั้งนั้น และยิ่งเป็นขบวนของหน่วยติดอาวุธ
ในชุดสนามเดินมากลางดึกอย่างนี้แล้ว ยิ่งเป็นไปได้ยากยิ่งกว่าผมสะบัดหัวไปมา และกระโดดขึ้นลงอยู่สองสามครั้ง อย่างที่ทำเพื่ออบอุ่นร่างกายก่อนเล่นกีฬา ตื่นได้แล้ววิต ผมตบหน้าตัวเองเพื่อให้แน่ใจ และมองออกไปอีกครั้ง นั่น พวกเขาอยู่ที่นั่น พวกทหารกำลังเดินแถวมาตามถนนหน้าบ้านเรา
เป็นร้อยๆ เห็นชัดเหมือนอย่างกลางวันด้วยแสงจากรถบรรทุกติดสปอตไลท์หกคันความคิดหนึ่งแล่นซ้อนเข้ามาในสมอง ไม่จริงนะ… เป็นไปไม่ได้
ไม่จริงนะ ไม่จริงนะ…แล้วผมก็นึกได้ถึงการเลือกตั้ง ถึงรัฐบาลใหม่ นึกถึง คำพูด ที่โกรธเคืองของพ่อและแม่ต่อปัญหาที่ประเทศกำลังเผชิญ นึกถึงการถ่ายทอดพิเศษทางโทรทัศน์ นึกถึงฎีกาทางการเมืองที่เพื่อนร่วมชั้นเรียนของผมกำลังส่งต่อๆกันไปในโลกออนไลน์ นึกถึงการถกเถียงกันอย่างเผ็ดร้อนระหว่างอาจารย์ที่โรงเรียน สิ่งเหล่านี้ไม่เคยมีความหมายอะไรกับผมมาก่อนเลย จนกระทั่งวินาทีนี้และก่อนที่จะทันได้ปะติดปะต่อเรื่องราวเข้าด้วยกัน หัวหน้าหน่วยทหารเหล่านี้ก็มาหยุดที่หน้าบ้านของผม

ทันทีที่ผมเริ่มจะเข้าใจสถานการณ์ ทหารติดอาวุธสองนายก็แยกตัวออกจากแถว วิ่งตัดสนามหญ้ามาเหมือนหน่วยจู่โจม นายหนึ่งวิ่งอ้อมไปหลังบ้าน อีกนายยึดพื้นที่ด้านหน้าผมกระโดดถอยออกมาจากหน้าต่าง บอกได้เลยว่า พวกเขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อปกป้องผม และครอบครัวของผม
ผมต้องเตือนพ่อ แม่ วิสตี – แต่พอผมจะอ้าปากตะโกน ประตูหน้าบ้านก็ถูกพังจนหลุดออกจาก บานพับ


บทที่ 2

วัสตี

มันสยองมาก ที่ถูกลักพาตัวจากบ้านของตัวเองกลางดึกแบบนี้  เหตุการณ์เป็นไปอย่างนี้ จะเล่าให้ฟัง ฉันตื่นขึ้นมาท่ามกลางความอลหม่านของเสียงโต๊ะเก้าอี้ล้มคว่ำ ตามด้วยเสียงแก้วแตกกระจาย  น่าจะเป็นพวกเครื่องกระเบื้องของแม่


โธ่ วิต ฉันคิด แล้วสะบัดหัวด้วยความง่วง พี่ชายของฉันสูงขึ้นสี่นิ้วและมีกล้ามเพิ่มขึ้นสามสิบปอนด์ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา จึงทำให้เขาเป็นควอเตอร์แบคที่ใหญ่และเร็วที่สุดในย่านนี้ และฉันพูดได้เลยว่า เขาเป็นนักฟุตบอลที่น่าเกรงขามที่สุดในทีมฟุตบอลโรงเรียนระดับภูมิภาคของเราที่ไม่เคยพ่ายแพ้ให้แก่ใครแต่ว่า นอกสนามแข่ง วิตงุ่มงามเหมือนกับหมีธรรมดาๆ ตัวหนึ่ง แต่เป็นเจ้าหมีธรรมดาที่ซัดกระทิงแดงเข้าไปหนึ่งลังเต็มๆ แล้วก็หยิ่งเสียด้วย เพราะวิตสามารถวิดพื้นกับม้ายาวได้สองร้อยเจ็ดสิบห้าครั้ง และสาวๆ ทั้งโรงเรียนก็คิดว่าเขามีหุ่นบาดใจที่สุดในบรรดาพวกหนุ่มหุ่นดีทั้งหลาย


ฉันพลิกตัวแล้วดึงหมอนมาปิดหัว แม้กระทั่งก่อนที่วิตจะเริ่มดื่มเหล้ามันก็ยากแล้วที่เขาจะเข้ามาในบ้านโดยที่ไม่ชนอะไรล้มเข้าสักอย่าง อย่างที่เขาเรียกว่าเอากระทิงมาไว้ในร้านเครื่องกระเบื้องนั่นเลยแหละแต่ฉันรู้ว่านั่นไม่ใช่ปัญหาจริงๆ ของคืนนี้เมื่อสามเดือนก่อน ซีเลีย แฟนของวิตหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย และตอนนี้ ทุกคนก็คิดว่าซีเลียคงจะไม่กลับมาอีกแล้ว พ่อแม่ของซีเลียเสียใจกับเรื่องนี้มาก รวมทั้งวิตด้วย ถ้าจะพูดกันตามจริงแล้วฉันเองก็ทำใจกับเรื่องนี้ไม่ได้เหมือนกัน ซีเลียเคย…ไม่ใช่ซิ…ซีเลียเป็นคนสวย ฉลาด แล้วก็ไม่หยิ่งด้วยแม้ซีเลียจะเป็นคนมีฐานะดี แต่เธอก็เป็นผู้หญิงที่เจ๋งมาก พ่อของซีเลียเป็นเจ้าของบริษัทซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายรถหรูในเมืองนี้ และแม่เคยเป็นถึงนางงามมาก่อน ฉันนึกไม่ถึงเลยว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับคนอย่างซีเลียได้ฉันได้ยิน เสียงประตูห้องนอนของพ่อ กับ แม่เปิด ก็ เลยซุกตัว กลับ เข้าไปในที่นอนที่ปูด้วยผ้าสำลีอันอบอุ่นของฉัน


จากนั้นเสียงคำรามของพ่อก็ดังขึ้น ฉันไม่เคยได้ยินเสียงพ่อโกรธขนาดนี้มาก่อนเลย

“นี่มันอะไรกัน! พวกแกไม่มีสิทธิ์เข้ามาที่นี่ ออกไปจากบ้านฉัน เดี๋ยวนี้” ฉันเด้งตัวขึ้น ตาสว่างทันที จากนั้นก็มีเสียงดังโครมครามตามมาอีก ฉันคิดว่าได้ยินเสียงใครบางคนร้องด้วยความเจ็บปวด วิตล้มหัวแตกหรืออย่างไร? หรือว่าพ่อจะบาดเจ็บ? ตายแล้ว! ฉันคิดในใจ ตะกายออกจากที่นอน “หนูมาแล้วค่ะพ่อ

พ่อเป็นอะไรหรือเปล่า?”และแล้วฝันร้ายที่เป็นจุดแรกของฝันร้ายในชั่วชีวิตก็เริ่มต้นขึ้นอย่างจริงจังฉันอ้าปากค้างขณะที่ประตูห้องนอนของฉัน ถูกพัง เปิด ออกมา ชายร่างกำยำในชุดเครื่องแบบสีเทาเข้มสองคนวิ่งพรวดเข้ามาในห้องของฉัน จ้องเขม็งมาราวกับว่าฉันเป็นผู้ก่อการร้ายที่กำลังหลบหนีชายคนหนึ้ง พูดว่า “คนนี้แหละ วิสตีเรีย ออลกู้ด!” แล้วแสงสว่างที่จ้าจนทำให้โรงซ่อมเครื่องบินสว่างขึ้นทั้งโรงได้ ก็ส่องเข้ามาทำลายความมืดฉันพยายามป้องตาไว้ ขณะที่ใจเตรียมสู้สุดตัว และถามไปว่า “พวกแกเป็นใคร?! มาทำอะไรในห้องนอนของฉัน?”

บทที่ 3

วิสตี

“ระวังนั่งนี่ให้ดี ! ” หนี่งในชายร่างมหึมาเตือน พวกเขาดูเหมือนหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่มีตัวเลขสีขาวขนาดยักษ์อยู่บนเครื่องแบบ “แกรู้นี่ว่า เธอสามารถ...”อีกคนพยักหน้ารับ กวาดตามองไปรอบๆ ห้องอย่างประหม่า “แก!” เขาตะคอกใส่อย่างเกรี้ยวกราด
“มากับฉัน เรามาจากประกาศิตใหม่ ถ้าหนีแม้แต่ก้าวเดียว เราจะลงโทษสถานหนัก!” ฉันจ้องไปที่เขา หัวหมุนติ้วเลย ประกาศิตใหม่หรือ? นี่ไม่ใช่ตำรวจทั่วๆ ไป หรือพนักงานส่งไปรษณีย์ด่วนนี่


“เออ...ฉัน...ฉัน” ฉันตะกุกตะกัก “ฉันต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ขอ...ขอความเป็นส่วนตัวสักนิดได้ไหม?”
“หุบปากซะ!” หน่วยจู่โจมคนแรกตะคอก “จับตัวไว้! แล้วระวังตัวกันด้วย นังนี่อันตราย...พวกนี้ทุกคนอันตราย”
“อย่านะ! หยุดเดี๋ยวนี้ อย่ามาทำอย่างนี้กับฉันนะ” ฉันแผดเสียง
“พ่อ! แม่! วิต!”
แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นกับฉันก็เหมือนกับรถพ่วงที่ไถลบนพื้นน้ำแข็ง นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับซีเลียใช่ไหม?
ตายล่ะสิ! เหงื่อกาฬผุดขึ้นที่หลังคอ ฉันต้องออกไปจากที่นี่ จะด้วยวิธีไหน อย่างไรก็แล้วแต่ ฉันคิดอย่างสิ้นหวังฉันต้องหายตัว


บทที่ 4

วิสตี
พวกชายกล้ามยักษ์ ในเครื่องแบบสีเทาจู่ๆ ก็อึ้ง ยืนตัวแข็งทื่อ หัวคล้ายท่อนไม้ของพวกเขาสะบัดไปข้างหน้าข้างหลังเหมือนหุ่นชัก  “เธออยู่ไหน? เธอไปแล้ว หายไปแล้ว หายไปไหน?” หนึ่งในพวกเขา พูดด้วยเสียงที ่แหบแห้งและตื่นตระหนก  พวกเขาฉายไฟไปรอบๆ ห้อง มีคนหนึ่งคุกเข่าลงหาที่ใต้เตียง อีกคน รีบไปหาที่ตู้เสื้อผ้าของฉัน  ฉันจะไปไหนล่ะ? คนพวกนี้สติดีกันหรือเปล่านี่? ฉันก็อยู่ตรงนี้เหมือนเดิม นั่นล่ะ มันเกิดอะไรขึ้นนะ?  บางทีพวกนี้อาจจะทำอุบายให้ฉันวิ่งหนี เพื่อจะได้เป็นข้ออ้างในการ ใช้กำลัง หรือบางทีพวกเขาอาจจะเป็นคนที่หนีมาจากโรงพยาบาลบ้า แล้วมา
จับตัวฉันเหมือนกับที่เอาตัวซีเลียที่น่าสงสารไป  “วิสตี” แม่ตะโกนเรียกมาจากห้องโถงด้วยความเป็นห่วง เสียงของแม่


แทรกผ่านความมึนงงที ่ฟุ้งเต็มสมองฉัน “หนีไปเสียลูกแม่ หนีไป!”  “ แม่!” ฉันตะโกนร้อง ชายสองคนนั้นกะพริบตา แล้วถอยห่างออกไป ด้วยความประหลาดใจ  “เธออยู่นั่นไง! จับไว้! เธออยู่ตรงนั้น! เร็วเข้า ก่อนที่จะหายตัวไปอีก!”  มือใหญ่เทอะทะจับแขน ขา แล้วก็หัวฉัน “ปล่อยฉันนะ!” ฉันร้อง ดิ้นรน ขัดขืนไปพร้อมๆ กัน “ปล่อย ฉัน นะ”  มือพวกนี้จับตัวฉันแน่นเหมือนปลอกเหล็ก พวกเขาลากฉันลงมาตาม ทางเดินไปที่ห้องนั่งเล่น และโยนฉันลงบนพื้นเหมือนทิ้งถุงขยะ  ฉันรีบตะเกียกตะกายลุกขึ้นยืน มีลำแสงจ้าส่องมาอีกทำให้มองอะไร ไม่เห็น แล้วฉันก็ได้ยิน เสียงตะโกนของวิตขณะที่เขาถูกโยนลงบนพื้นห้องนั่งเล่น ข้างๆ ฉัน  “วิต เกิดอะไรขึ้น พวก...ป่าเถื่อนพวกนี้เป็นใครกัน?” 


“วิสตี” วิตพูดเสียงหอบเป็นห้วงแต่ก็พอจะปะติดปะต่อได้ “เธอไม่เป็น อะไรนะ?”  “เป็นซิ” ฉันเกือบจะร้องไห้ออกมา แต่ก็ร้องไม่ออก ไม่อยาก... ให้พวกมัน เห็นฉันเป็นคนขี้ขลาด ไม่ได้เด็ดขาด หนังสืบสวนคดีอาญากรรมจากเรื่องจริง ที่น่ากลัวทุกเรื่องที่เคยดูปรากฏขึ้นในหัวของฉัน ทำให้ท้องเกิดอาการปั่นป่วน ฉันเบียดเข้าไปใกล้พี่ชาย เขาจับมือฉันกุมไว้แล้วบีบเบาๆ  ทันใดนั้นลำแสงจ้าก็ดับลง พวกเรากะพริบตา และเนื้อตัวสั่นเทา
“แม่ครับ?” วิตตะโกน “พ่อครับ?” ถ้าพี่ของฉันไม่เคยเป็นคนที่ควบคุม สติได้ดีมาก่อน แต่แน่ใจได้เลยว่าตอนนี ้เขาคุมสติได้ ฉันอ้าปากค้างด้วยความตกใจ พ่อกับแม่ยืนอยู่ตรงนั้น ยังอยู่ใน  ชุดนอนยับยู่ยี่ ถูกยึดตัวไว้จากข้างหลังเหมือนเป็นอาชญากรอันตราย ถึงแม้ เราจะมีบ้านอยู่ในละแวกคนจน แต่ก็ไม่มีใครในครอบครัวไปก่อปัญหามาก่อน  เท่าที่ฉันรู้ ก็ไม่มีนะ

แก้ไขล่าสุด 8 ก.ค. 58 10:06 | ไอพี: ไม่แสดง

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google