Sicario (2015) บทวิจารณ์ภาพยนตร์โดย FallsDownz
23 ก.ย. 58 15:37 น. /
ดู 1,016 ครั้ง /
0 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
Sicario (2015) บทวิจารณ์ภาพยนตร์โดย FallsDownz
เดนนิส วิลเลอเนิฟ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเป็นอีกหนึ่งผู้กำกับฝีมือระดับหาตัวได้ยากของฮอลลีวูด จากผลงานก่อนๆอย่าง Prisoners และ Enemy ซึ่งภาพยนตร์ของเขา มักจะเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด สถานการณ์อันกดดันจนหายใจลำบากในทุกๆวินาที ซึ่งนี้เป็นสิ่งที่ผู้กำกับน้อยคนนักจะทำได้เป็นเอกลักษณ์อย่างคงเส้นคงว่าเท่า เดนนิส
ซึ่ง Sicario ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น นี้ยังคงเป็นภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศอันตึงเครียด กดดัน และสมจริง ว่าด้วยเรื่องราวของ เคท FBI สาวมือฉกาจที่ถูกส่งไปร่วมช่วยเหลือต่อต้านขบวนการค้ายาและเข้าเมืองอย่างผิดกฏหมายที่ชายแดนระหว่าง สหรัฐอเมริกา กับแม็กซิโก แต่การมาของเธอครั้งนี้ทำให้เธอได้รู้ซึ้งถึงความอันตรายครั้งใหม่
สาเหตุที่ทำไม Sicario เป็นภาพยนตร์ที่ช่างลุ้นระทึก กดดัน และตึงเครียด ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าส่วนสำคัญมาจากผู้กำกับ เดนนิส วิลเลอเนิฟ ซึ่งยังคงเล่าเรื่อง และสร้างสถานการณ์ได้อย่างน่าทึ่ง ไม่ว่าจะผ่านบทพูด หรือ ภาพบนจอภาพยนตร์ ที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกว่าเหล่าตัวละครนั่นตกอยู่ในสภาวะที่เป็นภัย และความรู้สึกที่อะไรจะเกิดขึ้น เมื่อใดก็ได้ตลอดทั้งเรื่อง
ยิ่งผนวกเข้ากับการตัดต่อของ โจ วอล์คเกอร์ เข้าไป ก็ยิ่งทวีคูณความเคร่งเครียดให้กับสถานการณ์ในภาพยนตร์ขึ้นไปอีกขั้น
ในด้านของนักแสดงทั้งหลายในภาพยนตร์ ทุกคนก็ยังคงแสดงพลังผ่านเรื่องราวอันตึงเครียดได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น เอมิลี่ บลันท์ ซึ่งรับบทหญิงแกร่งในต้นเรื่อง สู่หญิงผู้บอบบางอ่อนแอในท้ายเรื่อง หรือ จอช โบรลิน ที่นอกจากจะรับบทจริงจังได้แล้ว ยังเป็นคนที่คอยใส่มุขกวนๆเข้ามาสร้างสีสันในภาพยนตร์ท่ามกลางสถานการณ์อันตึงเครียดได้ตลอดเวลา
แต่บุคคลที่เป็นตัวเอกที่แท้จริงของภาพยนตร์ ก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก เบนิซิโอ เดล โทโร ซึ่งรับบทเป็นตัวละครอันแสนโหด**ม น่ากลัว และน่าเกรงขามที่สุดในภาพยนตร์ นอกจากนั้น ความสัมพันธ์เสมือน 'พ่อสั่งสอนลูก' ระหว่างตัวละครของเขา กับ ตัวละครของ เอมิลี่ บลันท์ ก็ช่างน่าสนใจเสียจริงๆ
ถ้าหากจะมีสิ่งหนึ่งที่ Sicario ยังทำได้ไม่โดดเด่นเท่าไรนัก ก็คงจะเป็นพื้นหลังการวางเรื่องราวปมปัญหาระหว่างประเทศอเมริกาและแม็กซิโก ที่ยังคงดูเดิมๆ ไม่น่าจดจำและไม่น่าสนใจเท่าไรนัก
การสอดแทรกประเด็นศีลธรรมในมนุษย์ก็ค่อนข้างจะโดนส่วนอื่นเบียดจนตกไป แตกต่างจากในผลงานก่อนอย่าง Prisoners ที่ตัว เดนนิส เล่นจุดนี้ได้ดี ได้น่าจดจำกว่ามากซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย
ถึงแม้ว่าในช่วงปัจจุบันเราจะได้เห็นและได้ชมการยอมรับพลัง สิทธิ เสรีภาพและความเท่าเทียมระหว่างเพศชาย กับเพศหญิงที่มากขึ้นแล้ว ไม่ว่าจะนอกหรือในโลกภาพยนตร์ แต่ช่างน่าแปลกใจที่ Sicario กลับเป็นภาพยนตร์ที่ตอกย้ำถึงพื้นที่หรือโลกบางส่วนที่มีแต่ผู้ชายเท่านั้นที่จะอยู่รอดได้ และเป็นที่ๆเพศหญิงหรือผู้อ่อนแอไม่อาจมีชีวิตรอด ซึ่งในภาพยนตร์เปรียบเปรยโลกๆนี้ว่าเป็น 'โลกแห่งหมาป่า' ที่ๆซึ่งเหยื่อผู้อ่อนแอจะถูกกำจัดอย่างง่ายดาย
ซึ่งตัวละครของ เอมิลี่ บลันท์ ก็เปรียบเสมือนตัวแทนความแข็งแกร่งของเพศหญิง ที่เข้ามาถูก บดบี้ ขยี้ และถูกฉีกเป็นชิ้นๆ ในโลกของผู้ชายหรือโลกของหมาป่าแห่งนี้ เสมือนเป็น เด็กน้อยท่ามกลางฝูงหมาป่า อย่างแท้จริง
สุดท้ายแล้ว Sicario ก็เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ฮอลลีวูดที่น่าจับตามองมากที่สุดในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นการกำกับ เล่าเรื่อง ตัดต่อ หรือการแสดง ต่างก็อยู่ในระดับที่น่าทึ่ง ยิ่งไปกว่านั้น การสอดแทรกความคิดที่มีโลกหรือพื้นที่บางส่วนซึ่งผู้หญิง หรือ ผู้อ่อนแอไม่ควรเข้ามายุ่งเกี่ยว และเป็นโลกของผู้ชาย ฝูงหมาป่าอันแข็งแกร่งเท่านั้นที่จะอยู่ได้ ก็เป็นแนวความคิดที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย Sicario อาจไม่ใช่ภาพยนตร์ที่สมบูรณ์แบบ แต่นั้นก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงด้านที่ดีงามของภาพยนตร์เรื่องนี้ไปซักเท่าไรนัก
Final Score : [ 8 / 10 ]
https://www.facebook.com/fallsdownzcritic
http://fallsdownz.blogspot.com/
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 7
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
ยังไม่มีความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google