16Days 15Nights :: Gotta go to Korea เกาหลี.. มีอะไรมากกว่าที่คิด ❤
30 ต.ค. 58 23:50 น. /
ดู 2,840 ครั้ง /
3 ความเห็น /
3 ชอบจัง
/
แชร์
คำเตือน กระทู้นี้มีทั้งการรีวิวสถานที่ท่องเที่ยว สถานที่กิน สถานที่ช็อป และสถานที่ติ่ง ควรใช้วิจารณญาณในการอ่าน ที่สำคัญ มันยาวมาก อาจตอบช้าไปบ้างนะคะเพราะต้องเตรียมตัวรับเปิดเทอมแล้ว แฮ่.. ขอบคุณที่ติดตามค่า Let's Go!!
Ps.เป็นกระทู้เดียวกันกับ http://pantip.com/topic/34382293 ผิดพลาดยังไงขออภัยด้วยนะคะ
ใครอยากสอบถามเรื่องอื่นเพิ่มเติมแบบเร่งด่วน หรืออยากพูดคุยเล่น(?)สามารถมาพูดคุยกันได้ที่..
Twitter : @Jokerice980519
Facebook : Ice'Suthathip Asaman
Line : isdangerous
▧ สวัสดีค่ะ จขกท.ชื่อไอซ์ ปีนี้อายุ 17 ขอแทนตัวเองว่าเรานะคะ นี่เป็นครั้งที่สองแล้วสำหรับการไปเที่ยวเกาหลีด้วยตัวเอง(ถ้าใครยังจำได้ปีก่อนเราก็เคยตั้งกระทู้แต่รีวิวไม่จบ.. กราบแรง) ติดใจอะไรนักหนาก็ไม่รู้? ครั้งแรกของเราคือปีก่อนตอนอายุ 16 ไปคนเดียว.. เป็นการไปแบบมั่วๆมึนๆไม่ค่อยได้อะไรกลับมาเท่าไรเลยอยากจะขอแก้มือสักหน่อย แต่ครั้งนี้ต่างจากเดิมเพราะมีผู้ร่วมทริปด้วยอีกหนึ่งคนคือ เอม เพื่อนรุ่นเดียวกันรู้จักทางทวิตเตอร์เมื่อตอนต้นปีเพราะชอบศิลปินวงเดียวกัน(ให้ทาย? .. เฉลย BEAST!)
▧ เริ่มเลยดีกว่า เราเลือกที่จะไปช่วงฤดูใบไม้ร่วง วันที่ 14-29 ตุลาคม 2015 เพราะอยู่ในระหว่างการปิดเทอมของมัธยมพอดี อยากดูใบไม้เปลี่ยนสี อากาศก็เย็นสบายพอแต่งแฟชั่นได้ และถ้าถามว่าไปตั้ง 15 วันนี่ไปทำอะไรเยอะแยะ? เราก็ไม่รู้.. คิดแค่ว่าอยากไปให้คุ้มเอาแบบไม่ต้องมาเสียดายตอนกลับไทยอีก แต่ตอนนี้ก็ยังอยากย้อนเวลากลับไปเพิ่มวันอยู่ดี
▧ ข้อมูลสถานที่กิน+เที่ยวบางส่วนเอามาจากบล็อก Seoul cafe และทวิตเตอร์ Seoulstorys อีกส่วนก็ตามบล็อก Naver หรือ Instagram ของคนเกาหลีโดยตรง ส่วนใหญ่เราจะเป็นคนจัดแพลนและหาสถานที่เที่ยว วางทุกอย่างไว้ล่วงหน้าเป็นครึ่งปี ปรับเปลี่ยนอะไรไปเรื่อยตามความเหมาะสม(และตารางงานของศิลปิน ฮ่า)
Trick for read : เราจะบอกสถานที่ การเดินทาง คำบรรยาย รูปภาพประกอบ และสรุปค่าใช้จ่ายโดยรวมไว้ในตอนสุดท้าย ซึ่งทั้งหมดจะอยู่ในกระทู้เดียวเพื่อให้สะดวกต่อการอ่านผิดพลาดยังไงขออภัยด้วยนะคะ
▧ สำหรับทริปนี้เรายังคงใช้บริการของสายการบิน Air Asia เหมือนเดิมโดยจองไว้ตั้งแต่ช่วง Big sale เดือนมีนาคม ได้ราคาคนละ 9,8xx รวมโหลดกระเป๋าไป 20 kg. กลับ 25 kg. ก็ถือว่าไม่ถูกไม่แพงเกินไปนะสำหรับช่วง High season ปล.ปลอบใจตัวเองไปงั้นแหละช่วงกลางปีโปรออช.ออกเยอะมากเจอถูกกว่านี้อีก หึ..
▧ เรื่องที่พักเนื่องจากเราเป็นพวกสายชิคเลยเลือกเกสเฮ้าส์แถวฮงแดจากเว็บ Booking.com ดูอยู่หลายแบบสรุปก็มาจบที่ Patio 59 Hongdae 2 เป็นห้อง Twin room ราคา 15 คืนเฉลี่ยคนละ 7,8xx บาท อยู่ห่างจาก Hongik univ. Station(Exit2) เดินประมาณ 10 นาที นั่งรถเมล์หรือนั่งแท็กซี่ก็แป๊ปเดียว มีห้องน้ำส่วนตัว เครื่องปรับอากาศ มินิครัว เครื่องซักผ้า โทรทัศน์ ระเบียงเล็กๆ ฯลฯ อีกทั้งไม่ต้องเสียค่ามัดจำเพราะเค้าให้จ่ายเงินสด ณ วันเข้าพัก
Ps.คืนวันที่ 23 เราไปปูซานพักที่ Elly Guesthouse เป็นห้องดอร์มหญิง6เตียง ราคาสำหรับสองคนคือ 1,2xx บาท
▧ สุดท้ายการแลกเงิน เราแลกที่ Super Rich ได้เรท 0.0315 แลกจำนวน 37,000 บาท(ประมาณ 1,170,000 วอน) ส่วนบัตรเรามีบัตรเดบิตไว้สำรองในกรณีฉุกเฉินถึงจะแทบไม่มีเงินเหลืออยู่แล้วก็เถอะ.. พอไม่พอยังไงก็ต้องใช้ให้พอ เพราะนี่เป็นเงินทั้งหมดที่เราสะสมด้วยตัวเองตั้งแต่กลับจากเกาหลีคราวก่อน(แม้จะมีแอบขอพ่อแม่พี่น้องญาติๆบ้าง) เอาล่ะเมื่อทุกอย่างพร้อมก็ออกเดินทางได้!!
▧ เรามาถึงสนามบินดอนเมืองประมาณ 22:30น. นัดเจอเอมเสร็จก็ไปทำการโหลดกระเป๋า(เคาน์เตอร์เปิด 22:55น. ก่อนเวลาเครื่องออกสามชั่วโมง) เนื่องจากเราเช็คอินล่วงหน้ามาแล้วจึงไปที่เคาน์เตอร์ Baggage Drop ของสายการบินได้เลย สัมภาระของเราขาไปมีแค่กระเป๋าเดินทางใบเดียวกับเป้สะพายขึ้นเครื่อง ส่วนน้ำหนักก็ 14kg. กำลังดีอ่ะไม่มากไม่น้อยเกินไป 55555555+
▧ พอเข้ามาในเกท.. โอ้โห จะไปไหนกันนักหนาเนี่ย #เอ๊ะ ไม่มีที่นั่งค่ะต้องเดินไปหลบอยู่ด้านใน ยืนรอสักพักพี่แอร์คนสวยก็ประกาศเรียกให้ขึ้นเครื่องตามลำดับ ที่นั่งเราคือ 44H เป็นแถวแรกที่ปรับจาก 3-3-3 เป็น 2-3-2 พอดีสบายเลย ไม่ได้นั่งริมหน้าต่างแต่นั่งข้างฝรั่ง(ประเด็นหล่อมาก..) ตอนนั้นอปป้าคือไรเอาไว้ก่อนแล้วกัน ; - ;
▧ เวลา 01:55น. ก็เริ่มเดินทางสู่ท่าอากาศยานอินชอน กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ หลับๆตื่นๆไม่ทันไรพระอาทิตย์ก็ขึ้นแล้ว เย้ยย~
▧ ลงจากเครื่องก็รีบเดินตามป้าย Arriver ไปตม.เพราะไม่อยากไปหลังกรุ๊ปทัวร์ จากบริเวณเครื่องที่เราลงต้องนั่งรถไฟต่อเพื่อไปเทอมินอลหลักอีกที จากนั้นพอเจอป้าย Immigration ด่านตรวจคนเข้าเมืองก็รออยู่ไม่ไกลแล้ว
▧ เมื่อไม่นานมานี้รู้สึกจะมีการปรับแถวใหม่ของตม.เพราะปีก่อนเรามามันเป็นแบบหนึ่งช่องต่อหนึ่งแถว แต่คราวนี้จะมีแค่แถวเดียวตม.ช่องไหนคนน้อยก็ค่อยให้เดินไปต่อ รอไม่นานก็ถึงคิวโดนเชือด(?) เฮือก ก่อนหน้าเราเห็นมีคนโดนส่งเข้าห้องเย็น ใจหายบ้างแต่ก็พยายามไม่สนใจเดินทำหน้ามั่นๆเข้าไปเตรียมตัวพร้อมตอบคำถาม แต่..
▧ ไม่โดนถามอะไรเลย! ตม.ถอนหายใจใส่นิดหน่อยบอกโอเคๆแล้วปั๊มผ่าน ส่วนเอมครั้งแรกก็ผ่านไปได้ด้วยดีไม่โดนถามเหมือนกัน ฮิฮิ เมื่อเสร็จทุกอย่างเรียบร้อยเดินลงมาด้านล่างกระเป๋าก็รออยู่ก่อนแล้ว อันนยองฮาเซโยโคเรีย~
▧ แวะ GS25 ที่อยู่ไม่ไกลจากทางออกเพื่อเติมเงินเข้าบัตรทีมันนี่และซื้อนมกล้วยมากินรองท้อง(มันเป็นธรรมเนียมไปแล้วจริงๆว่ามาเกาหลีต้องกินนมกล้วย..) เราเลือกวิธีเข้าเมืองโดยการนั่งรถไฟใต้ดินเพราะถึง Hongik Univ. station เลยและที่สำคัญมันราคาถูกที่สุด 555555555+ เดินตามป้าย Airport Railroad ไปเรื่อยๆไม่หลงแน่นอน
▧ ใช้เวลาประมาณเกือบชั่วโมงก็ถึงสถานี Hongik Univ. เนื่องจากยังไม่ถึงเวลาเช็คอิน(บ่ายสอง)เราเลยจะไปฝากกระเป๋าเอาไว้ที่ห้องพักก่อน ความจริงมีรถเมล์นะแต่อยากรู้ว่ามันไกลแค่ไหนเลยลองเดิน.. รู้เรื่องค่า ไกลมาก 5555555+ ขนาดลากกระเป๋าใบเดียวยังเล่นเอาหอบ น้ำตาจะไหล เดี๋ยวค่อยกลับไปรีวิวห้องพักเนอะไปหาอะไรกินแถวฮง**่อนดีกว่า
▧ ตอนเดินหาร้านอาหารเกี่ยงกันไปเกี่ยงกันมาสรุปก็จบที่ Honkaz เป็นร้านอาหารที่เน้นเมนูทงคัตสึ ก้าวเข้าร้านมาพนักงานรัวจีนใส่เลยจ้า.. เห้อ ร้านไม่กว้างเท่าไรแต่คนเยอะมาก เมื่อได้ที่นั่งแล้วพนักงานก็เอาเมนูมาให้พร้อมน้ำดื่มฟรี~
▧ ระหว่างรออาหารก็ทำการสำรวจร้าน พนักงานหล๊อหล่อแต่แอบถ่ายรูปไม่ทันเซ็ง.. #เดี๋ยว มีอะไรขีดเขียนเต็มร้านไปหมด
▧ เราสั่ง Cheese pork and shrimp (อะไรประมาณนี้แหละ..) ราคา 7,000วอน ไม่ถูกไม่แพงนะแต่อาหารอลังการมากกก!! เป็นเซ็ทที่มีทงคัตสึชีสสองชิ้น กุ้งชุบแป้งทอดห้าตัว เสิร์ฟกับข้าว สลัด และซุปมิโซะที่เติมได้ไม่อั้น
▧ แล้วยังไงต่อ? กินเกือบไม่หมดค่า 55555555+ เป็นคนกระเพาะเล็ก(?)อยู่แล้ว แล้วยิ่งของทอดแบบนี้อีก อร่อยแต่ก็เลี่ยนมากถ้าไม่มีซอสเครื่องเคียงที่เป็นเหมือนซาวครีมหัวหอมน่าจะมีอ้วกกันไปข้าง แต่โดยรวมโอเคค่ะ! ใครอยากลองพิกัดอยู่ในซอยเล็กๆตรงข้าม ARTBOX สาขาฮงแด
▧ กลับมาที่ห้องพักบ้าง Patio 59 Hongdae 2 เป็นห้องออกแนวอพาทเม้นท์ความปลอดภัยค่อนข้างดี ประตูทางเข้าต้องใส่รหัสทุกครั้ง สต๊าฟเป็นภรรยาของเจ้าของ(มิสเตอร์ยุนดูแลอยู่ที่สาขาหนึ่ง)พูดอังกฤษไม่ค่อยได้แต่เทคแคร์ดีมาก เราได้ห้อง 203 อยู่ชั้นสองจากทั้งหมด 4-5 ชั้นซึ่งโอเคเพราะตอนกลับจะได้ไม่ต้องแบกของลำบาก.. อ้อ เค้าให้เราเป็นคนตั้งรหัสประตูห้องเองด้วยนะ
▧ จ่ายเงินพูดคุยเรื่องข้อตกลงเสร็จก็นอนแผ่เลยค่า เดินเหนื่อย 5555555+ หยิบโทรศัพท์ออกมาจะเชื่อมไวไฟแต่ปรากฏว่าไวไฟห้องเราเล่นไม่ได้! ทำไงล่ะ.. ขโมยของห้องอื่นสิ ฮ่า เพราะรหัสเดียวกันหมดจบปัญหาทันที มาเริ่มสำรวจห้องแบบจริงจังกัน
▧ อืม ก็ไม่ต้องอธิบายอะไรมากเนอะถึงจะเล็กแต่เด็ดเวอร์นะคะ~ มีให้ครบเกือบทุกอย่างยกเว้นผงซักฟองและอุปกรณ์ของใช้ส่วนตัวอย่างอื่น ส่วนข้อเสียก็มีคือ"เสียงดัง"เพราะหอพักอยู่ติดริมถนนย่านชุมชนและฝั่งตรงข้ามยังเป็นโรงเรียนอีก ใครขี้รำคาญน่าจะอยู่ได้ยาก.. แต่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเรา เราชอบส่องเด็กนักเรียน #เอ๊ะ #ฉันก็ยังเด็กนะ?
▧ ออกมาสำรวจด้านนอกห้องกันบ้าง เฟอร์นิเจอร์ส่วนรวมจะมีตู้กดน้ำทั้งร้อนและเย็น ไมโครเวฟ ชั้นสี่มีระเบียงขนาดย่อมพร้อมเก้าอี้เอาไว้ให้นั่งเล่นชิลๆ ส่วนที่ชั้นห้าเราคิดว่าเป็นดาดฟ้ามีของวางปิดไว้ไม่ให้ขึ้นค่ะ ฟิน อากาศสิบกว่าองศา ; - ;
▧ แพลนตอนแรกคือจะไป Lotte World แต่เหนื่อยค่าสภาพไม่ไหวแล้วเลยตัดสินใจเดินเล่นอยู่แถวหอพักแล้วกลับมานอนเอาแรงลุยวันพรุ่งนี้ดีกว่า
▧ แล้วเราก็พบว่าแถวนี้โรงเรียนเยอะมาก ทั้งอนุบาล ประถม มัธยม บลาๆๆ ดีนะคะดูปลอดภัยดี(เกี่ยวไหมอ่ะ?) ร้าน GS25 อยู่ถัดจากหอพักไปไม่ไกล ร้านกาแฟ+อาหารเยอะมากต้มปิ้งย่างครบ สำหรับวันแรกขอปิดท้ายด้วยกลุ่มเด็กนักเรียนที่กำลังเลิกเรียน ฮื่ออ น่ารักกันจังเลย
▧ เริ่มวันใหม่ด้วยเช้าที่แสนสดใส.. เช้าอะไรตื่นเกือบสิบโมง 5555555+ วันนี้จะไปขึ้นเขากันที่ "Haneul Park" การเดินทาง Worldcup Stadium station(Exit1) ขึ้นไปด้านบนสเตเดียมเลี้ยวซ้ายจะเจอสะพานเชื่อม ให้เดินตามทางไปจนผ่านส่วนที่เป็นลานจอดรถ(งงไหมเราอธิบายไม่เก่ง..)
▧ ใบไม้บริเวณนี้เริ่มมีเปลี่ยนสีบ้าง เย้ ถ้ามาถูกทาง(?)จะมองเห็นบันไดทางขึ้นสวนฮานึลอยู่ไกลลิบๆแล้วนะคะนั่นคือจุดหมายของเรา
▧ เริ่มหอบทั้งที่ยังไม่ทันขึ้นบันได ร้องไห้ดิ พอผ่านสะพานดอกไม้สีฟ้าก็จะเจอทางขึ้นแล้ว ถ้าถามว่ากี่ขั้นหรอคะ.. 291เอง?!! OMG
▧ เสื้อคลุมที่ใส่มาไม่มีประโยชน์แล้ว ถอดออกไป! คือตอนแรกเราคิดว่ามันจะชิลเดินขึ้นบันไดชมวิวมุมสูงสวยๆที่ไหนได้เหนื่อยมาก หยุดพักไปประมาณ 3-4 รอบ อาจุมม่า(คุณป้า)เกาหลีบางคนเดินขึ้นไปแบบไม่พัก นับถือ.. และแล้วในที่สุดก็ถึง คุ้มค่ากับที่เหนื่อยค่ะ ^-^
▧ ไม่รู้ว่าวันนี้เป็นวันทัศนศึกษาหรือเปล่าน้องนักเรียนอนุบาลเยอะมากก~ เราเลยเลือกขึ้นมาถ่ายมุมสูงก่อนเป็นอันดับแรก
▧ สะดุดตากับดอกไม้สีชมพูที่ตัดกับดอกหญ้าสีน้ำตาลสุด เราไม่รู้ว่ามันคือดอกอะไรแต่เหมือนจะเป็นสีสันของสวนเลยค่ะ ขอถ่ายใกล้ๆซะหน่อย
▧ กลับมาสนใจดอกหญ้าพระเอกของเราดีกว่า ตอนที่ไปอยู่ในช่วงเทศกาล"서울억 새축제"หรือเทศกาลชมความงามของดอกหญ้า มีคนแนะนำให้ไปช่วงเทศกาลเพราะถ้ามาหลังจากนี้อาจมีคนเหยียบดอกหญ้าจนไม่ค่อยสวยแล้ว แต่เราว่ามันยังเขียวอยู่เลยนะ..
▧ เดินไปเดินมาก็เจอจุดถ่ายรูปยอดฮิตของสวนฮานึล(ใช่ไหมเห็นเค้าชอบถ่ายกัน..) ที่พีคคือมีคนเอากุญแจมาคล้องด้วย 5555555+
▧ เมื่อถึงเวลาอันสมควรก็ได้เวลาบอกลาสวนฮานึล จะสวยแค่ไหนแต่ครั้งเดียวก็เกินพอแล้วเนอะ.. ตอนลงนี่แทบกลิ้งกันเลยทีเดียว หน้าเลอะอายไลเนอร์ย้อยปากซีดขาสั่น #เยอะไป เอาเป็นว่าถ้าไม่จำเป็นไม่เอาแล้วโอเค!! บ้ายบายยย~
▧ สถานที่ต่อไป "Ewha Women University" การเดินทาง Ewha Univ. station(Exit2) ตรงเข้าไปตามทางเลยค่ะระหว่างทางจะเจอทั้งร้านเสื้อผ้า ร้านเครื่องสำอาง ล่อตาล่อใจเต็มไปหมด.. ไม่ได้! มันยังไม่ถึงเวลา! เดินกัดฟันไปเรื่อยๆในที่สุดก็เข้ามาในมหาลัยสักที ; - ;
▧ ไม่มีอะไรอธิบายแล้วขอส่งรูปอย่างเดียวได้ไหมคะ? #โดนตบ
▧ กลับมาส่วนหน้ามหาลัยถึงจะช็อปไม่ได้แต่เรายังกินได้นะคะ ร้านอาหารข้างทางเยอะมากจนเลือกเกือบไม่ถูกเรากับเอมซื้อมาลองชิมกันอยู่สองอย่างคือ ไก่ทอดผัดซอส ราคา 2000won และเครันปัง(ขนมปังไข่) ราคา 1000won
▧ ไก่ทอดผัดซอสเราไม่ได้ถ่ายรูปไว้.. แต่อร่อยและเยอะมากก! ไก่กรุบๆกับซอสรสหวานนิดหน่อย เครันปังก็ไม่แพ้กันขนมปังหอม ไข่สุกกำลังพอดี
▧ อันนี้ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาแต่ขอแทรกหน่อย 555555555+ ระหว่างทางเจอกีกวังที่สถานีรถไฟใต้ดิน อดไม่ได้ขอแชะสักรูป~
▧ ถัดมาก็ได้เวลาติ่งจริงจังแล้ว! แวะไปหาคุณพ่อสามี(?)ที่ "HiBrunch หรือ Cafe The Med" การเดินทาง Apgujeong station(Exit3) ออกจากสถานีมาเลี้ยวซ้ายเข้าซอยที่อยู่ถัดจากตึก CGV เดินตรงอย่างเดียวจะเจอร้านอยู่ทางขวามือเลยค่ะ
▧ ความจริงร้านนี้เป็นของ ยงจุนฮยอง BEAST แต่เนื่องจากนางไม่ค่อยได้เข้าร้านจึงให้คุณพ่อมาดูแลแทนนั่นเอง
▧ หาที่นั่งวางของเสร็จก็เดินไปสั่งอาหารที่เคาน์เตอร์ เมนูหลักของร้านคือโจ๊กแต่เราสั่งแค่เครื่องดื่ม.. สั่ง Choco latte แบบร้อน 4500won รสชาติก็.. พอได้แอบขมเล็กน้อยตามมาตรฐานกาแฟ เอาล่ะ มาสำรวจร้านกันดีกว่า 555555555+ ปล.มีน้ำดื่มให้บริการตัวเองฟรีด้วยค่ะ
▧ มุมขายของก็มา อ้อ ถ้าใครสังเกตจะเห็น ฮยองนิม หรือน้องหมาหน้าย่นของจุนฮยองที่ตอนนี้ยังไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าอยู่ที่ไหน?
▧ รู้สึกหมั่นไส้ มองไปทางไหนก็เจอแต่หน้าเจ้าของร้าน #มองบน .. เมนเราเราแซะได้คนเดียวนะ!! ขอจบวันที่สองแต่เพียงเท่านี้ค่า
Ps.เป็นกระทู้เดียวกันกับ http://pantip.com/topic/34382293 ผิดพลาดยังไงขออภัยด้วยนะคะ
Twitter : @Jokerice980519
Facebook : Ice'Suthathip Asaman
Line : isdangerous
▧ สวัสดีค่ะ จขกท.ชื่อไอซ์ ปีนี้อายุ 17 ขอแทนตัวเองว่าเรานะคะ นี่เป็นครั้งที่สองแล้วสำหรับการไปเที่ยวเกาหลีด้วยตัวเอง(ถ้าใครยังจำได้ปีก่อนเราก็เคยตั้งกระทู้แต่รีวิวไม่จบ.. กราบแรง) ติดใจอะไรนักหนาก็ไม่รู้? ครั้งแรกของเราคือปีก่อนตอนอายุ 16 ไปคนเดียว.. เป็นการไปแบบมั่วๆมึนๆไม่ค่อยได้อะไรกลับมาเท่าไรเลยอยากจะขอแก้มือสักหน่อย แต่ครั้งนี้ต่างจากเดิมเพราะมีผู้ร่วมทริปด้วยอีกหนึ่งคนคือ เอม เพื่อนรุ่นเดียวกันรู้จักทางทวิตเตอร์เมื่อตอนต้นปีเพราะชอบศิลปินวงเดียวกัน(ให้ทาย? .. เฉลย BEAST!)
แจกความสดใส.. ขอบคุณรูปภาพจาก @MIZONE_BEAST
▧ เริ่มเลยดีกว่า เราเลือกที่จะไปช่วงฤดูใบไม้ร่วง วันที่ 14-29 ตุลาคม 2015 เพราะอยู่ในระหว่างการปิดเทอมของมัธยมพอดี อยากดูใบไม้เปลี่ยนสี อากาศก็เย็นสบายพอแต่งแฟชั่นได้ และถ้าถามว่าไปตั้ง 15 วันนี่ไปทำอะไรเยอะแยะ? เราก็ไม่รู้.. คิดแค่ว่าอยากไปให้คุ้มเอาแบบไม่ต้องมาเสียดายตอนกลับไทยอีก แต่ตอนนี้ก็ยังอยากย้อนเวลากลับไปเพิ่มวันอยู่ดี
▧ ข้อมูลสถานที่กิน+เที่ยวบางส่วนเอามาจากบล็อก Seoul cafe และทวิตเตอร์ Seoulstorys อีกส่วนก็ตามบล็อก Naver หรือ Instagram ของคนเกาหลีโดยตรง ส่วนใหญ่เราจะเป็นคนจัดแพลนและหาสถานที่เที่ยว วางทุกอย่างไว้ล่วงหน้าเป็นครึ่งปี ปรับเปลี่ยนอะไรไปเรื่อยตามความเหมาะสม(และตารางงานของศิลปิน ฮ่า)
Trick for read : เราจะบอกสถานที่ การเดินทาง คำบรรยาย รูปภาพประกอบ และสรุปค่าใช้จ่ายโดยรวมไว้ในตอนสุดท้าย ซึ่งทั้งหมดจะอยู่ในกระทู้เดียวเพื่อให้สะดวกต่อการอ่านผิดพลาดยังไงขออภัยด้วยนะคะ
ค่าใช้จ่ายโดยรวมก่อนไป ตั๋วเครื่องบิน ที่พัก การแลกเงิน
▧ สำหรับทริปนี้เรายังคงใช้บริการของสายการบิน Air Asia เหมือนเดิมโดยจองไว้ตั้งแต่ช่วง Big sale เดือนมีนาคม ได้ราคาคนละ 9,8xx รวมโหลดกระเป๋าไป 20 kg. กลับ 25 kg. ก็ถือว่าไม่ถูกไม่แพงเกินไปนะสำหรับช่วง High season ปล.ปลอบใจตัวเองไปงั้นแหละช่วงกลางปีโปรออช.ออกเยอะมากเจอถูกกว่านี้อีก หึ..
▧ เรื่องที่พักเนื่องจากเราเป็นพวกสายชิคเลยเลือกเกสเฮ้าส์แถวฮงแดจากเว็บ Booking.com ดูอยู่หลายแบบสรุปก็มาจบที่ Patio 59 Hongdae 2 เป็นห้อง Twin room ราคา 15 คืนเฉลี่ยคนละ 7,8xx บาท อยู่ห่างจาก Hongik univ. Station(Exit2) เดินประมาณ 10 นาที นั่งรถเมล์หรือนั่งแท็กซี่ก็แป๊ปเดียว มีห้องน้ำส่วนตัว เครื่องปรับอากาศ มินิครัว เครื่องซักผ้า โทรทัศน์ ระเบียงเล็กๆ ฯลฯ อีกทั้งไม่ต้องเสียค่ามัดจำเพราะเค้าให้จ่ายเงินสด ณ วันเข้าพัก
Ps.คืนวันที่ 23 เราไปปูซานพักที่ Elly Guesthouse เป็นห้องดอร์มหญิง6เตียง ราคาสำหรับสองคนคือ 1,2xx บาท
▧ สุดท้ายการแลกเงิน เราแลกที่ Super Rich ได้เรท 0.0315 แลกจำนวน 37,000 บาท(ประมาณ 1,170,000 วอน) ส่วนบัตรเรามีบัตรเดบิตไว้สำรองในกรณีฉุกเฉินถึงจะแทบไม่มีเงินเหลืออยู่แล้วก็เถอะ.. พอไม่พอยังไงก็ต้องใช้ให้พอ เพราะนี่เป็นเงินทั้งหมดที่เราสะสมด้วยตัวเองตั้งแต่กลับจากเกาหลีคราวก่อน(แม้จะมีแอบขอพ่อแม่พี่น้องญาติๆบ้าง) เอาล่ะเมื่อทุกอย่างพร้อมก็ออกเดินทางได้!!
2015.10.14 Gotta go to Korea :: Day1
▧ เรามาถึงสนามบินดอนเมืองประมาณ 22:30น. นัดเจอเอมเสร็จก็ไปทำการโหลดกระเป๋า(เคาน์เตอร์เปิด 22:55น. ก่อนเวลาเครื่องออกสามชั่วโมง) เนื่องจากเราเช็คอินล่วงหน้ามาแล้วจึงไปที่เคาน์เตอร์ Baggage Drop ของสายการบินได้เลย สัมภาระของเราขาไปมีแค่กระเป๋าเดินทางใบเดียวกับเป้สะพายขึ้นเครื่อง ส่วนน้ำหนักก็ 14kg. กำลังดีอ่ะไม่มากไม่น้อยเกินไป 55555555+
▧ พอเข้ามาในเกท.. โอ้โห จะไปไหนกันนักหนาเนี่ย #เอ๊ะ ไม่มีที่นั่งค่ะต้องเดินไปหลบอยู่ด้านใน ยืนรอสักพักพี่แอร์คนสวยก็ประกาศเรียกให้ขึ้นเครื่องตามลำดับ ที่นั่งเราคือ 44H เป็นแถวแรกที่ปรับจาก 3-3-3 เป็น 2-3-2 พอดีสบายเลย ไม่ได้นั่งริมหน้าต่างแต่นั่งข้างฝรั่ง(ประเด็นหล่อมาก..) ตอนนั้นอปป้าคือไรเอาไว้ก่อนแล้วกัน ; - ;
▧ เวลา 01:55น. ก็เริ่มเดินทางสู่ท่าอากาศยานอินชอน กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ หลับๆตื่นๆไม่ทันไรพระอาทิตย์ก็ขึ้นแล้ว เย้ยย~
▧ ลงจากเครื่องก็รีบเดินตามป้าย Arriver ไปตม.เพราะไม่อยากไปหลังกรุ๊ปทัวร์ จากบริเวณเครื่องที่เราลงต้องนั่งรถไฟต่อเพื่อไปเทอมินอลหลักอีกที จากนั้นพอเจอป้าย Immigration ด่านตรวจคนเข้าเมืองก็รออยู่ไม่ไกลแล้ว
▧ เมื่อไม่นานมานี้รู้สึกจะมีการปรับแถวใหม่ของตม.เพราะปีก่อนเรามามันเป็นแบบหนึ่งช่องต่อหนึ่งแถว แต่คราวนี้จะมีแค่แถวเดียวตม.ช่องไหนคนน้อยก็ค่อยให้เดินไปต่อ รอไม่นานก็ถึงคิวโดนเชือด(?) เฮือก ก่อนหน้าเราเห็นมีคนโดนส่งเข้าห้องเย็น ใจหายบ้างแต่ก็พยายามไม่สนใจเดินทำหน้ามั่นๆเข้าไปเตรียมตัวพร้อมตอบคำถาม แต่..
▧ ไม่โดนถามอะไรเลย! ตม.ถอนหายใจใส่นิดหน่อยบอกโอเคๆแล้วปั๊มผ่าน ส่วนเอมครั้งแรกก็ผ่านไปได้ด้วยดีไม่โดนถามเหมือนกัน ฮิฮิ เมื่อเสร็จทุกอย่างเรียบร้อยเดินลงมาด้านล่างกระเป๋าก็รออยู่ก่อนแล้ว อันนยองฮาเซโยโคเรีย~
▧ แวะ GS25 ที่อยู่ไม่ไกลจากทางออกเพื่อเติมเงินเข้าบัตรทีมันนี่และซื้อนมกล้วยมากินรองท้อง(มันเป็นธรรมเนียมไปแล้วจริงๆว่ามาเกาหลีต้องกินนมกล้วย..) เราเลือกวิธีเข้าเมืองโดยการนั่งรถไฟใต้ดินเพราะถึง Hongik Univ. station เลยและที่สำคัญมันราคาถูกที่สุด 555555555+ เดินตามป้าย Airport Railroad ไปเรื่อยๆไม่หลงแน่นอน
▧ ใช้เวลาประมาณเกือบชั่วโมงก็ถึงสถานี Hongik Univ. เนื่องจากยังไม่ถึงเวลาเช็คอิน(บ่ายสอง)เราเลยจะไปฝากกระเป๋าเอาไว้ที่ห้องพักก่อน ความจริงมีรถเมล์นะแต่อยากรู้ว่ามันไกลแค่ไหนเลยลองเดิน.. รู้เรื่องค่า ไกลมาก 5555555+ ขนาดลากกระเป๋าใบเดียวยังเล่นเอาหอบ น้ำตาจะไหล เดี๋ยวค่อยกลับไปรีวิวห้องพักเนอะไปหาอะไรกินแถวฮง**่อนดีกว่า
▧ ตอนเดินหาร้านอาหารเกี่ยงกันไปเกี่ยงกันมาสรุปก็จบที่ Honkaz เป็นร้านอาหารที่เน้นเมนูทงคัตสึ ก้าวเข้าร้านมาพนักงานรัวจีนใส่เลยจ้า.. เห้อ ร้านไม่กว้างเท่าไรแต่คนเยอะมาก เมื่อได้ที่นั่งแล้วพนักงานก็เอาเมนูมาให้พร้อมน้ำดื่มฟรี~
▧ ระหว่างรออาหารก็ทำการสำรวจร้าน พนักงานหล๊อหล่อแต่แอบถ่ายรูปไม่ทันเซ็ง.. #เดี๋ยว มีอะไรขีดเขียนเต็มร้านไปหมด
▧ เราสั่ง Cheese pork and shrimp (อะไรประมาณนี้แหละ..) ราคา 7,000วอน ไม่ถูกไม่แพงนะแต่อาหารอลังการมากกก!! เป็นเซ็ทที่มีทงคัตสึชีสสองชิ้น กุ้งชุบแป้งทอดห้าตัว เสิร์ฟกับข้าว สลัด และซุปมิโซะที่เติมได้ไม่อั้น
▧ แล้วยังไงต่อ? กินเกือบไม่หมดค่า 55555555+ เป็นคนกระเพาะเล็ก(?)อยู่แล้ว แล้วยิ่งของทอดแบบนี้อีก อร่อยแต่ก็เลี่ยนมากถ้าไม่มีซอสเครื่องเคียงที่เป็นเหมือนซาวครีมหัวหอมน่าจะมีอ้วกกันไปข้าง แต่โดยรวมโอเคค่ะ! ใครอยากลองพิกัดอยู่ในซอยเล็กๆตรงข้าม ARTBOX สาขาฮงแด
▧ กลับมาที่ห้องพักบ้าง Patio 59 Hongdae 2 เป็นห้องออกแนวอพาทเม้นท์ความปลอดภัยค่อนข้างดี ประตูทางเข้าต้องใส่รหัสทุกครั้ง สต๊าฟเป็นภรรยาของเจ้าของ(มิสเตอร์ยุนดูแลอยู่ที่สาขาหนึ่ง)พูดอังกฤษไม่ค่อยได้แต่เทคแคร์ดีมาก เราได้ห้อง 203 อยู่ชั้นสองจากทั้งหมด 4-5 ชั้นซึ่งโอเคเพราะตอนกลับจะได้ไม่ต้องแบกของลำบาก.. อ้อ เค้าให้เราเป็นคนตั้งรหัสประตูห้องเองด้วยนะ
▧ จ่ายเงินพูดคุยเรื่องข้อตกลงเสร็จก็นอนแผ่เลยค่า เดินเหนื่อย 5555555+ หยิบโทรศัพท์ออกมาจะเชื่อมไวไฟแต่ปรากฏว่าไวไฟห้องเราเล่นไม่ได้! ทำไงล่ะ.. ขโมยของห้องอื่นสิ ฮ่า เพราะรหัสเดียวกันหมดจบปัญหาทันที มาเริ่มสำรวจห้องแบบจริงจังกัน
▧ อืม ก็ไม่ต้องอธิบายอะไรมากเนอะถึงจะเล็กแต่เด็ดเวอร์นะคะ~ มีให้ครบเกือบทุกอย่างยกเว้นผงซักฟองและอุปกรณ์ของใช้ส่วนตัวอย่างอื่น ส่วนข้อเสียก็มีคือ"เสียงดัง"เพราะหอพักอยู่ติดริมถนนย่านชุมชนและฝั่งตรงข้ามยังเป็นโรงเรียนอีก ใครขี้รำคาญน่าจะอยู่ได้ยาก.. แต่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเรา เราชอบส่องเด็กนักเรียน #เอ๊ะ #ฉันก็ยังเด็กนะ?
▧ ออกมาสำรวจด้านนอกห้องกันบ้าง เฟอร์นิเจอร์ส่วนรวมจะมีตู้กดน้ำทั้งร้อนและเย็น ไมโครเวฟ ชั้นสี่มีระเบียงขนาดย่อมพร้อมเก้าอี้เอาไว้ให้นั่งเล่นชิลๆ ส่วนที่ชั้นห้าเราคิดว่าเป็นดาดฟ้ามีของวางปิดไว้ไม่ให้ขึ้นค่ะ ฟิน อากาศสิบกว่าองศา ; - ;
▧ แพลนตอนแรกคือจะไป Lotte World แต่เหนื่อยค่าสภาพไม่ไหวแล้วเลยตัดสินใจเดินเล่นอยู่แถวหอพักแล้วกลับมานอนเอาแรงลุยวันพรุ่งนี้ดีกว่า
▧ แล้วเราก็พบว่าแถวนี้โรงเรียนเยอะมาก ทั้งอนุบาล ประถม มัธยม บลาๆๆ ดีนะคะดูปลอดภัยดี(เกี่ยวไหมอ่ะ?) ร้าน GS25 อยู่ถัดจากหอพักไปไม่ไกล ร้านกาแฟ+อาหารเยอะมากต้มปิ้งย่างครบ สำหรับวันแรกขอปิดท้ายด้วยกลุ่มเด็กนักเรียนที่กำลังเลิกเรียน ฮื่ออ น่ารักกันจังเลย
2015.10.15 Gotta go to Korea :: Day2
▧ เริ่มวันใหม่ด้วยเช้าที่แสนสดใส.. เช้าอะไรตื่นเกือบสิบโมง 5555555+ วันนี้จะไปขึ้นเขากันที่ "Haneul Park" การเดินทาง Worldcup Stadium station(Exit1) ขึ้นไปด้านบนสเตเดียมเลี้ยวซ้ายจะเจอสะพานเชื่อม ให้เดินตามทางไปจนผ่านส่วนที่เป็นลานจอดรถ(งงไหมเราอธิบายไม่เก่ง..)
▧ ใบไม้บริเวณนี้เริ่มมีเปลี่ยนสีบ้าง เย้ ถ้ามาถูกทาง(?)จะมองเห็นบันไดทางขึ้นสวนฮานึลอยู่ไกลลิบๆแล้วนะคะนั่นคือจุดหมายของเรา
▧ เริ่มหอบทั้งที่ยังไม่ทันขึ้นบันได ร้องไห้ดิ พอผ่านสะพานดอกไม้สีฟ้าก็จะเจอทางขึ้นแล้ว ถ้าถามว่ากี่ขั้นหรอคะ.. 291เอง?!! OMG
▧ เสื้อคลุมที่ใส่มาไม่มีประโยชน์แล้ว ถอดออกไป! คือตอนแรกเราคิดว่ามันจะชิลเดินขึ้นบันไดชมวิวมุมสูงสวยๆที่ไหนได้เหนื่อยมาก หยุดพักไปประมาณ 3-4 รอบ อาจุมม่า(คุณป้า)เกาหลีบางคนเดินขึ้นไปแบบไม่พัก นับถือ.. และแล้วในที่สุดก็ถึง คุ้มค่ากับที่เหนื่อยค่ะ ^-^
▧ ไม่รู้ว่าวันนี้เป็นวันทัศนศึกษาหรือเปล่าน้องนักเรียนอนุบาลเยอะมากก~ เราเลยเลือกขึ้นมาถ่ายมุมสูงก่อนเป็นอันดับแรก
▧ สะดุดตากับดอกไม้สีชมพูที่ตัดกับดอกหญ้าสีน้ำตาลสุด เราไม่รู้ว่ามันคือดอกอะไรแต่เหมือนจะเป็นสีสันของสวนเลยค่ะ ขอถ่ายใกล้ๆซะหน่อย
▧ กลับมาสนใจดอกหญ้าพระเอกของเราดีกว่า ตอนที่ไปอยู่ในช่วงเทศกาล"서울억 새축제"หรือเทศกาลชมความงามของดอกหญ้า มีคนแนะนำให้ไปช่วงเทศกาลเพราะถ้ามาหลังจากนี้อาจมีคนเหยียบดอกหญ้าจนไม่ค่อยสวยแล้ว แต่เราว่ามันยังเขียวอยู่เลยนะ..
▧ เดินไปเดินมาก็เจอจุดถ่ายรูปยอดฮิตของสวนฮานึล(ใช่ไหมเห็นเค้าชอบถ่ายกัน..) ที่พีคคือมีคนเอากุญแจมาคล้องด้วย 5555555+
▧ เมื่อถึงเวลาอันสมควรก็ได้เวลาบอกลาสวนฮานึล จะสวยแค่ไหนแต่ครั้งเดียวก็เกินพอแล้วเนอะ.. ตอนลงนี่แทบกลิ้งกันเลยทีเดียว หน้าเลอะอายไลเนอร์ย้อยปากซีดขาสั่น #เยอะไป เอาเป็นว่าถ้าไม่จำเป็นไม่เอาแล้วโอเค!! บ้ายบายยย~
▧ สถานที่ต่อไป "Ewha Women University" การเดินทาง Ewha Univ. station(Exit2) ตรงเข้าไปตามทางเลยค่ะระหว่างทางจะเจอทั้งร้านเสื้อผ้า ร้านเครื่องสำอาง ล่อตาล่อใจเต็มไปหมด.. ไม่ได้! มันยังไม่ถึงเวลา! เดินกัดฟันไปเรื่อยๆในที่สุดก็เข้ามาในมหาลัยสักที ; - ;
▧ ไม่มีอะไรอธิบายแล้วขอส่งรูปอย่างเดียวได้ไหมคะ? #โดนตบ
▧ กลับมาส่วนหน้ามหาลัยถึงจะช็อปไม่ได้แต่เรายังกินได้นะคะ ร้านอาหารข้างทางเยอะมากจนเลือกเกือบไม่ถูกเรากับเอมซื้อมาลองชิมกันอยู่สองอย่างคือ ไก่ทอดผัดซอส ราคา 2000won และเครันปัง(ขนมปังไข่) ราคา 1000won
▧ ไก่ทอดผัดซอสเราไม่ได้ถ่ายรูปไว้.. แต่อร่อยและเยอะมากก! ไก่กรุบๆกับซอสรสหวานนิดหน่อย เครันปังก็ไม่แพ้กันขนมปังหอม ไข่สุกกำลังพอดี
▧ อันนี้ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาแต่ขอแทรกหน่อย 555555555+ ระหว่างทางเจอกีกวังที่สถานีรถไฟใต้ดิน อดไม่ได้ขอแชะสักรูป~
▧ ถัดมาก็ได้เวลาติ่งจริงจังแล้ว! แวะไปหาคุณพ่อสามี(?)ที่ "HiBrunch หรือ Cafe The Med" การเดินทาง Apgujeong station(Exit3) ออกจากสถานีมาเลี้ยวซ้ายเข้าซอยที่อยู่ถัดจากตึก CGV เดินตรงอย่างเดียวจะเจอร้านอยู่ทางขวามือเลยค่ะ
▧ ความจริงร้านนี้เป็นของ ยงจุนฮยอง BEAST แต่เนื่องจากนางไม่ค่อยได้เข้าร้านจึงให้คุณพ่อมาดูแลแทนนั่นเอง
▧ หาที่นั่งวางของเสร็จก็เดินไปสั่งอาหารที่เคาน์เตอร์ เมนูหลักของร้านคือโจ๊กแต่เราสั่งแค่เครื่องดื่ม.. สั่ง Choco latte แบบร้อน 4500won รสชาติก็.. พอได้แอบขมเล็กน้อยตามมาตรฐานกาแฟ เอาล่ะ มาสำรวจร้านกันดีกว่า 555555555+ ปล.มีน้ำดื่มให้บริการตัวเองฟรีด้วยค่ะ
▧ มุมขายของก็มา อ้อ ถ้าใครสังเกตจะเห็น ฮยองนิม หรือน้องหมาหน้าย่นของจุนฮยองที่ตอนนี้ยังไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าอยู่ที่ไหน?
▧ รู้สึกหมั่นไส้ มองไปทางไหนก็เจอแต่หน้าเจ้าของร้าน #มองบน .. เมนเราเราแซะได้คนเดียวนะ!! ขอจบวันที่สองแต่เพียงเท่านี้ค่า
แก้ไขล่าสุด 31 ต.ค. 58 04:17 |
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 8.1
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
พี่ไม่ใช่ติ่งเกาหลีและไม่ได้ชื่นชอบเกาหลีแต่อย่างใด แต่พี่เข้ามาชื่นชมน้องที่เป็นแค่เด็กผู้หญิงวัยรุ่นคนเดียวแต่แบ็คแพ็คไปเที่ยวต่างประเทศคนเดียวได้ สุดยอดอ่ะน้อง! พี่นี่ 23 แล้วขอแม่แบ็คแพคคนเดียวในไทยนี่แหละ ไม่ได้ขอเงินแม่ซักบาทด้วย แม่ท่านยังไม่ให้พี่ไปเล้ยยย
ไอพี: ไม่แสดง
| โดย Android
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google