10 สุดยอด "เหล็กไหล" สุดยอดแห่งเครื่องราง เมตตามหานิยม อยู่ยงคงกระพัน

เหล็กไหล จัดว่าเป็นอีกหนึ่งเครื่องราง อันเป็นที่กล่าวขานกันมานานว่า มีฤทธานุภาพมากมาย สามารถปกปักรักษาผู้ที่ได้ครอบครอง หรือได้เป็นเจ้าของให้แคล้วคลาดปลอดภัย แถมยังมีฤทธานุภาพทางด้านเมตตามหานิยมยิ่งนัก ซึ่ง เหล็กไหลที่ว่านี้ เป็นก้อนแร่เหล็กบริสุทธิ์ ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เป็นโลหะธาตุที่มีความมหัศจรรย์ แฝงด้วยความเร้นลับและมนตรา แตกต่างไปจากโลหะธาตุทั้งปวงที่มีอยู่บนโลก เป็นแร่ธาตุที่ได้รับฉายาว่า เป็นธาตุกายสิทธิ์ คือเป็นโลหะธาตุที่มีความศักดิ์สิทธิ์ มีอิทธิฤทธิ์ และมีผลานุภาพเหนือแร่ธาตุทั่วไป
จากตำนานเล่าขานของคนโบราณ จากตำราโหราศาสตร์ และจากบันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับศาสตร์เร้นลับหลายต่อหลายเล่ม ได้บันทึกเรื่องราวของ เหล็กไหล เอาไว้ว่า แร่ธาตุที่เรารู้จักกันในชื่อของ เหล็กไหล เป็นธาตุกายสิทธิ์ ถูกอัดแน่นด้วยฤทธานุภาพ ที่ได้รับการอธิษฐานจิตจากพระฤๅษีผู้ทรงฌานขั้นสูง ตั้งแต่ครั้งโบราณกาล เป็นสุดยอดเครื่องราง ที่แฝงด้วยมนตราและพลังปราณที่ทรงอานุภาพอย่างยิ่ง สามารถป้องกันภัยอันตรายจากธรรมชาติ ป้องกันภัยจากศาสตราวุธได้ทุกชนิด รวมไปถึงภัยจากภูตผีปีศาจต่างๆ เป็นเครื่องรางอมตะที่หายากยิ่ง เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย และเป็นที่ต้องการของใครหลายต่อหลายคน เพราะมีความเชื่อว่า ด้วยอานุภาพแห่งเหล็กไหลนี้ สามารถคุ้มครองชีวิตของผู้เป็นเจ้าของให้ปลอดภัยจากอุบัติภัยร้ายแรง รวมไปถึงศาตราวุธนานาชนิด ได้อย่างน่าอัศจรรย์ ว่ากันว่าแร่เหล็กที่จมอยู่ภายใต้ลาวาที่มีชื่อว่า เหล็กไหล นี้ เป็นธาตุกายสิทธิ์ที่ประกอบขึ้นด้วยธาตุที่สำคัญ4 ชนิด คือ ธาตุเหล็ก ธาตุดิน ว่านมหามงคล และปรอท ซึ่งได้หลอมรวมเอาฤทธานุภาพจากธาตุกายสิทธิ์ทั้งสี่นี้รวมไว้ในตัวเอง จึงมีอานุภาพในการปกป้องผู้ที่ได้ครอบครองให้พ้นจากภัยอันตรายในทุกรูปแบบ และยังมีเรื่องเล่าที่เป็นตำนานเล่าขานกันมาแต่โบราณกาลว่า เมื่อมหาฤๅษีผู้มีฌานสมาบัติขั้นสูง ได้ใช้อิทธิฤทธิ์ดึงเอาธาตุเหล่านี้ขึ้นมา แล้วส่งกระแสจิตเข้าแฝงตนอยู่ในธาตุกายสิทธิ์เหล่านี้ เพื่อฝึกฝนทางด้านฌานสมาบัติให้เพิ่มพูนให้ยิ่งๆ ขึ้นไป จึงทำให้เจตสิกของมหาฤๅษีผู้ทรงฌานนั้นเกิดผลานุภาพอันมหาศาล สงบนิ่งอยู่ใต้ลาวานานแสนนาน และในกาลต่อมา เมื่อมนุษย์เราได้ค้นพบแร่ธาตุเหล่านี้เข้าโดยบังเอิญ และไม่ทราบว่ามันคืออะไร จนกระทั่งได้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์ ได้เห็นถึงอิทธิฤทธิ์ และปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้น เป็นที่ประจักษ์แก่สายตา อย่างน่าอัศจรรย์ จึงพากันเรียกว่า เหล็กไหล ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา