เมื่อฝรั่งใน cr บอก I love you ตอนวันแรกที่คุยกัน เรื่องราวมันมุ้งมิ้งสุดๆเลยล่ะ XD #ฝรั่ง #ความรัก #มีรูป

อย่าลืมแสดงความคิดเห็นเพื่อเป็นกำลังใจในการเขียนต่อให้เจ้าของกระทู้ด้วยนะจ๊ะ

สัญญาว่าจะพยายามต่อให้จบ เพราะมันยาวจริงๆ 
สวีดัด สวัสดีเพื่อนๆทุกๆคน    และแล้ววันนี้เราก็ได้ตั้งกระทู้สักที หลังจากที่ด้อมๆมองๆมานาน ฮ่าาาาา ถ้าใครที่คิดว่าไม่ชอบกระทู้แนวนี้ก็กด x ออกไปได้เลยเน้อจ้า    ถ้าเราเล่าเรื่องไม่ค่อยสนุกก็อย่าว่าเราเน้อ เราเล่าเรื่องไม่ค่อยเก่ง  เรื่องมันก็เริ่มจากการที่เราเป็นคนที่ขี้เบื่อ แล้วเวลาไม่มีอะไรทำก็ต้องไปหาส่องฝรั่งซะหน่อย หุๆๆ   
เรื่องมันเกิดขึ้นช่วงต้นเดือนมกรา หลังจากที่เราเข้าไปนั่งเม่อๆในเว็บ cr เว็บไซต์ยอดฮิตของเราๆนั่นแหละ สักพักมันก็มีฝรั่งคนหนึ่งหยุดแล้วทักเรามา ตอนนั้นเราไม่ได้เปิดแคมนะ แค่เอารูปขึ้น      แต่นางเปิดกล้อง แว๊บแรกที่เราเห็นหน้านาง ความคิดแรกที่เข้ามาในสมองเลยคือ ... คนอะไร ทำไมจมูกใหญ่จังแห๊ะ น่าเกลียดชะมัด  5555555    แต่เราก็ไม่ได้ติดใจอะไร เพราะคิดแต่ว่าคุยเล่นๆ คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง เราจะไม่ขอพูดถึงข้อความที่คุยกันบน cr นะ เพราะตอนนี้ก็จำไม่ค่อยจะได้แล้วแหละ นานเกิ๊นนนน
หลังจากนั้นเราก็แลกสไกป์กัน นางก็แอดเรามา แล้วถามอะไรสักอย่างเกี่ยวกับกล้อง บอกได้ว่าตอนนั้นภาษาอังกฤษเราเข้าขั้นห่วยมากกกกกก  55555    สรุปใจความได้ว่า เขาบอกว่าขอโทรหาได้ไหม แล้วเขาจะเปิดกล้อง เราก็เลยโอเคๆ (ตอนนั้นเขาพูดอะไรมาก็จะโอเคอย่างเดียวเลย) เราเลยบอกเขาว่าเราไม่เปิดกล้องนะ เพราะเราอาย (ไม่เคยเปิดกล้องมาก่อนเลย) เราก็คุยกันไปเรื่อยๆ ถามสารทุกข์สุขดิบ ไลฟ์สไตล์ต่างๆ จนอยู่ดีๆสักพักนางก็บอกเราว่า ขอถอดเสื้อได้ไหม...    ตอนนั้นเราตกใจนะ ก็คิดว่าคงจะมาสเต็บเดิมสินะ พวกฮอนๆเนี่ย    เราก็เลยบอก เอาเถอะ เอาที่สบายใจ เราไม่มองหรอก 55555 แล้วเราก็คุยกันไปเรื่อยๆ ถามนั่น นี่ มีแฟนรึยัง โสดนานแค่ไหนแล้ว ชอบผู้หญิงแบบไหน..มองหาอะไรอยู่หรอ บลาๆๆ แล้วนางก็พูดอะไรสักอย่างประมาณว่า เราคงไม่มีทางที่จะจเอกันแน่นอนอยู่แล้ว อะไรประมาณนั้น เราก็งงนะ เอ๊ะ นี่เธอพูดทำไม 5555 สักพักนางก็บอกให้เราหันหน้าหนี เพราะนางจะถอดกางเกง เพราะที่นั่นมันร้อน -.-  เราก็เออออหอหมกไป แล้วหันมาอีกทีนางก็เอาผ้าห่มมาห่อเป็นข้าวต้มมัดเรียบร้อยแล้ว 55555 (เรามารู้ทีหลังว่านางถอดเสื้อผ้านอนประจำ เหลือแต่บ๊อกเซอร์ไว้ นางนอนห้องเดียวกันกับพี่ชายฝาแฝดนาง) เอาล่ะๆ เราพร่ำมาเยอะละ เดี๋ยวจะเบื่อกันซะก่อนนะ 
เราก็คุยกันไปเรื่อยๆ ตอนนั้นประมาณตีสามครึ่งได้แล้วมั้ง จู่ๆนางก็พูดออกมาว่า I love you. เราก็งงๆ เราเลยแค่ตอบไปว่า  thanks lol เราคิดว่านางอาจจะพูดเล่นกระมั่ง (อยากก๊อปรูปในสไกป์มาให้ดูเหลือเกิน แต่เสียดายที่เรากู้ประวัติสนทนากลับมาไม่ได้  ) แล้วหลังจากนั้นนางก็บอก I love you กับเราประมาณ 3 ครั้ง พร้อมกับรูปหัวใจ <3 ที่มันตามมามากมายจนนับไม่ถ้วน    และแล้วคืนนั้นก็ผ่านไปได้ด้วยดี โดยที่ไม่มีการต้องแก้ผ้า โชว์อะไร 5555 แล้วเราก็หลับอยู่หน้าจอคอม หลับไปพร้อมๆกันกับนาง เพราะตกลงว่าจะนอนพร้อมกัน    (มาวันแรกก็หวานซะละ 55555) จนเราตื่นมาอีกทีก็ยังเห็นหน้านอนอยู่ต่อหน้าเรา   
ข้ามมาตอนที่หลังจากที่เราคุยกันได้ประมาณ 5 วันนางก็ไปบอกกับแม่ของนางประมาณว่า นางคุยอยู่กับคนไทยนะ กำลังคบกันอะไรประมาณนี้ (ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตกลงคบตอนไหน แต่ก็ได้คบไปแล้วล่ะ ฮ่าๆๆ) แต่แม่นางก็ทำเหมือนประมาณไม่สนใจ แล้วก็พูดประมาณว่าระวังจะเป็นอีตัวนะ มาหลอกเอาเงินหมดอะไรประมาณนี้ (นางบอกว่าแม่นางชอบมองโลในแง่ลบตลอด แต่ตอนนี้ก็เข้ากันได้แล้วแหละ อิอิ) แต่ความรู้สึกตอนนั้นคือเสียใจนะ ไม่รู้ทำไม่เขาคิดแบบนี้กะคนไทย เราก็เลยแบบซึมๆ จะร้องไห้อ่ะแหละ แต่นางก็ปลอบ แล้วก็ขอโทษเรา ประมาณว่าไม่น่าเล่าให้ฟังเลย อะไรประมาณนี้ ก็เลยพูดกันประมาณว่าเดี๋ยวเราก็จะพิสูจน์ให้เขาเห็น แล้วเขาคงยอมรับเอง ก็ว่ากันไป (นี่มันอุปสรรคด่านแรกเลยชัดๆ แม่สามีไม่ยอมรับ!!!!! 5555    ) หลังจากนั้นเราก็ยังคงดราม่าอยู่กับเรื่องนี้นานพอสมควร เอ็งจะเศร้าอะไรกันนักกันหน๊าาาาา !!! แต่อารมณ์ตอนนั้นคืออธิบายไม่ถูกจริงๆ ดูตามข้อความที่เราคุยกันดูก็แล้วกัน แอบน้ำเน่าไม่น้อยเลยนะเนี่ย อิอิ    ถ้ารูปเยอะไป ต้องขออภัยเน้อ บอกให้เราเอาออกได้นะ






















เดี๋ยวเราจะกลับมาต่อเรื่อยๆนะ ถ้ายังมีคนอยากอ่านอยู่ อิอิ 

พิมพ์ใกล้เสร็จมือก็กดไปโดน หายอีกแล้ว    พิมพ์ใหม่ก็ได้ ชิๆ เล่าย้อนหลังไปนิดนึง ลืมบอกไปว่าตอนนั้นนางบอกว่านางตัดสินใจที่จะมาเจอเราที่ไทยเรียบร้อยแล้ว โดยการที่จะมาหาเราที่บ้านแล้วอยู่กับครอบครัวเรา น่าจะประมาณช่วงวันที่ 3 ที่คุยกัน ตอนนั้นเรายังไม่ได้เปิดกล้องนะ นางเห็นแค่รูปของเรา รูปนี้... 

เราสวยใช่ไหมล่ะ 55555  เอาจริงๆแล้วรูปมันก็เฟคพอสมควรนะ 55555 แต่หลังจากเราเปิดกล้องจริง นางก็บอกว่าเราอ่ะน่ารัก ถึงตอนนี้ก็ยังบอกว่าน่ารัก ถึงคนอื่นจะว่ายังไงก็เถอะ  จนตอนนี้เรามั่นใจแล้วว่าเขาไม่ได้มองแค่ที่หน้าตาหรอก เป็นยังไงล่ะ หลงคารมสาวไทยไปเต็มๆเลยใช่ไหมล่ะ 555    เราว่ามันก็แปลกดีนะ คือความสัมพันธ์เรามันเป็นไปแบบเร็วมากๆเลย เหมือนๆมันเป็นพรหมลิขิต เรียกได้ว่าคบกันตั้งแต่วันแรกที่คุยกันเลยก็ได้ คบทั้งๆที่ไม่รู้อะไร แค่รู้สึกว่าชอบและรู้จักกันมานานละ 5555 (เวอร์ละๆ) เหมือนเพลงนั้นเลย เพราะฉันรักเธอโดยที่ไม่รู้จัก เพราะฉันรักเธอตั้งแต่แรกพบหน้าา แห๊ะๆ ไม่ใช่แล้ว ตอนแรกเราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเราคิดอะไรเหมือนกัน เพราะเราดันเอาวันเกิดเขากับวันเกิดเราไปดูสมพงศ์เนื้อคู่ และแล้วๆๆ มันก็ออกมาเป็น 100% ด้วย ความจริงถ้าหากสุ่มวันเกิดแล้วจะทำให้ได้ 100% ยังยากเลย อิอิ ตอนแรกเราก็ไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่หรอก แต่เราเชื่อว่า ถ้าเขาเป็นคู่ของเรา เมื่อถึงเวลาเขาก็คงจะมาเจอเราเอง    เดี๋ยวจะหาว่าเราโม้ ใครว่างๆก็ลองไปเล่นได้นะจ๊ะ อิอิ

เอาละๆ โม้มาเยอะละ 5555 มาเข้าเรื่องของเรากันบ้าง ในทุกๆวันเราก็จะสไกป์หากันโดยเปิดกล้องตลอด คือจะโทรหาตลอดเวลา เรียกได้ว่าตั้งแต่ตื่นจนเข้านอนอีกวัน ถ้าวันนั้นไม่มีงาน ถึงจะไม่ได้คุยอะไรมาก แต่ก็อาศัยแค่ว่าเปิดกล้องให้เห็นกันแค่นั้น  5555 ถึงใครจะว่ามันเวอร์ก็เถอะ แต่มันคือเรื่องจริง    แล้วจนกระทั่งถึงตอนก่อนที่เราจะย้ายมาอยู่ด้วยกัน เราก็ยังทำแบบนี้อยู่สม่ำเสมอ    มันเลยไม่มีเรื่องผู้หญิงอื่นหรืออะไรมาให้เราระแวง เพราะเราจะรู้ตลอดว่าเขาทำอะไร
ทุกๆครั้งที่เราคุยกัน ถ้ามันมีเรื่องที่นางชอบหรือสนใจ นางก็จะไปเล่าให้แม่ของนางกับพี่ชายฟัง (แม่กับพ่อของนางแยกทางกัน) เรียกได้ว่าคนครึ่งตระกูลของนางรู้จักเราตั้งแต่ก่อนจะถึงครึ่งเดือนแรกซะอีก ทั้งพี่ชาย พ่อ แม่ ย่า ยาย ตา คือมันเร็วมากจนน่าตกใจนะเราว่า    แต่เราก็คิดว่าถ้ามันจะเป็นไป มันก็คงต้องเป็นไป 55555 แล้วแต่ละวันเราก็คุยกันไปเรื่อยๆ แต่คือไม่มีห่างกันเลย เรียกได้ว่าน้ำตาลยังจืดไปเลย ถ้ามาเทียบกะที่เราคุยกัน อิอิ    ข้อความที่เราจะเอามาให้ดู เป็นช่วงที่เราคุยกันว่ากลัวอะไร แล้วก็จะมาไทยกี่วัน แล้วก็พวกวัฒนธรรมต่างๆนะ
จ: เธอกลัวอะไรหรอ..
ม: เรากลัวแมลงป่อง แมงมุม ละก็ผี    แล้วเธออ่ะ กลัวอะไร   
จ: กลัวการเลิกลา..




ส่วนนี่จะเป็นตอนที่คุยเกี่ยวกับจะมาไทย แล้วก็พวกวัฒนธรรมไทยต่างๆ 
จ: เธอคิดว่าเราควรจะอยู่ไทยกี่วันดี ? อาทิตย์นึงพอไหม
ม: ไม่ได้สิแก๊ มาทั้งทีต้อง 2 อาทิตย์สิย๊ะ   
เอาเข้าจริงๆแล้วมาตั้ง 3 อาทิตย์แหน่ะ 5555





อันนี้ออกจากน้ำเน่าไปนิด อิอิ 





เราขี้เกียจย้อนกลับไปเปิดข้อความเก่าในสไกป์ละ คอมช้ามากกกกก  เอาเป็นว่าเราเล่าต่อเลยก็แล้วกันนะ
ว่าด้วยเรื่องขึ้นสถานะบนเฟชบุค เราก็ได้ขึ้นสถานะคบกันแบบเปิดเผยอย่างสมบูรณ์แบบหลังจากคุยกันมาเลย 12 วัน 55555 เรื่องมันเริ่มจากเราเปิดแท็บเฟชบุค เพื่อที่จะหาที่ท่องเที่ยวที่จะไปด้วยกันตอนที่นางมาไทย แล้วแชร์หน้าจอกับนาง จะได้ดูไปพร้อมๆกัน ตอนนั้นเราใช้เป็นเฟชปลอม ไม่มีรูปไม่มีอะไร เป็นบุคคลลึกลับ 55555 นางเลยเอ่ยถามว่า มีเฟชแล้วทำไมไม่บอก.. แล้วทำไมเฟชถึงเป็นเฟชปลอม เราเลยบอกว่าก็ไม่ได้ถามเอง เพราะไม่คิดว่าจะเล่นเฟช 
จ: ทำไมไม่เปลี่ยนเป็นเฟชจริงล่ะ เปลี่ยนเป็นเฟชจริงที่เป็นเฟชทางการซะสิ
ม: ทำไม 
จ: ก็จะได้ขึ้นสถานะคบกันอย่างเปิดเผยสักทีไง (ใช้คำว่า Official Relationship เชียว  )
จะรอช้าอะไรล่ะจ๊ะ รีบเปลี่ยนเลยสิ อัพรูปขึ้นแล้วเปลี่ยนชื่อเป็นชื่อจริงๆ ผู้หญิงย่อมอยากขึ้นสถานะแบบออกหน้าออกตาอยู่แล้ววววว 55555  หลังจากนั้นก็ไม่รอช้าค่ะ ส่งคำขอขึ้นสถานะไปให้เขาเลย 555 แต่ปรากฏว่าเขาไม่รับ... แป่วววว  เราก็เลยไม่ทักท้วงอะไร แล้วก็ลบคำขอออก.. //อายสิ จนมาถึงเช้าของอีกวันนึง .. เขาส่งคำขอกลับมา เห้ย แกกกกกกกกก ฉันได้ขึ้นสถานะแล้วเว้ยยยย  เป็นอันว่าเมื่อคืนที่เขาไม่ได้รับคำขอเราเพราะมองไม่เห็น เลยส่งคำขอกลับมา และแล้วเราก็ได้ขึ้นสถานะอย่างสมบูรณ์แบบ 5555

แต่จะค่อนข้างงงๆกับวันขึ้นสถานะนิดหน่อย เราเลยเปลี่ยนวันครบรอบให้เป็นวันแรกที่คบกันจริงๆ 
เอาล่ะ จบเรื่องของการขึ้นสถานะไปแล้ว เราก็คุยกันมาเรื่อยๆเหมือนปกติทุกวัน โทรหากัน เปิดกล้อง นอนหลับหน้าคอม จูบจอคอม นั่งมองจอคอม แต่ไม่เคยสัมผัสได้ (รักนี้มันช่างเจ็บปวด  เหมือนกับการมโนไปวันๆ 5555 )
และนี่จะเป็นภาพที่เราตื่นมาจะต้องเห็นทุกๆวัน 



วันหนึ่งเราก็บ่นขึ้นว่า วันวาเลนไทน์นี้จะได้อะไรรึเปล่านะ เพราะทุกๆปีไม่ได้อะไรเลย (นางนี่ไม่ค่อยจะแสดงออกเลยนะคะ ว่าแกอ่ะอยากได้จนตัวสั่น  ) แล้วจู่ๆเขาก็ถามที่อยู่เรา เรารู้แล้วล่ะ ว่าเขาต้องส่งอะไรสักอย่างมาแน่ แต่ไม่รู้ว่าคืออะไร 55555 เราก็ให้ไปสิคะ รออะไรล่ะ รอนานกว่านี้ก็โง่แล้ววววว  แล้วเราก็รอ ร๊อ รอ ต่อไป ใช้ชีวิตปกติเหมือนทุกวันไม่มีเปลี่ยน นอนกับคอม กินข้าวกับคอม ไปโรงเรียน บลาๆๆ จนวันนึงมีผู้ชายคนนึงโทรเข้ามาหาเรา แล้วถามว่าเราอยู่บ้านรึเปล่า .. จะเอาของมาให้ (เป็นผู้ชายจากบริษัทส่งดอกไม้  ว่าแล้วเชียวต้องมาแบบนี้แน่เลย ของขวัญขั้นพื้นฐานคือ ดอกไม้และตุ๊กตา 5555 ถ้าจะอย่างนั้นก็เถอะ แต่มันก็ทำให้เรายิ้มแก้มแหกไปหลายอาทิตย์  ) เราเลยบอกเขาว่าไม่อยู่บ้าน ให้เอาของไปส่งให้ได้เลยที่บ้าน ได้ยินชาวบ้านมาพูดทีหลังว่า คนส่งแกพยายามขับรถรอบหมู่บ้านพร้มกับดอกไม้และตุ๊กตา เพื่อที่จะหาบ้านของเรา เพราะแกหาบ้านเราไม่เจอ ที่อยู่มันเป็นภาษาอังกฤษ!!!    คิดอีกทีก็น่าสงสารแกนะ 5555 แต่พอแกเอาของมาส่งแล้ว แกถามยายเราที่อยู่บ้านว่าเราไปไหน ยายเราบอกว่าเราไปโรงเรียน คนส่งดอกไม้แกเลยบอกว่า ’เขาเป็นครูหรอ  ดีจังเลยเนอะ มีคนอยู่ตั้งเมืองนอกสั่งให้มาส่งของให้' แป๊วววววว ได้กลายเป็นครูไปซะงั้น พอเราได้รับดอกไม้ ก็มีการ์ดติดมาด้วยมันหนึ่ง มันเขียนว่า .. . You are the best thing that ever happened to me... แค่เนี่ย ..  แล้วก็ดอกกุหลาาบ ดอกบักเอ๊บดอกนึง (ใหญ่) แต่มันก็ทำให้เรายิ้มนานไปครึ่งเดือนจริงๆ 55555  มันก็อย่างที่ว่าแหละเนอะ ความจริงแล้วเราไม่ได้ต้องการของขวัญที่มีราคาแพงหรอก

โต๊ะเรารกไปหน่อย

เราได้รับของตอนช่วงสิ้นเดือนมกรา ทำให้เราตัดสินใจส่งการ์ดกลับไปให้เขา ซึ่งเป็นการ์ดทำมือที่ค่อนข้างห่วย อิอิ 


ข้อความในการ์ดเขียนว่า ... จุ๊ๆ เรื่องอะไรจะบอก 5555 

เราก็คุยกันมาปกติทุกวัน เสมอต้น เสมอปลาย (คุยโดยการพิมพ์ เพราะภาษาอังกฤษเราอ่อน เราไม่เก่ง เราไม่กล้าพูด เราไม่กล้าแม้แต่จะเรียกชื่อเขา) จนมาถึงช่วงนึง ที่เราจะต้องเริ่มหัดคุยกันสักที เพราะจะเจอกันแล้ว (เราตกลงจะเจอกันตอนเดือนมีนา เพราะโรงเรียนปิดเทอมพอดีจะได้มีเวลาอยู่ด้วยกัน) ถ้าหากไม่เริ่ม เราก็คงจะต้องใช้ภาษาใบ้ซะแล้วล่ะถ้าเจอกัน นางก็เริ่มสอนเราด้วยการให้อ่านนิทาน เหมือนเด็กอนุบาล 555 มุ้งมิ้งดี    เริ่มจากพาออกเสียงทีละคำ จนพาอ่านเป็นประโยค มันก็ทำให้เราได้ฝึกการฟังเยอะขึ้นมาก แต่ก็ยังไม่วาย พูดยังไม่ได้เหมือนเดิม จนนางเครียดมากกกก เครียดเพราะกลัวคุยกันไม่รู้เรื่อง  เครียดจนถึงขั้นร้องไห้เลยล่ะ  








จากนั้นมันก็ทำให้เรารู้ว่า การที่เราจะหัดพูด มันไม่ใช่การที่เราจะไปก๊อบสำเนียงเขามา เพราะสำเนียงเป็นปัญหาใหญ่ๆเลย ที่ทำให้เราพูดไม่ได้ในครั้งนี้ เราเลยบอกเขาว่า เอางี้นะ ว่าที่พิมพ์มาในสไกป์ ก็ให้พูดด้วย หรือตอนจะพูดก็ให้พิมพ์มาด้วย  เราจะได้หัดฟังด้วย ส่วนเรื่องการพูด เราก็จะพยายามออกเสียง แต่เราจะไม่ก๊อบสำเนียง เพราะเราทำไม่ได้จริงๆ ตัวเราเองก็เปิดดูประโยคที่ใช้บ่อยๆ หัดอ่าน หัดออกเสียงไปเรื่อยๆ คำไหนออกเสียงไม่ได้ก็ให้เขาออกเสียงให้ฟัง จนสักอาทิตย์นึง มันก็หัดการฟังให้เราได้เยอะเลย จากที่ทุกครั้งที่พูดดมาจะ ห๊ะๆๆ ตลอด แล้วการพูดเราก็พูดแบบผิดๆภูกๆไป ถ้าผิดเขาก็จะแก้ให้เอง จนทุกวันนี้พูดจนลิงหลับแล้ว 

เราขอตัดตอนมาช่วงที่จะเจอกันเลยละกันนะ  ก่อนที่จะมานางจะถามเกี่ยวกับวัฒนธรรมไทยตลอดว่าต้องทำอะไร ยังไงบ้าง แล้วก็เปิดดูในกูเกิลบ้าง จะต้องซื้อของฝากรึเปล่า เราก็บอกว่าตามใจเลย นางก็เลยได้เสื้อแขนยาวมาให้แม่กับยายของเรา ตัวนี้...
ก็ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่นะ แต่แพงจัง  (ได้ขุ่นแม่สุดสวยมาเป็นพรีเซ็นเตอร์)



จนวันหนึ่งนางมาถามเราว่าไหว้คืออะไร เราเลยบอกไปว่ามันเป็นการทักทายอย่างนึงในไทย ทีนี้นางเลยอ๋อออออ แล้วถามเราว่าเจอพ่อแม่ก็ต้องไหว้ใช่ไหม พอเราบอกว่าใช่ นางไม่รอช้าเลยจ้า เปิดยูทูปแล้วนั่งหัดไหว้อยู่หน้าจอคอมนั่นแหละ ^.^ ยังบอกอีกว่ากลัวจะทำไม่ถูกตอนเจอหน้าจริงๆ  ไม่พอยังบ่นทุกวันว่ารอไม่ไหวแล้วที่จะได้ไหว้สักที 55555 (ตอนมาถึงที่สนามบิน นางไปยืนไหว้คนที่อยู่สนามบินด้วยจ่ะ - -' นางบอกอยากลองทำ กลัวทำไม่ถูก... น่าภูมิใจแทนจริงจริ๊งงง  )

เราเป็นคนเลือกวัน แล้วก็เวลาบินให้นาง ในเดือนมีนาคม เพราะโรงเรียนพึ่งปิด นางก็เตรียมตัวซื้อกระเป๋าใบใหม่ เสื้อผ้าใหม่ ร้องเท้าใหม่ คืออยากให้ทุกอย่างดูดี พ่อแม่เราจะได้มองว่ามันดี.. เอ๊ะ ยังไง 55555  นางก็แพคกระเป๋าล่วงหน้าประมาณสองวัน ก่อนจะมานางบ่นตลอดว่ากลัวยุงๆๆ กลัวมากๆ กลัวจะเป็นมาลาเรีย เราก็เลยต้องวุ่นไปซื้อมุ้งใหม่อีก -.- (ต้องขอบคุณเพื่อนที่น่ารักมาก ที่วันนั้นพาเราไปหาซื้อมุ้งจนเจอ 5555) เราก็จัดแจงทำความสะอาดห้อง และเตรียมห้องให้นาง (บ้านเราจน)  นี่เป็นสภาพห้องที่เราจัดไว้ (นอนแยกห้องกัน)



และแล้ววันนั้นก็มาถึง คืนนั้นเรานอนไม่หลับเลย .. นั่งรอโทรศัพท์ว่าเมื่อไหร่จะมีเบอร์โทรเข้ามานะ (นางบอกว่าถ้ามาถึงไทยจะโทรมาหา) เราก็นั่งเล่นนังฟังเพลงไปเรื่อยๆ จนห้าทุ่ม แม่เลยบอกให้เราไปนอนหน่อยสักพัก เดี๋ยวจะไม่สวย 5555 คุณแม่นี่ก็นะ เราเลยนอนไป ได้ชั่วโมงครึ่ง.. ตื่นขึ้นมาอีกจ้าา // ก็คนมันตื่นเต้นอ่ะ เลยมานั่งเล่นรอเวลา ตอนนั้นประมาณเที่ยงคืนครึ่งแล้ว นั่งไปสักพักมีเบอร์แปลกโทรเข้ามา รู้เลยแหละ ว่าใช่แน่ๆ รีบรับสิคะ รออะไร ทันทีที่รับโทรศัพท์
จ: ฮัลโหลๆ ยู ไอถึงไทยแล้วนะ ร้อนมากๆเลยอ่ะ
ม: ตอนนี้ยู อยู่ไหนทำไมไอได้ยินแต่เสียงซ่าๆ 
จ: ไออยู่ในสนามบิน แปปนึงๆนะยู ไอเดินออกไปดูนอกประตูก่อน
ม:โอเคๆ
จ: ยูๆๆๆๆ มันอุ่นมากเลยอ่ะ ประเทศไทยฝนตกด้วย ไอชอบมากเลย 
ม: - -' โอเคๆ ยูสมัครเน็ตแล้วส่งข้อความมานะ ไอฟังไม่รู้เรื่อง
หลังจากนั้นเราก็คุยกันผ่านทางข้อความ เราก็ไปแต่งตัวรอ ปลุกพี่ชาย แล้วก็โทรเรียกเพื่อน // แหมม ขนกันไปทั้งครอบครัวเชียว  พอตีสองปุ๊บ เราก็ไม่รอช้า ออกจากบ้านไปรอรถไฟฟรี เพราะต้องเดินทางไปรับมาจากอีกสนามบินหนึ่ง และแล้ว... เราก็ไปถึงที่นั่น นั่งแท็คซี่ต่อไปที่สนามบิน ปรากฏว่าาาาาา พ่างงงงงงง  มันตีสี่อยู่สนามบินยังไม่เปิด แท็คซี่เลยส่งแค่ทางเข้า เวรกำ - -' ฉะนั้นเราก็ยังไม่ย่อท้อ เดินเข้าไปเรื่อยๆ จนถึงหน้าสนามบิน (ตอนนั้นไฟไหม้) ไฟเขาก็ไม่เปิดจ้าา ยุงก็กัด แต่เราก็นั่งรอกันอยู่ที่นั่นจนก่อนที่นางจะขึ้นเครื่องต่อมาที่สนามบิน นางโทรมาถามว่า
จ: ยู ถ้าไอไปถึงแล้วยูจะจุ๊บไปไหม ตอนนี้ไอหิวน้ำมาก และปากไอแห้งมาก
ม: ไม่รู้สิ.. ขอดูก่อน -//-
จ: แบตไอหมดละนะ เหลือเปอร์เซ็นต์เดียว ไอจะขึ้นเครื่องแล้ว เจอกันในอีกชั่วโมงนึงนะยู
ตูด ตูด ตูด .... 

เราก็รอต่อไปสิคะ คอยฟังประกาศจากสนามบินว่าเที่ยวไหนลง ครั้งแล้วครั้งเล่าก็ไม่ใช่ (ถ่ายวิดิโอจนเมมจะเต็มแล้วก็ยังไม่ใช่) จนครั้งสุดท้ายเราได้ยินว่า TGxxx อะไรสักอย่างนี่แหละ เราคิดว่ามันต้องใช่แน่ๆ เลยให้เพื่อนเริ่มถ่ายวิดิโอ สักพักเพื่อนก็ร้องบอกว่ามาแล้วๆๆ อย่างกะไปรอศิลปิน 55555

เราก็เดินเข้าไปเลย จะเข้าไปกอดตามคำสัญญาที่เคยพูดไว้ แต่ปรากฏว่านางเฉยจ้า.. เพราะนางมองไม่เห็นเรา (เราเตี้ยอ่อ ? ) จนหันมามองที่เราอีกครั้งนางก็เข้ามากอดแล้วก็จุ๊บเรา (ตอนนั้นเราแม้มปากตลอด เราเขิลมาก) ความรู้สึกตอนนั้นมันนานมากกก เหมือนโลกหยุดหมุน เหมือนหัวใจมันหยุดเต้นไป ทั้งๆที่มันก็เป็นเพียงแต่เวลานาทีเดียว หน้าแดง ตัวสั่น คำเดียวที่พูดได้คือ it's like a dream 



ส่วนตัวนี้เป็นคลิปจ้า ถ่ายออกมาไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ แต่ก็มีความหมายมาก สงสัยเพื่อนจะตื่นเต้นเหมือนกัน กล้องสั่นเชียว 5555 ยังไม่ได้ตัดต่ออะไร เพราะตัดต่อไม่เป็น 555

เดี๋ยวจะมาต่อเรื่องราวหลังจากนี้เน้อ ว่าตอนอยู่ด้วยกันจริงๆในชีวิตจริงจะเป็นไง 

https://www.youtube.com/watch?v=giyqOR5nBFo