เยาวชนไทย โชว์ไอเดียสุดเจ๋ง ออกแบบร้านค้าสุดทันสมัย
4 ม.ค. 59 15:59 น. /
ดู 591 ครั้ง /
1 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
หลายครั้งคนเราเลือกที่จะทำในสิ่งที่ท้าทายความคิด ความสามารถของตนเอง โดยถ่ายทอดความคิดเหล่านั้นออกมาในลักษณะของผลงาน การออกแบบ ซึ่งสามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้พบเห็น และผู้สนใจได้เป็นอย่างดี อย่างเช่นผลงานโมเดลร้านค้าต้นแบบในคอนเซ็ปต์ที่สื่อถึงความทันสมัย Modern Retail Shop Showcase จากผลงานของนักศึกษาและกลุ่มคนรุ่นใหม่ กว่า 40 ผลงานต้นแบบ ซึ่งได้มีโอกาสจัดแสดงผลงานให้ผู้คนที่แวะเวียนมาเลือกซื้อ เลือกชมสินค้า และบริการ ในงาน SIGN ASIA EXPO 2015 - BANGKOK LED & DIGITAL SIGN 2015ได้แวะเวียนมาเยี่ยมชมกัน
นายสักกฉัฐ ศิวะบวรประธานจัดงานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอบริก จำกัด ผู้จัดงาน SIGN ASIA EXPO 2015 - BANGKOK LED & DIGITAL SIGN 2015 ซึ่งเป็นเทรดโชว์หนึ่งเดียวในวงการป้ายและโฆษณาของไทย กล่าวว่า การจัดงานในปีนี้เป็นอีกปีที่มีความพิเศษ และน่าสนใจทั้งในด้านนวัตกรรม สีสัน และความยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะงาน SIGN ASIA EXPO 2015ที่ปีนี้ชูแนวคิด Integrated Out of Home Media & Retail Shop Decoration Design เป็นการนำเอางานดีไซน์มาสร้างจุดเด่นและมูลค่าเพิ่มให้กับงานดิสเพลย์ และตกแต่ง ซึ่งในปีนี้มีสีสันของงานดีไซน์ที่น่าสนใจ อาทิ การจัดแสดงผลงาน Modern Retail Shop Showcase จากผลงานของนักศึกษาและกลุ่มคนรุ่นใหม่กว่า 40 ผลงานต้นแบบ โดยภาควิชาออกแบบภายใน คณะมัณฑนศิลป์ ม.ศิลปากร ร่วมโชว์ผลงานโมเดลห้างร้านแบรนด์นิยมในหลากหลายรูปแบบ ที่น่าสนใจ อาทิ LYN AROUND, RAY BAN,TOMS เป็นต้น
ต้นแบบผลงานโมเดลร้านค้านี้ นักศึกษาได้เริ่มต้นการคิดเสมือนจริงตั้งแต่การวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์, การตีโจทย์งานออกแบบ การออกแบบภาพลักษณ์ใหม่ ดูดี ทันสมัย ส่งเสริมสินค้าและการให้บริการ ไปจนถึงการกำหนดรูปแบบที่คลี่คลายมาจากโมเดลนามธรรมสู่โมเดลเสมือนจริงทุกขั้นตอน ถือเป็นผลงานโมเดลที่สามารถต่อยอดแก่กลุ่มเป้าหมาย ผู้ที่สนใจที่เข้ามาชมภายในงาน และตัวนักศึกษา ได้ทราบถึงกระบวนการจนถึงสามารถพัฒนานำโมเดลผลงานออกแบบของนักศึกษา ไปใช้งานได้จริง สักกฉัฐ กล่าว
ในการจัดแสดงผลงาน Modern Retail Shop Showcaseน้องๆนักศึกษาไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้ออกแบบผลงาน แต่เป็นวิทยากรคอยให้ความรู้ ตอบคำถาม ไขข้อสงสัยต่างๆเกี่ยวกับโมเดลผลงาน เป็นการสร้างองค์ความรู้แบบบูรณาการนอกห้องเรียนได้เป็นอย่างดี โดยตลอดระยะเวลาการจัดทำผลงาน เตรียมงาน ตลอดจนจัดแสดงผลงานน้องๆล้วนตั้งใจ และทุ่มเทอย่างเต็มที่ เพื่อที่จะถ่ายทอดไอเดียผลงานของตนให้คนทั่วไปได้รับชมและเกิดเป็นแรงบันดาลใจในการนำไปพัฒนาต่อยอดให้โมเดลเหล่านี้กลายเป็นห้างร้าน อาคาร ที่คอยให้บริการลูกค้าจริงๆ ไม่เพียงแต่ปล่อยสิ่งเหล่านี้ไว้เป็นโมเดลจำลอง
วันนี้เรามีโอกาสได้พูดคุยกับน้องตี๋ นายวศิน วัชรโกมลพันธุ์ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 ภาควิชาออกแบบภายใน คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เจ้าของโมเดลผลงานร้านขายอุปกรณ์กีฬา YONEX หนุ่มผู้รักในการออกกำลังกาย เล่าให้ฟังว่า
กีฬาแบดมินตัน เป็นอีกหนึ่งประเภทกีฬาที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มคนทุกเพศทุกวัย ที่สามารถสร้างเหงื่อไปพร้อมๆกับมิตรภาพ เพราะเป็นกีฬาที่เล่นโต้กลับไป - มา อย่างน้อยต้องมีผู้เล่น 2 คน หรืออาจจะแบ่งเป็นฝ่าย ฝ่ายละ 2 คน ก็ได้ ผมเองชอบเล่นกีฬาแบตมินตัน และเลือกใช้ไม้แบตมินตันของแบรนด์YONEX เป็นประจำ ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีประวัติยาวนาน และมีเรื่องราวที่น่าสนใจ ผมจึงเลือกนำแบรนด์นี้มาใช้ในการออกแบบโมเดล ด้วยการดึงอัตลักษณ์ของบริษัท ที่เน้นการสร้างผลิตภัณฑ์และมีเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาอยู่เสมอ จึงเป็นที่มาของคอนเซ็ปต์ เส้นสายแห่งนวัตกรรม ในการออกแบบผมจึงนำมาตีความเป็นรูปแบบของเส้นที่มีการพัฒนาไปเรื่อยๆ อย่างสวยงาม และทันสมัย ในแต่ละชั้น โดยเลือกใช้โทนสีขาวเป็นหลักในการออกแบบ เพื่อให้เห็นถึงตัวเส้นรูปแบบได้ชัดเจน และใช้โทนสีเขียว น้ำเงิน ซึ่งเป็นสีของบริษัทเข้าไปให้เกิดความโดดเด่นยิ่งขึ้นน้องตี๋ กล่าว
ตามติดมาด้วยนักออกแบบสาวรุ่นใหม่ น้องแพนด้า นางสาวพัชรินทร์ เบญจประกายรัตน์ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 ภาควิชาออกแบบภายใน คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร กับโมเดลร้านไหมพรม Bigknit Café ได้ร่วมเล่าให้ฟังว่า
หนูชอบถักไหมพรมเป็นงานอดิเรก และอยากที่จะมีร้านกาแฟน่ารักๆเป็นของตัวเอง หนูจึงเลือกที่จะออกแบบร้านไหมพรม คาเฟ ที่ชื่อว่า Bigknit Cafe ดีไซน์ให้ร้านนี้มีความแตกต่างจากร้านไหมพรมอื่น ด้วยการนำเอาร้านไหมพรม และร้านกาแฟมาผสมผสานกัน เกิดเป็นร้านขายไหมพรมที่มีบริการคาเฟ่ และอาหารแห่งแรกของประเทศไทย และยังโดดเด่นด้วยความหลากหลายของไหมพรมที่มีมากมายหลากหลายแบบให้เลือกสรรจึงเกิดเป็นโปรเจ็คBigknit Cafe ขึ้นมา โดยมีแนวคิดมาจากคำว่า Cozyloveหมายถึงความอบอุ่นของความรัก เหมือนการถักไหมพรมขึ้นมาจากความรักในการถักทอของผู้ทำ ด้วยการใช้ลักษณะของเส้นสัมผัสวัสดุ ที่ให้ความรู้สึกอ่อนหวาน นุ่มนวล อบอุ่น เป็นธีมของร้าน โดยใช้โทนสีขาว-ชมพู แสดงออกถึงความอ่อนหวาน ผสมผสานกับความอบอุ่นของไม้ ซึ่งเป็นวัสดุหลัก และใช้แสงไฟสีขาวสว่าง เพื่อสร้างบรรยากาศให้ดูอบอุ่นเหมือนนั่งถักไหมพรม จิบกาแฟ อยู่ในบ้าน Bigknit Cafeน้องแพนด้ากล่าว
ปิดท้ายกันที่อีกหนึ่งหนุ่มนักออกแบบ น้องบีน นายนพนนท์ อัศววาทิน นักศึกษาชั้นปีที่ 3 ภาควิชาออกแบบภายใน คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากรเจ้าของผลงานร้านจักรยาน แบรนด์COLNAGOเด็กหนุ่มรุ่นใหม่ผู้รักในการออกแบบ เล่าให้ฟังว่า
ในปัจจุบันการปั่นจักรยาน เป็นที่นิยมมากในกลุ่มคนทุกเพศทุกวัย รวมถึงตัวผมเองด้วย ผมจึงมีไอเดียที่จะออกแบบร้านจักรยาน โดยผมเลือกแบรนด์COLNAGO ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่งในกลุ่มนักปั่นมาเป็นหลักในการสร้างโมเดลครั้งนี้ ด้วยการเน้นการออกแบบให้ดูดี ตามสไตล์ของตัวแบรนด์ โดยอาศัยแรงบันดาลใจจากหลักพลศาสตร์ (Aerodynamic) ทิศทางการลู่ลม ผสมผสานกับรูปทรง หรือ Shape form ของตัวเฟรมจักรยาน แล้วนำมาลดทอนให้เกิดองค์ประกอบศิลป์ที่สวยงาม ดีไซน์ที่ทันสมัยตามฝ้าเพดาน และส่วนต่างๆ โดยใช้สีที่ดูเรียบ ช่วยเน้นให้จักรยานดูโดดเด่น และสิ่งที่ลืมไปไม่ได้ด้วยการเลือกใช้แสงไฟสว่างจากหลอดไฟ หรือป้ายโฆษณาต่างๆเข้ามาช่วยทำให้ดูโดดเด่นขึ้นมานั่นเองครับ น้องบีนกล่าว
นอกจากนี้ น้องบีน ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ทุกๆโมเดล ผลงานการออกแบบ ล้วนผ่านการคิด วิเคราะห์ และดีไซน์ออกมาเป็นอย่างดี ซึ่งในแต่ละผลงานต้องใช้ระยะเวลาในการออกแบบ และลงมือสร้าง โดยผู้สร้างล้วนใส่ความเป็นตัวตน เอกลักษณ์ของตนเองลงไปในผลงาน แต่ยังคงขาดโอกาส หรือเวทีในการที่จะก้าวออกมาจัดแสดงผลงาน และในวันนี้พวกเราได้รับโอกาสดีๆจากการจัดงาน SIGN ASIA EXPO 2015 - BANGKOK LED & DIGITAL SIGN 2015 ในการเรียนรู้ สัมผัสกับนวัตกรรมใหม่ในวงการป้ายและโฆษณา รวมถึงการติดตั้งแผงไฟต่างๆ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในการออกแบบ พวกเราต้องขอบคุณโอกาส และประสบการณ์ดีๆ ที่ทางทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้มอบให้กับนักออกแบบรุ่นใหม่อย่างพวกเราครับน้องบีน กล่าวทิ้งท้าย
และนี่ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาศักยภาพของนักออกแบบรุ่นใหม่ของไทยให้หันมาให้ความสำคัญกับงานออกแบบผลงานที่มีประโยชน์ สามารถนำไปต่อยอดในทางอาชีพ และธุรกิจเพิ่มมากขึ้น ถึงแม้จะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ แต่จุดเล็ก ๆ เหล่านี้แหละ ที่จะนำการออกแบบของไทยให้ทัดเทียมนานาประเทศในอนาคต
นายสักกฉัฐ ศิวะบวรประธานจัดงานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอบริก จำกัด ผู้จัดงาน SIGN ASIA EXPO 2015 - BANGKOK LED & DIGITAL SIGN 2015 ซึ่งเป็นเทรดโชว์หนึ่งเดียวในวงการป้ายและโฆษณาของไทย กล่าวว่า การจัดงานในปีนี้เป็นอีกปีที่มีความพิเศษ และน่าสนใจทั้งในด้านนวัตกรรม สีสัน และความยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะงาน SIGN ASIA EXPO 2015ที่ปีนี้ชูแนวคิด Integrated Out of Home Media & Retail Shop Decoration Design เป็นการนำเอางานดีไซน์มาสร้างจุดเด่นและมูลค่าเพิ่มให้กับงานดิสเพลย์ และตกแต่ง ซึ่งในปีนี้มีสีสันของงานดีไซน์ที่น่าสนใจ อาทิ การจัดแสดงผลงาน Modern Retail Shop Showcase จากผลงานของนักศึกษาและกลุ่มคนรุ่นใหม่กว่า 40 ผลงานต้นแบบ โดยภาควิชาออกแบบภายใน คณะมัณฑนศิลป์ ม.ศิลปากร ร่วมโชว์ผลงานโมเดลห้างร้านแบรนด์นิยมในหลากหลายรูปแบบ ที่น่าสนใจ อาทิ LYN AROUND, RAY BAN,TOMS เป็นต้น
ในการจัดแสดงผลงาน Modern Retail Shop Showcaseน้องๆนักศึกษาไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้ออกแบบผลงาน แต่เป็นวิทยากรคอยให้ความรู้ ตอบคำถาม ไขข้อสงสัยต่างๆเกี่ยวกับโมเดลผลงาน เป็นการสร้างองค์ความรู้แบบบูรณาการนอกห้องเรียนได้เป็นอย่างดี โดยตลอดระยะเวลาการจัดทำผลงาน เตรียมงาน ตลอดจนจัดแสดงผลงานน้องๆล้วนตั้งใจ และทุ่มเทอย่างเต็มที่ เพื่อที่จะถ่ายทอดไอเดียผลงานของตนให้คนทั่วไปได้รับชมและเกิดเป็นแรงบันดาลใจในการนำไปพัฒนาต่อยอดให้โมเดลเหล่านี้กลายเป็นห้างร้าน อาคาร ที่คอยให้บริการลูกค้าจริงๆ ไม่เพียงแต่ปล่อยสิ่งเหล่านี้ไว้เป็นโมเดลจำลอง
วันนี้เรามีโอกาสได้พูดคุยกับน้องตี๋ นายวศิน วัชรโกมลพันธุ์ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 ภาควิชาออกแบบภายใน คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เจ้าของโมเดลผลงานร้านขายอุปกรณ์กีฬา YONEX หนุ่มผู้รักในการออกกำลังกาย เล่าให้ฟังว่า
กีฬาแบดมินตัน เป็นอีกหนึ่งประเภทกีฬาที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มคนทุกเพศทุกวัย ที่สามารถสร้างเหงื่อไปพร้อมๆกับมิตรภาพ เพราะเป็นกีฬาที่เล่นโต้กลับไป - มา อย่างน้อยต้องมีผู้เล่น 2 คน หรืออาจจะแบ่งเป็นฝ่าย ฝ่ายละ 2 คน ก็ได้ ผมเองชอบเล่นกีฬาแบตมินตัน และเลือกใช้ไม้แบตมินตันของแบรนด์YONEX เป็นประจำ ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีประวัติยาวนาน และมีเรื่องราวที่น่าสนใจ ผมจึงเลือกนำแบรนด์นี้มาใช้ในการออกแบบโมเดล ด้วยการดึงอัตลักษณ์ของบริษัท ที่เน้นการสร้างผลิตภัณฑ์และมีเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาอยู่เสมอ จึงเป็นที่มาของคอนเซ็ปต์ เส้นสายแห่งนวัตกรรม ในการออกแบบผมจึงนำมาตีความเป็นรูปแบบของเส้นที่มีการพัฒนาไปเรื่อยๆ อย่างสวยงาม และทันสมัย ในแต่ละชั้น โดยเลือกใช้โทนสีขาวเป็นหลักในการออกแบบ เพื่อให้เห็นถึงตัวเส้นรูปแบบได้ชัดเจน และใช้โทนสีเขียว น้ำเงิน ซึ่งเป็นสีของบริษัทเข้าไปให้เกิดความโดดเด่นยิ่งขึ้นน้องตี๋ กล่าว
ตามติดมาด้วยนักออกแบบสาวรุ่นใหม่ น้องแพนด้า นางสาวพัชรินทร์ เบญจประกายรัตน์ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 ภาควิชาออกแบบภายใน คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร กับโมเดลร้านไหมพรม Bigknit Café ได้ร่วมเล่าให้ฟังว่า
หนูชอบถักไหมพรมเป็นงานอดิเรก และอยากที่จะมีร้านกาแฟน่ารักๆเป็นของตัวเอง หนูจึงเลือกที่จะออกแบบร้านไหมพรม คาเฟ ที่ชื่อว่า Bigknit Cafe ดีไซน์ให้ร้านนี้มีความแตกต่างจากร้านไหมพรมอื่น ด้วยการนำเอาร้านไหมพรม และร้านกาแฟมาผสมผสานกัน เกิดเป็นร้านขายไหมพรมที่มีบริการคาเฟ่ และอาหารแห่งแรกของประเทศไทย และยังโดดเด่นด้วยความหลากหลายของไหมพรมที่มีมากมายหลากหลายแบบให้เลือกสรรจึงเกิดเป็นโปรเจ็คBigknit Cafe ขึ้นมา โดยมีแนวคิดมาจากคำว่า Cozyloveหมายถึงความอบอุ่นของความรัก เหมือนการถักไหมพรมขึ้นมาจากความรักในการถักทอของผู้ทำ ด้วยการใช้ลักษณะของเส้นสัมผัสวัสดุ ที่ให้ความรู้สึกอ่อนหวาน นุ่มนวล อบอุ่น เป็นธีมของร้าน โดยใช้โทนสีขาว-ชมพู แสดงออกถึงความอ่อนหวาน ผสมผสานกับความอบอุ่นของไม้ ซึ่งเป็นวัสดุหลัก และใช้แสงไฟสีขาวสว่าง เพื่อสร้างบรรยากาศให้ดูอบอุ่นเหมือนนั่งถักไหมพรม จิบกาแฟ อยู่ในบ้าน Bigknit Cafeน้องแพนด้ากล่าว
ปิดท้ายกันที่อีกหนึ่งหนุ่มนักออกแบบ น้องบีน นายนพนนท์ อัศววาทิน นักศึกษาชั้นปีที่ 3 ภาควิชาออกแบบภายใน คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากรเจ้าของผลงานร้านจักรยาน แบรนด์COLNAGOเด็กหนุ่มรุ่นใหม่ผู้รักในการออกแบบ เล่าให้ฟังว่า
ในปัจจุบันการปั่นจักรยาน เป็นที่นิยมมากในกลุ่มคนทุกเพศทุกวัย รวมถึงตัวผมเองด้วย ผมจึงมีไอเดียที่จะออกแบบร้านจักรยาน โดยผมเลือกแบรนด์COLNAGO ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่งในกลุ่มนักปั่นมาเป็นหลักในการสร้างโมเดลครั้งนี้ ด้วยการเน้นการออกแบบให้ดูดี ตามสไตล์ของตัวแบรนด์ โดยอาศัยแรงบันดาลใจจากหลักพลศาสตร์ (Aerodynamic) ทิศทางการลู่ลม ผสมผสานกับรูปทรง หรือ Shape form ของตัวเฟรมจักรยาน แล้วนำมาลดทอนให้เกิดองค์ประกอบศิลป์ที่สวยงาม ดีไซน์ที่ทันสมัยตามฝ้าเพดาน และส่วนต่างๆ โดยใช้สีที่ดูเรียบ ช่วยเน้นให้จักรยานดูโดดเด่น และสิ่งที่ลืมไปไม่ได้ด้วยการเลือกใช้แสงไฟสว่างจากหลอดไฟ หรือป้ายโฆษณาต่างๆเข้ามาช่วยทำให้ดูโดดเด่นขึ้นมานั่นเองครับ น้องบีนกล่าว
นอกจากนี้ น้องบีน ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ทุกๆโมเดล ผลงานการออกแบบ ล้วนผ่านการคิด วิเคราะห์ และดีไซน์ออกมาเป็นอย่างดี ซึ่งในแต่ละผลงานต้องใช้ระยะเวลาในการออกแบบ และลงมือสร้าง โดยผู้สร้างล้วนใส่ความเป็นตัวตน เอกลักษณ์ของตนเองลงไปในผลงาน แต่ยังคงขาดโอกาส หรือเวทีในการที่จะก้าวออกมาจัดแสดงผลงาน และในวันนี้พวกเราได้รับโอกาสดีๆจากการจัดงาน SIGN ASIA EXPO 2015 - BANGKOK LED & DIGITAL SIGN 2015 ในการเรียนรู้ สัมผัสกับนวัตกรรมใหม่ในวงการป้ายและโฆษณา รวมถึงการติดตั้งแผงไฟต่างๆ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในการออกแบบ พวกเราต้องขอบคุณโอกาส และประสบการณ์ดีๆ ที่ทางทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้มอบให้กับนักออกแบบรุ่นใหม่อย่างพวกเราครับน้องบีน กล่าวทิ้งท้าย
และนี่ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาศักยภาพของนักออกแบบรุ่นใหม่ของไทยให้หันมาให้ความสำคัญกับงานออกแบบผลงานที่มีประโยชน์ สามารถนำไปต่อยอดในทางอาชีพ และธุรกิจเพิ่มมากขึ้น ถึงแม้จะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ แต่จุดเล็ก ๆ เหล่านี้แหละ ที่จะนำการออกแบบของไทยให้ทัดเทียมนานาประเทศในอนาคต
แก้ไขล่าสุด 4 ม.ค. 59 15:59 |
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 8.1
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google