เมืองไทยมีกระเช้าแบรนด์ แล้วชาติอื่นมีกระเช้าอะไรบ้าง มาดูกัน!

1 มี.ค. 59 12:20 น. / ดู 916 ครั้ง / 0 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์
วันนี้เราจะพามาดูหน้าตาของกระเช้าของขวัญทั่วโลก
ช่วงเทศกาลดีๆ อย่างปีใหม่ คริสต์มาส ตรุษจีน วันพ่อ วันแม่ ฯลฯ เค้ามอบอะไรให้แก่กันบ้างนะ

กระเช้าไทย – สีสันของเมืองร้อน

ก่อนออกนอกประเทศ มาดูของบ้านเราก่อนว่ามีกระเช้าแบบไหนมั้ยที่เข้ากับวิถีชีวิตของเรา และสะท้อนวัฒนธรรมของเราได้ดี เพราะปกติเราก็จะเห็นแต่กระเช้าแบรนด์ กระเช้าผลไม้ หรือไม่ก็พวกกาแฟ คุกกี้ ขนมทั่วๆไป ดูไม่ไทยเท่าไร


Cr: กระเช้าของขวัญ LoveYouFlower

กลิ่นอายที่สะท้อนสีสันของเมืองร้อน ก็คงหนีไม่พ้นบรรดาสมุนไพรไทย เราไม่เพียงใช้สมุนไพรในอาหาร แต่ยังใช้มันในการนวดแผนไทย ทำเครื่องประทินผิว หรือนำมาใส่เครื่องดื่มดับกระหายและบรรเทาอาการผิดปกติต่างๆ ในร่างกายอีกด้วย ไอเดียกระเช้าไทยๆ จากพวกสบู่ โลชั่น ออยล์นวด เทียนหอม ฯลฯ ที่มีส่วนผสมของสมุนไพรไทยจึงน่าจะเป็นกระเช้าที่มีความพอดี และไม่เข้าถึงยากเกินไปด้วยถ้าเราจะมอบให้ชาวต่างชาติ


กระเช้าฝรั่งเศส – ศิลปะแห่งการกินดื่ม


กระเช้าไวน์ กับชีสที่ทานคู่กัน

ที่จริง ไวน์ กับ ชีส ก็เป็นของคลาสสิกสำหรับกระเช้าคริสต์มาสในเกือบทุกประเทศอยู่แล้ว แต่แน่นอนเรื่องไวน์เราต้องยกให้ชาวฝรั่งเศสเขาล่ะ เพราะเขาดื่มไวน์กันเป็นกิจวัตร ไม่ว่าตอนทานอาหารกลางวันหรือดินเนอร์ หลายครั้งในกระเช้าก็อาจจะมีพวกแคร็กเกอร์ด้วย เพราะสามอย่างที่คนฝรั่งเศสรักสุดๆ ต้องใส่ในมื้ออาหารเสมอ ก็คือไวน์ ชีส และขนมปังนี่แหละ บางทีก็เรียกว่าเป็น The Holy Trinity of Food เลยทีเดียว

การดื่มไวน์คู่กับชีสนั้น ตอนแรกเป็นเพียงการค้นพบโดยบังเอิญว่าทานคู่กันแล้วรสชาติดี แต่ต่อมาเมื่อวิทยาศาสตร์การอาหารพัฒนาขึ้น ได้มีการค้นพบว่าความอร่อยนี้ไม่ใช่เพียงแค่ความรู้สึก หากมีสาเหตุเบื้องหลังอยู่จริง กล่าวคือไขมันในชีสที่มีอยู่สูงเมื่อทานเข้าไปจะไปจับตัวอยู่ที่เพดานปากด้านใน ในขณะที่ต่อมรับรสขมของเรานั้นอยู่ที่โคนลิ้น เมื่อเรากลืนไวน์เข้าไป โคนลิ้นก็จะไปแตะสัมผัสกับไขมันชีส ทำให้ถูกเบี่ยงเบนการรับรส จึงรู้สึกได้ว่าไวน์มีความหวานมากขึ้นนั่นเอง


ตัวอย่าง Wine and Cheese Pairings

ในด้านความหมาย ทำไมไวน์และชีสจึงเป็นของขวัญช่วงเทศกาลที่เพอร์เฟ็ค?? คำตอบคือทั้งสองต่างก็เป็นสิ่งที่พัฒนารสชาติขึ้นตามระยะเวลา ซึ่งนอกจากจะทำให้ชีสและไวน์เป็นศิลปะชั้นสูงแล้ว มันยังให้นัยยะที่ดีถึงเรื่องมิตรภาพ ความสัมพันธ์ที่แนบแน่น และการยกย่องในประสบการณ์อันยาวนานของผู้รับได้อีกด้วย


กระเช้าอิตาลี – มื้ออาหารที่ทุกคนรัก


กระเช้าบรรจุเส้นพาสต้า ซอสพาสต้า sun-dried tomatoes ฯลฯ บางครั้งก็ใช้หม้อกรองพาสต้าแทนกระเช้า


กระเช้ากาแฟ

กระเช้าของขวัญอิตาลีจะไม่มีพาสต้าได้ไงจริงไหม? แต่ไม่ใช่แค่พาสต้านะ อิตาลียังมีอาหารชื่อดังอีกหลายสิบชนิด จนได้รับขนานนามว่าเป็นชนชาติที่ทำอาหารเก่งที่สุด ในร้านอาหารตะวันตกแทบไม่มีร้านไหนไม่เสิร์ฟเมนูที่รับมาจากอิตาลีเลย ไม่ว่าจะเป็นพาสต้า พิซซ่า ลาซานญ่า รีซอตโต้ บรูสเก็ตต้า โดยเฉพาะพาสต้าที่ได้รับยกย่องว่าเป็น World’s Favorite Food และไม่เพียงแต่อาหารเท่านั้น อิตาลียังเป็นผู้นำด้านกาแฟ รวมถึงเจลาโต้ ไอศกรีมสไตล์อิตาเลียนที่ถูกปากคนทั่วโลก

คาดกันว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้อาหารอิตาเลียนแทรกซึมอยู่ได้ทั่วทุกมุมโลก ก็เพราะว่าแทบทุกเมนูมีวิธีทำที่เรียบง่ายมาก ใช้วัตถุดิบแค่ 3-4 อย่าง แต่ชาวอิตาเลียนให้ความสำคัญกับคุณภาพและความเป็นธรรมชาติของวัตถุดิบ ไม่ว่าจะเป็น มะเขือเทศ น้ำมันมะกอก เบซิล ซึ่งถ้าเราดูรายการสอนทำอาหารของอิตาลี เปรียบเทียบกับของประเทศอื่นๆ ก็จะเห็นว่าพวกเขาใช้เวลานานเหลือเกินในการพูดถึงการสรรหาวัตถุดิบ ในขณะที่ช่วงแสดงวิธีทำนั้นสั้นและง่ายมาก

สำหรับกระเช้ากาแฟนั้น แม้กาแฟไม่ได้กำเนิดที่อิตาลี แต่อาจกล่าวได้ว่าวัฒนธรรมการดื่มกาแฟทั่วทั้งโลกถูกสร้างสรรค์ขึ้นที่นี่ ไม่ว่าจะ Espresso, Cappuccino, Latte หรือ Barista ล้วนแต่เป็นคำอิตาเลียน เพราะถือกำเนิดขึ้นที่นี่ทั้งสิ้น โดยกาแฟเข้ามาถึงอิตาลีครั้งแรกที่เมือง Venice ร้านกาแฟกว่า 200 ร้านถูกเปิดขึ้นริมคลอง Venice และค่อยๆ แผ่ขยายวัฒนธรรมออกไปสู่ Verona, Milan และ Turin จนในปัจจุบัน ความเป็นอิตาเลียนนี้อยู่ในวิถีชีวิตของพวกเราทุกคน กาแฟกลายเป็นเครื่องดื่มที่มี status หลายอย่างทางสังคม ทั้งเป็นศิลปะ เป็นยา เป็นความหรูหรา… Howard Schultz ผู้บริหารของ Starbucks เล่าว่า แรงบันดาลใจในการสร้างร้านกาแฟที่โด่งดังไปทั่วโลกของเขานั้น ก็มาจากทริปท่องเที่ยว Milan ของเขาเอง


Caffè Florian เป็นร้านกาแฟเก่าแก่ที่สุดในโลกที่ยังคงเปิดอยู่ ร้านนี้อยู่ที่เมือง Venice เปิดกิจการมาตั้งแต่ปี 1720


กระเช้าจีน – รวย เฮง อายุยืน


กระเช้าเน้นของที่บำรุงสุขภาพ พร้อมด้วยไวน์ และช็อคโกแลต

กระเช้าของขวัญใบนี้สะท้อนค่านิยมของชาวจีน ไปจนถึงชาวเอเชียนอีกหลายประเทศในปัจจุบันได้ดี เพราะมีการผสมผสานวัฒนธรรมของตนเองเข้ากับของตะวันตกที่กำลังนิยมกันอยู่ได้อย่างกลมกลืน

ของขวัญยอดนิยมตลอดกาล โดยเฉพาะสำหรับให้ผู้ใหญ่ คือพวกอาหารเสริมที่กินแล้วสุขภาพดีตามแนวคิดของการรักษาสมดุลหยิน – หยาง เช่น รังนก กระเพาะปลา หอยเป๋าฮื้อ ซึ่งอย่างที่รู้กันว่าของพวกนี้เป็นของหายาก ราคาสูง มันจึงเป็นเครื่องแสดงฐานะของทั้งผู้ให้และผู้รับด้วย แม้ว่าปัจจุบันเทคโนโลยีอุตสาหกรรมจะทำให้ของเหล่านี้ราคาถูกลง เข้าถึงได้ง่ายขึ้น แต่ดูเหมือนว่า status ของสิ่งเหล่านี้ก็แทบไม่ได้สั่นคลอนลงเลย

จะเห็นว่ากระเช้ามีของฝรั่งอย่างไวน์ และ Ferrero Rocher ด้วย ช็อกโกแลตถือเป็นของ exotic และมีระดับที่ชาวจีนชื่นชอบกันมาก ในปี 2008 ตลาดช็อกโกแลตในจีนโตขึ้นถึง 40% ขณะที่ทั่วโลกโตแค่ 10% โดยชาวจีนส่วนใหญ่นิยมแบรนด์ต่างประเทศมากกว่าแบรนด์จีน แบรนด์ที่ได้รับความนิยมที่สุดคือ Dove, Ferrero, Cadbury และ Leconte (Leconte เป็นแบรนด์จีนแบรนด์เดียว) สำหรับ Ferrero นั้นอาจเรียกว่าได้รับความนิยมมากในจีน เพราะบังเอิญมีลักษณะที่ชาวจีนชอบมากหลายประการ เช่นห่อสีทองนั้นเป็นสีมงคลของชาวจีนพอดี ช็อกโกแลตก็เป็นลูกกลมเหมือนหยิน – หยาง แถมชาวจีนยังชอบทานถั่วกันมาก ซึ่ง Ferrero ก็เคลือบด้วยฮาเซลนัทพอดิบพอดีอีกเช่นกัน

ส่วนไวน์และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อื่นๆ ก็นิยมให้เป็นของขวัญเช่นกัน เพราะเหมือนเป็นการดื่มเฉลิมฉลองให้ผู้รับมีสุขภาพที่ดี และดูเป็นของมีระดับเช่นเดียวกับช็อกโกแลต จึงนิยมมอบให้กันระหว่างเพื่อนหรือมอบในงานธุรกิจ โดยเฉพาะถ้าเป็นแบรนด์จากต่างประเทศที่หาไม่ได้ในจีน ชาวจีนจะรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก


“World Chocolate Wonderland” ธีมปาร์คช็อกโกแลตในจีน ที่มีผลงานมากมายจากช็อกโกแลต เช่น หุ่นกองทัพทหาร กำแพงเมืองจีน รถยนต์ น้ำตก เหมือนหนัง “ชาร์ลี กับ โรงงานช็อกโกแลต” ที่กลายเป็นความจริง นี่เป็นเครื่องยืนยันว่าชาวจีนชอบช็อกโกแลตกันมากแค่ไหน


กระเช้าอินเดีย – หอมฟุ้งกลิ่นเครื่องเทศ


ชุดของขวัญ ของ “The East India Company London” ประกอบด้วยชาอินเดีย บิสกิตและช็อกโกแลตที่ใส่เครื่องเทศ เป็นการผสมผสานความเป็นอินเดีย เข้ากับวัฒนธรรม Afternoon Tea ของชาวอังกฤษ

เครื่องเทศ พระเอกของอาหาร ขนม และเครื่องดื่มของอินเดีย เป็นตัวสะท้อนการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมอันสำคัญของโลก เพราะอินเดียนั้นเป็นประเทศที่ทั้งรับวัฒนธรรมอื่น และมีการเผยแพร่วัฒนธรรมของตนเองออกไปกว้างขวางที่สุดประเทศหนึ่ง เครื่องเทศอินเดียได้เผยโฉมสู่ตะวันตก ตั้งแต่ยุคที่โปรตุเกสเดินทางเข้ามาในเอเชีย และอีกครั้งที่สำคัญคือยุคที่อังกฤษเข้ามาล่าอาณานิคม ซึ่งก็เป็นช่วงที่อินเดียส่งอิทธิพลให้อาหารฝั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเราด้วยเช่นกัน

ส่วนชา แม้ว่าปัจจุบันอินเดียจะเป็นรองจีนเรื่องปริมาณชาส่งออก แต่ชาจากอินเดียก็มีชื่อเสียงมากอย่างปฏิเสธไม่ได้ โดยการชงชาของอินเดียนั้นมีความพิเศษที่การผสมกับเครื่องเทศ เช่น ซินนามอน คาร์ดามอน กานพลู ขิง หรือพริกไทยดำเข้าไปด้วย เรียกว่า Masala Chai หรือบางครั้งก็เรียก Chai อย่างเดียว

คนอินเดียดื่มชากันเป็นชีวิตจิตใจ ทั้งชงเองที่บ้าน และออกไปดื่มนอกบ้าน ซึ่งถ้าไปอินเดียแล้วไม่ได้ดื่มชาตามร้านข้างทางก็เหมือนไปไม่ถึง ที่นั่นเราจะเห็นคนชงชา หรือที่เรียกว่า Chai Wallahs ตั้งร้านกันอยู่ทุกหัวมุมถนน โดยร้านของพวกเขาอาจจะเป็นรถเข็น โต๊ะเล็กๆ หรือบางทีตั้งอุปกรณ์นั่งชงกับพื้นกันเลยก็มี ซึ่งแต่ละคนก็จะมีสไตล์การชงแตกต่างกันออกไป ซื้อแล้วก็ได้ทั้งดื่มด่ำรสชาติของชา และเพลินตาไปกับลีลาของผู้ชงด้วย


ร้านชาในเมืองอัห์มดาบาด รัฐคุชราต Chai Wallahs กำลังชงชาคาร์ดามอนสูตรลับเฉพาะ



เป็นไงๆๆ แค่เห็นกระเช้าใบเล็กๆ เหล่านี้ ก็เหมือนได้ท่องไปในประเทศต่างๆ ท่องไปในวัฒนธรรมของพวกเขา ใครมีทริปไปประเทศไหนก็อย่าลืมซื้อกระเช้าของขวัญแบบนี้มาฝากคนที่แคร์กันนะจ๊า


ขอบคุณบทความจาก loveyouflower.com
เลขไอพี : ไม่แสดง | ตั้งกระทู้โดย Windows 8

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google