จากหลุมถึงรถ เดอะซีรี่ส์ : เคยสงสัยกันมั้ยว่า "น้ำมัน" ที่เราเอามาเติมรถเนี่ย มาจากไหน??
4 พ.ค. 59 17:06 น. /
ดู 305 ครั้ง /
0 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
จากหลุมถึงรถ เดอะซีรี่ส์ : เคยสงสัยกันมั้ยว่า "น้ำมัน" ที่เราเอามาเติมรถเนี่ย มาจากไหน??
ในชีวิตประจำวันของเรามีโอกาสได้โดยสารรถกันเป็นประจำอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ รถเมล์ จักรยานยนต์ หรือแม้แต่รถบรรทุก การที่ยานพาหนะเหล่านี้จะวิ่งได้เราต้องเติมน้ำมันก่อน น้ำมันที่นำมาใช้ในการให้พลังงานกับเครื่องยนต์เป็นน้ำมันสำเร็จรูปที่ได้จากกระบวนการกลั่นน้ำมันดิบ ผ่านการปรับปรุงคุณภาพ เติมสารเติมแต่งให้ได้คุณภาพตามที่ต้องการ ทราบกันมั้ยคะว่ากว่าจะมาเป็นน้ำมันสำเร็จรูปต้องผ่านกระบวนการอะไรบ้าง??
ก่อนที่จะไปหาคำตอบว่า น้ำมัน มาจากไหน เรามาทำความรู้จักกับ ปิโตรเลียม กันก่อนดีกว่า
ตอนที่ 1 : ปิโตรเลียมคืออะไร??
เชื่อว่าไม่มีใครไม่เคยได้ยินคำว่า "ปิโตรเลียม" (Petroleum) ก่อนอื่นมาดูรากศัพท์กันก่อน คำว่า ปิโตรเลียม มาจากภาษาละติน คือ petra ที่แปลว่า หิน และ oleum ที่แปลว่า น้ำมัน เมื่อรวมกันจึงหมายถึง น้ำมันที่ได้จากหิน
ปิโตรเลียมเป็นของผสมระหว่างสารประกอบไฮโดรคาร์บอนที่มีสถานะเป็นได้ทั้งก๊าซ ของเหลว และของแข็ง มีความเหนียวข้น ติดไฟได้ มีสีเหลือง-ดำ เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติในชั้นหินใต้พื้นผิวโลก สามารถนำมาแยกองค์ประกอบได้เป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น ก๊าซธรรมชาติ ก๊าซโซลีน แนฟทา น้ำมันก๊าด น้ำมันหล่อลื่น พาราฟิน และอื่นๆ นอกจากนั้น ยังใช้เป็นสารตั้งต้นในการผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น พลาสติก รวมไปถึงเวชภัณฑ์ต่างๆ ด้วย
ปิโตรเลียมที่เรารู้จักแบ่งเป็น 2 ชนิด ได้แก่ น้ำมันดิบ (ยังเอาไปเติมรถไม่ได้นะ) และ ก๊าซธรรมชาติ สำหรับน้ำมันดิบนั้นจะนำมาผ่านกระบวนการกลั่นได้เป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ รวมทั้งน้ำมันที่เราใช้เติมรถ (ที่เรากำลังพูดถึงนี่แหล่ะ) ด้วย ส่วนก๊าซธรรมชาติ จะนำมาผ่านโรงแยกก๊าซ ในบ้านเรามีการนำมาใช้ในการผลิตไฟฟ้าเป็นส่วนใหญ่ ส่วนหนึ่งใช้เป็นก๊าซหุงต้ม และให้ความร้อนในยานพาหนะ
แล้วปิโตรเลียมเกิดขึ้นมาได้ยังไง??
เราน่าจะเคยท่องจำกันมาตั้งแต่สมัยเรียนแล้วว่า ปิโตรเลียมเกิดจากการทับถมกันของซากพืชซากสัตว์ได้รับความร้อนและความดันที่เหมาะสมจึงกลายสภาพเป็นปิโตรเลียมอยู่ใต้ผิวโลก ซึ่งจริงๆ แล้วกระบวนการเกิดปิโตรเลียมนั้นมีความซับซ้อน จะขออธิบายขั้นตอนการเกิดปิโตรเลียมอย่างละเอียดในตอนที่ 2
เราพบปิโตรเลียมที่ไหนบ้าง??
เราสามารถพบปิโตรเลียมได้ในหลายๆ ส่วนของโลก ในสมัยอดีตที่ยังมีความต้องการใช้ปิโตรเลียมต่ำ การค้นหาแหล่งปิโตรเลียมทำได้ง่าย โดยในยุคแรกๆ ปิโตรเลียมที่นำมาใช้เป็นน้ำมันดิบที่ซึมขึ้นมาบนผิวโลก ต่อมาเมื่อความต้องการใช้เพิ่มมากขึ้น การค้นหาทำได้ยากขึ้น ต้องค้นหาลึกขึ้น จากเดิมพบได้ที่ระดับผิวดิน ทุกวันนี้ การสำรวจปิโตรเลียมเกิดขึ้นในบริเวณที่ค่อนข้างท้าทาย เรากำลังมองหาแหล่งปิโตรเลียมที่ความลึกถึง 1,000 ฟุตใต้ทะเล รวมทั้งในบริเวณที่มีสภาพอากาศรุนแรง
ปิโตรเลียมจะหมดจากโลกมั้ย??
ที่จริงเราไม่จำเป็นต้องกังวลว่าปิโตรเลียมจะหมดจากโลกในระยะเวลาอันสั้น เพราะด้วยอัตราการใช้ในปัจจุบัน เราจะมีปิโตรเลียมสำรองให้ใช้ได้ถึง 60-90 ปี และในขณะที่ปริมาณปิโตรเลียมทั้งหมดไม่ได้เพิ่มขึ้น มนุษย์ก็มีความสามารถที่จะค้นหาจากแหล่งใหม่ๆ ตลอดเวลา
ในปัจจุบันเราสามารถผลิตก๊าซธรรมชาติจากชั้นถ่านหินที่ทับถมกันได้ เราสามารถผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากสสารที่ทับถมกันที่อยู่ใต้ผิวโลกลึกลงไปหลายไมล์ รวมทั้งในทะเลลึก ที่อยู่ห่างจากฝั่งเป็นระยะ 100 ไมล์ และในน้ำลึกกว่า 1,000 ฟุตได้ นอกจากนั้น ยังหาวิธีการสกัดน้ำมันจากน้ำมันดิน (Tar) และออยเชลล์ (Oil shale) ที่จะสามารถผลิตน้ำมันได้เป็นเวลานับร้อยปีอีกด้วย
นอกจากนี้ อุตสาหกรรมปิโตรเลียมยังทำให้เกิดการลงทุนในพลังงานทางเลือก เช่น ลม แสงอาทิตย์ พลังงานความร้อนใต้พิภพ และชีวมวล เพื่อเพิ่มศักยภาพของทรัพยากรด้านพลังงานให้เป็นรูปธรรม และจับต้องได้เพื่อให้ตอบสนองความต้องการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้น
ถึงแม้ว่าเราจะไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีปิโตรเลียมหรือพลังงานใช้ในอนาคต แต่ก็ไม่ใช่เหตุผลที่เราจะสามารถใช้พลังงานกันอย่างฟุ่มเฟือย สิ่งที่ควรทำคือการใช้อย่างรู้คุณค่าต่างหากค่ะ
---------
กระทู้เริ่มยาว ติดตามต่อตอนหน้าค่ะ
http://pantip.com/topic/35079006
ก่อนที่จะไปหาคำตอบว่า น้ำมัน มาจากไหน เรามาทำความรู้จักกับ ปิโตรเลียม กันก่อนดีกว่า
ตอนที่ 1 : ปิโตรเลียมคืออะไร??
เชื่อว่าไม่มีใครไม่เคยได้ยินคำว่า "ปิโตรเลียม" (Petroleum) ก่อนอื่นมาดูรากศัพท์กันก่อน คำว่า ปิโตรเลียม มาจากภาษาละติน คือ petra ที่แปลว่า หิน และ oleum ที่แปลว่า น้ำมัน เมื่อรวมกันจึงหมายถึง น้ำมันที่ได้จากหิน
ปิโตรเลียมเป็นของผสมระหว่างสารประกอบไฮโดรคาร์บอนที่มีสถานะเป็นได้ทั้งก๊าซ ของเหลว และของแข็ง มีความเหนียวข้น ติดไฟได้ มีสีเหลือง-ดำ เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติในชั้นหินใต้พื้นผิวโลก สามารถนำมาแยกองค์ประกอบได้เป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น ก๊าซธรรมชาติ ก๊าซโซลีน แนฟทา น้ำมันก๊าด น้ำมันหล่อลื่น พาราฟิน และอื่นๆ นอกจากนั้น ยังใช้เป็นสารตั้งต้นในการผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น พลาสติก รวมไปถึงเวชภัณฑ์ต่างๆ ด้วย
ปิโตรเลียมที่เรารู้จักแบ่งเป็น 2 ชนิด ได้แก่ น้ำมันดิบ (ยังเอาไปเติมรถไม่ได้นะ) และ ก๊าซธรรมชาติ สำหรับน้ำมันดิบนั้นจะนำมาผ่านกระบวนการกลั่นได้เป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ รวมทั้งน้ำมันที่เราใช้เติมรถ (ที่เรากำลังพูดถึงนี่แหล่ะ) ด้วย ส่วนก๊าซธรรมชาติ จะนำมาผ่านโรงแยกก๊าซ ในบ้านเรามีการนำมาใช้ในการผลิตไฟฟ้าเป็นส่วนใหญ่ ส่วนหนึ่งใช้เป็นก๊าซหุงต้ม และให้ความร้อนในยานพาหนะ
แล้วปิโตรเลียมเกิดขึ้นมาได้ยังไง??
เราน่าจะเคยท่องจำกันมาตั้งแต่สมัยเรียนแล้วว่า ปิโตรเลียมเกิดจากการทับถมกันของซากพืชซากสัตว์ได้รับความร้อนและความดันที่เหมาะสมจึงกลายสภาพเป็นปิโตรเลียมอยู่ใต้ผิวโลก ซึ่งจริงๆ แล้วกระบวนการเกิดปิโตรเลียมนั้นมีความซับซ้อน จะขออธิบายขั้นตอนการเกิดปิโตรเลียมอย่างละเอียดในตอนที่ 2
เราพบปิโตรเลียมที่ไหนบ้าง??
เราสามารถพบปิโตรเลียมได้ในหลายๆ ส่วนของโลก ในสมัยอดีตที่ยังมีความต้องการใช้ปิโตรเลียมต่ำ การค้นหาแหล่งปิโตรเลียมทำได้ง่าย โดยในยุคแรกๆ ปิโตรเลียมที่นำมาใช้เป็นน้ำมันดิบที่ซึมขึ้นมาบนผิวโลก ต่อมาเมื่อความต้องการใช้เพิ่มมากขึ้น การค้นหาทำได้ยากขึ้น ต้องค้นหาลึกขึ้น จากเดิมพบได้ที่ระดับผิวดิน ทุกวันนี้ การสำรวจปิโตรเลียมเกิดขึ้นในบริเวณที่ค่อนข้างท้าทาย เรากำลังมองหาแหล่งปิโตรเลียมที่ความลึกถึง 1,000 ฟุตใต้ทะเล รวมทั้งในบริเวณที่มีสภาพอากาศรุนแรง
ปิโตรเลียมจะหมดจากโลกมั้ย??
ที่จริงเราไม่จำเป็นต้องกังวลว่าปิโตรเลียมจะหมดจากโลกในระยะเวลาอันสั้น เพราะด้วยอัตราการใช้ในปัจจุบัน เราจะมีปิโตรเลียมสำรองให้ใช้ได้ถึง 60-90 ปี และในขณะที่ปริมาณปิโตรเลียมทั้งหมดไม่ได้เพิ่มขึ้น มนุษย์ก็มีความสามารถที่จะค้นหาจากแหล่งใหม่ๆ ตลอดเวลา
ในปัจจุบันเราสามารถผลิตก๊าซธรรมชาติจากชั้นถ่านหินที่ทับถมกันได้ เราสามารถผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากสสารที่ทับถมกันที่อยู่ใต้ผิวโลกลึกลงไปหลายไมล์ รวมทั้งในทะเลลึก ที่อยู่ห่างจากฝั่งเป็นระยะ 100 ไมล์ และในน้ำลึกกว่า 1,000 ฟุตได้ นอกจากนั้น ยังหาวิธีการสกัดน้ำมันจากน้ำมันดิน (Tar) และออยเชลล์ (Oil shale) ที่จะสามารถผลิตน้ำมันได้เป็นเวลานับร้อยปีอีกด้วย
นอกจากนี้ อุตสาหกรรมปิโตรเลียมยังทำให้เกิดการลงทุนในพลังงานทางเลือก เช่น ลม แสงอาทิตย์ พลังงานความร้อนใต้พิภพ และชีวมวล เพื่อเพิ่มศักยภาพของทรัพยากรด้านพลังงานให้เป็นรูปธรรม และจับต้องได้เพื่อให้ตอบสนองความต้องการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้น
ถึงแม้ว่าเราจะไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีปิโตรเลียมหรือพลังงานใช้ในอนาคต แต่ก็ไม่ใช่เหตุผลที่เราจะสามารถใช้พลังงานกันอย่างฟุ่มเฟือย สิ่งที่ควรทำคือการใช้อย่างรู้คุณค่าต่างหากค่ะ
---------
กระทู้เริ่มยาว ติดตามต่อตอนหน้าค่ะ
http://pantip.com/topic/35079006
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 7
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
ยังไม่มีความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google