หญิงแย้ เล่าจุดแตกหัก สิ้นสุดสัมพันธ์รักแยกทางสามี

พอมีหลายคนจับตามองความสัมพันธ์ของ "แย้ - นนทพร ธีระวัฒนสุข" หรือ "หญิงแย้" และสามี "สอง - นพ.นพรัตน์ รัตนวราห" ว่ากำลังมีรอยร้าวหรือไม่ ล่าสุดฝ่ายสาวก็ออกมาเผยว่าทั้งคู่เลิกรากันแล้ว พร้อมให้เหตุผลที่ทำให้ต้องแยกทางกันว่า "สาเหตุที่เลิกกันก็คือเป็นเรื่องของทัศนคติ แล้วก็ไลฟ์สไตล์ที่ไม่ตรงกันค่ะ 9 ปีที่ผ่านมาแย้เรียนรู้กับเขามาตลอด แต่แย้ยอมรับว่าแย้ค่อนข้างจะปรับ ค่อนข้างจะเปลี่ยนตัวเองค่อนข้างเยอะตั้งแต่เริ่มต้น เนื่องจากว่าแย้รักเขามาก ตั้งแต่แรกๆ ตั้งแต่เป็นแฟนกันใหม่ๆ แย้ก็รักเขามาก แล้วแย้ก็ยังเด็ก ทำให้แย้เชื่อฟังเขาทุกอย่าง เคารพเขาทุกอย่าง สิ่งที่เขาสั่ง สิ่งที่เขาสอนทุกอย่าง แย้ทำตามหมด จริงๆ แย้ไม่ได้เป็นคนที่จะเชื่อฟังใครขนาดนั้น แย้ยอมรับว่าตอนเด็กๆ สมัยที่แย้มีปั๊บปี้เลิฟ แย้ก็จะเป็นฝ่ายที่แบบเหมือนเป็นผู้นำ คอยสั่งแฟนให้ทำนู่นทำนี่ อันนี้ก็ยอมรับว่าแย้ก็เปลี่ยนตัวเองมาก เปลี่ยนจากคนที่ลุกขึ้นมาชี้นิ้วสั่ง ก็กลายเป็นคนที่นอบน้อมแล้วก็เชื่อฟังเขาทุกอย่าง แน่นอนว่าด้วยวุฒิภาวะ ด้วยอายุอะไรต่างๆ เราก็ต้องเคารพและเชื่อฟังเขาค่ะ แต่สุดท้ายมันเหมือนกับเราก็ต้องถอยออกมา เพราะว่านอกเหนือจากสิ่งที่แย้สะสมมานานตรงนี้ มันก็มีจุดแตกหักด้วย ที่ทำให้แย้เลิกกับเขา" สาวคนนี้ยอมรับว่าเป็นคนใจร้อนจริง พร้อมพูดถึงเหตุการณ์ที่ถือเป็นจุดแตกหักของทั้งสองคนว่า "แย้ยอมรับว่าแย้ใจร้อน แย้ใจร้อนจริง เพราะว่ามันเหมือนกับเป็นปัญหาที่สะสมมานาน แล้วก็ขอย้อนกลับไปที่จุดแตกหัก คือปกติแย้กลับบ้าน 4 ทุ่มครึ่ง แล้ววันนั้นแย้ก็ไปทานข้าวกับเพื่อนที่ร้านหนึ่งแถวทองหล่อนะคะ แล้วเพื่อนๆ ก็ อ่ะ จะไปเที่ยวต่อไหม แย้ก็รู้สึกอยากไปต่อ เพราะว่าก็ไม่ได้เที่ยวมานานแล้วนะคะ ก็เลยโทรหาคุณหมอ เพื่อที่จะบอกคุณหมอว่าเดี๋ยวขอไปต่อนะ จะตามมาด้วยไหม อยากให้ตามมา แต่คุณหมอก็ไม่ได้รับสายเลยค่ะ ไม่ได้รับสายตั้งแต่ประมาณช่วง 2 ทุ่มครึ่ง 3 ทุ่ม ถึงประมาณเที่ยงคืน คุณหมอไม่รับสายเลย แล้วแย้ก็พยายามติดต่อเขาตลอดก็ติดต่อไม่ได้ แย้ก็ให้เพื่อนพยายามช่วยกันโทร เพราะว่าเพื่อนๆ ก็อยากให้เราไปต่อ ก็โทร ก็โทรไม่ติดเลย แย้ก็เลยทิ้งไลน์ไว้ว่าถ้างั้นเดี๋ยวแย้จะไปเที่ยวนะ ยังไงตัวเองตามมานะ เพราะว่าปกติแล้วคุณหมอก็จะตามมาอยู่แล้ว ก็เลยไป ไปเสร็จปุ๊บ คุณหมอติดต่อกลับมาตอนเที่ยงคืน แย้ก็รับสาย เขาก็ถามว่าอยู่ที่ไหน แย้บอกอยู่ที่นี่ค่ะ กำลังเที่ยวอยู่ แล้วเขาก็ว่าแย้ว่าทำไมไม่กลับบ้าน แต่งงานแล้วทำไมยังเที่ยวอยู่ ทำไมถึงสำมะเลเทเมา จะไม่ปาร์ตี้สักวันได้ไหมหรืออะไรพวกนี้ค่ะ ก็เป็นสิ่งที่คุณหมอพูดมา"

แย้ เล่าต่อว่า "พอแย้กลับถึงบ้านปุ๊บก็เหมือนเดิม เขาก็ว่าเราเหมือนเดิม ก็เป็นอะไรที่อึดอัดมาก แย้ก็นึกไปถึงว่าสิ่งที่แย้สะสมมานาน ทั้งเรื่องการเปลี่ยนตัวเองนู่นนี่ แย้ก็เลยรู้สึกมันไม่ไหวแล้ว ณ จุดนั้น แย้ก็เลยถอดแหวนแต่งงานแล้วก็วางไว้ที่หน้าเขา แล้วแย้ก็ไปเก็บของบางส่วนสำคัญที่แย้เก็บออกมาได้ คุณหมอมองหน้าอย่างเดียวไม่ได้พูดอะไรค่ะ แล้วก็ไม่ได้ห้ามไม่ได้อะไร เพราะว่าคุณหมอก็อาจจะคิดว่าเดี๋ยวเราก็กลับมา เพราะว่าแย้ก็เป็นคนที่ค่อนข้างจะยอม แล้วก็เชื่อฟังเขามาตลอดนะคะ หลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันเลย ตั้งแต่คืนวันที่ 16 เมษาฯ และวันที่ 20 เมษาฯ คือวันเกิดแย้ เป็นวันเกิดที่เศร้ามาก คือเราก็คิดว่าต้องมีเซอร์ไพร์สป่ะว่าแบบเราหายไปจากบ้าน เราหายไปจากหมอมาตั้ง 4 วัน บล็อกไลน์แย้ก็ไม่ได้บล็อก โทรศัพท์แย้ก็ไม่ได้บล็อก คือพร้อมที่จะให้เขาติดต่อ อยากให้เขาง้อบ้าง ก็คือ 4 วันน่ะ ถามว่า 4 วันนั้นแย้เครียดมาก แย้แบบทำไมเขาไม่เป็นห่วงเราเลยเหรอ เสียใจอ่ะ เขาควรจะต้องเป็นห่วง แล้วเขาก็รู้ด้วยว่าเราไปอยู่ที่ไหน เพราะว่าแย้มีออฟฟิศ ซึ่งเป็นออฟฟิศประจำ แต่ก็ไม่มีการติดต่อไม่มีอะไรเลย แล้ววันที่ 20 เมษาฯ แน่นอนผู้หญิงคนหนึ่งเพิ่งแต่งงาน มันก็มีความหวังว่าเขาจะมา แต่สุดท้ายมันก็เหมือนเซอร์ไพร์สตัวเองก็คือไม่มีอะไรเลย"

สาวคนดังแง้มเรื่องราวต่อจากนั้นว่า "หลังจากวันที่ 20 เมษาฯ แย้ตัดสินใจตัวแย้เองว่าแย้คงต้องออกจากชีวิตผู้ชายคนนี้แล้วแหละ เพราะว่าชีวิตคู่น่าจะเป็นห่วงกันมากกว่านี้ไง แย้ก็คุยกับเพื่อน เพื่อนก็บอกทำไมไม่มีตามไม่มีอะไรเลย มันแปลก แย้ก็เลยคิดว่าเราออกดีกว่านะคะ แล้วแย้ก็ตัดสินใจเริ่มต้นใหม่แล้ว ตั้งปณิธานแล้วว่าเราจะไม่กลับไป จนวันที่ 26 หรือ 27 เมษาฯ แย้ไม่แน่ใจวันนะคะ ตอนนั้นคุณพ่อคุณแม่แย้ยังไม่ทราบ แล้วคุณพ่อคุณแม่แย้กลับมาจากต่างประเทศพอดี แย้ไม่อยากจะคุยทางโทรศัพท์ค่ะ แย้ก็เลยมาเจอตัว นัดกินข้าว แล้วก็คุยว่าแย้เลิกกับคุณหมอแล้วนะ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่แย้ก็ไม่ขัดอะไร เพราะเราก็อธิบายเหตุผลต่างๆ ให้เขาฟัง เขาก็โอเคเข้าใจ แล้วแย้ก็ดีลีตหมอออกจากกลุ่มครอบครัวของแย้ พอดีลีตปุ๊บ ไม่นานค่ะ เขาก็ได้ไลน์หาคุณพ่อคุณแม่ว่าอยากจะให้มาทำความเข้าใจกันนู่นนี่ แล้วเขาก็บอกคุณพ่อคุณแม่ว่าถ้าจะจบก็คือจะจบกันด้วยดี จะไม่มีการมาดิสเครดิตหรืออะไรกัน แน่นอนว่าแย้ก็อยากจบกันด้วยดีอยู่แล้ว ทุกคนนะคะ ไม่มีใครอยากสร้างศัตรูให้เกิดขึ้นค่ะ แล้วสักพักหนึ่งเขาก็โทรหาแย้ มาง้อ บอกว่าทำไมต้องเลิกกัน มาขอคืนดี แต่แย้เหมือนกับมันกลับไปไม่ได้แล้ว แย้คิดว่าแย้ตัดสินใจถูกแล้วที่แย้ถอยออกมา แย้ก็เลยปฏิเสธไปว่าจะไม่คืนดีค่ะ แล้วก็จบแค่ตรงนั้น"

ในส่วนของเรื่องสินสอด แย้ ชี้แจงว่า "เรื่องสินสอดตอนนี้ก็เป็นประเด็นสังคมอีกว่าแย้หน้าเงิน พอได้สินสอดปุ๊บแย้ก็ออกมาเลย แต่งงานได้แค่ 3 เดือน แย้พูดตรงๆ นะคะ คนคบกันมา 8-9 ปีเนี่ยมันคงไม่สามารถจะเฟกกันได้ขนาดนั้น ส่วนเรื่องสินสอดที่มีข่าวออกไปว่า 100 กว่าล้าน แย้ขอแบ่งเป็น 2 อย่าง ตัว 100 ล้านเนี่ยก็คือโรงพยาบาลและเรือนหอนะคะ ตรงนี้เป็นทรัพย์สินของคุณหมอแต่เพียงผู้เดียว เป็นชื่อคุณหมอนพรัตน์ แล้วก็ไม่ใช่สินสมรสด้วยค่ะ ก็คือของคุณหมอ ส่วนพวกรถยนต์ต่างๆ ที่คุณหมอมี รถหรู ก็คือของคุณหมอทั้งหมด ไม่มีชื่อแย้ค่ะ แล้วก็มาที่สินสอด 30 ล้าน ตรงนี้แย้ต้องขอประทานอภัยสื่อมวลชนแล้วก็สังคม แล้วก็ทุกคนมากๆ เลยนะคะ เพราะว่าตอนที่มีพิธีหมั้น แย้ได้ให้สัมภาษณ์ไปพร้อมกับคุณหมอในเรื่องของสินสอดว่าทั้งหมดมูลค่า 30 ล้าน แต่จริงๆ แล้วแย้ไม่ได้อะไรนอกจากแหวนเพชรซึ่งคืนไปแล้ว ต่างหูเพชรซึ่งยังอยู่ที่บ้านคุณหมอ แล้วก็กำไลเพชรที่ยังอยู่กับตัวแย้อยู่"

ด้าน หมอสอง ออกมาพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัวว่า รู้สึกตกใจที่มีข่าวของทั้งคู่กระจายไปทั่วโลกออนไลน์ ขออภัยที่ทำให้ทุกคนผิดหวัง และขอโทษสื่อมวลชนที่ไม่สามารถให้สัมภาษณ์ได้ เนื่องจากติดผ่าตัดและไม่พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์ เมื่อได้อ่านข่าวย้อนหลังพบว่าแหล่งข่าวน่าจะมีความคลาดเคลื่อนพอสมควร รู้สึกตกใจมาก โดยเฉพาะประเด็นที่มีการบีบบังคับ ซึ่งความจริงแล้วชีวิตทั้งก่อนและหลังแต่งงาน ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มีเพียงขอให้ แย้ อย่ากลับบ้านดึก ลดการสังสรรค์ลงบ้าง อย่าโพสต์รูปที่ดูวาบหวิวเกินไป ทั้งหมดก็เพื่อภาพลักษณ์ที่ดีและสุขภาพของตัว แย้ ภูมิใจที่อีกฝ่ายทำงานนอกบ้าน และถึงแม้ แย้ จะไม่ค่อยได้ปฏิบัติตามที่ขอเท่าไร แต่ก็ไม่มีใครว่าอะไร ค่อนข้างให้ความรัก ให้เกียรติ และตามใจ แย้ มาก รู้สึกเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ทำได้เพียงได้คุยโทรศัพท์สั้นๆ และไลน์บ้างเล็กน้อย ก่อนที่จะติดต่อไม่ได้อีกเลย อยากให้ใจเย็นๆ และตั้งสติ ทุกปัญหามีทางแก้