คอนโดแพง วัดจากอะไร
11 พ.ค. 59 13:56 น. /
ดู 286 ครั้ง /
0 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
คนทั่วไปมักคิดกันว่ามูลค่าคอนโด แถบใจกลางเมือง หรือห้องชุดในเขตศูนย์กลางเศรษฐกิจ (Central Business District: CBD) น่าจะถูกกำหนดจากปัจจัยต่างๆ มากมาย อาทิ พื้นที่ห้องชุด, สถานีรถไฟฟ้าที่อยู่ใกล้, แหล่งจับจ่ายใช้สอย, อาคารสำคัญใกล้เคียง, อายุและความสูงของตัวคอนโด, จำนวนห้องนอน, ที่จอดรถ และอื่นๆ อีกจิปาถะมากมาย ดังนั้นหากคิดที่จะประเมินหามูลค่าที่ควรจะเป็นของคอนโดเหล่านี้ออกมา จึงเป็นเรื่องที่ยากที่ใครจะทำได้
แต่จะเชื่อกันหรือไม่ว่าในทางวิชาการแล้ว การประเมินราคาคอนโด ใจกลางเมืองกลับทำได้ไม่ยาก เพียงแค่อาศัยเทคนิคการวิเคราะห์ทางสถิติมาช่วยตรวจจับหาอิทธิพลของปัจจัยหรือตัวแปรที่ส่งผลกระทบต่อมูลค่าคอนโด เหล่านี้ ซึ่งจากการศึกษาพบว่า ในโลกแห่งความเป็นจริงแล้วจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลักๆ เพียงไม่กี่ตัวเท่านั้น
ทั้งนี้อ้างอิงจากการวิจัยครั้งล่าสุด โดยทิวา บรรเทากุล นักศึกษาปริญญาโท มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ทำการสำรวจและเก็บข้อมูลคอนโด ใจกลางเมืองตามถนนสายหลัก 7 สาย คือถนนพระราม 4, ถนนนราธิวาสราชนครินทร์, ถนนสี่พระยา, ถนนสุรวงศ์, ถนนสีลม, ถนนสาทรเหนือและถนนสาทรใต้ แล้วนำมาวิเคราะห์ทางสถิติ เพื่อสร้างแบบจำลองทางสถิติที่เหมาะสมสำหรับใช้ในการประเมินราคาห้องชุดในเขตศูนย์กลางธุรกิจต่อไป
บทสรุปของการศึกษาในครั้งนั้นน่าสนใจมาก ตรงที่พบว่าตัวแปรแท้จริงที่เข้ามามีอิทธิพลต่อมูลค่าหรือราคาห้องชุดในเขต CBD หรือพูดง่ายๆ ก็คือปัจจัยที่คนซื้อส่วนใหญ่ใช้พิจารณาตีค่าซื้อคอนโด กันจำกัดอยู่เพียงแค่ปัจจัย 5 ด้านเท่านั้น ดังต่อไปนี้
1.พื้นที่ห้องชุด ถือเป็นปัจจัยกำหนดมูลค่าที่สำคัญที่สุด ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะเป็นหน่วยที่ถูกใช้ในการคำนวณราคาซื้อขายกัน ห้องชุดไหนยิ่งมีพื้นที่มากเท่าไหร่ ราคาก็จะยิ่งเพิ่มสูงมากเพียงนั้น
2.ระยะห่างจากสถานีรถไฟฟ้า BTS หรือ MRT เป็นอีกตัวแปรหนึ่งที่มีอิทธิพลต่อมูลค่าสูงมาก เนื่องจากปัจจุบันการเดินทางด้วยรถไฟฟ้ากลายมาเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับการอยู่อาศัยในเมืองไปแล้ว เพราะช่วยให้เกิดความสะดวกสบาย และประหยัดเวลาในการที่จะเดินทางไปไหนมาไหน โดยเฉพาะในช่วงที่การจราจรมีสภาพติดขัดหนาแน่นตลอดวัน
และอีกเหตุผลหนึ่งสืบเนื่องมาจากที่ดินบริเวณรอบๆ สถานีรถไฟฟ้าถือว่าเป็นทำเลที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง และยังมีศักยภาพที่สามารถเจริญเติบโตสูงได้อย่างต่อเนื่องในอนาคตด้วย
3.อายุอาคาร ด้วยเหตุที่คอนโดมีสภาพเป็นสิ่งปลูกสร้าง มีที่ดินเพียงไม่มากนัก ยังผลให้อายุของอาคารเข้ามาเป็นปัจจัยที่มีความสัมพันธ์โดยตรงกับความเก่าและความเสื่อมโทรมของตัวอาคาร รวมถึงระบบต่างๆ ภายในอาคารด้วย
ซึ่งอายุอาคารนี้สามารถตรวจเช็คได้ไม่ยาก โดยดูจากปีที่มีการจดทะเบียนอาคารชุด คอนโด ใดยิ่งมีอายุมากก็มีความโน้มเอียงที่จะเสื่อมค่าสูงกว่า โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับอาคารสร้างใหม่ในบริเวณใกล้เคียงกัน
4.ระยะห่างจากถนนสายหลัก ถนนสายหลักคือเส้นทางเข้าออกเพื่อเดินทางไปไหนมาไหน เป็นเส้นทางที่รถไฟฟ้า รถเมล์ แท็กซี่และรถตุ๊กๆ วิ่งผ่าน และยังเป็นที่ตั้งของแหล่งจับจ่ายใช้สอยต่างๆ จึงเป็นผลให้คอนโดใดยิ่งอยู่ใกล้ ก็จะช่วยให้มีความสะดวกสบายเพิ่มมากขึ้นได้ นอกจากนั้นถนนหลักยังถือเป็นจุดกำเนิดความเจริญต่างๆ ที่จะเข้ามายังพื้นที่ ยิ่งใกล้มากเพียงใดความเจริญก็จะมีโอกาสเกิดขึ้นได้มากกว่า
5.ชั้นที่มีการซื้อขาย ปัจจัยตัวนี้จะเกี่ยวข้องกับวิวทิวทัศน์และความเป็นส่วนตัว ทั้งนี้ห้องชุดที่อยู่ชั้นสูงๆ มักได้เปรียบกว่าตรงที่สามารถมองเห็นทัศนีย์ภาพภายนอกได้ดีกว่า แถมยังมีความเป็นส่วนตัวและอากาศดีมากกว่าห้องชุดในระดับล่าง
ที่มา www.home.co.th
ทั้งนี้อ้างอิงจากการวิจัยครั้งล่าสุด โดยทิวา บรรเทากุล นักศึกษาปริญญาโท มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ทำการสำรวจและเก็บข้อมูลคอนโด ใจกลางเมืองตามถนนสายหลัก 7 สาย คือถนนพระราม 4, ถนนนราธิวาสราชนครินทร์, ถนนสี่พระยา, ถนนสุรวงศ์, ถนนสีลม, ถนนสาทรเหนือและถนนสาทรใต้ แล้วนำมาวิเคราะห์ทางสถิติ เพื่อสร้างแบบจำลองทางสถิติที่เหมาะสมสำหรับใช้ในการประเมินราคาห้องชุดในเขตศูนย์กลางธุรกิจต่อไป
บทสรุปของการศึกษาในครั้งนั้นน่าสนใจมาก ตรงที่พบว่าตัวแปรแท้จริงที่เข้ามามีอิทธิพลต่อมูลค่าหรือราคาห้องชุดในเขต CBD หรือพูดง่ายๆ ก็คือปัจจัยที่คนซื้อส่วนใหญ่ใช้พิจารณาตีค่าซื้อคอนโด กันจำกัดอยู่เพียงแค่ปัจจัย 5 ด้านเท่านั้น ดังต่อไปนี้
1.พื้นที่ห้องชุด ถือเป็นปัจจัยกำหนดมูลค่าที่สำคัญที่สุด ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะเป็นหน่วยที่ถูกใช้ในการคำนวณราคาซื้อขายกัน ห้องชุดไหนยิ่งมีพื้นที่มากเท่าไหร่ ราคาก็จะยิ่งเพิ่มสูงมากเพียงนั้น
2.ระยะห่างจากสถานีรถไฟฟ้า BTS หรือ MRT เป็นอีกตัวแปรหนึ่งที่มีอิทธิพลต่อมูลค่าสูงมาก เนื่องจากปัจจุบันการเดินทางด้วยรถไฟฟ้ากลายมาเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับการอยู่อาศัยในเมืองไปแล้ว เพราะช่วยให้เกิดความสะดวกสบาย และประหยัดเวลาในการที่จะเดินทางไปไหนมาไหน โดยเฉพาะในช่วงที่การจราจรมีสภาพติดขัดหนาแน่นตลอดวัน
และอีกเหตุผลหนึ่งสืบเนื่องมาจากที่ดินบริเวณรอบๆ สถานีรถไฟฟ้าถือว่าเป็นทำเลที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง และยังมีศักยภาพที่สามารถเจริญเติบโตสูงได้อย่างต่อเนื่องในอนาคตด้วย
3.อายุอาคาร ด้วยเหตุที่คอนโดมีสภาพเป็นสิ่งปลูกสร้าง มีที่ดินเพียงไม่มากนัก ยังผลให้อายุของอาคารเข้ามาเป็นปัจจัยที่มีความสัมพันธ์โดยตรงกับความเก่าและความเสื่อมโทรมของตัวอาคาร รวมถึงระบบต่างๆ ภายในอาคารด้วย
ซึ่งอายุอาคารนี้สามารถตรวจเช็คได้ไม่ยาก โดยดูจากปีที่มีการจดทะเบียนอาคารชุด คอนโด ใดยิ่งมีอายุมากก็มีความโน้มเอียงที่จะเสื่อมค่าสูงกว่า โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับอาคารสร้างใหม่ในบริเวณใกล้เคียงกัน
4.ระยะห่างจากถนนสายหลัก ถนนสายหลักคือเส้นทางเข้าออกเพื่อเดินทางไปไหนมาไหน เป็นเส้นทางที่รถไฟฟ้า รถเมล์ แท็กซี่และรถตุ๊กๆ วิ่งผ่าน และยังเป็นที่ตั้งของแหล่งจับจ่ายใช้สอยต่างๆ จึงเป็นผลให้คอนโดใดยิ่งอยู่ใกล้ ก็จะช่วยให้มีความสะดวกสบายเพิ่มมากขึ้นได้ นอกจากนั้นถนนหลักยังถือเป็นจุดกำเนิดความเจริญต่างๆ ที่จะเข้ามายังพื้นที่ ยิ่งใกล้มากเพียงใดความเจริญก็จะมีโอกาสเกิดขึ้นได้มากกว่า
5.ชั้นที่มีการซื้อขาย ปัจจัยตัวนี้จะเกี่ยวข้องกับวิวทิวทัศน์และความเป็นส่วนตัว ทั้งนี้ห้องชุดที่อยู่ชั้นสูงๆ มักได้เปรียบกว่าตรงที่สามารถมองเห็นทัศนีย์ภาพภายนอกได้ดีกว่า แถมยังมีความเป็นส่วนตัวและอากาศดีมากกว่าห้องชุดในระดับล่าง
ที่มา www.home.co.th
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 7
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
ยังไม่มีความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google