การจ้องหน้าจอนานๆ ระวังคอมพิวเตอร์จะเป็น แดร็กคูล่า "ดูด" เลือดคุณ
31 พ.ค. 59 17:53 น. /
ดู 464 ครั้ง /
0 ความเห็น /
1 ชอบจัง
/
แชร์
สวัสดีครับทุกคน หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่มีพฤติกรรมเสพติดคอมพิวเตอร์วันนี้เว็บท่า16Laoนำคำเตือนจากแพทย์จีนเกี่ยวกับผลเสียของการจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆมาฝากกันครับ ทั้งนี้จ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆระวังคอมพิวเตอร์จะกลายเป็นแดร็กคูล่า "ดูด" เลือดและทำลายสุขภาพคุณทีละน้อยอย่างไม่รู้ตัวนะครับ เพราะการใช้สายตาจ้องคอมพิวเตอร์ติดต่อกันนานจะทำลายเลือดในตับครับผม
ปัจจุบันคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตกลายเป็นปัจจัยที่ 5 ที่ขาดเสียไม่ได้สำหรับหลายๆ คน ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ทำงานออฟฟิศ ผู้ที่ติดเกมส์หรือผู้ที่ชอบท่องในสังคมออนไลน์ไม่ว่าที่ไหนๆ เรามักจะเห็นคนที่นั่งจ้อง เดินจ้องสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตจนเพลิดเพลินโดยไม่สนใจคนรอบข้าง เรียกได้ว่าติดคอมพิวเตอร์หรือติดสมาร์ทโฟนมากกว่าติดแฟนเสียอีก และในหลายคนคงมีประสบการณ์กับการใช้สายตาหน้าคอมพิวเตอร์ หรือการอ่านหนังสือติดต่อกันนานเกินไปจะรู้สึกตาแห้ง ตามัว จริงๆ แล้ว ตาแห้งหรือตามัวเป็นเพียงหนึ่งในหลายๆ อาการที่แสดงว่าตาเราอ่อนล้าแล้วในทัศนะการแพทย์จีน การใช้สายตามากเกินไปจะทำลายเลือดในตับโดยตรง ทั้งนี้ เนื่องจากตาและตับเป็นอวัยวะที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันเป็นพิเศษโดยจะเกื้อหนุนและส่งผลกระทบโดยตรงซึ่งกันและกัน จึงมีสุภาษิตการแพทย์จีนว่า ตาเป็นหน้าต่างของตับ ส่วนหนึ่งในหน้าที่สำคัญของตับคือเก็บสะสมและรักษาความสมดุลของเลือดภายในร่างกาย ความสมบรูณ์ของเลือดในตับนอกจากจะทำให้ร่างกายของคนเราแข็งแรง สมบรูณ์ มีชีวิตชีวาแล้ว ยังมีผลโดยตรงที่จะทำให้ตาเรามองเห็นชัดเจน แยกสีได้อย่างแม่นยำ แต่ถ้าตับไม่แข็งแรงก็จะแสดงอาการที่ตา เช่น เลือดในตับพร่องลงจะส่งผลทำให้เกิดอาการตาแห้ง ตามัว มองไม่ชัด ตาบอดกลางคืน สายตาเสื่อม กรณีที่ตับร้อนเกินไป จะส่งผลทำให้เกิดอาการตาบวมแดง ปวดตา เป็นแผลที่ตาดำ ส่วนกรณีตับร้อน-ชื้นเกินไป จะทำให้เกิดอาการตาเหลือง กรณีเกิดลมในตับ จะทำให้เกิดอาการตาเข ตาเหลือกขึ้นบนครับผม และในทางกลับกัน การใช้สายตามากเกินไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งการจ้องคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต ติดต่อกันเป็นเวลานานย่อมจะส่งผลกระทบต่อตับ ทำให้เลือดในตับพร่องลง ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพทั่วทั้งร่างกาย เช่น อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย หน้าตาซีดเซียว ไม่มีเลือดฝาด นอนไม่หลับ ฝันบ่อย หาวนอนบ่อย เวียนศีรษะ หน้ามืด ปวดต้นคอ แขนขาชา แขนขายืดหดไม่สะดวก ประจำเดือนมาไม่ปกติ เป็นฝ้าบนหน้า ผิวหนังเหี่ยวย่น หยาบกร้าน ภูมิคุ้มกันต่ำ เป็นหวัดง่าย ผมแห้งหลุดร่วงง่าย เป็นต้นครับ
จากการศึกษาของการแพทย์ปัจจุบันพบว่า ผู้ที่ทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ที่มีการแผ่รังสีจะเสี่ยงต่อภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำ ทำให้อ่อนเพลีย มึนศีรษะ ตาแห้ง ภูมิคุ้มกันต่ำ เป็นหวัดง่าย คอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตทั้งหลายจึงกลายเป็นแดร็กคูล่า "ดูด" เลือดคุณทีละน้อยอย่างไม่รู้ตัว ทั้งนี้เมื่อมีการบำรุงเลือดเป็นประจำ อาการทั้งหลายที่เกิดจากการใช้คอมพิวเตอร์ก็จะค่อยๆ ทุเลาลงและอาจหายไปในที่สุด แต่ถึงยังไงแล้วการใช้งานสายตาแบบพอเหมาะและไม่หักโหมจนเกินไปถึงจะเป็นวิธีป้องกันอาการเหล่านี้ด้วยตนเองที่ดีที่สุดนะครับ ด้วยความปรารถนาดีจากเว็บท่า16lao http://co.th.16lao.com/ สุดท้ายขอขอบคุณที่มาของข้อมูลดีๆจากHealth Focus Enwei Health Balance มา ณ ที่นี้ด้วยครับผม
ปัจจุบันคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตกลายเป็นปัจจัยที่ 5 ที่ขาดเสียไม่ได้สำหรับหลายๆ คน ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ทำงานออฟฟิศ ผู้ที่ติดเกมส์หรือผู้ที่ชอบท่องในสังคมออนไลน์ไม่ว่าที่ไหนๆ เรามักจะเห็นคนที่นั่งจ้อง เดินจ้องสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตจนเพลิดเพลินโดยไม่สนใจคนรอบข้าง เรียกได้ว่าติดคอมพิวเตอร์หรือติดสมาร์ทโฟนมากกว่าติดแฟนเสียอีก และในหลายคนคงมีประสบการณ์กับการใช้สายตาหน้าคอมพิวเตอร์ หรือการอ่านหนังสือติดต่อกันนานเกินไปจะรู้สึกตาแห้ง ตามัว จริงๆ แล้ว ตาแห้งหรือตามัวเป็นเพียงหนึ่งในหลายๆ อาการที่แสดงว่าตาเราอ่อนล้าแล้วในทัศนะการแพทย์จีน การใช้สายตามากเกินไปจะทำลายเลือดในตับโดยตรง ทั้งนี้ เนื่องจากตาและตับเป็นอวัยวะที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันเป็นพิเศษโดยจะเกื้อหนุนและส่งผลกระทบโดยตรงซึ่งกันและกัน จึงมีสุภาษิตการแพทย์จีนว่า ตาเป็นหน้าต่างของตับ ส่วนหนึ่งในหน้าที่สำคัญของตับคือเก็บสะสมและรักษาความสมดุลของเลือดภายในร่างกาย ความสมบรูณ์ของเลือดในตับนอกจากจะทำให้ร่างกายของคนเราแข็งแรง สมบรูณ์ มีชีวิตชีวาแล้ว ยังมีผลโดยตรงที่จะทำให้ตาเรามองเห็นชัดเจน แยกสีได้อย่างแม่นยำ แต่ถ้าตับไม่แข็งแรงก็จะแสดงอาการที่ตา เช่น เลือดในตับพร่องลงจะส่งผลทำให้เกิดอาการตาแห้ง ตามัว มองไม่ชัด ตาบอดกลางคืน สายตาเสื่อม กรณีที่ตับร้อนเกินไป จะส่งผลทำให้เกิดอาการตาบวมแดง ปวดตา เป็นแผลที่ตาดำ ส่วนกรณีตับร้อน-ชื้นเกินไป จะทำให้เกิดอาการตาเหลือง กรณีเกิดลมในตับ จะทำให้เกิดอาการตาเข ตาเหลือกขึ้นบนครับผม และในทางกลับกัน การใช้สายตามากเกินไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งการจ้องคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต ติดต่อกันเป็นเวลานานย่อมจะส่งผลกระทบต่อตับ ทำให้เลือดในตับพร่องลง ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพทั่วทั้งร่างกาย เช่น อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย หน้าตาซีดเซียว ไม่มีเลือดฝาด นอนไม่หลับ ฝันบ่อย หาวนอนบ่อย เวียนศีรษะ หน้ามืด ปวดต้นคอ แขนขาชา แขนขายืดหดไม่สะดวก ประจำเดือนมาไม่ปกติ เป็นฝ้าบนหน้า ผิวหนังเหี่ยวย่น หยาบกร้าน ภูมิคุ้มกันต่ำ เป็นหวัดง่าย ผมแห้งหลุดร่วงง่าย เป็นต้นครับ
จากการศึกษาของการแพทย์ปัจจุบันพบว่า ผู้ที่ทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ที่มีการแผ่รังสีจะเสี่ยงต่อภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำ ทำให้อ่อนเพลีย มึนศีรษะ ตาแห้ง ภูมิคุ้มกันต่ำ เป็นหวัดง่าย คอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตทั้งหลายจึงกลายเป็นแดร็กคูล่า "ดูด" เลือดคุณทีละน้อยอย่างไม่รู้ตัว ทั้งนี้เมื่อมีการบำรุงเลือดเป็นประจำ อาการทั้งหลายที่เกิดจากการใช้คอมพิวเตอร์ก็จะค่อยๆ ทุเลาลงและอาจหายไปในที่สุด แต่ถึงยังไงแล้วการใช้งานสายตาแบบพอเหมาะและไม่หักโหมจนเกินไปถึงจะเป็นวิธีป้องกันอาการเหล่านี้ด้วยตนเองที่ดีที่สุดนะครับ ด้วยความปรารถนาดีจากเว็บท่า16lao http://co.th.16lao.com/ สุดท้ายขอขอบคุณที่มาของข้อมูลดีๆจากHealth Focus Enwei Health Balance มา ณ ที่นี้ด้วยครับผม
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 10
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
ยังไม่มีความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google