ฮารัมบี กอริลล่าตัวผู้ถูกยิงตายเพื่อช่วยชีวิตเด็ก 4 ขวบที่ตกลงไปในบ่อกอริลล่า

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่นของรัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา มีเด็กวัย 4 ขวบตกลงไปในบ่อจัดแสดงกอริลล่าในสวนสัตว์ซินซินแนติ และถูกกอริลล่าตัวผู้ชื่อ ฮารัมบี ลากถูไปมา ทำให้เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจในสวนสัตว์ต้องตัดสินใจยิงกอริลล่าหนัก 420 ปอนด์ ตายก่อนที่จะทำอันตรายต่อเด็กจนถึงชีวิต

การตัดสินใจยิงกอริลล่าที่ใกล้สูญพันธุ์ตัวนี้ทำให้ทางสวนวัตว์ถูกวิพากษ์วิจารณ์มากมาย เช่น ทำไมถึงไม่ยิงปืนยาสลบ มันน่าจะมีวิธีอื่นที่จัดการกับกอริลล่านอกจากยิงทิ้งหรือเปล่า ระบบความปลอดภัยของสวนสัตว์เป็นยังไง ทำไมเด็กถึงตกลงไปได้ ซึ่งทางสวนสัตว์ก็ออกมาแถลงการณ์แล้วว่า ตอนที่เด็กตกลงไป (10 ฟุตจากจุดที่ผู้เที่ยวสวนสัตว์ยืนดูกอริลล่า) กอริลล่าตัวเมีย 2 ตัวก็ถูกเก็บเข้ากรงทันที แต่กอริลล่าตัวผู้กลับวิ่งไปหาเด็กไปก่อนโดนเก็บเข้ากรง และสิ่งที่น่ากลัวคือกอริลล่าตัวนี้มีแรงมหาศาล ถ้าช้าไปนิดเดียวเด็กก็อาจเสียชีวิตได้ ซึ่งเมื่อดูจากวิธีที่กอริลล่าลากเด็กไปมาเหมือนถือผ้าขี้ริ้วแล้ว ไม่ช้าก็เร็วจุดสำคัญของเด็กอย่างศีรษะก็อาจไปฟาดเอากับคอนกรีตจนถึงแก่ชีวิต และเมื่อนาสลบไม่ได้ออกฤทธิ์ทันที ทางสวนสัตว์จึงต้องตัดใจฆ่ากอริลล่า ส่วนเรื่องระบบความปลอดภัยของสวนสัตว์ ทางสวนสัตว์ก็กล่าวว่า ตลอด 143 ปีที่เปิดสวนสัตว์มายังไม่เคยเกิดอุบัติเหตุแบบนี้มาก่อน อุบัติเหตุเดียวที่เคยเกิดขึ้นมีแค่เจ้าหน้าที่สวนสัตว์คนหนึ่งต้องเสียแขนไปให้คมเขี้ยวของหมีขาว


นอกจากทางสวนสัตว์จะถูกชาวเน็ตจวกยับแล้ว ทางพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็ก (ปัจจุบันออกจากโรงพยาบาลแล้ว) ก็โดนหนักเช่นกัน เพราะกว่าเด็กจะตกลงไปในบ่อจัดแสดงได้แปลว่าเด็กต้องมุดรั้วกั้นและผ่านลวดที่ขึงกั้นคนดูกับสัตว์ไปได้ก่อน คนจึงพากันต่อว่าผู้ปกครองว่า ถ้าดูแลไม่ได้ก็ไม่ต้องพามานอกบ้าน โดยเฉพาะในสวนสัตว์ ที่เด็กต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งตอนนี้ทางตำรวจเมืองซินซินแนติก็กำลังทำการสอบสวนพ่อแม่เด็กว่าเพิกเฉยที่จะดูแลเด็กหรือเปล่า ส่วนเรื่องระบบป้องกันของทางสวนสัตว์ ทางตำรวจก็ไม่ได้ติดใจจะสอบสวนอะไรเพราะมองว่าเหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นเพราะสวนสัตว์