ลุ้น โบว์ และ มะลิ ชิมลางแสดงภาพยนตร์เรื่องแรก

มีข่าวแว่วมาว่าคุณแม่ยังสวย "โบว์ - แวนดา สหวงษ์" และลูกสาวสุดน่ารักขวัญใจคนไทย "มะลิ - พาขวัญ สหวงษ์" ทั้งคู่จะได้ฤกษ์ชิมลางแสดงภาพยนตร์เป็นครั้งแรกหรือไม่นั้น คุณแม่คนสวยออกมาเผยว่ายังอยู่ในระหว่างการเจรจาบท "พี่โบว์กับน้องมะลิจะเล่นหนัง มีการคุยกันบ้างค่ะ แต่ว่าตอนนี้ยังอยู่ในระหว่างการคุยถึงเรื่องบทกันอยู่ว่าได้ไหม เหมาะสมไหม แล้วก็รวมไปถึงตัวโบว์ด้วยว่าตัวโบว์เองมีความสามารถพอที่จะรับบทที่เขาวางให้ได้ไหม โบว์โอเคกับบทไหม อย่างที่บอกไปว่าบทมันเหมาะกับเราไหม ถ้ามันไม่เหมาะก็คงไม่ดีกว่า" ส่วนรายละเอียดอื่นๆ นั้น โบว์ บอกว่ายังไม่ทราบ "เป็นหนังค่ะ แต่ว่าเรื่องค่ายเรื่องอะไรยังไม่รู้รายละเอียด แต่ว่าเรื่องบทก็ยังมีการปรับกันอยู่ ยังบอกไม่ได้จริงๆ ว่ามันเป็นแนวไหน"

ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการเขียนบทขึ้นมาเพื่อ โบว์ กับ มะลิ โดยเฉพาะหรือไม่ คุณแม่ยังสาวอธิบายว่า "ไม่นะคะ แต่ว่าอาจจะมีส่วนที่แบบ มันคล้ายๆ กับความเป็นเรา คือเขาคงมองแล้วว่าบุคลิกโบว์อาจจะได้กับบทนี้" โบว์ ออกปากไม่คิดว่าบทบาทที่ได้รับจะเป็นนางเอก "คงไม่อยู่ในวัยที่เป็นนางเอกแล้วมั้ง (หัวเราะ)" ถามถึงโอกาสที่จะประเดิมเล่นภาพยนตร์เรื่องแรกนี้มีมากน้อยแค่ไหน ผู้หญิงหัวใจแกร่งแง้มว่า "เขาพยายามปรับบทอยู่ ปรับบทให้เข้ากับเรามากที่สุด เขาก็อยากให้ทุกอย่างมันออกมาดีที่สุดค่ะ เพราะว่าอย่างที่บอกไปว่าถ้าโบว์รับเล่นมันจะเป็นเรื่องแรกของโบว์ แล้วตัวเขาเองก็พยายามที่จะทำทุกอย่างให้มันดีที่สุด ให้พอออกมาแล้วให้ทุกคนประทับใจมากกว่า" ลูกสาววัย 3 ขวบ อย่าง มะลิ ก็ได้รับการติดต่อให้เล่นภาพยนตร์ด้วยเหมือนกัน ด้านคุณแม่พูดถึงเรื่องนี้ว่า "ลูกยังไม่แน่ค่ะ มะลิยังไม่แน่ ยังต้องดูบทอยู่เหมือนกัน จะให้มาทั้งเรื่องก็คงไม่ไหวอ่ะค่ะ อาจจะมาเป็นแบบรับเชิญ แวบๆ ในหนัง ก็น่าจะได้" ถามว่าตอนนี้บทติดขัดอยู่ตรงไหน โบว์ แจ้งว่า "โดยรวมๆ แล้ว อ่านรวมๆ แล้ว มันยังไม่ใช่ค่ะ มันบอกไม่ได้ว่าเพราะอะไร แต่ว่ามันยังไม่ใช่ ก็มีการปรึกษาคุยกัน คืออย่างที่บอกไปว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำ มันต้องเหมาะที่สุด เพราะว่าเรื่องแรกเราก็อยากให้น้องมะลิหรือว่าตัวโบว์เอง คนดูแล้วเกิดรอยยิ้ม เกิดความประทับใจ คือไม่อยากให้คนที่ตั้งใจมาดูเราแล้วมีความรู้สึกไม่โอเคกับมัน" คุณแม่ของ มะลิ กล่าวว่าหากรับแสดงภาพยนตร์ขึ้นมาจริงๆ คงต้องไปเรียนการแสดงแน่นอน "ถ้ารับเล่นจริงๆ ก็คงจะต้องมีไปเรียนแน่ๆ ค่ะ เพราะว่าโบว์ก็ไม่เคยทำงานด้านนี้มาก่อน"

ส่วนเหตุผลที่รับงานภาพยนตร์ก่อนเล่นละครนั้น เพราะใช้เวลาในการถ่ายทำน้อยกว่า หลังจากที่บทเสร็จเรียบร้อยแล้ว โบว์ คิดว่าจะถามถึงทีมงานที่เกี่ยวข้อง "พอบทได้ปุ๊บ คงจะเป็นเรื่องต่อไปที่โบว์จะต้องถามก็คือในเรื่องของผู้กำกับใครจะมา แล้วก็โปรดักชันต่างๆ จะมีใครบ้างอะไรบ้าง มันก็คือรายละเอียดที่หลังจากเราตกลงกับบทนั้นแล้ว" เจ้าตัวยอมรับว่าให้ความสำคัญในรายละเอียด "มากค่ะ มาก เพราะว่าผลงานของเราที่ออกมา อย่างที่บอกไป ก็อยากให้คนที่เขาเข้ามาดูเกิดความประทับใจ ถามว่ากลัวไหม มันก็กลัว มันมีหลายด้านนะ เราก็ไม่อยากให้คนที่รู้สึกกับเรา พอมาดูผลงานเราแล้วรู้สึกแบบไม่น่าเลย" ทั้งยอมรับว่าเครียดว่าตัวเองจะทำออกมาได้ดีไหม "เครียดนะ รับนี่ก็เครียดเหมือนกัน ไม่ได้เครียดกับทีมงาน เครียดกับตัวโบว์ด้วยว่าจะทำได้ไหม เห็นบทง่ายๆ บางทีพอไปลองตรงนั้นจริงๆ มันคงยาก"

#โบว์แวนดา #มะลิพาขวัญ