จีบหนุ่มแอฟริกาใต้ (บอกชอบก่อนไม่ได้นกเสมอไป)

กระทู้นี้เป็นการบอกเล่าประสบการณ์ส่วนตัวของ จขกท. เฉยๆ ซึ่งไปๆมาๆ อาจจะกลายเป็นไดอารี่ในอนาคต (มั้ง) มา เริ่ม!
จขกท. เป็นผู้หญิงที่แบบก็เออติ่งฝรั่งแหละ ชอบพูด ชอบคุย ชอบหาเพื่อนฝรั่งไรงี้ เดทกับฝรั่งก็บ่อย ตามประสาติ่งผู้มีใจรักฝรั่งทั่วไป ช่วงแรกๆก็จะเป็นแบบหาเพื่อนตามเว็บอย่าง Chatroulette ซึ่งหลายๆคนก็รู้ว่าส่วนใหญ่เน้นโชว์จ้า(แต่เราก็ได้เพื่อนดีๆมาจากเว็บนี้อยู่หลายคนนะ) แล้วก็ขยับมาเล่น Thaifriendly อันนี้คือแบบเป็นโปร์ไฟล์ให้เราเข้าไปดู ส่งข้อความหากันได้ ส่วนใหญ่เป็นฝรั่งที่อยู่ในไทย หรือมาไทยบ่อย และค่อนข้างมีอายุ ซึ่งส่วนมากถ้าไม่มีเมียอยู่แล้ว ก็จะหาแบบเอาไปเยเล่นๆ (เย คือ ...บนเตียง) หนักสุดคือไปไกลถึงแอพมือถือ Tinder อันนี้ก็ง่ายๆดี ปัดซ้ายปัดขวา ชอบใครไม่ชอบใครก็ปัดไป ถ้าแมทก็คือแมท ได้ส่งความคุยกัน ส่วนมากก็สายเยอีกตามเคย

ล่ะทีนี้วันนึง จขกท. ก็เล่นทินเดอร์นี่แหละ ไปเจอโปร์ไฟล์เด็ก SA (South Africa) คนนึง ด้วยความที่ จขกท. ทำงาน Part-time กับคนประเทศนี้ด้วยไง เลยอยากรู้จัก บวกกับเด็กนั่นก็เขียนในโปร์ไฟล์ไว้ว่าจะย้ายมาอยู่จังวหัดที่ จขกท. อยู่ตอนนี้ด้วย และนางเขียนไลน์นางไว้ นี่ก็แอดไปคุยตามปกติ จนวันที่แบบได้เจอนาง ก็ไม่มีอะไรไปเที่ยวเล่นด้วยกันอยู่ประมาณ 2-3 week ล่ะทีนี้มันมีวันนึงเราไปส่งนางที่ห้อง (ไกลจากที่พักเราพอสมควร 20-30 นาทีได้) แล้วคือมันค่อนข้างดึกแล้ว เราเลยโอเคนอนห้องนางล่ะกัน แต่ไม่ใช่จ้า เพื่อนนางที่มาด้วยกันมาเคาะห้องนางตลอดแทบทุกห้านาที

เล่าย้อนไปนิดนึงเด็ก SA ที่เล่าไปข้างบนเนี่ย นางมาทำงานในไทยผ่านเอเจนซี่ แล้วก็คนจากประเทศนางก็มาด้วยกันหลายคน อยู่ในอพาร์ทเมนท์เดียวกันหลายคน ทุกคนก็คือรู้จักกันหมดไรงี้

คือคืนนั้นเพื่อนๆนางไปปาร์ตี้กันมา คิดว่าก็คงเมาๆกันนั่นแหละ เดี๋ยวมาเคาะ เดี๋ยวมาเคาะทุกห้านาที ซึ่งเราก็ไม่ได้อะไร นั่งเล่นมือถืออยู่บนเตียงไป ทุกคนที่มาเคาะก็เซย์ไฮใส่ จนมีคนนึง (ขอแทนว่า F) นางมายืนเกาะขอบประตูห้องแล้วชะโงกหน้ามามองเรา ประโยคแรกที่นางทักเรา ทำเราตราตรึงใจมาก
F : เธอมาจากประเทศอะไรอ่ะ?
จขกท : หะ? (ยัง งงๆ อยู่ ปกติไม่เคยโดนถามแบบนี้) แล้วลุกขึ้นไปคุยกับนางที่ประตู
จขกท : เธอไม่คิดว่าฉันเป็นคนไทยเหรอ?
F : ไม่อ่ะ ภาษาอังกฤษเธอดี ฉันคิดว่าเธอเป็นฟิลิปปินส์
จขกท : หะ? อ่อ เออๆ เข้าใจๆ คงไม่เคยเจอคนไทยพูดภาษาอังกฤษด้วยใช่ไหมล่ะ
F : ไปเรียนมาจากไหนอ่ะ
จขกท : ก็เรียนมาจากโรงเรียนแหละ แต่แบบบางทีโรงเรียนก็ชอบสอนภาษาอังกฤษเด็กแบบเน้นท่องจำจากในหนังสืออ่ะ ขนาด English for speaking เวลาสอบยังให้เด็กทำข้อสอบในกระดาษเลย จริงๆมันควรจะเป็นการพูดคุยสนทนามากกว่า
~~~ แล้วคุยไรกันต่อไม่รู้ แต่คือเรื่องคนไทยกับการพูดภาษาอังกฤษนี่แหละ แต่จขกท.ตอนนั้นคือแบบมองหน้านาง คือนางหล่อไง ยิ้มละลายมาก ~~~

จบการสนทนาตรงนั้นไป อีกวันสองวันต่อมา จขกท. ก็ไปตามหาเฟสนางจ้า (ไม่ยากเท่าไร หาจากเฟสของเด็ก SA ที่รู้จักตอนแรกนั่นแหละ) ก็แอดไปแล้วยิงคำถามไปรัวๆ นี่ยังคิดว่าฉันเป็นสาวปินส์อยู่ป่ะ บลาๆ นางตอบกลับมา ฉันว่าเธอแอดผิดคนนะ คนที่เธอเจอไม่ใช่ฉัน แต่เป็น F (มีความหน้าแตกไปอีก) จขกท.ก็ไปตามหาเฟส F แล้วก็เจอ ก็แอดไป อีกวันสองวันโน่นแหละนางถึงรับแอด แล้วก็ส่งข้อความไปทักทายนางปกติ แต่นางก็ไม่ค่อยจะคุยอะไร

แล้ว จขกท. ก็ได้เจอนางเป็นครั้งที่ 2 เพราะเด็ก SA นางบอกคอมนางพัง จขกท. ก็เลยพานางเอาไปซ่อม ระหว่างที่รอนางลงมาอยู่ใต้อพาร์ทเมนท์นาง Fก็ลงมากดน้ำร้อนชงกาแฟ แล้วนี่ด้วยความที่พึ่งหน้าแตกมาไง เพราะไปแอดเฟสผิดคน ก็เลยเผลอร้อง Oh my god ออกมา(คิดว่านางคงไม่ได้ยินอ่ะ) ด้วยความที่แบบชอบนางไรงี้ ก็เลยเดินเข้าไปทักทาย จริงๆก็จะเข้าไปในตึกด้วยแหละเพราะนางเปิดประตูให้ ก็คุยกันตามปกตินี่ก็บอกนางไปว่าเห็นJ(เด็ก SA) บอกว่าแลปทอปพังเลยแวะมารับจะพานางไปซ่อม บลาๆ ก็ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น

แล้วทีนี้ จขกท. ก็ทักนางไปบ่อยๆแหละ ตามประสาคนอยากคุย แต่คือนางก็แบบถามคำตอบคำอ่ะ จน จขกท. รู้สึกแบบเออ เค้าคงไม่อยากคุย ก็เลยหยุดทักไปพักนึง จนคืนนั้น จขกท. ก็ออกไปแฮงเอาท์กับเพื่อนฝรั่งผู้หญิงนี่แหละ(รู้จักมาจาก J อีกทีนึง) ด้วยความที่ค่อนข้างเมา พอกลับถึงห้องกำลังจะนอนเห็นนางออนก็เลยทักไป
จขกท : Hey What'sup?
F : ไม่อ่านไม่ตอบ ออฟไลน์ใส่
จขกท : aww man 
อีกวันถัดมา
F : aw man?
จขกท :  อ่อ โทษทีพอดีเมื่อคืนเมานิดหน่อย เห็นยูออนอยู่เลยทักไป แต่พอทักแล้วยูออฟไลน์ ก็เลยส่งไปแบบนั้นอ่ะ
F : อ่อ โอเค เมื่อคืนเพลียมากอ่ะ ไปกรุงเทพมาทั้งวันเลย
จขกท : อ้าว ไปทำไรกรุงเทพอ่ะ ไปเที่ยวเหรอ?
F : เปล่าอ่ะไปทำเอกสารเรื่องเอเจนซี่
~~~ แล้วก็คุยกันไปเรื่อยๆ แต่เป็นวันแรกที่จขกท. รู้สึกว่า F มันดูพูดคุยด้วยมาก ไม่เย่อหยิ่งเหมือนเมื่อก่อนล่ะ ~~~

ตั้งแต่นั้นมา จขกท. เลยเริ่มจีบนาง สาเหตุที่กล้าจีบนางเพราะว่าเคยเจอนางตัวเป็นๆมาก่อนแล้วไง เลยคิดว่าลองดูล่ะกัน อย่างน้อยก็ถือว่าได้ลอง จะนกก็นกจ้า ไม่แคร์

วิธีการจีบของ จขกท. ก็เริ่มจากทักไปทุกวันนั่นแหละ แต่ไม่ทักพร่ำเพื่อนะ จขกท.จะเน้นทักสักช่วงหกโมง ทุ่มนึง เพราะดูเป็นเวลาที่นางว่างจากการสอนแล้ว ดูไม่น่าจะมีอะไรทำ ก็จะทักไปถามวันนี้เป็นไง เด็กดื้อไหม บลาๆ บางทีก็ถ่ายรูปของกินแล้วถามนางเป็นภาษาไทย gin mai? จนนางก็เริ่มสนใจภาษาไทยมากขึ้น เริ่มมีให้สอนบ้างเป็นบางคำ แล้วจขกท.ก็ไปเจอฝรั่งคนนึงเค้าลงภาพไว้เป็นสมุดเรียนภาษาไทยของเค้าในนั้นก็จะมีแบบเป็นคำๆ พวกคำพื้นฐานอะไรงี้ จขกท.ก็เลยแชร์ไปให้ F ในเมสเซนเจอร์
จขกท : แชร์อัลบั้มนั้นพร้อมเขียนไปว่า Khun yim suay mak
F : Thank you
จขกท : รู้เปล่า แปลว่าไรอ่ะ?
F : ไม่อ่ะ
จขกท : ไปดูจากที่แชร์ให้ดิ
F : ดูแล้วๆ อ่อ เจอแล้วๆ ขอบคุณนะ
จขกท : ตอนนี้เข้าใจความหมายแล้วใช่ป่ะ?
F : เยส
จขกท : แล้วรู้ไหมความหมายจริงๆของมันคืออะไร? (เริ่มพยายามจะบอกชอบนางล่ะ)
F : ความหมายจริงๆ ?
จขกท : ใช่
F : คือไรอ่ะ?
จขกท : ลองเดาดิ เวลาผู้หญิงบอกแบบนั้นอ่ะ ความหมายจริงๆคืออะไร
F : เธอหมายความว่าไง?
จขกท :    เอาจริงดิ นี่ไม่รู้จริงๆเหรอว่าแปลว่าอะไร?
F : haha เคยได้ยินมาอยู่นะ
จขกท : แล้วแปลว่าไร? (ในใจคือนึกว่านางต้องรู้แล้วแหละว่าจะบอกชอบ)
F : แปลว่ายิ้มผมสวยใช่ไหมล่ะ    โอ้โห มีความทึ่มกว่าที่คิดจ้าพ่อคู๊ณณณณ
จขกท : สงสัยไอคงต้องบอกอะไรยูมากกว่านี้แล้วแหละ
F : haha ผมบ้ายอนะ
จขกท : okay chob เข้าใจไหม? ไอว่ายูน่าจะเริ่มเก็ทบ้างล่ะนะ ว่าไอจะบอกอะไรอ่ะ
F : ok
จขกท : โอเค คือไร?
F : โอเคก็คือโอเค    คิดว่า จขกท. งงไหม ก็งงแหละ
จขกท : เออ ก็รู้ว่าโอเคอ่ะหมายถึงโอเค แต่เวลาผู้หญิงมาบอกชอบ ยูตอบกลับแค่โอเคเหรอ ...
F : haha ok I suppose we can go get coffee sometime (กริ๊ดสิจ้ะ รออะไร ไม่นกแล้วอ่ะ อย่างน้อยนางก็ไม่ปฏิเสธฉัน)
~~~ แล้วนี่ก็รอไปจ้า เมื่อไรนางจะชวนไปเดทสักที จนสุดท้าย จขกท.ต้องเป็นฝ่ายชวนนางเอง ~~~

สรุป การบอกชอบก่อนไม่ได้แย่เสมอไปนะ เพราะลองคิดดูถ้าแบบเราชอบเค้าอ่ะ แต่ไม่เคยบอกให้เค้ารู้เลย โอกาสที่เราจะได้รู้จักเค้ามากขึ้นมันก็เป็น 0 ถูกไหม? แต่ถ้าสมมุตว่าเราบอกให้เค้ารู้ อย่างน้อยมันก็มีสองตัวเลือกอ่ะ คือ เซย์เยส กับเซย์โน ถ้าเซย์เยสก็แฮปปี้กันไป แต่ถ้าเซย์โน ก็อย่าได้แคร์จ้า ผู้ชายยังคงมีให้เลือกอีกเยอะ

ปล. ถ้ามีคนสนใจอยู่บ้าง เดี๋ยวจะมาเล่าเรื่องเดทต่อนะ