แหวน กำลังใจดีล้น ใช้ชีวิตปกติหลังผ่ามะเร็งเต้านม

8 ก.ค. 59 16:02 น. / ดู 719 ครั้ง / 0 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์
หลังจากที่นักร้องรุ่นใหญ่เสียงทรงพลัง "แหวน - ฐิติมา สุตสุนทร" ได้ต่อสู้กับมะเร็งร้ายเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งก็ได้เข้ารับการรักษามาอย่างต่อเนื่อง และช่วงนี้ก็จะเห็นว่าผู้หญิงมากความสามารถคนนี้เริ่มออกงานร้องเพลงให้แฟนๆ ได้ฟังกันบ้างแล้ว หลายๆ คนคงอยากรู้ว่าตอนนี้เธอเป็นอย่างไรบ้าง จากที่ได้เห็นการแสดงพลังเสียงบนเวทีเต็มที่ขนาดนี้ "ตอนนี้ก็คือพยายามที่จะร้องเพลง ฝึกร้องเพลงไปเรื่อยๆ นะคะ เพราะว่าเมื่อเราก้าวเข้าสู่จุดปกติ เสียงเราร้องเพลงได้เราจะรู้ตัวของเราเอง เราก็เริ่มรับงานแล้ว แล้วก็ร้องไป แล้วทุกคนเขาก็จะฟังเอง ร้องได้ไม่ได้มันจะฟังได้ยินกับหูเองอ่ะค่ะ"
ในเรื่องอาการตอนนี้เจ้าตัวบอกว่าก็ปกติแล้ว ซึ่งก็ทำตามคำแนะนำของหมอว่าใช้ชีวิตปกติ "ตอนนี้ก็ปกติแล้วค่ะ ก็มาร้องเพลงมาสนุก คุณหมอบอกว่าให้ทำชีวิตให้ปกติ แล้วสร้างความสุขใส่ใจให้กับตัวเอง แล้วร่างกายเราก็จะดีค่ะ" สำหรับลูกสาวคนสวยอย่าง "ปันปัน - เต็มฟ้า กฤษณายุธ" มีการให้กำลังใจคุณแม่อย่างไรบ้าง แหวน แง้มว่า "ลูกก็ให้กำลังใจอยู่เสมอ คือเราไม่ได้ทำตัวให้เขารู้สึกว่าเขาจะต้องเป็นห่วงเรา เราทำตัวปกติ เขาก็เลยสบายใจ นี่คือสิ่งที่เราตั้งใจจะทำอยู่แล้ว เขาก็เลยรู้สึกว่าคุณแม่ทำไมเหมือนไม่เป็นคนป่วยเลยล่ะ เขาก็สบายใจนั่นแหละทำให้เรามีความสุขค่ะ"

หญิงแกร่งกล่าวว่าการรักษาโรคร้ายนี้ได้เสร็จสิ้นแล้ว "ช่วงนี้ก็คือว่าการรักษาเสร็จสิ้นทุกกระบวนการแล้ว เริ่มจากการผ่าตัด ผ่าตัดเต้านมทั้งสองข้างเลย เอาออกไป ใส่เข้าไปใหม่ใหญ่กว่าเดิม แล้วก็ทำเคมีบำบัด 6 เดือน หลังจากนั้นก็ฉายแสงอีก 25 ครั้ง เสร็จหมดแล้วทุกอย่าง แล้วหลังจากนี้ก็คือตามคุณหมอนัดอย่างเดียวค่ะ มีสิ่งที่ต้องทำเป็นประจำ ก็คือว่าต้องทานยาต้านฮอร์โมนจากที่คุณหมอที่ทำเคมีบำบัดเป็นผู้จัดยาให้ วันละหนึ่งเม็ด เป็นเวลา 5 ปีทุกวัน" ส่วนผลจากการรักษาด้วยเคมีบำบัดนั้นมีผลกระทบกับร่างกายอะไรบ้าง นักร้องสาวหัวใจวัยรุ่นตอบว่า "มีค่ะ แต่ไม่มีผลต่อชีวิตนะคะ แต่มีผลต่อร่างกายก็คือการทำคีโมของมะเร็งเต้านมผมจะร่วงหมดเลย ร่วงโล้นหมดเลย ขนาดตอนใกล้ๆ จะเสร็จ คิ้วยังไม่มีเลย ไม่มีทุกอย่างเลยนะ ทุกที่ที่มีขนมันไปหมดเลย ช่วงนั้นรู้สึกโล่งค่ะ (หัวเราะ)"

นักร้องมากความสามารถเผยถึงช่วงที่ต้องต่อสู้กับเนื้อร้าย พร้อมกันนั้นก็ต้องบำรุงร่างกายตัวเองให้แข็งแรงด้วย "พี่ก็รักษาไปตามอาการ รักษาไปตามที่คุณหมอสั่ง เพราะว่าบังเอิญพี่ก็โชคดีนะคะก็คือไม่ได้มีเอฟเฟกต์มากนัก เช่นหลายๆ คนจะมีอาการของอาเจียน คลื่นเหียน หรือแพ้ แต่ก็จะมีนิดๆ ค่ะ ก็คืออาจจะมีมือชานิดๆ นะคะ ซึ่งก็ไม่ได้เป็นผลอะไรนัก แล้วก็บางครั้งบางช่วงคอแหบ ก็เลยช่วงนั้นเลยไม่ได้รับงาน อาจจะมีอีกอันหนึ่งก็คือว่าพี่อ้วน เพราะว่าคือพยายามบำรุงร่างกายของตัวเอง ก็ทานโปรตีนทานอาหารเยอะ เพื่อที่จะให้ไปต่อสู้กับยาที่ให้เรา เพราะว่าถ้าไม่แข็งแรงหรือไม่มีโปรตีน เกล็ดเลือดเราจะต่ำแล้วเราจะติดเชื้อง่าย อย่างสมมติว่าตอนที่พี่ให้คีโม พี่มาอย่างนี้ไม่ได้เลยนะคะ ต้องใส่มาส์กหมดเลย เพราะไม่รู้ทุกคนมีเชื้ออะไรที่จะมาแพร่ถึงพี่บ้าง"

ผู้หญิงเก่งคนนี้รับว่าผลจากที่ได้ต่อสู้กับมะเร็งร้ายนั้น ทำให้การใช้ชีวิตมีเปลี่ยนไปบ้างโดยเฉพาะเรื่องของจิตใจ "เปลี่ยนไปบ้างโดยเฉพาะที่ใจค่ะ และเรื่องอาหารการกินส่วนใหญ่ก็ค่อนข้างจะดูแลอยู่แล้ว โดยเฉพาะกับลูกจะชอบทานผักผลไม้อะไรกันอยู่แล้ว แต่จะไม่ยึดติดนะคะ ไม่แบบว่าฉันจะสัญญาว่าจะไม่กินเนื้อตลอดชีวิต จะไม่เป็นคนแบบนั้น จะเป็นคนปล่อยวางสบายๆ อย่างนั้นมากกว่า" ทั้งนี้เธอก็ยังฝากเตือนใจคนอื่นๆ ด้วยว่าไม่ให้เครียดและทำจิตใจให้สบาย "ที่สำคัญที่ใจคือว่าพอเราทำตัวสบาย ใจเราสบายนั่นแหละค่ะ มันก็คือทำให้เราไม่เครียด คุณหมอบอกเลยนะคะว่าความเครียดแทบจะเป็นอันดับหนึ่งเลยนะคะ น้องๆ ทุกคนเลย ระวังไว้นะ ความเครียดมันมองไม่เห็นนะ มันอยู่ข้างใน แอบไปเครียดอยู่มันอาจจะทำให้เป็นได้ เพราะฉะนั้นก็เลยนึกถึงว่าอะไรที่จะทำให้เราสนุก ก็ช่วยตัวเองแบบนี้ ตรงไหนสนุกเราพุ่งไป มันก็มีกันบ้างความเครียดแต่พยายามเลี่ยง ตัวสำคัญเลยค่ะ"


#แหวนฐิติมา
แก้ไขล่าสุด 8 ก.ค. 59 16:11 | เลขไอพี : ไม่แสดง | ตั้งกระทู้โดย WinXP

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google