อ้อม และ ต้าร์ วิวาห์อบอุ่น สัมพันธ์รักยาวนาน 9 ปี
SZ News
11 ก.ค. 59 17:57 น. /
ดู 885 ครั้ง /
1 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
hashtag:
#อ้อมประถมาภรณ์ #ต้าร์พศิน
ยินดีกับคู่รักในวงการบันเทิงอีกคู่ สำหรับ "อ้อม - ดร. ประถมาภรณ์ รัตนภักดี" และ "ต้าร์ - พศิน ศรีธรรม" คู่รักคู่ขวัญจากละครพื้นบ้านทางช่อง 7 สี ซึ่งทั้งสองคนได้จัดพิธีหมั้นและงานฉลองมงคลสมรสไปเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมา ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว โดยในช่วงเช้าเป็นพิธีหมั้นตามประเพณีไทย ส่วนช่วงเย็นเป็นงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรส ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศอบอุ่นพร้อมด้วยคนในวงการบันเทิงมาร่วมแสดงความยินดี อาทิ "เชน - ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัธน์" "น้ำหวาน - กรรณาภรณ์ พวงทอง" "เบนซ์ - ปุณยาพร พูลพิพัฒน์" "โม - อมีนา พินิจ" โดยหลังจากเสร็จสิ้นพิธีหมั้นในช่วงเช้า ทั้งคู่ก็ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงถึงเรื่องราวความรักของกันและกันที่ได้คบหาดูใจกันมาอย่างยาวนานถึง 9 ปี พร้อมแง้มถึงการใช้ชีวิตคู่ที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้
เจ้าสาวเผยเริ่มต้นกันที่บรรยากาศในพิธีหมั้นในช่วงเช้าว่า "ช่วงเช้าก็เป็นบรรยากาศอบอุ่นค่ะ ส่วนมากจะเป็นคนในครอบครัวที่สนิทๆ กัน ก็มีไม่มากมายอะไรค่ะ เป็นแบบอบอุ่นเป็นกันเองในครอบครัวมากกว่า" ทั้งยังเล่าว่าคุณพ่อคุณแม่ของทั้งสองฝ่ายก็ดีใจไปกับทั้งคู่ "ก็คืออย่างเมื่อเช้า คุณแม่ของทั้งคู่เลยค่ะ พอพูดปุ๊บน้ำตาคลอ บรรยากาศคิดกันมาอยู่แล้วว่าไม่อยากให้เป็นอะไรที่ดูร้องห่มร้องไห้ ซึ้งอะไรอย่างนี้ อ้อมอยากให้ทุกอย่างมันเป็นฮา สนุกสนานมากกว่า เมื่อเช้าก็เลยเป็นภาพของความสนุกแซวคุณแม่แซวคุณพ่อกัน แต่เชื่อว่าท่านทั้งสองฝ่ายก็มีความสุขแล้วก็รู้สึกดีใจไปกับเรา" ถามหนุ่ม ต้าร์ ว่าคุณแม่ของ อ้อม ฝากฝังลูกสาวไว้อย่างไรบ้าง เจ้าบ่าวเล่าว่า "ก็ฝากฝังครับ บอกดูแลด้วย เขาเป็นลูกคนเล็ก ก็จะถูกพ่อแม่ดูแลมาอย่างดีตลอดครับ เขาก็ฝากฝังว่าดูแลลูกสาวเขาคนนี้ด้วย" ส่วนเรื่องสินสอดทองหมั้น อ้อม แจงว่า "จะบอกว่าเมื่อเช้ารีบซะจนลืมสินสอดบางส่วน คือเมื่อเช้าแต่งตัวเสร็จก็รีบลงกันไปเลย ลืมอยู่ในเซฟบนโรงแรมก็จะมีเครื่องเพชรแล้วก็มีแหวนหมั้น แล้วก็มีเงินสดก็ 7 หลัก แล้วก็มีทองประมาณร้อยกว่าบาท แล้วก็มีแหวน มีต่างหูสองคู่"
จากนั้นเจ้าสาวสุดสวยแง้มถึงช่วงเวลาหวานๆ ของการขอแต่งงานที่เกาหลีให้ฟังว่า "คุณต้าร์เขาจะเป็นคนที่เขาขี้อาย เห็นอย่างนี้คือเขาขี้อายมาก เพื่อนๆ ก็พยายามลุ้นว่าต้าร์จะขออ้อมแต่งงานเมื่อไร เขาคุยกันในกลุ่มว่าถ้าต้าร์โทรมาปุ๊บทุกคนต้องสแตนด์บายนะ จะต้องมีโมเมนต์จะต้องมีภาพ เคลียร์คิวให้พร้อม ปรากฏเปล่าเลย ไปเที่ยวเกาหลีด้วยกัน แต่ไปหาที่ที่แบบอยู่กันได้สองคน แล้วก็ขอแต่งงานแบบไม่มีใครเห็น ไม่มีภาพถ่าย ไม่มีแม้แต่คนเกาหลี ให้อ้อมไปนั่งรออยู่หน้าห้องน้ำค่ะ พาไปอยู่มุมลับตาคน เขาไปห้องน้ำ อ้อมก็แบบทำไมเข้าห้องน้ำนาน จะปวดท้องท้องเสียอะไรหรือเปล่า" เจ้าบ่าวพูดถึงช่วงเวลานั้นว่า "ตอนนั้นไปสกีรีสอร์ต ไปขอที่สกีรีสอร์ต ก็หนาวๆ มีหิมะ โรแมนติกดีไง เหมือนหนังเกาหลี เขาชอบหนังเกาหลี" ส่วน อ้อม ก็รู้สึกประทับใจในความพยายามของเขา "เป็นความพยายามของเขาที่อ้อมประทับใจ เพราะเขาไม่ใช่คนโรแมนติก ปากหวาน แต่ว่าอันนี้รู้สึกได้ว่าเป็นสิ่งที่เขาพยายามทำให้จริงๆ"
ฝ่ายชายเอ่ยความประทับใจที่มีต่อ อ้อม ว่า "จริงๆ ก็หลายอย่างเนอะ เราเริ่มพัฒนาจากความเป็นเพื่อนครับ แล้วเราก็แทบจะรู้ใจกันมาตั้งแต่เป็นเพื่อนแล้วล่ะ ในกลุ่มเพื่อนเราจะสนิทกันมาก แล้วก็ไปไหนไปด้วยกันจนก็ค่อยๆ พัฒนาความสัมพันธ์มาเรื่อยๆ ก็ได้เรียนรู้ คือด้วยความเป็นเพื่อนมันจะรู้ว่าเราจะรู้ธาตุแท้ของแต่ละคนเลยว่าจะเป็นยังไง ไม่ใช่แบบจีบกันเป็นแฟนก่อนแล้วไม่เป็นตัวตนของตัวเอง" ฝ่ายหญิงเปิดใจว่า "อย่างที่บอกว่ามันเริ่มมาจากความเป็นเพื่อน ดังนั้นการเป็นเพื่อนกันมันจะไม่มีการแอ๊บ มันจะไม่มีการพยายามจะทำให้คนหนึ่งรักด้วยการปรับเปลี่ยนบุคลิกหรือปรับเปลี่ยนนิสัยค่ะ มันเป็นตัวตนที่แท้จริงของทั้งคู่อยู่แล้ว ซึ่งแบบเราเป็นเพื่อนสนิทกันก็จะรู้กันอยู่แล้วว่าตัวตนที่แท้จริงของเราแต่ละคนเป็นยังไง เป็นอย่างหนึ่งที่ทำให้เรายอมรับความเป็นตัวของตัวเองของเราทั้งคู่ได้ แล้วก็ทำให้เวลาที่เราคบกันมันเหมือนคบเป็นแฟนกันแต่คบกันเหมือนเพื่อน หลายๆ คนก็เลยมองว่าทำไมคบกันได้นานถึง 9 ปี 10 ปี อาจจะเป็นเพราะว่าเราคบกันเราคุยกันสนุกสนานกันเหมือนเพื่อนตลอด ก็ไม่ได้มีอะไรต้องปรับเปลี่ยนอะไร ทำให้มันคบกันมาแบบเรื่อยๆ"
หลังจากนี้ทั้งสองคนมีการปรับตัวกับชีวิตคู่อย่างไรบ้าง เจ้าบ่าวป้ายแดงเผยว่า "ตัวเองก็เป็นคนมีโลกส่วนตัวเหมือนกัน ปกติเราตื่นมาเราก็อยู่บ้านของเราคนเดียว ทำนู่นทำนี่ แต่นี่แบบถ้าตื่นมาแล้วเราเจอเขา บ้านอาจสดใสไปอีกแบบหนึ่งก็ได้" อ้อม รับว่ายังต้องปรับตัวพร้อมทั้งขอบคุณสามีที่เข้าใจและอดทน "อ้อมขอเขาตรงที่ว่า ไปนอนบ้านแม่ด้วย เพราะว่าอ้อมก็ยังต้องปรับตัว เพราะอ้อมก็อยู่กับแม่มาตลอด ไม่ใช่แม่ติดอ้อมอย่างเดียว อ้อมก็จะติดแม่ อาจจะขอกลับไปนอนบ้านแม่ด้วย คุณต้าร์เขาเป็นคนที่น่ารักมาก ข้อดีของเขาคือไม่เคยบังคับอะไรอ้อม คือเขาจะเข้าใจในทุกๆ เรื่อง เราคบกันแรกๆ คุณแม่ก็ไม่ได้ทราบเพราะว่าเราก็แอบคุยกันมา พูดตรงๆ เลย เพราะว่าคุณแม่ถ้าสมมติรู้ว่าเป็นแฟน คือคุณแม่รับได้ที่ว่าเราเป็นเพื่อนกัน พอรู้ว่าเป็นแฟนปุ๊บแม่จะตึงๆ ใส่คุณต้าร์นิดหนึ่งเพราะว่าเขาหวง เขาจะหวงลูกสาวมาก เราคุยกันมาหลายปีมากกว่าคุณต้าร์จะเข้าบ้านได้ เพิ่งเข้าบ้านได้ประมาณ 4 ปีที่ผ่านมา ก็ต้องขอบคุณเขาขอบคุณในความตั้งใจความอดทนความพยายาม ถ้าเป็นคนอื่นอ้อมก็ว่าเขาอาจจะรับไม่ได้ขนาดนี้ค่ะ ก็ต้องขอบคุณเขาตรงนี้ที่แบบเขาก็อดทนเพื่อเรา"
#อ้อมประถมาภรณ์ #ต้าร์พศิน
จากนั้นเจ้าสาวสุดสวยแง้มถึงช่วงเวลาหวานๆ ของการขอแต่งงานที่เกาหลีให้ฟังว่า "คุณต้าร์เขาจะเป็นคนที่เขาขี้อาย เห็นอย่างนี้คือเขาขี้อายมาก เพื่อนๆ ก็พยายามลุ้นว่าต้าร์จะขออ้อมแต่งงานเมื่อไร เขาคุยกันในกลุ่มว่าถ้าต้าร์โทรมาปุ๊บทุกคนต้องสแตนด์บายนะ จะต้องมีโมเมนต์จะต้องมีภาพ เคลียร์คิวให้พร้อม ปรากฏเปล่าเลย ไปเที่ยวเกาหลีด้วยกัน แต่ไปหาที่ที่แบบอยู่กันได้สองคน แล้วก็ขอแต่งงานแบบไม่มีใครเห็น ไม่มีภาพถ่าย ไม่มีแม้แต่คนเกาหลี ให้อ้อมไปนั่งรออยู่หน้าห้องน้ำค่ะ พาไปอยู่มุมลับตาคน เขาไปห้องน้ำ อ้อมก็แบบทำไมเข้าห้องน้ำนาน จะปวดท้องท้องเสียอะไรหรือเปล่า" เจ้าบ่าวพูดถึงช่วงเวลานั้นว่า "ตอนนั้นไปสกีรีสอร์ต ไปขอที่สกีรีสอร์ต ก็หนาวๆ มีหิมะ โรแมนติกดีไง เหมือนหนังเกาหลี เขาชอบหนังเกาหลี" ส่วน อ้อม ก็รู้สึกประทับใจในความพยายามของเขา "เป็นความพยายามของเขาที่อ้อมประทับใจ เพราะเขาไม่ใช่คนโรแมนติก ปากหวาน แต่ว่าอันนี้รู้สึกได้ว่าเป็นสิ่งที่เขาพยายามทำให้จริงๆ"
ฝ่ายชายเอ่ยความประทับใจที่มีต่อ อ้อม ว่า "จริงๆ ก็หลายอย่างเนอะ เราเริ่มพัฒนาจากความเป็นเพื่อนครับ แล้วเราก็แทบจะรู้ใจกันมาตั้งแต่เป็นเพื่อนแล้วล่ะ ในกลุ่มเพื่อนเราจะสนิทกันมาก แล้วก็ไปไหนไปด้วยกันจนก็ค่อยๆ พัฒนาความสัมพันธ์มาเรื่อยๆ ก็ได้เรียนรู้ คือด้วยความเป็นเพื่อนมันจะรู้ว่าเราจะรู้ธาตุแท้ของแต่ละคนเลยว่าจะเป็นยังไง ไม่ใช่แบบจีบกันเป็นแฟนก่อนแล้วไม่เป็นตัวตนของตัวเอง" ฝ่ายหญิงเปิดใจว่า "อย่างที่บอกว่ามันเริ่มมาจากความเป็นเพื่อน ดังนั้นการเป็นเพื่อนกันมันจะไม่มีการแอ๊บ มันจะไม่มีการพยายามจะทำให้คนหนึ่งรักด้วยการปรับเปลี่ยนบุคลิกหรือปรับเปลี่ยนนิสัยค่ะ มันเป็นตัวตนที่แท้จริงของทั้งคู่อยู่แล้ว ซึ่งแบบเราเป็นเพื่อนสนิทกันก็จะรู้กันอยู่แล้วว่าตัวตนที่แท้จริงของเราแต่ละคนเป็นยังไง เป็นอย่างหนึ่งที่ทำให้เรายอมรับความเป็นตัวของตัวเองของเราทั้งคู่ได้ แล้วก็ทำให้เวลาที่เราคบกันมันเหมือนคบเป็นแฟนกันแต่คบกันเหมือนเพื่อน หลายๆ คนก็เลยมองว่าทำไมคบกันได้นานถึง 9 ปี 10 ปี อาจจะเป็นเพราะว่าเราคบกันเราคุยกันสนุกสนานกันเหมือนเพื่อนตลอด ก็ไม่ได้มีอะไรต้องปรับเปลี่ยนอะไร ทำให้มันคบกันมาแบบเรื่อยๆ"
หลังจากนี้ทั้งสองคนมีการปรับตัวกับชีวิตคู่อย่างไรบ้าง เจ้าบ่าวป้ายแดงเผยว่า "ตัวเองก็เป็นคนมีโลกส่วนตัวเหมือนกัน ปกติเราตื่นมาเราก็อยู่บ้านของเราคนเดียว ทำนู่นทำนี่ แต่นี่แบบถ้าตื่นมาแล้วเราเจอเขา บ้านอาจสดใสไปอีกแบบหนึ่งก็ได้" อ้อม รับว่ายังต้องปรับตัวพร้อมทั้งขอบคุณสามีที่เข้าใจและอดทน "อ้อมขอเขาตรงที่ว่า ไปนอนบ้านแม่ด้วย เพราะว่าอ้อมก็ยังต้องปรับตัว เพราะอ้อมก็อยู่กับแม่มาตลอด ไม่ใช่แม่ติดอ้อมอย่างเดียว อ้อมก็จะติดแม่ อาจจะขอกลับไปนอนบ้านแม่ด้วย คุณต้าร์เขาเป็นคนที่น่ารักมาก ข้อดีของเขาคือไม่เคยบังคับอะไรอ้อม คือเขาจะเข้าใจในทุกๆ เรื่อง เราคบกันแรกๆ คุณแม่ก็ไม่ได้ทราบเพราะว่าเราก็แอบคุยกันมา พูดตรงๆ เลย เพราะว่าคุณแม่ถ้าสมมติรู้ว่าเป็นแฟน คือคุณแม่รับได้ที่ว่าเราเป็นเพื่อนกัน พอรู้ว่าเป็นแฟนปุ๊บแม่จะตึงๆ ใส่คุณต้าร์นิดหนึ่งเพราะว่าเขาหวง เขาจะหวงลูกสาวมาก เราคุยกันมาหลายปีมากกว่าคุณต้าร์จะเข้าบ้านได้ เพิ่งเข้าบ้านได้ประมาณ 4 ปีที่ผ่านมา ก็ต้องขอบคุณเขาขอบคุณในความตั้งใจความอดทนความพยายาม ถ้าเป็นคนอื่นอ้อมก็ว่าเขาอาจจะรับไม่ได้ขนาดนี้ค่ะ ก็ต้องขอบคุณเขาตรงนี้ที่แบบเขาก็อดทนเพื่อเรา"
#อ้อมประถมาภรณ์ #ต้าร์พศิน
แก้ไขล่าสุด 27 ต.ค. 60 13:40 |
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย WinXP
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
ยังไม่มีความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google